“สุรพงษ์” ทาสรับใช้ตัวจริง กางปีกโว ฮุนเซน เปิดบ้านต้อนรับ นช.แม้ว ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเป็นผู้มีความสามารถ พร้อมกางปฏิทิน นับถอยหลัง รบ.เชื่อเลือกตั้งไม่เกิน เม.ย.ฟุ้ง “เพื่อไทย-เสื้อแดง” ชี้ เหตุจูบปากทหารแก่ต้องหามิตรร่วมรบ หวังโค่นป๋าเปรมก่อน ไม่หวั่นแผนซ้อนแผน “จิรเดช” เป็นไส้ศึก เตรียมก่อสงครามอีกรอบ หลัง14 พ.ย.ระดม 1 ล้านเสียง ล้ม รบ.
วันนี้ (21 ต.ค.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์หลังการหารือสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ภายหลังเดินทางกลับจากประเทศกัมพูชา โดยระบุถึงสมเด็จฮุนเซน สร้างบ้านไว้รอรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่เห็นเป็นเรื่องแปลกที่เพื่อนจะสร้างบ้านให้เพื่อน สมเด็จฮุนเซน รักใคร่กับอดีตนายกฯเป็นอย่างดี คงเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีประโยชน์ สามารถสร้างความเจริญให้ประเทศกัมพูชาได้ คงไม่ใช่อย่างที่มีการมองกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อาจย้ายฐานการเมืองจากนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อมาอยู่ประเทศกัมพูชา แต่เป็นเพราะสมเด็จฮุนเซน อาจอยากได้ พ.ต.ท.ทักษิณ มาเป็นที่ปรึกษาก็ได้ อยู่ที่ไหนก็ไปสร้างความเจริญให้ประเทศเหล่านั้น อยู่ที่ไหนก็มีคนรัก ไม่เหมือนประเทศไทยที่ไม่รู้จักใช้ความรู้ความสามารถของท่าน ไปให้คนไม่มีความรู้มาบริหารประเทศ เลยเป็นอย่างนี้ เศรษฐกิจตกต่ำ นักลงทุนไม่กล้าลงทุน ถือเป็นเวรเป็นกรรมของประเทศที่ไม่รู้จักใช้คนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ
ด้าน นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุเมื่อวันที่ 20 ต.ค.ต่อที่ประชุมพรรค มั่นใจว่า จะมีการเลือกตั้งช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.ว่า เป็นการวิเคราะห์ทางการเมือง เพราะปลายเดือน พ.ย.จะปิดประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติ และจะเปิดประชุมสมัยสามัญอีกครั้งช่วงเดือน ม.ค.2553 ช่วงนั้นก็จะมีอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ในโครงการที่ส่อไปในทางไม่ชอบมาพากล อาทิ โครงการชุมชนพอเพียง โครงการไทยเข้มแข็ง และยิ่งผลโพลออกมาล่าสุด ประชาชนเริ่มเชื่อในข้อมูลต่างๆ ที่ส่อไปในทางไม่โปร่งใสด้วยแล้ว ถือเป็นการส่งสัญญาณไปยังรัฐบาลอีกอย่างหนึ่ง
หลังการอภิปรายอาจมีการปรับ ครม.ก็เป็นได้ นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยได้ตั้งคณะทำงานให้ส.ส.ติดตามการทำงานรัฐบาลในรายกระทรวง เพื่อรวบรวมข้อมูลเตรียมพร้อมสำหรับการอภิปรายครั้งหน้าอีกด้วย
ขณะที่ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ แกนนำคนเสื้อแดง อดีตผู้สมัคร ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชาชน ที่เคยถูก พล.อ.จิรเดช สมัยยังดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาค 3 จับตาความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด ถึงขนาดใช้กำลังทหารเข้าค้นบ้านพักมาแล้ว เปิดเผยว่า วันนี้ พรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดง เดินแนวเดียวกัน แม้จะคนละทาง แต่ก็มีเป้าหมายเดียวกัน การได้เตรียมทหารรุ่น 10 หรือแม้แต่ พล.อ.จิรเดช มาร่วมงาน ถือเป็นเรื่องดี ที่เราจะมีมิตรร่วมรบมากขึ้น แม้ในอดีต พล.อ.จิรเดช จะอยู่ในคณะ คมช.แต่วันนี้ตัดสินใจเข้าพรรคเพื่อไทย แสดงให้เห็นว่า การกระทำในอดีตนั้นผิด ข้อกล่าวหาในการปฏิวัติก็ยังไม่สามารถเอาผิด พ.ต.ท.ทักษิณได้ ในที่สุดจึงออกมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย และยังเป็นการพิสูจน์ว่าทั้งคนเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่ผู้ทรยศชาติ ฉะนั้น ไม่ควรสงวนสิทธิ์การรักชาติเอาไว้เพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง พวกทรยศเป็นพวกอำมาตย์ และ พล.อ.เปรม ที่ร่วมยึดอำนาจ
ส่วนกรณี พล.อ.จิรเดช เคยเข้าค้นบ้านตนนั้น ก็ไม่ติดใจอะไร หากข้าราชการทำงานตามกรอบก็ต้องยอมรับ แต่ถ้าทำเกินกรอบพวกนี้สิน่ากลัว ที่ผ่านมา พล.อ.จิรเดช ทำอะไรไม่ค่อยเกินกรอบมากนัก ไม่เหมือน พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร อดีตรอง ผบ.ทบ.เพราะเรารู้ดีคณะที่ร่วมปฏิวัติครั้งนั้น พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ก็ไม่ยอมรับทั้งนั้น แต่เป็นเพราะถูก พล.อ.เปรม สั่งการและเชิญให้มาร่วมแถลงข่าวเท่านั้น
แกนนำคนเสื้อแดงผู้นี้ ยังบอกอีกว่า วันที่ 14 พ.ย.คนเสื้อแดงจะจัดคอนเสิร์ต “เพื่อนร่วมร้อง พี่น้องร่วมรบ” ที่ โบนันซ่า เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ซึ่งหลังจากวันดังกล่าว คนเสื้อแดงจะนัดชุมนุมใหญ่ ใน กทม.ตั้งเป้าผู้มาชุมนุมไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน เพื่อชุมนุมขับไล่รัฐบาลที่เผชิญข้อกล่าวหาทุจริตโครงการต่างๆ ให้ได้ โดยเราจะทำตามกฎหมาย ไม่มีการเผาบ้านเผาเมือง
นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ตท.10 บางคนระแวงในบทบาท พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ อดีตแม่ทัพภาค 3 ที่เพิ่งมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ว่า เมื่อท่านเข้ามาในพรรค ก็คงต้องให้เกียรติท่าน ที่ตัดสินใจเดินเข้าสู่พรรค อย่างน้อยก็น่าจะเป็นหลักประกันระดับหนึ่งได้ถึงความไม่จงรักภักดี ที่เราถูกกล่าวหา เพราะมีนายทหารจากยุคคมช.เดิมเข้ามาสู่พรรค วันนี้ใครมาเราก็ต้อนรับหมด ยิ่งการที่ ตท.10 ที่เป็นนายทหารผู้ใหญ่เข้ามาร่วมงาน ก็เป็นการพิสูจน์ได้อย่างดีถึงข้อหาเรื่องความไม่จงรักภักดี เพราะฉะนั้นข้อหานี้น่าจะตัดออกไปได้ อีกทั้งตนยังเห็นด้วยกับ พล.อ.พัลลภ ออกมาระบุถึง พล.อ.เปรม ไม่ควรผูกขาดความจงรักภักดี ถือเป็นคำพูดที่ถูกต้อง ความจงรักภักดี ความรักชาติบ้านเมือง ทุกคนในฐานะคนไทยล้วนจงรักภักดี ไม่มีอะไรที่จะมาเป็นตัวชี้วัดได้ถึงความจงรักภักดีแต่ละคน ทุกคนเท่าเทียมกันหมด