“วิทยา” กระทุ้ง “มานิต” อย่าปล่อยคนใกล้ชิดสร้างปัญหา ขู่กวาดทิ้งทั้งกระทรวงฯ เร่งคณะกรรมการสอบโกงไทยเข้มแข็งให้คำตอบสังคม เรื่อง “ราคาแพง-รายการที่พื้นที่ไม่ต้องการแต่จัดให้” นายกฯ ยังไม่ปักใจ! คนปชป.มีเอี่ยว ขอดูหลักฐานก่อน ปลัด สธ.สั่งยกเลิกประกวดราคา รพ.มหาราช โคราช
วานนี้ (8 ต.ค.)นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท เข้าพบและยื่นรายชื่อฝ่ายการเมือง 4-5 ราย ที่มีส่วนพัวพันกับความไม่โปร่งใสโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในโครงการไทยเข้มแข็งว่า ได้ขอให้แพทย์ชนบทสรุปโครงการที่คิดว่ามีความเสียหาย ทั้งในส่วนการก่อสร้าง และการจัดซื้ออุปกรณ์ ส่งข้อมูลมาเป็นลายลักษณ์อักษรให้ตน นอกจากนี้ตนได้คุยกับนายวิทยา แก้วภารดัย รมว.สาธารณสุข ว่าการที่จะขออนุมัติโครงการเหล่านี้ ขอให้ตรวจสอบราคากลาง ถ้าสูงก็ต้องตัดเพราะจะได้ทำโครงการได้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ส่วนอุปกรณ์ อะไรที่ไม่มีความจำเป็นก็ไม่ควรซื้อ
“ส่วนใครเกี่ยวข้องบ้าง ผมก็สอบถามไป เขาก็บอกว่ามีทั้งฝ่ายการเมือง ฝ่ายราชการ จากที่เขาได้ยินมา ผมก็บอกว่าขอให้ส่งพยานหลักฐานให้กับคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง แต่หากเห็นว่าคณะกรรมการฯ จะทำงานไม่ได้ ขอให้บอกผม ก็จะปรับปรุง ซึ่งแพทย์ชนบทก็บอกว่าคณะกรรมการฯ น่าจะทำงานได้ แต่ถ้าไม่ได้ก็บอกมา เพราะนายวิทยาก็ยินดีที่จะปรับปรุงคณะกรรมการฯ ถ้าเห็นว่าจำเป็น”
สำหรับข้อมูลที่แพทย์ชนบทพาดพิงว่ามีนักการเมืองในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เกี่ยวข้อง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ข้อมูลที่บอกไม่ได้มีเอกสารอะไร และยังไม่มีความชัดเจน บอกแต่ว่ามีการพาดพิง ตนก็ให้ไปรวบรวมมาถ้ามีประเด็นอะไรที่ต้องให้พรรคดำเนินการ ก็จะดำเนินการ ขณะนี้รอเอกสารอยู่ ซึ่งโครงการที่เป็นปัญหาใน สธ.ที่แพทย์ชนบทบอก คือ โครงการที่มีการวางกันไว้ในสมัยที่จะทำเม็กกะโปรเจ็ก สธ.ก็ไปยกตรงนั้นมาแล้วนำมาใส่
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากพบว่ามีนักการเมืองทุจริต รัฐบาลนี้ก็ไม่เอาไว้อยู่แล้ว และไม่ว่าใครเกี่ยวข้องทั้ง ปชป.และพรรคภูมิใจไทยก็ต้องดำเนินการ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นจะไม่บั่นทอนภาพลักษณ์ของรัฐบาลและ ปชป.โดยเฉพาะพรรคไม่ได้คิดจะทุจริต แต่ใครทำผิดก็ให้ดำเนินการคนนั้นอย่าไปช่วยกัน
** “วิทยา” เร่ง คกก.ให้คำตอบสังคม
ด้าน นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ. ประชุมคณะกรรมการชุดทบทวนโครงการไทยเข้มแข็งและชุดตรวจสอบการจัดซื้อครุภัณฑ์ ที่มี นพ.เสรี หงส์หยก ผู้ตรวจราชการ สธ.เป็นประธาน โดยนายวิทยา กล่าวว่า การทำงานของคณะกรรมการทั้ง 2 ชุดมีความคืบหน้าไปมาก และได้มอบนโยบายให้ เร่งดำเนินการให้คำตอบสังคมเร่งด่วน 2 เรื่อง ได้แก่รายการที่พื้นที่ไม่ต้องการ แต่ปรากฏในโครงการ และ การตั้งราคาแพงเกินจริง ซึ่งหากตรวจสอบได้ว่าแพงจริง สามารถปรับราคาลงตามความเป็นจริง และประหยัดงบฯ ได้ ก็จะหารือกับนายกรัฐมนตรีและ ครม. เพื่อนำเงินที่เหลือนี้ไปพัฒนาปรับปรุงสถานพยาบาลส่วนที่ยังขาดแคลนอยู่ และมอบหมายให้ปลัด สธ.ติดตามเรื่องการทุจริตทุกเรื่องที่ปรากฏในสื่อ เพื่อหาข้อเท็จจริงและชี้แจงสังคมโดยเร็วที่สุด โดยให้มีการแถลงความคืบหน้าการดำเนินการโครงการไทยเข้มแข็งทุกสัปดาห์
เมื่อถามว่ามีการหารือกับนายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข หรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ยังไม่มีการหารืออย่างเป็นทางการเพียงแต่พูดคุยเป็นการส่วนตัวว่าให้ระมัดระวังคนใกล้ตัวของตัวเอง อย่าให้สร้างปัญหาอะไร เพราะหากมีปัญหา ตนเองจะกวาดทั้ง สธ.
**ยกเลิกประกวดราคา รพ.มหาราช
ด้าน นพ.ไพจิตร์กล่าวว่า กรณีการก่อสร้างอาคารของ รพ.มหาราช จ.นครราชสีมา งบประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งพื้นที่ได้มีการประกวดราคา และมีข่าวว่าล็อกสเปกก่อสร้าง ทำให้มีบริษัทผ่านเกณฑ์ได้น้อยนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ตึกที่โรงพยาบาลต้องการสร้างขึ้น มีชั้นใต้ดิน ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ระบุคุณสมบัติของผู้ก่อสร้างว่าต้องเคยมีผลงานการก่อสร้างอาคารที่ไม่มีน้ำรั่วซึมชั้นใต้ดิน โดยได้สั่งให้ยกเลิกการประกวดราคา และให้ผู้บริหารโรงพยาบาลแถลงข้อเท็จจริงแก่สื่อมวลชนแล้ว
** รับมีครุภัณฑ์ รพ.ไม่ได้ขอแต่จัดให้
นพ.เสรี หงส์หยก ผู้ตรวจราชการ สธ. ประธานชุดทบทวนรายการครุภัณฑ์ที่มีปัญหา 6 รายการ กล่าวว่า ผลการตรวจสอบเบื้องต้นรายการที่เป็นข่าว เช่น เครื่องฆ่าเชื้อโรคด้วยแสงอัตราไวโอเล็ต เครื่องวัดสารเคมีในเลือด มีบางรายการที่ไม่ได้ขอแต่ได้รับ และราคาแพง รวมทั้งขนาดของเครื่องมือที่ได้ไม่เหมาะสมกับการใช้งานของโรงพยาบาล เช่น เครื่องวัดสารเคมีในเลือด โรงพยาบาลเล็กควรได้เครื่องเล็ก ส่วนเครื่องดมยาสลบและเครื่องช่วยหายใจ จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญดูแลการใช้งาน แต่จะต้องตรวจรายละเอียดเพิ่มเติมอีก
สำหรับราคาการสร้างหอพักพยาบาลขนาด 24 ยูนิต เป็นการตั้งราคาในปี 2553 จะต้องนำไปเปรียบเทียบกับราคากลางซึ่งเป็นราคาอ้างอิงสิ่งก่อสร้างอีกครั้ง หากดูรายละเอียดแล้ว ก็อาจจะประหยัดงบได้ ทั้งนี้ ในการจัดจ้างรวมทั้งการตรวจสอบ เป็นกระบวนการของพื้นที่ต้องดำเนินการในจังหวัด นโยบายของ รมว.ศธ.ที่ให้ดำเนินการครั้งนี้ นับว่าเป็นการวางระบบการตรวจสอบที่เข้มแข็งของ สธ.สามารถนำไปใช้ในโครงการอื่นๆ ได้ในอนาคต
**ตั้งคณะทำงาน 3 ชุดตามติดทุจริตงบ
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษก สธ. กล่าวว่า ปลัด สธ.มีนโยบายให้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมและแก้ไขปัญหาตามที่มีหลายฝ่ายท้วงติงความไม่โปร่งใส อย่างเร่งด่วนภายใน 1 สัปดาห์ โดยได้มอบหมายให้ตั้งคณะทำงานย่อยอีก 3 ชุด เพื่อตรวจสอบรายละเอียดของโครงการ 3 ระดับ รวมทั้งราคากลาง
นพ.สุพรรณกล่าวว่า ชุดตรวจสอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด มอบหมายให้ นพ.วุฒิไกร มุ่งหมาย นายแพทย์สาธารณสุข จ.อุบลราชธานี ในฐานะประธานชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และคณะ ตรวจสอบรายการก่อสร้างและครุภัณฑ์ทุกรายการ ทั้งด้านความเหมาะสม ราคา และสถานที่รับจัดสรร และให้หารูปแบบทิศทางการพัฒนาของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลด้วย
ชุดที่ 2 เป็นชุดตรวจสอบรายการของ รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไป 94 แห่ง มอบให้ นพ.วีระพงษ์ เพ่งวาณิชย์ ผอ.รพ.ฉะเชิงเทรา ในฐานะประธานชมรม ผอ.รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไป ตรวจสอบความเหมาะสมรายการต่างๆ ในโครงการพัฒนาระบบบริการระดับตติยภูมิหรือระดับสูงและศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง (Excellent center)
ชุดที่ 3 มอบให้ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผอ.รพ.ชุมแพ ในฐานะประธานชมรมแพทย์ชนบท และคณะ ตรวจสอบรายละเอียดของโครงการพัฒนาระบบทุติยภูมิ คือ รพ.ชุมชนทั้งหมด และโครงการสนับสนุนเครือข่ายบริการทุกระดับ
นายแพทย์สุพรรณกล่าวอีกว่า ให้คณะทำงานย่อยทั้ง 3 ชุด พิจารณาหาข้อสรุปเบื้องต้นให้แล้วเสร็จโดยเร็ว แล้วนำมาพิจารณาร่วมกับคณะกรรมการ 2 ชุดหลัก ในวันที่ 13 ตุลาคม 2552 และรายงาน รมว.สธ.เพื่อพิจารณาต่อไป.
วานนี้ (8 ต.ค.)นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท เข้าพบและยื่นรายชื่อฝ่ายการเมือง 4-5 ราย ที่มีส่วนพัวพันกับความไม่โปร่งใสโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในโครงการไทยเข้มแข็งว่า ได้ขอให้แพทย์ชนบทสรุปโครงการที่คิดว่ามีความเสียหาย ทั้งในส่วนการก่อสร้าง และการจัดซื้ออุปกรณ์ ส่งข้อมูลมาเป็นลายลักษณ์อักษรให้ตน นอกจากนี้ตนได้คุยกับนายวิทยา แก้วภารดัย รมว.สาธารณสุข ว่าการที่จะขออนุมัติโครงการเหล่านี้ ขอให้ตรวจสอบราคากลาง ถ้าสูงก็ต้องตัดเพราะจะได้ทำโครงการได้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ส่วนอุปกรณ์ อะไรที่ไม่มีความจำเป็นก็ไม่ควรซื้อ
“ส่วนใครเกี่ยวข้องบ้าง ผมก็สอบถามไป เขาก็บอกว่ามีทั้งฝ่ายการเมือง ฝ่ายราชการ จากที่เขาได้ยินมา ผมก็บอกว่าขอให้ส่งพยานหลักฐานให้กับคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง แต่หากเห็นว่าคณะกรรมการฯ จะทำงานไม่ได้ ขอให้บอกผม ก็จะปรับปรุง ซึ่งแพทย์ชนบทก็บอกว่าคณะกรรมการฯ น่าจะทำงานได้ แต่ถ้าไม่ได้ก็บอกมา เพราะนายวิทยาก็ยินดีที่จะปรับปรุงคณะกรรมการฯ ถ้าเห็นว่าจำเป็น”
สำหรับข้อมูลที่แพทย์ชนบทพาดพิงว่ามีนักการเมืองในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เกี่ยวข้อง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ข้อมูลที่บอกไม่ได้มีเอกสารอะไร และยังไม่มีความชัดเจน บอกแต่ว่ามีการพาดพิง ตนก็ให้ไปรวบรวมมาถ้ามีประเด็นอะไรที่ต้องให้พรรคดำเนินการ ก็จะดำเนินการ ขณะนี้รอเอกสารอยู่ ซึ่งโครงการที่เป็นปัญหาใน สธ.ที่แพทย์ชนบทบอก คือ โครงการที่มีการวางกันไว้ในสมัยที่จะทำเม็กกะโปรเจ็ก สธ.ก็ไปยกตรงนั้นมาแล้วนำมาใส่
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากพบว่ามีนักการเมืองทุจริต รัฐบาลนี้ก็ไม่เอาไว้อยู่แล้ว และไม่ว่าใครเกี่ยวข้องทั้ง ปชป.และพรรคภูมิใจไทยก็ต้องดำเนินการ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นจะไม่บั่นทอนภาพลักษณ์ของรัฐบาลและ ปชป.โดยเฉพาะพรรคไม่ได้คิดจะทุจริต แต่ใครทำผิดก็ให้ดำเนินการคนนั้นอย่าไปช่วยกัน
** “วิทยา” เร่ง คกก.ให้คำตอบสังคม
ด้าน นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ. ประชุมคณะกรรมการชุดทบทวนโครงการไทยเข้มแข็งและชุดตรวจสอบการจัดซื้อครุภัณฑ์ ที่มี นพ.เสรี หงส์หยก ผู้ตรวจราชการ สธ.เป็นประธาน โดยนายวิทยา กล่าวว่า การทำงานของคณะกรรมการทั้ง 2 ชุดมีความคืบหน้าไปมาก และได้มอบนโยบายให้ เร่งดำเนินการให้คำตอบสังคมเร่งด่วน 2 เรื่อง ได้แก่รายการที่พื้นที่ไม่ต้องการ แต่ปรากฏในโครงการ และ การตั้งราคาแพงเกินจริง ซึ่งหากตรวจสอบได้ว่าแพงจริง สามารถปรับราคาลงตามความเป็นจริง และประหยัดงบฯ ได้ ก็จะหารือกับนายกรัฐมนตรีและ ครม. เพื่อนำเงินที่เหลือนี้ไปพัฒนาปรับปรุงสถานพยาบาลส่วนที่ยังขาดแคลนอยู่ และมอบหมายให้ปลัด สธ.ติดตามเรื่องการทุจริตทุกเรื่องที่ปรากฏในสื่อ เพื่อหาข้อเท็จจริงและชี้แจงสังคมโดยเร็วที่สุด โดยให้มีการแถลงความคืบหน้าการดำเนินการโครงการไทยเข้มแข็งทุกสัปดาห์
เมื่อถามว่ามีการหารือกับนายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข หรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ยังไม่มีการหารืออย่างเป็นทางการเพียงแต่พูดคุยเป็นการส่วนตัวว่าให้ระมัดระวังคนใกล้ตัวของตัวเอง อย่าให้สร้างปัญหาอะไร เพราะหากมีปัญหา ตนเองจะกวาดทั้ง สธ.
**ยกเลิกประกวดราคา รพ.มหาราช
ด้าน นพ.ไพจิตร์กล่าวว่า กรณีการก่อสร้างอาคารของ รพ.มหาราช จ.นครราชสีมา งบประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งพื้นที่ได้มีการประกวดราคา และมีข่าวว่าล็อกสเปกก่อสร้าง ทำให้มีบริษัทผ่านเกณฑ์ได้น้อยนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ตึกที่โรงพยาบาลต้องการสร้างขึ้น มีชั้นใต้ดิน ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ระบุคุณสมบัติของผู้ก่อสร้างว่าต้องเคยมีผลงานการก่อสร้างอาคารที่ไม่มีน้ำรั่วซึมชั้นใต้ดิน โดยได้สั่งให้ยกเลิกการประกวดราคา และให้ผู้บริหารโรงพยาบาลแถลงข้อเท็จจริงแก่สื่อมวลชนแล้ว
** รับมีครุภัณฑ์ รพ.ไม่ได้ขอแต่จัดให้
นพ.เสรี หงส์หยก ผู้ตรวจราชการ สธ. ประธานชุดทบทวนรายการครุภัณฑ์ที่มีปัญหา 6 รายการ กล่าวว่า ผลการตรวจสอบเบื้องต้นรายการที่เป็นข่าว เช่น เครื่องฆ่าเชื้อโรคด้วยแสงอัตราไวโอเล็ต เครื่องวัดสารเคมีในเลือด มีบางรายการที่ไม่ได้ขอแต่ได้รับ และราคาแพง รวมทั้งขนาดของเครื่องมือที่ได้ไม่เหมาะสมกับการใช้งานของโรงพยาบาล เช่น เครื่องวัดสารเคมีในเลือด โรงพยาบาลเล็กควรได้เครื่องเล็ก ส่วนเครื่องดมยาสลบและเครื่องช่วยหายใจ จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญดูแลการใช้งาน แต่จะต้องตรวจรายละเอียดเพิ่มเติมอีก
สำหรับราคาการสร้างหอพักพยาบาลขนาด 24 ยูนิต เป็นการตั้งราคาในปี 2553 จะต้องนำไปเปรียบเทียบกับราคากลางซึ่งเป็นราคาอ้างอิงสิ่งก่อสร้างอีกครั้ง หากดูรายละเอียดแล้ว ก็อาจจะประหยัดงบได้ ทั้งนี้ ในการจัดจ้างรวมทั้งการตรวจสอบ เป็นกระบวนการของพื้นที่ต้องดำเนินการในจังหวัด นโยบายของ รมว.ศธ.ที่ให้ดำเนินการครั้งนี้ นับว่าเป็นการวางระบบการตรวจสอบที่เข้มแข็งของ สธ.สามารถนำไปใช้ในโครงการอื่นๆ ได้ในอนาคต
**ตั้งคณะทำงาน 3 ชุดตามติดทุจริตงบ
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษก สธ. กล่าวว่า ปลัด สธ.มีนโยบายให้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมและแก้ไขปัญหาตามที่มีหลายฝ่ายท้วงติงความไม่โปร่งใส อย่างเร่งด่วนภายใน 1 สัปดาห์ โดยได้มอบหมายให้ตั้งคณะทำงานย่อยอีก 3 ชุด เพื่อตรวจสอบรายละเอียดของโครงการ 3 ระดับ รวมทั้งราคากลาง
นพ.สุพรรณกล่าวว่า ชุดตรวจสอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด มอบหมายให้ นพ.วุฒิไกร มุ่งหมาย นายแพทย์สาธารณสุข จ.อุบลราชธานี ในฐานะประธานชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และคณะ ตรวจสอบรายการก่อสร้างและครุภัณฑ์ทุกรายการ ทั้งด้านความเหมาะสม ราคา และสถานที่รับจัดสรร และให้หารูปแบบทิศทางการพัฒนาของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลด้วย
ชุดที่ 2 เป็นชุดตรวจสอบรายการของ รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไป 94 แห่ง มอบให้ นพ.วีระพงษ์ เพ่งวาณิชย์ ผอ.รพ.ฉะเชิงเทรา ในฐานะประธานชมรม ผอ.รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไป ตรวจสอบความเหมาะสมรายการต่างๆ ในโครงการพัฒนาระบบบริการระดับตติยภูมิหรือระดับสูงและศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง (Excellent center)
ชุดที่ 3 มอบให้ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผอ.รพ.ชุมแพ ในฐานะประธานชมรมแพทย์ชนบท และคณะ ตรวจสอบรายละเอียดของโครงการพัฒนาระบบทุติยภูมิ คือ รพ.ชุมชนทั้งหมด และโครงการสนับสนุนเครือข่ายบริการทุกระดับ
นายแพทย์สุพรรณกล่าวอีกว่า ให้คณะทำงานย่อยทั้ง 3 ชุด พิจารณาหาข้อสรุปเบื้องต้นให้แล้วเสร็จโดยเร็ว แล้วนำมาพิจารณาร่วมกับคณะกรรมการ 2 ชุดหลัก ในวันที่ 13 ตุลาคม 2552 และรายงาน รมว.สธ.เพื่อพิจารณาต่อไป.