รองนายกฯสุเทพ ปฏิเสธข่าว “นิพนธ์” ลาออก ต้นเหตุปัญหาตั้ง ผบ.ตร.ยันไม่เกิดปัญหาขัดแย้งภายในพรรค ออกตัวหนุน “ไตรรงค์” นั่งรองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจแทน “กอร์ปศักดิ์” หากไปนั่งเลขาฯ นายกฯ
วันนี้ (6 ต.ค.) เมื่อเวลา 08.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการแต่งตั้งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่า ตนไม่ทราบว่าจะมีการปรับ ครม.หรือไม่ ยังไม่มีเวลาปรึกษากับนายกรัฐมนตรี เพราะเลขาธิการนายกรัฐมนตรีต้องเป็นคนที่ทำงานใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีไว้เนื้อเชื่อใจได้ ช่วยงานนายกฯได้ทุกด้าน นายกฯจึงต้องคิดไตร่ตรองให้ดีก่อน เมื่อถามว่า นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจ และเป็นผู้ที่มีความชำนาญในเรื่องการ กลั่นกรองการเงิน การคลัง นายสุเทพ กล่าวว่า ใครจะพูดว่าเหมาะหรือไม่เหมาะอย่างไรขึ้นอยู่กับนายกฯ ยืนยันว่าขณะนี้ในพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่คิดเรื่องปรับ ครม.ส่วนการหารือกับพรรคร่วมก็ไม่มีการหารือเรื่องปรับ ครม.
เมื่อถามว่า การที่ยืนยันว่า ยังไม่มีการปรับ ครม.แสดงว่า ไม่มั่นใจว่า นายกอร์ปศักดิ์ จะมารับเก้าอี้เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น เพียงแต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งกรณีอย่างนี้ถือเป็นเรื่องเฉพาะของนายกรัฐมนตรี เพียงแต่ขั้นตอนการดำเนินการต้องให้คณะกรรมการบริหารพรรคที่ประชุมพรรคได้ ร่วมตัดสินใจด้วย ต่อข้อถามว่า นายนิพนธ์ ลาออกจากเลขาธิการพรรคแล้ว บทบาทในการเป็นรองหัวหน้าพรรคจะทำอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ต้องทำงานต่อ สมาชิกพรรคก็เข้าใจไม่มีปัญหาอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้ นายสุเทพ กับ นายอภิสิทธิ์ มีความเห็นไม่ตรงกัน นายสุเทพ กล่าวว่า “เอาอีกแล้ว ยืนยันผมเห็นตรงกับนายกรัฐมนตรีทุกเรื่องครับ หากนายกรัฐมนตรีจะปรับ ครม.เอาใครเข้ามาผมก็เห็นด้วยทันที ถ้าจะให้ผมเดาหรือสัณนิษฐานว่าคนที่จะมาเป็นเลขาธิการนายกฯ เชื่อว่า จะเป็นคนในพรรค ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเอาใครเป็นได้ทั้งนั้น เพราะงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีมีคุณสมบัติพิเศษในการประสานหน่วยงานต่างๆ กลุ่มคนต่างๆ และบางเรื่องต้องไปพูดคุยแทนนายกรัฐมนตรี นอกจากนั้นยังต้องติดตามนายกฯ ตามที่นายกฯได้กำหนดไว้เป็นแผนงานโครงการ ซึ่งคุณสมบัติแบบนี้ในพรรคมีหลายคน
เมื่อถามย้ำว่า การที่รองนายกฯไม่เห็นด้วยกับการปรับครม.เพราะมีการดันนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ สายทศวรรษใหม่ขึ้นมาเป็นรองนายกฯคนใหม่หรือ ไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนได้เห็นข่าวว่ามีการพูดกันว่า จะเอาคนผลัดใบบ้าง เอาคนทศวรรษใหม่บ้าง แต่เรื่องนี้มันจบไปนานแล้ว ตั้งแต่ 3-4 ปีแล้ว ไม่มีปัญหาเกิดขึ้นอีกแล้ว
เมื่อซักกระแสข่าวรองนายกรัฐมนตรีไม่เห็นด้วยที่จะให้นายไตรรงค์มานั่งรองนายกฯคุมด้านเศรษฐกิจ นายสุเทพ กล่าวว่า “เป็นความไม่จริงทั้งสิ้น ผมสนับสนุนทุกคน เพราะอยู่ในพรรคด้วยกัน เห็นฝีไม้ลายมือ ว่าใครเป็นอย่างไร กรณีของ ดร.ไตรรงค์ คนในพรรคให้ความรัก ความนับถือ ผมไม่เห็นว่าจะมีปัญหากับใครทั้งสิ้น เพียงแต่ที่ผมยังไม่ได้พูดเกินเลยไปถึงเรื่องปรับครม.เพราะนายกรัฐมนตรียัง ไม่ได้แสดงความตั้งใจว่าจะให้ดำเนินการอย่างไรต่อไป ดังนั้นจึงต้องรอฟังนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคด้วย”
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากนายกรัฐมนตรีตัดสินใจตั้งนายไตรรงค์ เป็นรองนายกฯคุมเศรษฐกิจ รองนายกรัฐมนตรีพร้อมที่จะยอมรับหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า “แน่นอนครับ ทุกคนทำงานร่วมกันได้”
เมื่อถามว่า ขณะนี้ยังมีกลุ่มการเมืองภายในพรรคออกมาปล่อยข่าวจะทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า อยากไปตื่นเต้นอะไรมาก ขณะนี้ตนพยายามหาเวลาพูดคุยกับสมาชิกพรรค เพราะ 8-9 เดือนที่ผ่านมา ทำงานค่อนข้างหนักและไม่มีเวลาพูดคุยกับลูกพรรคช่วงหลังเริ่ม มีเวลาชวนมารับประทานกาแฟ รับประทานอาหารกันมากขึ้น ก็ค่อย ๆ พูดจากันไป เชื่อว่ากระบวนการปล่อยข่าวมีเพียง 1-2 คน ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลใจ ผู้สื่อข่าวก็อย่าไปตื่นเต้น
เมื่อถามย้ำว่า การที่รองนายกรัฐมนตรีไม่หนุนนายไตรรงค์ก็ต้องการหนุนให้นายเกียรติ สิทธีอมร และ นายโพธิพงษ์ ล่ำซ่ำ ซึ่งเป็นนายทุนของพรรคมาเป็นรองนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ กล่าวว่า นายเกียรติไม่เคยเป็นนายทุนพรรคเลย นายโพธิพงษ์ ก็ไม่ได้มายุ่งกับการเมืองแล้วในตอนนี้ และที่กล่าวหาตนอย่างนั้นก็ไม่เป็นความจริง หากสมมติว่า เป็นอย่างนั้นจริงและต้องให้ตนเลือก ตนก็เลือกนายไตรรงค์อยู่แล้ว สมมติถ้าให้ตนเลือกโหวต 1 เสียงก็ต้องเป็นดร.ไตรรงค์ ต่อข้อถามว่า ขณะนี้ภายในพรรคยังมีการแบ่งพรรค แบ่งพวก ถึงขนาดบอกว่าหากมาอยู่ในกลุ่มของนายสุเทพจะทำให้เติบโตในสายงาน นายสุเทพ หัวเราะก่อนกล่าวว่า “ตอบทางซ้ายก็เสียหาย ก็มาเจอทางขวาอีก ก็สังคมมันเป็นอย่างนี้แหล่ะ ไม่มีหรอกครับ อยู่กับผมก็เฉาได้เหมือนกัน”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาภายในพรรคขณะนี้แตกเป็นสามก๊กจริงหรือไม่ ซึ่งเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ 10 มกรา ขึ้นมากอีก นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่จริง ภายในพรรคไม่การแตกแยกกันแน่นอน ยืนยันได้ ตนเป็นเลขาธิการพรรคเชื่อได้ และได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาภายในพรรคให้นายกฯทราบบ่อยครั้ง ซึ่งไม่จำเป็นที่นายกฯต้องเอาตามตนทุกครั้ง หากเป็นอย่างนั้นก็ลำบากเพราะต้องฟังคนอื่นๆ ด้วย ไม่เฉพาะฟังแต่นายสุเทพคนเดียว
เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ระหว่างรองนายกรัฐมนตรีกับนายอภิสิทธิ์ เป็นอย่างไรเพราะมีกระแสข่าวเรื่อไม่พอใจกัน นับแต่เกิดปัญหาการแต่งตั้งผบ.ตร. นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีความขัดแย้งแต่อย่างใด ขอย้ำว่าตนเป็นคนประมาณตน สำนึกดี ว่ามีบทบาทอะไร ทำหน้าที่อะไร เมื่อผมรู้จักประมาณตน ผมก็รู้ว่าเป็นรองนายกรัฐมนตรี หน้าที่ของผมคือ ช่วยงานและสนับสนุนนายกรัฐมนตรี ทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย ส่วนเรื่องความคิดเห็นมีอะไรก็นำเสนอไป นายกฯจะเห็นด้วยหรือไม่นั้นก็เป็นเรื่องของนายกฯ ทุกอย่างชัดเจน
เมื่อถามว่า กรณี นายนิพนธ์ ลาออกจากเลขาธิการนายกฯจะเพิ่มความบาดหมางใจขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี ตนได้พบกับนายนิพนธ์ 2 ครั้ง หลังจากที่นายนิพนธ์ตัดสินใจยื่นใบลาออก ตนก็ได้มีโอกาสใช้เวลาในการหารือกันนาน คุยกันทุกเรื่อง และได้ข้อสรุปว่านายนิพนธ์ไม่มีอะไรเป็นการส่วนตัวกับนายกรัฐมนตรี นายนิพนธ์ยังมีความารัก ความปรารถนาดีต่อนายกรัฐมนตรีเหมือนเดิม และอะไรที่นายนิพนธ์จะสามารถช่วยงานนายกฯได้ นายนิพนธ์ก็ยินดีที่จะทำ ส่วนงานที่ค้างคาอยู่เมื่อได้เลขาธิการนายกฯคนใหม่ นายนิพนธ์ก็จะมาช่วยประสานงานส่งมอบและอธิบายให้เข้าใจและสามารถทำงานต่อ เนื่องได้ ไม่มีปัญหาอะไร นี่เป็นสิ่งที่ตนได้ยิน ได้ฟังมาด้วยตนเอง ต่อข้อถามว่า รองนายกรัฐมนตรีช่วยบอกสังคมได้หรือไม่ว่า สาเหตุที่นายนิพนธ์ลาออกเป็นเพราะอะไร นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ได้อ่านจดหมายลาออก และตนไม่ประสงค์ที่จะไปอธิบายแทน