นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยกล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรีมาดำรงตำแหน่งเป็นประธานพรรคเพื่อไทยว่า ไม่คิดว่าพล.อ.ชวลิต จะลงมาอีก เพราะเงียบหายไปนานแล้ว แต่ถ้าลงอีกก็ดีเพราะเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง และเคยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี คงจะมีความคิดความอ่าน หลายสิ่งหลายอย่าง แล้วคงจะมาประสานให้เกิดความสามัคคี สมานฉันท์กันได้มั่ง
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะให้นายบรรหารไปพูดคุยกับพล.อ.ชวลิต เพื่อประสานความสมานฉันท์ นายบรรหารกล่าวว่า ตนไม่เกี่ยว แล้วพล.อ.ชวลิต ก็เป็นแค่สมาชิกพรรค ถ้าคุยต้องเป็นหัวหน้าพรรค
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีคนเสนอให้เป็นคนกลางจะรับหรือไม่ นายบรรหาร ย้อนถามว่า ใครจะเสนอผมหล่ะ มันไม่มีหรอก ผมไม่ค่อยมีบารมีตอนนี้ แต่ถ้าเสนอมาผมก็จะไป แต่ถ้าผู้สื่อข่าวถามให้ถามดีๆหน่อยเดี๋ยวจะกลายเป็นว่า ผมกระสันว่าอยากไปเป็นผู้ประสานงานแบบนั้นไม่เอานะ ถ้าดีก็ดีไป ถ้าไม่ดีก็เข้าเนื้อ
ส่วนการกลับเข้ามาสู่การเมืองของ พล.อ.ชวลิต จะทำให้บรรยากาศ ทางการเมืองดีขึ้นหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ตอบไม่ได้ต้องรอดูด้วยกันว่า ในอดีตพล.อ.ชวลิตทำงานอย่างไรบ้าง เมื่อถามต่อว่ามองอย่างไรที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราชจะวางมือทางการเมือง นายบรรหาร หัวเราะและกล่าวว่าไม่มีความเห็น ไม่มีการปรึกษากัน หากนายเสนาะกระทบอะไรก็พูดออกมา ไปถามนายเสนาะดีกว่าเพราะไม่พบกันนานแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมพรรคประชาธิปัตย์ วานนี้ (6 ต.ค.) นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้วิเคราะห์ถึงกรณีที่ พล.อ.ชวลิต เข้ามาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยว่าไม่ได้ผิดความคาดหมาย เพราะเคยถูกทาบทามมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่การดึงพล.อ.ชวลืตเข้ามาครั้งนี้ เพื่ออต้องการดึงนายทหาร จปร.7 ที่มีความถนัดเรื่องการเคลื่อนไหวใต้ดิน เข้ามาเคลื่อนไหวบางสิ่งบางอย่าง และส่วนหนึ่งเป็นการเตรียมพร้อมในพื้นที่อีสาน เพื่อชิงความได้เปรียบ เพราะพล.อ.ชวลิต ยังขายได้ในอีสาน เพื่อจะทำให้เป็นยุทธศาสตร์อีสานเขียว แดงทั้งแผ่นดิน
นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงข่าวที่ว่า นายเสนาะ ประกาศจะวางมือทางการเมืองเนื่องจากน้อยใจว่า พล.อ.ชวลิต จะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ตัวเองหวังไว้ว่า ที่จริงแล้วทั้ง 2 คนมีบารมีเหมือนกัน พล.อ.ชวลิตมีบารมีในภาพกว้าง รู้จักข้าราชการและทหารเยอะ ซึ่งนายเสนาะไม่มีตรงนี้ แต่ก็มีบารมีในส่วนของนักการเมือง ถ้าพรรคเพื่อไทยได้ทั้ง 2 คนมาอยู่ร่วมกันจะเป็นเรื่องดีอย่างมาก ส่วนที่นายเสนาะประกาศเตรียมวางมือ ทางการเมืองนั้นเชื่อว่าวางมือไม่จริง เห็นมานักต่อนักแล้ว คนบอกไม่ยุ่ง ก็ไปอยู่เบื้องหลังทั้งนั้น อย่างพวกอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ และนายเนวิน ชิดชอบ ต่างออกมากันทั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม การที่ได้พล.อ.ชวลิตมาร่วมงานถือเป็นเรื่องดีเพื่อลบภาพครหา ที่มองว่าพรรคไม่มีหัว ไม่มีผู้หลักใหญ่ในพรรค เราจะได้ลบภาพตรงนี้เพื่อเป็นการ บอกว่านี่คือตัวอย่างคนที่มา ต่อไปจะมีคนตามมาอีกมาก เพียงแต่คนเหล่านั้นยังไม่พร้อมเปิดตัว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในอดีตพล.อ.ชวลิตมักจะถอดใจหนีหรือลาออกอยู่บ่อยครั้ง นายสุรสิทธิ์ กล่าวว่า ครั้งนี้คงยาก คงไม่เหมือนในอดีต ครั้งนี้ท่านคงรู้ถึงความรู้สึก ในสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยโดนรังแก เพราะท่านก็โดนเหมือนกันในเหตุการณ์ 7 ต.ค.2551 ท่านจึงเข้ามา เห็นว่าบ้านเมืองมันไปไม่ไหวแล้วเพราะมีการใช้อำนาจรัฐอย่างไม่ถูกต้อง จึงอยากเข้ามากอบกู้ ในที่สุดหากการใช้กฎหมายไม่เป็นธรรม ประชาชนรับไม่ได้จะมีการปฏิวัติโดยประชาชน อย่าลืมคุกไม่ได้มีไว้ขังสำหรับผู้ต้องหาเท่านั้น แต่ยังมีไว้ขังผู้ที่ใช้กฎหมายยัดเยียดข้อหาให้คนอื่นด้วย หากประชาชนลุกฮือ ทหารคงไม่กล้าต่อต้านแน่นอน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เคยบอกแล้วว่าทหารจะไม่เป็นศัตรูกับประชาชน ลองคิดดูถ้าประชาชนลุกฮือ ทหารก็เอาไม่อยู่ ถ้ายังมีการใช้กฎหมายอย่างไม่ยุติธรรมอีก สุดท้ายก็ต้องชดใช้กรรมที่ก่อไว้
นายสุรสิทธิ์ กล่าวว่า เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมตนพร้อมด้วยส.ส.ภาคเหนือและอีสานบางส่วนประมาณ 20คน ได้เดินทางไปเยี่ยมพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยช่วงหนึ่งในการพบปะพูดคุยกันนั้นพ.ต.ท.ทักษิณได้ตอบคำถามกลุ่ม ส.ส.ที่ถามถึงสถานการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์และรัฐบาลว่า ตอนนี้รัฐบาลเหมือนกับศพที่ตายไปแล้ว เราไม่ต้องรีบร้อนไปเผา แค่ยืนดูศพที่มันกำลังตาย ไม่ต้องไปทำอะไร เราใจดีไปช่วยเผา เดี๋ยวมันก็หาว่าเราฆ่าอีก ช่วยจับขึ้นตะแลงแกรง เดี๋ยวหาว่าเราไปทำลายศพอีก รอให้มันเน่าไปเอง เหม็นไปทั่ว ให้คนรู้ว่าเราไม่ได้ฆ่า ผลประโยชน์จะทำให้มันตายไปเอง เราแค่ยืนดูไม่ต้องไปทำอะไร รอให้มันเหม็นไปทั่วจนคนทนไม่ไหว
นายสุรสิทธิ์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังดูแข็งแรง ยิ้มแย้มแจ่มใสดี ไม่ได้เป็นอะไรอย่างที่ถูกกล่าวหา ที่บอกว่าจะไม่ให้ท่านอยู่ดูไบแล้วก็ไม่จริง ท่านยังอยู่ดีมีความสุข ประเทศเขาก็อำนวยความสะดวกทุกอย่างให้ เพราะประเทศนี้เป็นประเทศเปิด ใครจะไปอยู่ก็ได้ สำหรับธุรกิจของท่านมีหลากหลาย นอกจากเหมืองเพชร เหมืองทองแล้ว ท่านยังบอกว่า เร็วๆ นี้กำลังจะไปเซ็นสัญญากับบางประเทศ ทำธุรกิจบ่อน้ำมัน ขณะนี้ท่านกำลังดูเรื่องรายละเอียดสัญญาบางประการอยู่
นายสุรสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กังวลว่า พล.อ.ชวลิตอาจเดินตามหลังพวกเสื้อแดงว่า เชื่อว่าพล.อ.ชวลิตเข้ามา เพื่อแนวทางสมานฉันท์อย่างแท้จริง อยากถามพรรคประชาธิปัตย์ว่าตั้งใจจะสมานฉันท์จริงหรือไม่ สมัยเป็นฝ่ายค้านบอกจะไม่แก้รัฐธรรมนูญ พอมาเป็นรัฐบาลกลับจะแก้ และดูเหมือนจะแก้เพียง 2 มาตราซึ่งเป็นประโยชน์กับตัวเองและพรรคร่วมรัฐบาล วันนี้จะเห็นได้ว่านายอภิสิทธิ์ที่เคยเป็นนักประชาธิปไตยนั้นไม่เหลือแล้ว เหลือแต่จะทำอย่างไรก็ได้ให้รักษาอำนาจไว้ได้ เชื่อว่าท้ายที่สุดรัฐบาลนี้จะอยู่ไม่ได้ จะพังเพราะการทุจริตคอรัปชั่นแน่นอน
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะให้นายบรรหารไปพูดคุยกับพล.อ.ชวลิต เพื่อประสานความสมานฉันท์ นายบรรหารกล่าวว่า ตนไม่เกี่ยว แล้วพล.อ.ชวลิต ก็เป็นแค่สมาชิกพรรค ถ้าคุยต้องเป็นหัวหน้าพรรค
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีคนเสนอให้เป็นคนกลางจะรับหรือไม่ นายบรรหาร ย้อนถามว่า ใครจะเสนอผมหล่ะ มันไม่มีหรอก ผมไม่ค่อยมีบารมีตอนนี้ แต่ถ้าเสนอมาผมก็จะไป แต่ถ้าผู้สื่อข่าวถามให้ถามดีๆหน่อยเดี๋ยวจะกลายเป็นว่า ผมกระสันว่าอยากไปเป็นผู้ประสานงานแบบนั้นไม่เอานะ ถ้าดีก็ดีไป ถ้าไม่ดีก็เข้าเนื้อ
ส่วนการกลับเข้ามาสู่การเมืองของ พล.อ.ชวลิต จะทำให้บรรยากาศ ทางการเมืองดีขึ้นหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ตอบไม่ได้ต้องรอดูด้วยกันว่า ในอดีตพล.อ.ชวลิตทำงานอย่างไรบ้าง เมื่อถามต่อว่ามองอย่างไรที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราชจะวางมือทางการเมือง นายบรรหาร หัวเราะและกล่าวว่าไม่มีความเห็น ไม่มีการปรึกษากัน หากนายเสนาะกระทบอะไรก็พูดออกมา ไปถามนายเสนาะดีกว่าเพราะไม่พบกันนานแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมพรรคประชาธิปัตย์ วานนี้ (6 ต.ค.) นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้วิเคราะห์ถึงกรณีที่ พล.อ.ชวลิต เข้ามาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยว่าไม่ได้ผิดความคาดหมาย เพราะเคยถูกทาบทามมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่การดึงพล.อ.ชวลืตเข้ามาครั้งนี้ เพื่ออต้องการดึงนายทหาร จปร.7 ที่มีความถนัดเรื่องการเคลื่อนไหวใต้ดิน เข้ามาเคลื่อนไหวบางสิ่งบางอย่าง และส่วนหนึ่งเป็นการเตรียมพร้อมในพื้นที่อีสาน เพื่อชิงความได้เปรียบ เพราะพล.อ.ชวลิต ยังขายได้ในอีสาน เพื่อจะทำให้เป็นยุทธศาสตร์อีสานเขียว แดงทั้งแผ่นดิน
นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงข่าวที่ว่า นายเสนาะ ประกาศจะวางมือทางการเมืองเนื่องจากน้อยใจว่า พล.อ.ชวลิต จะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ตัวเองหวังไว้ว่า ที่จริงแล้วทั้ง 2 คนมีบารมีเหมือนกัน พล.อ.ชวลิตมีบารมีในภาพกว้าง รู้จักข้าราชการและทหารเยอะ ซึ่งนายเสนาะไม่มีตรงนี้ แต่ก็มีบารมีในส่วนของนักการเมือง ถ้าพรรคเพื่อไทยได้ทั้ง 2 คนมาอยู่ร่วมกันจะเป็นเรื่องดีอย่างมาก ส่วนที่นายเสนาะประกาศเตรียมวางมือ ทางการเมืองนั้นเชื่อว่าวางมือไม่จริง เห็นมานักต่อนักแล้ว คนบอกไม่ยุ่ง ก็ไปอยู่เบื้องหลังทั้งนั้น อย่างพวกอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ และนายเนวิน ชิดชอบ ต่างออกมากันทั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม การที่ได้พล.อ.ชวลิตมาร่วมงานถือเป็นเรื่องดีเพื่อลบภาพครหา ที่มองว่าพรรคไม่มีหัว ไม่มีผู้หลักใหญ่ในพรรค เราจะได้ลบภาพตรงนี้เพื่อเป็นการ บอกว่านี่คือตัวอย่างคนที่มา ต่อไปจะมีคนตามมาอีกมาก เพียงแต่คนเหล่านั้นยังไม่พร้อมเปิดตัว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในอดีตพล.อ.ชวลิตมักจะถอดใจหนีหรือลาออกอยู่บ่อยครั้ง นายสุรสิทธิ์ กล่าวว่า ครั้งนี้คงยาก คงไม่เหมือนในอดีต ครั้งนี้ท่านคงรู้ถึงความรู้สึก ในสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยโดนรังแก เพราะท่านก็โดนเหมือนกันในเหตุการณ์ 7 ต.ค.2551 ท่านจึงเข้ามา เห็นว่าบ้านเมืองมันไปไม่ไหวแล้วเพราะมีการใช้อำนาจรัฐอย่างไม่ถูกต้อง จึงอยากเข้ามากอบกู้ ในที่สุดหากการใช้กฎหมายไม่เป็นธรรม ประชาชนรับไม่ได้จะมีการปฏิวัติโดยประชาชน อย่าลืมคุกไม่ได้มีไว้ขังสำหรับผู้ต้องหาเท่านั้น แต่ยังมีไว้ขังผู้ที่ใช้กฎหมายยัดเยียดข้อหาให้คนอื่นด้วย หากประชาชนลุกฮือ ทหารคงไม่กล้าต่อต้านแน่นอน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เคยบอกแล้วว่าทหารจะไม่เป็นศัตรูกับประชาชน ลองคิดดูถ้าประชาชนลุกฮือ ทหารก็เอาไม่อยู่ ถ้ายังมีการใช้กฎหมายอย่างไม่ยุติธรรมอีก สุดท้ายก็ต้องชดใช้กรรมที่ก่อไว้
นายสุรสิทธิ์ กล่าวว่า เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมตนพร้อมด้วยส.ส.ภาคเหนือและอีสานบางส่วนประมาณ 20คน ได้เดินทางไปเยี่ยมพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยช่วงหนึ่งในการพบปะพูดคุยกันนั้นพ.ต.ท.ทักษิณได้ตอบคำถามกลุ่ม ส.ส.ที่ถามถึงสถานการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์และรัฐบาลว่า ตอนนี้รัฐบาลเหมือนกับศพที่ตายไปแล้ว เราไม่ต้องรีบร้อนไปเผา แค่ยืนดูศพที่มันกำลังตาย ไม่ต้องไปทำอะไร เราใจดีไปช่วยเผา เดี๋ยวมันก็หาว่าเราฆ่าอีก ช่วยจับขึ้นตะแลงแกรง เดี๋ยวหาว่าเราไปทำลายศพอีก รอให้มันเน่าไปเอง เหม็นไปทั่ว ให้คนรู้ว่าเราไม่ได้ฆ่า ผลประโยชน์จะทำให้มันตายไปเอง เราแค่ยืนดูไม่ต้องไปทำอะไร รอให้มันเหม็นไปทั่วจนคนทนไม่ไหว
นายสุรสิทธิ์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังดูแข็งแรง ยิ้มแย้มแจ่มใสดี ไม่ได้เป็นอะไรอย่างที่ถูกกล่าวหา ที่บอกว่าจะไม่ให้ท่านอยู่ดูไบแล้วก็ไม่จริง ท่านยังอยู่ดีมีความสุข ประเทศเขาก็อำนวยความสะดวกทุกอย่างให้ เพราะประเทศนี้เป็นประเทศเปิด ใครจะไปอยู่ก็ได้ สำหรับธุรกิจของท่านมีหลากหลาย นอกจากเหมืองเพชร เหมืองทองแล้ว ท่านยังบอกว่า เร็วๆ นี้กำลังจะไปเซ็นสัญญากับบางประเทศ ทำธุรกิจบ่อน้ำมัน ขณะนี้ท่านกำลังดูเรื่องรายละเอียดสัญญาบางประการอยู่
นายสุรสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กังวลว่า พล.อ.ชวลิตอาจเดินตามหลังพวกเสื้อแดงว่า เชื่อว่าพล.อ.ชวลิตเข้ามา เพื่อแนวทางสมานฉันท์อย่างแท้จริง อยากถามพรรคประชาธิปัตย์ว่าตั้งใจจะสมานฉันท์จริงหรือไม่ สมัยเป็นฝ่ายค้านบอกจะไม่แก้รัฐธรรมนูญ พอมาเป็นรัฐบาลกลับจะแก้ และดูเหมือนจะแก้เพียง 2 มาตราซึ่งเป็นประโยชน์กับตัวเองและพรรคร่วมรัฐบาล วันนี้จะเห็นได้ว่านายอภิสิทธิ์ที่เคยเป็นนักประชาธิปไตยนั้นไม่เหลือแล้ว เหลือแต่จะทำอย่างไรก็ได้ให้รักษาอำนาจไว้ได้ เชื่อว่าท้ายที่สุดรัฐบาลนี้จะอยู่ไม่ได้ จะพังเพราะการทุจริตคอรัปชั่นแน่นอน
