ASTVผู้จัดการรายวัน - "นิพนธ์" ลาออกตั้งแต่สิ้นเดือน นายกฯ ยันเลขาฯ คนใหม่ชัดเจนสัปดาห์นี้ กำลังดูคนนอกที่ไม่ใช่ ส.ส. หนีแรงกระเพื่อมใน ปชป. เน้นคุณสมบัติต้องครบเครื่องประสานพรรคร่วมฯได้ อุบไต๋ปรับ ครม. "กอร์ปศักดิ์" ยันหลังกลับจากอินเดียยังทำหน้าที่เดิม
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับเป็นครั้งแรก วานนี้ (5 ต.ค.) ว่า นายนิพันธ์
พร้อมพันธุ์ ได้ลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแล้ว ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา
และมีผลตั้งแต่วันนั้น โดยไม่ได้ให้เหตุผลของการลาออกไว้ สำหรับผู้ที่จะมาทำหน้าที่แทน
นายนิพนธ์นั้น ตนจะหาให้ได้ภายในสัปดาห์นี้ โดยคุณสมบัติของบุคคลที่จะมาทำหน้าที่นี้นั้น
ตนจะมองในเชิงการติดตามงานของรัฐบาลเพราะขณะนี้รัฐบาลบริหารงานมาแล้ว 9 เดือน มี
งานที่ออกไปมาก และจะมีงานที่เป็นนโยบายใหม่ๆ ตามออกมาอีก สิ่งสำคัญคือมเสียง
วิพากษ์วิจารณ์ว่า การติดตามงานอาจเป็นจุดอ่อนจุดหนึ่ง ฉะนั้นต้องหาบุคคลมาทำงานนี้ให้ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าเลขาธิการนายกรัฐมนตีคนใหม่ต้องมีคุณสมบัติประสานกับพรรคร่วมรัฐบาล
ได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเลขาธิการนายกฯต้องประสานงานได้อยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้ก็
มองคนที่มีคุณสมบัติไว้แล้วหลายคน ส่วนจะต้องมีความ เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจหรือไม่นั้น
นายกรัฐมนตี กล่าวว่า เชี่ยวชาญหลายด้านยิ่งดี
ส่วนการไปพบนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศษฐกิจถึงบ้านพัก เมื่อวันที่ 4 ต
.ค.เป็นไปได้หรือไม่ที่นายกอร์ปศักดิ์ จะมาเป็นเลขาธิการนายกฯ คนใหม่นั้น นายกรัฐมนตรี
กล่าวว่า ตนคุยกับนายกอร์ปศักดิ์เป็นประจำอยู่แล้ว
ต่อข้อถามว่าการลาออกของนายนิพนธ์จะส่งผลให้ต้องปรับ ครม.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า
นายนิพนธ์ไม่ได้อยู่ใน ครม.เมื่อถามว่าจะปรับเปลี่ยนในด้านอื่นๆ ด้วยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า
หากจำเป็นจะปรับก็ต้องปรับ แต่ในชั้นนี้ตนจะดูเรื่อง เลขาธิการนายกฯให้เสร็จสิ้นในสัปดาห์นี้
และคิดว่าหลังจากนั้นจะแจ้งให้ คณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์รับทราบได้ในสัปดาห์
ถัดไป เมื่อถามว่า ตำแเหน่งเลขาธิการนายกฯนั้นไม่ผูกพันกับการปรับครม.ใช่หรือไม่ นาย
อภิสิทธิ์ กล่าวว่าหากตนพิจารณาเสร็จจะเรียนให้ทราบ
***รับกำลังดูคนนอกนั่งเลขานายกฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะนำคนนอกที่ไม่ใช่ ส.ส.มาเป็น เลขาธิการนายกฯ นาย
อภิสิทธิ์ยิ้มก่อนจะกล่าวว่า คนนอกรัฐบาลนั้นตนก็ดูๆ อยู่ เมื่อซักว่า ต้องเป็นคนในที่เคยร่วม
งานกับพรรคประชาธิปัตย์มาก่อนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเข้ามาแล้วต้องทำงานกับ
พรรคได้ เพราะเป็นตำแหน่งทางการเมือง เมือถามว่า เท่าที่พิจารณานั้นมีกี่คนที่จะมาเป็น
เลขาธิการนายกฯ นายอภิสิทธิ์ นิ่งก่อนจะอมยิ้ม แต่ไม่ตอบคำถามนี้ เมื่อถามอีกว่า แคนดิเด
ตตำแหน่งนี้นั้นมี1-2คนใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้จะทราบ
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่ามีกระแสข่าวจะโยกนายกอร์ปศักดิ์มาเป็นเลขาธิการนายกฯ แล้วให้นาย
ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์มาเป็นรองนายกรัฐมนตรี นายกกล่าวว่า
ตนอ่านข่าวนี้อยู่ เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะเข้าที่เข้าทางในวันใด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าาสัปดาห์นี้จะ
ชัดเจน เมื่ออีกว่า จะชัดเจนเรื่องปรับครม.ด้วย หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าชัดเจนเรื่อง
เลขาธิการนายกฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่านายนิพนธ์ลาออกไปแล้วจะเรียกประชุมก.ต.ช.ได้เร็วขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์
กล่าวว่าไม่เกี่ยวกัน เมื่อถามว่าเป็นการส่งสัญญาณว่าพร้อมปรับเปลี่ยน ท่าทีในการเลือก ผบ
.ตร.หรือไม่ นายกรัฐมนตรี อ้ำอึ้งและกล่าวว่าไม่ทราบ ไม่ตอบแล้ว ต่อข้อถามว่า เหตุผลที่
นายนิพนธ์ไม่ระบุในการลาออก นายกรัฐมนตรีชิงตอบว่า ไม่ตอบแล้ว เดี๋ยวหาว่าตนหมกมุ่น
ในเรื่องนี้ ถามอีกว่าการหารือกับพรรครว่มรัฐบาล มีการพูดเรื่องการลาออกของนายนิพนธ์
ด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธว่าไม่มี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้เป็นที่แน่นอนแล้วว่า นายอภิสิทธิ์ อยู่ระหว่างการพิจารณาเอาคน
นอกที่ไม่ใช่ ส.ส.หรือคนในคณะรัฐมนตรี (ครม.) มาทำหน้าที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี แทน
นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ ที่ลาออกไป เนื่องจาก ไม่ต้องการปรับ ครม.เพื่อหนี้แรงกระเพื่อมทาง
การเมือง เพราะหากปรับ ครม.จะเกิดปัญหาภายในพรรคประชาธิปัตย์ทันที เนื่องจากยังมีคน
ที่ต่อคิวเข้ามาเป็นรัฐมนตรีหลายคน หลายกลุ่ม และหากนำคนที่เป็น ส.ส.มาทำหน้าที่
เลขาธิการนายกฯ คนที่ไม่ได้ก็จะผิดหวังทำให้เกิดปัญหาความวุ่นวายในพรรค ส่งผลต่อ
เสถียรภาพรัฐบาลแทรกซ้อนเข้ามาอีก ขณะที่ปัญหาการเมืองภายนอกก็รุมเร้มรัฐบาลอยู่แล้ว
หลายด้าน
รายงานข่าวแจ้งว่า นายอภิสิทธิ์ ได้ทาบทามคนนอกที่จะเข้ามารับตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ 2
-3 คนในขณะนี้ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจแน่นอน เพราะต้องพิจารณาหลายด้าน โดยเฉพาะในเรื่อง
การติดตามนโยบายรัฐบาลที่ออกไปแล้ว และกำลังจะออกมาอีก เนื่องจากที่ผ่านมามีปัญหาใน
เรื่องความไม่โปร่งใสหลายโครงการ จึงต้องหาบุคคลที่จะเข้ามาตรวจสอบ ดูแล และติดตาม
งานอย่างใกล้ชิด
***กอร์ปศักดิ์เชื่อยังเป็นรองนายกฯ
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวถึงกระแสข่าวจะถูกปรับออก
จากรองนายกฯเพื่อไปทำหน้าที่เลขาธิการนายกฯว่า เมื่อตนเดินทางกลับจากการนำนักธุรกิจ
ไทยไปเยือนอินเดียเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างวันที่ 6-9 ต.ค.นี้
ยังคงทำหน้าที่ในตำแหน่งเดิมตามปกติ แต่หากมีการสับเปลี่ยนโยกย้ายก็ไม่มีปัญหา
เพราะผมเป็น good solider (ทหารดี) จะไปอยู่ที่ใดก็ได้ และเรื่องนี้ ไม่ขอก้าวก่ายการ
พิจารณาของนายกรัฐมนตรี ดังนั้นกระแสข่าวที่มีชื่อของผมออกมา เชื่อว่าสื่อคงเขียนกันไปเอง
เช่นเดียวกับกรณีที่นายกรัฐมนตรี เดินทางมาพบกับผมที่บ้านพัก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็
เป็นเรื่องปกติ แต่ก็มีคนนำไปเชื่อมโยง
***สุเทพยันยังไม่มีปรับ ครม.
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าหลังจากนายนิพนธ์ลาออก จะมีการปรับ
ครม.โดยให้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ออกจากรองนายกรัฐมนตรี ไปเป็นเลขาธิการนายกฯ แล้ว
ให้นายไตรรงค์ สุวรรณคิรี ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เข้ามาดำรงตำแหน่งรองนายก
รัฐมนตรีแทนนั้นต้องไปถามนายกรัฐมนตรีเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่าแม้นายนิพนธ์ จะไม่ได้เป็นเลขาธิการนายกฯ แต่จะยังช่วยพรรคทำงานต่อไป
ใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า นายนิพนธ์ ยังเป็นรองหัวหน้าพรรคอยู่ ซึ่งตั้งแต่เริ่มต้นที่ตั้ง
รัฐบาลแล้วทั้งนายนิพนธ์และตนได้ตั้งปณิธานว่า เราจะช่วยเหลือจัดตั้งรัฐบาล ดูแลให้รัฐบาล
ยืนหยัดอยู่ได้เพื่อแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง ซึ่งการลาออกของนายนิพนธ์ คงไม่มีผลกระทบ
อะไรมาก และนายนิพนธ์ เองก็ไม่มีมีเจตนาร้ายต่อรัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรี เขามีเจตนาดี
เขาปวารณาไว้ว่าอะไรที่เขาจะทำให้กับพรรคและบ้านเมืองได้ เขายินดี
ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะผู้จัดการรัฐบาลได้มีการหารือกับพรรคร่วมฯเกี่ยวกับการปรับครม.บ้าง
หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่าไม่มี คุยกับพรรคร่วมฯเฉพาะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่มีเรื่อง
การปรับ ครม.ใด ๆ ทั้งสิ้น และจนถึงขณะนี้ก็ไม่ได้ยินว่านายกรัฐมนตรีจะปรับครม.แต่อย่างใด
และในการหารือกับพรรคร่วมเมื่อวันที่ 4 ต.ค.ก็ไม่มีใครแสดงความเห็นในเรื่องของนายนิพนธ์
เลย
***ชวรัตน์ปัด ภท.บีบไล่กอร์ปศักดิ์
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาการทำงานของ พรรคร่วมรัฐบาล
โดยเฉพาะกับ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี อาจมีปัญหาบ้าง เหมือนลิ้นกับฟัน
แต่ไม่เคยบีบให้พรรคประชาธิปัตย์ ปลด นายกอร์ปศักดิ์ ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า นายกอร์ป
ศักดิ์ จะมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แทน นายนิพนธ์ นั้น ตนไม่ขอแสดงความ
เห็น เพราะเป็นเรื่องภายในพรรคประชาธิปัตย์ และยังเป็นเพียงแค่กระแสข่าวลือ
***"เทพไท" ฟุ้ง ปชป.ยังปึ๊ก
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้ นายพร้อมพงศ์
นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยที่ระบุว่าพรรคประชิปัตย์แบ่งเป็น 4 ก๊ก ว่า เป็นการสร้างข่าวโดย
ปราศจากข้อเท็จจริงโฆษกพรรคเพื่อไทยไม่รู้สภาพความเป็นจริงของพรรคประชาธิปัตย์ คงเข้า
ใจว่าเป็นเหมือนพรรคที่ตัวเองสังกัดอยู่ที่มีการ แบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่า วันนี้ต้องหาคนมาเป็นหัว
หน้าพรรคให้ได้ จนสุดท้ายจบลงที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ จนเป็นเหตุให้นายเสนาะ เทียนทอง
หัวหน้าพรรคประชาราช เกิดอาการน้อยใจและประกาศยุติบทบาททางการเมืองใช่หรือไม่
ส่วนที่วิจารณ์ว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง จะลาออกจาก
ตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งอ้างว่าตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่ง อาถรรพ์นั้น นายเทพไท
กล่าวว่า เชื่อว่าคนในพรรคเพื่อไทยรู้จักรนายสุเทพน้อยเกินไป เพราะนายสุเทพและพรรคประ
ชาธิปัตย์มีความผูกพันจนแยกกันไม่ออก ถ้าตำแหน่ง เลขาธิการพรรคเป็นตำแหน่งที่มี
อาถรรพ์ตามที่ถูกกล่าวหา ตนเชื่อว่านายสุเทพจะเป็นผู้ล้างอาถรรพ์ให้วงการการเมือง และ
นายสุเทพ จะเป็นเลขาธิการพรรคจนกว่าจะเลิกเล่นทางการเมืองและไม่มีวันที่จะย้ายไปสังกัด
พรรคการเมืองอื่นอย่างเด็ดขาด
ขอยืนยันในฐานะผู้ช่วยเลขาธิการพรรคและทำงานใกล้ชิดกับนายสุเทพ ผมเชื่อว่าทุกลม
หายใจของนายสุเทพคือการทำงานให้พรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นที่ ยอมรับของประชาชน และ
ฝ่าฟันอุปสรรคจนมาเป็นรัฐบาลได้จนทุกวันนี้ ฉะนั้น จะมายุแยงให้ลาออกจากตำแหน่ง
เลขาธิการถือว่าเป็นไปไม่ได้
***ชี้ ส.ส.ใต้ทิ้ง ปชป.สอบตกแน่นอน
ส่วนกรณีที่นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ปล่อยข่าวว่า จะมี ส.ส.ภาค
ใต้ พรรคประชาธิปัตย์ ย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย นำโดย นายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ เลขาธิการ
นายกรัฐมนตรีนั้น นายเทพไท กล่าวว่า นายประชา เคยออกมา ให้ข่าวในลักษณะเช่นนี้หลาย
ครั้ง แต่ไม่เคยเห็นเป็นความจริงสักครั้งเดียว จากการตรวจสอบขณะน้ยังไม่มีเบาะแสหรือท่าที
ใดๆ ของส.ส.แม้แต่คนเดียว โดยเฉพาะส.ส.ภาคใต้ เพราะที่ผ่านมาเคยมีบทเรียนของส.ส.ภาค
ใต้คนหนึ่งที่ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดในประเทศ แต่พอลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์แล้วไป
สังกัด พรรคไทยรักไทยปรากฎว่าที่เคยได้คะแนนสูงสุด เหลือไม่ถึงหมื่นคะแนน นี่ถือว่าเป็น
ตัวอย่างบทเรียนของนัการเมืองภาคใต้
นายเทพไท กล่าวว่า ตนเชื่อว่าไม่มี ส.ส.ภาคใต้ของพรรคจะย้ายออกจาก พรรคประชาธิปัตย์
และพรรคเชื่อมั่นในตัวสมาชิกพรรคทุกคนว่ามีความมุ่งมั่นอยู่กับพรรค เพราะมีอุดมการณ์
เดียวซึ่งการที่จะมาเป็นส.ส.ของพรรคได้ต้องฝ่าฝันอุปสรรคอำนาจเงิน และความยากลำบาก
มาพอสมควร จนจึงเชื่อว่าไม่มีใครคิดสั้นทางการเมือง เพราะฉะนั้นข้อมูลทั้งหมดที่นายประชา
ออกมาพูดนั้นมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เกิดความระแวงให้เกิดขึ้นในพรรคประชาธิปัตย์ แต่ตนเชื่อ
ว่าเป็นการสูญเปล่ากับการออกมาให้ข่าวแบบนี้ เพราะทุกคนในประชาธิปัตย์ยังมีความเชื่อมั่นในตัวสมาชิกทุกคน.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับเป็นครั้งแรก วานนี้ (5 ต.ค.) ว่า นายนิพันธ์
พร้อมพันธุ์ ได้ลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแล้ว ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา
และมีผลตั้งแต่วันนั้น โดยไม่ได้ให้เหตุผลของการลาออกไว้ สำหรับผู้ที่จะมาทำหน้าที่แทน
นายนิพนธ์นั้น ตนจะหาให้ได้ภายในสัปดาห์นี้ โดยคุณสมบัติของบุคคลที่จะมาทำหน้าที่นี้นั้น
ตนจะมองในเชิงการติดตามงานของรัฐบาลเพราะขณะนี้รัฐบาลบริหารงานมาแล้ว 9 เดือน มี
งานที่ออกไปมาก และจะมีงานที่เป็นนโยบายใหม่ๆ ตามออกมาอีก สิ่งสำคัญคือมเสียง
วิพากษ์วิจารณ์ว่า การติดตามงานอาจเป็นจุดอ่อนจุดหนึ่ง ฉะนั้นต้องหาบุคคลมาทำงานนี้ให้ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าเลขาธิการนายกรัฐมนตีคนใหม่ต้องมีคุณสมบัติประสานกับพรรคร่วมรัฐบาล
ได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเลขาธิการนายกฯต้องประสานงานได้อยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้ก็
มองคนที่มีคุณสมบัติไว้แล้วหลายคน ส่วนจะต้องมีความ เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจหรือไม่นั้น
นายกรัฐมนตี กล่าวว่า เชี่ยวชาญหลายด้านยิ่งดี
ส่วนการไปพบนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศษฐกิจถึงบ้านพัก เมื่อวันที่ 4 ต
.ค.เป็นไปได้หรือไม่ที่นายกอร์ปศักดิ์ จะมาเป็นเลขาธิการนายกฯ คนใหม่นั้น นายกรัฐมนตรี
กล่าวว่า ตนคุยกับนายกอร์ปศักดิ์เป็นประจำอยู่แล้ว
ต่อข้อถามว่าการลาออกของนายนิพนธ์จะส่งผลให้ต้องปรับ ครม.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า
นายนิพนธ์ไม่ได้อยู่ใน ครม.เมื่อถามว่าจะปรับเปลี่ยนในด้านอื่นๆ ด้วยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า
หากจำเป็นจะปรับก็ต้องปรับ แต่ในชั้นนี้ตนจะดูเรื่อง เลขาธิการนายกฯให้เสร็จสิ้นในสัปดาห์นี้
และคิดว่าหลังจากนั้นจะแจ้งให้ คณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์รับทราบได้ในสัปดาห์
ถัดไป เมื่อถามว่า ตำแเหน่งเลขาธิการนายกฯนั้นไม่ผูกพันกับการปรับครม.ใช่หรือไม่ นาย
อภิสิทธิ์ กล่าวว่าหากตนพิจารณาเสร็จจะเรียนให้ทราบ
***รับกำลังดูคนนอกนั่งเลขานายกฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะนำคนนอกที่ไม่ใช่ ส.ส.มาเป็น เลขาธิการนายกฯ นาย
อภิสิทธิ์ยิ้มก่อนจะกล่าวว่า คนนอกรัฐบาลนั้นตนก็ดูๆ อยู่ เมื่อซักว่า ต้องเป็นคนในที่เคยร่วม
งานกับพรรคประชาธิปัตย์มาก่อนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเข้ามาแล้วต้องทำงานกับ
พรรคได้ เพราะเป็นตำแหน่งทางการเมือง เมือถามว่า เท่าที่พิจารณานั้นมีกี่คนที่จะมาเป็น
เลขาธิการนายกฯ นายอภิสิทธิ์ นิ่งก่อนจะอมยิ้ม แต่ไม่ตอบคำถามนี้ เมื่อถามอีกว่า แคนดิเด
ตตำแหน่งนี้นั้นมี1-2คนใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้จะทราบ
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่ามีกระแสข่าวจะโยกนายกอร์ปศักดิ์มาเป็นเลขาธิการนายกฯ แล้วให้นาย
ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์มาเป็นรองนายกรัฐมนตรี นายกกล่าวว่า
ตนอ่านข่าวนี้อยู่ เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะเข้าที่เข้าทางในวันใด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าาสัปดาห์นี้จะ
ชัดเจน เมื่ออีกว่า จะชัดเจนเรื่องปรับครม.ด้วย หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าชัดเจนเรื่อง
เลขาธิการนายกฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่านายนิพนธ์ลาออกไปแล้วจะเรียกประชุมก.ต.ช.ได้เร็วขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์
กล่าวว่าไม่เกี่ยวกัน เมื่อถามว่าเป็นการส่งสัญญาณว่าพร้อมปรับเปลี่ยน ท่าทีในการเลือก ผบ
.ตร.หรือไม่ นายกรัฐมนตรี อ้ำอึ้งและกล่าวว่าไม่ทราบ ไม่ตอบแล้ว ต่อข้อถามว่า เหตุผลที่
นายนิพนธ์ไม่ระบุในการลาออก นายกรัฐมนตรีชิงตอบว่า ไม่ตอบแล้ว เดี๋ยวหาว่าตนหมกมุ่น
ในเรื่องนี้ ถามอีกว่าการหารือกับพรรครว่มรัฐบาล มีการพูดเรื่องการลาออกของนายนิพนธ์
ด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธว่าไม่มี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้เป็นที่แน่นอนแล้วว่า นายอภิสิทธิ์ อยู่ระหว่างการพิจารณาเอาคน
นอกที่ไม่ใช่ ส.ส.หรือคนในคณะรัฐมนตรี (ครม.) มาทำหน้าที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี แทน
นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ ที่ลาออกไป เนื่องจาก ไม่ต้องการปรับ ครม.เพื่อหนี้แรงกระเพื่อมทาง
การเมือง เพราะหากปรับ ครม.จะเกิดปัญหาภายในพรรคประชาธิปัตย์ทันที เนื่องจากยังมีคน
ที่ต่อคิวเข้ามาเป็นรัฐมนตรีหลายคน หลายกลุ่ม และหากนำคนที่เป็น ส.ส.มาทำหน้าที่
เลขาธิการนายกฯ คนที่ไม่ได้ก็จะผิดหวังทำให้เกิดปัญหาความวุ่นวายในพรรค ส่งผลต่อ
เสถียรภาพรัฐบาลแทรกซ้อนเข้ามาอีก ขณะที่ปัญหาการเมืองภายนอกก็รุมเร้มรัฐบาลอยู่แล้ว
หลายด้าน
รายงานข่าวแจ้งว่า นายอภิสิทธิ์ ได้ทาบทามคนนอกที่จะเข้ามารับตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ 2
-3 คนในขณะนี้ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจแน่นอน เพราะต้องพิจารณาหลายด้าน โดยเฉพาะในเรื่อง
การติดตามนโยบายรัฐบาลที่ออกไปแล้ว และกำลังจะออกมาอีก เนื่องจากที่ผ่านมามีปัญหาใน
เรื่องความไม่โปร่งใสหลายโครงการ จึงต้องหาบุคคลที่จะเข้ามาตรวจสอบ ดูแล และติดตาม
งานอย่างใกล้ชิด
***กอร์ปศักดิ์เชื่อยังเป็นรองนายกฯ
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวถึงกระแสข่าวจะถูกปรับออก
จากรองนายกฯเพื่อไปทำหน้าที่เลขาธิการนายกฯว่า เมื่อตนเดินทางกลับจากการนำนักธุรกิจ
ไทยไปเยือนอินเดียเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างวันที่ 6-9 ต.ค.นี้
ยังคงทำหน้าที่ในตำแหน่งเดิมตามปกติ แต่หากมีการสับเปลี่ยนโยกย้ายก็ไม่มีปัญหา
เพราะผมเป็น good solider (ทหารดี) จะไปอยู่ที่ใดก็ได้ และเรื่องนี้ ไม่ขอก้าวก่ายการ
พิจารณาของนายกรัฐมนตรี ดังนั้นกระแสข่าวที่มีชื่อของผมออกมา เชื่อว่าสื่อคงเขียนกันไปเอง
เช่นเดียวกับกรณีที่นายกรัฐมนตรี เดินทางมาพบกับผมที่บ้านพัก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็
เป็นเรื่องปกติ แต่ก็มีคนนำไปเชื่อมโยง
***สุเทพยันยังไม่มีปรับ ครม.
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าหลังจากนายนิพนธ์ลาออก จะมีการปรับ
ครม.โดยให้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ออกจากรองนายกรัฐมนตรี ไปเป็นเลขาธิการนายกฯ แล้ว
ให้นายไตรรงค์ สุวรรณคิรี ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เข้ามาดำรงตำแหน่งรองนายก
รัฐมนตรีแทนนั้นต้องไปถามนายกรัฐมนตรีเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่าแม้นายนิพนธ์ จะไม่ได้เป็นเลขาธิการนายกฯ แต่จะยังช่วยพรรคทำงานต่อไป
ใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า นายนิพนธ์ ยังเป็นรองหัวหน้าพรรคอยู่ ซึ่งตั้งแต่เริ่มต้นที่ตั้ง
รัฐบาลแล้วทั้งนายนิพนธ์และตนได้ตั้งปณิธานว่า เราจะช่วยเหลือจัดตั้งรัฐบาล ดูแลให้รัฐบาล
ยืนหยัดอยู่ได้เพื่อแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง ซึ่งการลาออกของนายนิพนธ์ คงไม่มีผลกระทบ
อะไรมาก และนายนิพนธ์ เองก็ไม่มีมีเจตนาร้ายต่อรัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรี เขามีเจตนาดี
เขาปวารณาไว้ว่าอะไรที่เขาจะทำให้กับพรรคและบ้านเมืองได้ เขายินดี
ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะผู้จัดการรัฐบาลได้มีการหารือกับพรรคร่วมฯเกี่ยวกับการปรับครม.บ้าง
หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่าไม่มี คุยกับพรรคร่วมฯเฉพาะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่มีเรื่อง
การปรับ ครม.ใด ๆ ทั้งสิ้น และจนถึงขณะนี้ก็ไม่ได้ยินว่านายกรัฐมนตรีจะปรับครม.แต่อย่างใด
และในการหารือกับพรรคร่วมเมื่อวันที่ 4 ต.ค.ก็ไม่มีใครแสดงความเห็นในเรื่องของนายนิพนธ์
เลย
***ชวรัตน์ปัด ภท.บีบไล่กอร์ปศักดิ์
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาการทำงานของ พรรคร่วมรัฐบาล
โดยเฉพาะกับ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี อาจมีปัญหาบ้าง เหมือนลิ้นกับฟัน
แต่ไม่เคยบีบให้พรรคประชาธิปัตย์ ปลด นายกอร์ปศักดิ์ ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า นายกอร์ป
ศักดิ์ จะมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แทน นายนิพนธ์ นั้น ตนไม่ขอแสดงความ
เห็น เพราะเป็นเรื่องภายในพรรคประชาธิปัตย์ และยังเป็นเพียงแค่กระแสข่าวลือ
***"เทพไท" ฟุ้ง ปชป.ยังปึ๊ก
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้ นายพร้อมพงศ์
นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยที่ระบุว่าพรรคประชิปัตย์แบ่งเป็น 4 ก๊ก ว่า เป็นการสร้างข่าวโดย
ปราศจากข้อเท็จจริงโฆษกพรรคเพื่อไทยไม่รู้สภาพความเป็นจริงของพรรคประชาธิปัตย์ คงเข้า
ใจว่าเป็นเหมือนพรรคที่ตัวเองสังกัดอยู่ที่มีการ แบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่า วันนี้ต้องหาคนมาเป็นหัว
หน้าพรรคให้ได้ จนสุดท้ายจบลงที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ จนเป็นเหตุให้นายเสนาะ เทียนทอง
หัวหน้าพรรคประชาราช เกิดอาการน้อยใจและประกาศยุติบทบาททางการเมืองใช่หรือไม่
ส่วนที่วิจารณ์ว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง จะลาออกจาก
ตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งอ้างว่าตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่ง อาถรรพ์นั้น นายเทพไท
กล่าวว่า เชื่อว่าคนในพรรคเพื่อไทยรู้จักรนายสุเทพน้อยเกินไป เพราะนายสุเทพและพรรคประ
ชาธิปัตย์มีความผูกพันจนแยกกันไม่ออก ถ้าตำแหน่ง เลขาธิการพรรคเป็นตำแหน่งที่มี
อาถรรพ์ตามที่ถูกกล่าวหา ตนเชื่อว่านายสุเทพจะเป็นผู้ล้างอาถรรพ์ให้วงการการเมือง และ
นายสุเทพ จะเป็นเลขาธิการพรรคจนกว่าจะเลิกเล่นทางการเมืองและไม่มีวันที่จะย้ายไปสังกัด
พรรคการเมืองอื่นอย่างเด็ดขาด
ขอยืนยันในฐานะผู้ช่วยเลขาธิการพรรคและทำงานใกล้ชิดกับนายสุเทพ ผมเชื่อว่าทุกลม
หายใจของนายสุเทพคือการทำงานให้พรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นที่ ยอมรับของประชาชน และ
ฝ่าฟันอุปสรรคจนมาเป็นรัฐบาลได้จนทุกวันนี้ ฉะนั้น จะมายุแยงให้ลาออกจากตำแหน่ง
เลขาธิการถือว่าเป็นไปไม่ได้
***ชี้ ส.ส.ใต้ทิ้ง ปชป.สอบตกแน่นอน
ส่วนกรณีที่นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ปล่อยข่าวว่า จะมี ส.ส.ภาค
ใต้ พรรคประชาธิปัตย์ ย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย นำโดย นายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ เลขาธิการ
นายกรัฐมนตรีนั้น นายเทพไท กล่าวว่า นายประชา เคยออกมา ให้ข่าวในลักษณะเช่นนี้หลาย
ครั้ง แต่ไม่เคยเห็นเป็นความจริงสักครั้งเดียว จากการตรวจสอบขณะน้ยังไม่มีเบาะแสหรือท่าที
ใดๆ ของส.ส.แม้แต่คนเดียว โดยเฉพาะส.ส.ภาคใต้ เพราะที่ผ่านมาเคยมีบทเรียนของส.ส.ภาค
ใต้คนหนึ่งที่ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดในประเทศ แต่พอลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์แล้วไป
สังกัด พรรคไทยรักไทยปรากฎว่าที่เคยได้คะแนนสูงสุด เหลือไม่ถึงหมื่นคะแนน นี่ถือว่าเป็น
ตัวอย่างบทเรียนของนัการเมืองภาคใต้
นายเทพไท กล่าวว่า ตนเชื่อว่าไม่มี ส.ส.ภาคใต้ของพรรคจะย้ายออกจาก พรรคประชาธิปัตย์
และพรรคเชื่อมั่นในตัวสมาชิกพรรคทุกคนว่ามีความมุ่งมั่นอยู่กับพรรค เพราะมีอุดมการณ์
เดียวซึ่งการที่จะมาเป็นส.ส.ของพรรคได้ต้องฝ่าฝันอุปสรรคอำนาจเงิน และความยากลำบาก
มาพอสมควร จนจึงเชื่อว่าไม่มีใครคิดสั้นทางการเมือง เพราะฉะนั้นข้อมูลทั้งหมดที่นายประชา
ออกมาพูดนั้นมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เกิดความระแวงให้เกิดขึ้นในพรรคประชาธิปัตย์ แต่ตนเชื่อ
ว่าเป็นการสูญเปล่ากับการออกมาให้ข่าวแบบนี้ เพราะทุกคนในประชาธิปัตย์ยังมีความเชื่อมั่นในตัวสมาชิกทุกคน.