“วิทยา” คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงทุจริตงบไทยเข้มแข็ง 2 ชุดคืบหน้า เร่งให้คำตอบสังคม 2 เรื่อง “ราคาแพงเกินจริง-รายการที่พื้นที่ไม่ต้องการ แต่ได้รับจัดสรรให้” ชี้หากผลสรุปสามารถประหยัดงบได้จริง ก็จะนำไปใช้เติมเต็มสถานบริการที่ยังขาดแคลนได้ พร้อมกำชับปลัด สธ.เร่งตรวจสอบ อย่าให้โกงเด็ดขาด ด้าน “หมอไพจิตร์” ตั้ง 3 หมอ เป็นคณะทำงานย่อยตามติดโครงการไทยเข้มแข็ง ทั้งรายการครุภัณฑ์การแพทย์ การก่อสร้างทั้งหมด สรุปผลภายในวันที่ 13 ตุลาคมนี้
เช้าวันนี้ (8 ต.ค.) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ.ประชุมคณะกรรมการชุดทบทวนโครงการไทยเข้มแข็งและชุดตรวจสอบการจัดซื้อครุภัณฑ์ ที่มีนายแพทย์เสรี หงส์หยก ผู้ตรวจราชการ สธ.เป็นประธาน เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงาน
“วิทยา” เร่งคณะกรรมการให้คำตอบสังคม
นายวิทยากล่าวว่า การทำงานของคณะกรรมการทั้ง 2 ชุดมีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะชุดของนายแพทย์เสรี ที่ทบทวนรายการครุภัณฑ์ที่มีปัญหา 6 รายการ ได้แก่ เครื่องฆ่าเชื้อด้วยระบบอัลตราไวโอเลต เครื่องตรวจสารเคมีในเลือด เครื่องช่วยหายใจ เครื่องดมยาสลบ เครื่องติดตามการทำงานของหัวใจรถพยาบาล และสิ่งก่อสร้าง 1 รายการคือแฟลตพยาบาล
ส่วนชุดที่ 2 คือ ชุดพิจารณาความเหมาะสมและแก้ไขปัญหาโครงการไทยเข้มแข็ง ซึ่งได้มอบหมายให้นายแพทย์สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ผู้ตรวจราชการ สธ.ทำหน้าที่แทนรองปลัด สธ.เป็นประธาน ก็มีความคืบหน้าเช่นกัน แต่เนื่องจากมีรายการจำนวนมากถึง 7,000 กว่ารายการ จึงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ อาจขยายเวลาได้อีกหากจำเป็น และหากพบรายการที่มีราคาแพงเกินจริง ให้ส่งให้ชุดนายแพทย์เสรีดำเนินการต่อ
นายวิทยากล่าวต่อว่า ได้มอบนโยบายให้คณะกรรมการทั้ง 2 ชุด เร่งดำเนินการให้คำตอบสังคมเร่งด่วน 2 เรื่อง เรื่องแรกได้แก่รายการที่พื้นที่ไม่ต้องการ แต่ปรากฏในโครงการ และเรื่องที่ 2 คือการตั้งราคาแพงเกินจริง ซึ่งหากตรวจสอบได้ว่าแพงจริง สามารถปรับราคาลงตามความเป็นจริง และประหยัดงบประมาณได้ ก็จะหารือกับนายกรัฐมนตรีและ ครม. เพื่อนำเงินที่เหลือนี้ไปพัฒนาปรับปรุงสถานพยาบาลส่วนที่ยังขาดแคลนอยู่และรอการพัฒนา ได้มอบหมายให้ปลัด สธ.ติดตามเรื่องราวการทุจริตทุกเรื่องที่ปรากฏในสื่อ เพื่อหาข้อเท็จจริงและชี้แจงสังคมโดยเร็วที่สุด ป้องกันไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้น เช่นกรณีการสร้างอาคารที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และให้มีการแถลงความคืบหน้าการดำเนินการโครงการไทยเข็มแข็งทุกสัปดาห์
สั่งยกเลิกประกวดราคา รพ.มหาราช โคราช
ทางด้าน นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการตรวจสอบรายการคุรุภัณฑ์ ราคาและสิ่งก่อสร้าง รวมทั้งความเหมาะสมการจัดสรรให้พื้นที่ในโครงการไทยเข็มแข้ง ได้ใช้กลไก 2 ส่วน ส่วนแรกคือ การตั้งคณะกรรมการที่มีบุคคลจากพื้นที่ คือนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ตัวแทนจากโรงพยาบาลทุกระดับ รวมทั้งแพทย์ชนบทที่เป็นตัวแทนของโรงพยาบาลชุมชน เข้ามาช่วยดูแลรายละเอียดทั้งหมด ส่วนที่ 2 ได้ให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขทุกเขต ทบทวนทั้งรายการครุภัณฑ์ สิ่งก่อสร้าง และราคา ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนี้จะรายงานในวันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2552
สำหรับกรณีการก่อสร้างอาคารของโรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครราชสีมา งบประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งพื้นที่ได้มีการประกวดราคา และมีข่าวว่าล็อกสเปกก่อสร้าง ทำให้มีบริษัทผ่านเกณฑ์ได้น้อยนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ตึกที่โรงพยาบาลต้องการสร้างขึ้น มีชั้นใต้ดิน ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ระบุคุณสมบัติของผู้ก่อสร้างว่าต้องเคยมีผลงานการก่อสร้างอาคารที่ไม่มีน้ำรั่วซึมชั้นใต้ดิน เป็นความปรารถนาดีของโรงพยาบาลที่ต้องการตึกที่มีคุณภาพดี ใช้ประโยชน์ได้คุ้มค่า โดยเมื่อเช้าวันนี้ (8 ต.ค.) ได้สั่งให้ยกเลิกการประกวดราคา และให้ผู้บริหารโรงพยาบาลแถลงข้อเท็จจริงแก่สื่อมวลชนแล้ว
อนึ่ง ในเวลา 11.00 น.วันนี้ ตัวแทนโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ได้เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้กำลังใจและยืนยันจะอยู่ข้างรัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุข ที่จะทำให้กระทรวงสาธารณสุขโปร่งใส และกล่าวว่าตั้งแต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเข้ามาทำงาน ได้ทำประโยชน์กับกระทรวงฯ และนายกแพทยสภาได้ขอบคุณที่ทำงานให้บุคลากรทางการแพทย์ด้วย
เผยมีครุภัณฑ์ รพ.ไม่ได้ขอแต่กลับซื้อให้
ด้าน นายแพทย์เสรี หงส์หยก ผู้ตรวจราชการ สธ. ประธานชุดทบทวนรายการครุภัณฑ์ที่มีปัญหา 6 รายการ กล่าวว่าผลการตรวจสอบเบื้องต้นรายการที่เป็นข่าว เช่น เครื่องฆ่าเชื้อโรคด้วยแสงอัตราไวโอเล็ต เครื่องวัดสารเคมีในเลือด มีบางรายการที่ไม่ได้ขอแต่ได้รับ และราคาที่แพง รวมทั้งขนาดของเครื่องมือที่ได้ไม่เหมาะสมกับการใช้งานของโรงพยาบาล เช่น เครื่องวัดสารเคมีในเลือด โรงพยาบาลเล็กควรได้เครื่องเล็ก ส่วนเครื่องดมยาสลบและเครื่องช่วยหายใจ จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญดูแลการใช้งาน แต่จะต้องตรวจรายละเอียดเพิ่มเติมอีก
สำหรับราคาการสร้างหอพักพยาบาลขนาด 24 ยูนิต เป็นการตั้งราคาในปี 2553 จะต้องนำไปเปรียบเทียบกับราคากลางซึ่งเป็นราคาอ้างอิงสิ่งก่อสร้างอีกครั้ง หากดูรายละเอียดแล้ว ก็อาจจะประหยัดงบได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ในการจัดจ้างรวมทั้งการตรวจสอบ เป็นกระบวนการของพื้นที่ต้องดำเนินการในจังหวัด นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่ให้ดำเนินการครั้งนี้ นับว่าเป็นการวางระบบการตรวจสอบที่เข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข สามารถนำไปใช้ในโครงการอื่นๆ ได้ในอนาคต
ตั้งคณะทำงานย่อย 3 ชุดตามติดทุจริตงบ
นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมาตรการดำเนินงานโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุขว่า นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายให้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมและแก้ไขปัญหาตามที่มีหลายฝ่ายท้วงติงความไม่โปร่งใส ทั้งเรื่องรายการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ รายการที่ดิน สิ่งก่อสร้างต่างๆ อย่างเร่งด่วนภายใน 1 สัปดาห์ โดยได้มอบหมายให้ตั้งคณะทำงานย่อยอีก 3 ชุด เพื่อตรวจสอบรายละเอียดของโครงการ 3 ระดับ รวมทั้งราคากลาง
นายแพทย์สุพรรณกล่าวว่า ชุดตรวจสอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด มอบหมายให้นายแพทย์วุฒิไกร มุ่งหมาย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ในฐานะประธานชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และคณะ ตรวจสอบรายการก่อสร้างและครุภัณฑ์ทุกรายการ ทั้งด้านความเหมาะสม ราคา และสถานที่รับจัดสรร และให้หารูปแบบทิศทางการพัฒนาของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลด้วย
ชุดที่ 2 เป็นชุดตรวจสอบรายการของโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป 94 แห่ง มอบให้นายแพทย์ วีระพงษ์ เพ่งวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฉะเชิงเทรา ในฐานะประธานชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ตรวจสอบความเหมาะสมรายการต่างๆ ในโครงการพัฒนาระบบบริการระดับตติยภูมิหรือระดับสูงและศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง (Excellent center)
ชุดที่ 3 มอบให้นายแพทย์เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมแพ ในฐานะประธานชมรมแพทย์ชนบท และคณะ ตรวจสอบรายละเอียดของโครงการพัฒนาระบบทุติยภูมิ คือ โรงพยาบาลชุมชนทั้งหมด และโครงการสนับสนุนเครือข่ายบริการทุกระดับ
นายแพทย์สุพรรณกล่าวอีกว่า ให้คณะทำงานย่อยทั้ง 3 ชุด พิจารณาหาข้อสรุปเบื้องต้นให้แล้วเสร็จโดยเร็ว แล้วนำมาพิจารณาร่วมกับคณะกรรมการ 2 ชุดหลัก คือชุดตรวจสอบรายการครุภัณฑ์ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และชุดตรวจสอบความเหมาะสมโครงการฯ รวมทั้งผู้ตรวจราชการทุกเขต ในวันที่ 13 ตุลาคม 2552 และรายงานรัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุขเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
“ขอยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการโครงการไทยเข้มแข็งต่อไปอย่างแน่นอน ด้วยความโปร่งใส คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนทุกพื้นที่ ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ตอบสังคมได้ และมอบอำนาจในการจัดซื้อจัดจ้างให้กับพื้นที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป” นายแพทย์สุพรรณกล่าว
เช้าวันนี้ (8 ต.ค.) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ.ประชุมคณะกรรมการชุดทบทวนโครงการไทยเข้มแข็งและชุดตรวจสอบการจัดซื้อครุภัณฑ์ ที่มีนายแพทย์เสรี หงส์หยก ผู้ตรวจราชการ สธ.เป็นประธาน เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงาน
“วิทยา” เร่งคณะกรรมการให้คำตอบสังคม
นายวิทยากล่าวว่า การทำงานของคณะกรรมการทั้ง 2 ชุดมีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะชุดของนายแพทย์เสรี ที่ทบทวนรายการครุภัณฑ์ที่มีปัญหา 6 รายการ ได้แก่ เครื่องฆ่าเชื้อด้วยระบบอัลตราไวโอเลต เครื่องตรวจสารเคมีในเลือด เครื่องช่วยหายใจ เครื่องดมยาสลบ เครื่องติดตามการทำงานของหัวใจรถพยาบาล และสิ่งก่อสร้าง 1 รายการคือแฟลตพยาบาล
ส่วนชุดที่ 2 คือ ชุดพิจารณาความเหมาะสมและแก้ไขปัญหาโครงการไทยเข้มแข็ง ซึ่งได้มอบหมายให้นายแพทย์สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ผู้ตรวจราชการ สธ.ทำหน้าที่แทนรองปลัด สธ.เป็นประธาน ก็มีความคืบหน้าเช่นกัน แต่เนื่องจากมีรายการจำนวนมากถึง 7,000 กว่ารายการ จึงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ อาจขยายเวลาได้อีกหากจำเป็น และหากพบรายการที่มีราคาแพงเกินจริง ให้ส่งให้ชุดนายแพทย์เสรีดำเนินการต่อ
นายวิทยากล่าวต่อว่า ได้มอบนโยบายให้คณะกรรมการทั้ง 2 ชุด เร่งดำเนินการให้คำตอบสังคมเร่งด่วน 2 เรื่อง เรื่องแรกได้แก่รายการที่พื้นที่ไม่ต้องการ แต่ปรากฏในโครงการ และเรื่องที่ 2 คือการตั้งราคาแพงเกินจริง ซึ่งหากตรวจสอบได้ว่าแพงจริง สามารถปรับราคาลงตามความเป็นจริง และประหยัดงบประมาณได้ ก็จะหารือกับนายกรัฐมนตรีและ ครม. เพื่อนำเงินที่เหลือนี้ไปพัฒนาปรับปรุงสถานพยาบาลส่วนที่ยังขาดแคลนอยู่และรอการพัฒนา ได้มอบหมายให้ปลัด สธ.ติดตามเรื่องราวการทุจริตทุกเรื่องที่ปรากฏในสื่อ เพื่อหาข้อเท็จจริงและชี้แจงสังคมโดยเร็วที่สุด ป้องกันไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้น เช่นกรณีการสร้างอาคารที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และให้มีการแถลงความคืบหน้าการดำเนินการโครงการไทยเข็มแข็งทุกสัปดาห์
สั่งยกเลิกประกวดราคา รพ.มหาราช โคราช
ทางด้าน นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการตรวจสอบรายการคุรุภัณฑ์ ราคาและสิ่งก่อสร้าง รวมทั้งความเหมาะสมการจัดสรรให้พื้นที่ในโครงการไทยเข็มแข้ง ได้ใช้กลไก 2 ส่วน ส่วนแรกคือ การตั้งคณะกรรมการที่มีบุคคลจากพื้นที่ คือนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ตัวแทนจากโรงพยาบาลทุกระดับ รวมทั้งแพทย์ชนบทที่เป็นตัวแทนของโรงพยาบาลชุมชน เข้ามาช่วยดูแลรายละเอียดทั้งหมด ส่วนที่ 2 ได้ให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขทุกเขต ทบทวนทั้งรายการครุภัณฑ์ สิ่งก่อสร้าง และราคา ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนี้จะรายงานในวันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2552
สำหรับกรณีการก่อสร้างอาคารของโรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครราชสีมา งบประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งพื้นที่ได้มีการประกวดราคา และมีข่าวว่าล็อกสเปกก่อสร้าง ทำให้มีบริษัทผ่านเกณฑ์ได้น้อยนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ตึกที่โรงพยาบาลต้องการสร้างขึ้น มีชั้นใต้ดิน ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ระบุคุณสมบัติของผู้ก่อสร้างว่าต้องเคยมีผลงานการก่อสร้างอาคารที่ไม่มีน้ำรั่วซึมชั้นใต้ดิน เป็นความปรารถนาดีของโรงพยาบาลที่ต้องการตึกที่มีคุณภาพดี ใช้ประโยชน์ได้คุ้มค่า โดยเมื่อเช้าวันนี้ (8 ต.ค.) ได้สั่งให้ยกเลิกการประกวดราคา และให้ผู้บริหารโรงพยาบาลแถลงข้อเท็จจริงแก่สื่อมวลชนแล้ว
อนึ่ง ในเวลา 11.00 น.วันนี้ ตัวแทนโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ได้เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้กำลังใจและยืนยันจะอยู่ข้างรัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุข ที่จะทำให้กระทรวงสาธารณสุขโปร่งใส และกล่าวว่าตั้งแต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเข้ามาทำงาน ได้ทำประโยชน์กับกระทรวงฯ และนายกแพทยสภาได้ขอบคุณที่ทำงานให้บุคลากรทางการแพทย์ด้วย
เผยมีครุภัณฑ์ รพ.ไม่ได้ขอแต่กลับซื้อให้
ด้าน นายแพทย์เสรี หงส์หยก ผู้ตรวจราชการ สธ. ประธานชุดทบทวนรายการครุภัณฑ์ที่มีปัญหา 6 รายการ กล่าวว่าผลการตรวจสอบเบื้องต้นรายการที่เป็นข่าว เช่น เครื่องฆ่าเชื้อโรคด้วยแสงอัตราไวโอเล็ต เครื่องวัดสารเคมีในเลือด มีบางรายการที่ไม่ได้ขอแต่ได้รับ และราคาที่แพง รวมทั้งขนาดของเครื่องมือที่ได้ไม่เหมาะสมกับการใช้งานของโรงพยาบาล เช่น เครื่องวัดสารเคมีในเลือด โรงพยาบาลเล็กควรได้เครื่องเล็ก ส่วนเครื่องดมยาสลบและเครื่องช่วยหายใจ จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญดูแลการใช้งาน แต่จะต้องตรวจรายละเอียดเพิ่มเติมอีก
สำหรับราคาการสร้างหอพักพยาบาลขนาด 24 ยูนิต เป็นการตั้งราคาในปี 2553 จะต้องนำไปเปรียบเทียบกับราคากลางซึ่งเป็นราคาอ้างอิงสิ่งก่อสร้างอีกครั้ง หากดูรายละเอียดแล้ว ก็อาจจะประหยัดงบได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ในการจัดจ้างรวมทั้งการตรวจสอบ เป็นกระบวนการของพื้นที่ต้องดำเนินการในจังหวัด นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่ให้ดำเนินการครั้งนี้ นับว่าเป็นการวางระบบการตรวจสอบที่เข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข สามารถนำไปใช้ในโครงการอื่นๆ ได้ในอนาคต
ตั้งคณะทำงานย่อย 3 ชุดตามติดทุจริตงบ
นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมาตรการดำเนินงานโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุขว่า นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายให้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมและแก้ไขปัญหาตามที่มีหลายฝ่ายท้วงติงความไม่โปร่งใส ทั้งเรื่องรายการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ รายการที่ดิน สิ่งก่อสร้างต่างๆ อย่างเร่งด่วนภายใน 1 สัปดาห์ โดยได้มอบหมายให้ตั้งคณะทำงานย่อยอีก 3 ชุด เพื่อตรวจสอบรายละเอียดของโครงการ 3 ระดับ รวมทั้งราคากลาง
นายแพทย์สุพรรณกล่าวว่า ชุดตรวจสอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด มอบหมายให้นายแพทย์วุฒิไกร มุ่งหมาย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ในฐานะประธานชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และคณะ ตรวจสอบรายการก่อสร้างและครุภัณฑ์ทุกรายการ ทั้งด้านความเหมาะสม ราคา และสถานที่รับจัดสรร และให้หารูปแบบทิศทางการพัฒนาของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลด้วย
ชุดที่ 2 เป็นชุดตรวจสอบรายการของโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป 94 แห่ง มอบให้นายแพทย์ วีระพงษ์ เพ่งวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฉะเชิงเทรา ในฐานะประธานชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ตรวจสอบความเหมาะสมรายการต่างๆ ในโครงการพัฒนาระบบบริการระดับตติยภูมิหรือระดับสูงและศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง (Excellent center)
ชุดที่ 3 มอบให้นายแพทย์เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมแพ ในฐานะประธานชมรมแพทย์ชนบท และคณะ ตรวจสอบรายละเอียดของโครงการพัฒนาระบบทุติยภูมิ คือ โรงพยาบาลชุมชนทั้งหมด และโครงการสนับสนุนเครือข่ายบริการทุกระดับ
นายแพทย์สุพรรณกล่าวอีกว่า ให้คณะทำงานย่อยทั้ง 3 ชุด พิจารณาหาข้อสรุปเบื้องต้นให้แล้วเสร็จโดยเร็ว แล้วนำมาพิจารณาร่วมกับคณะกรรมการ 2 ชุดหลัก คือชุดตรวจสอบรายการครุภัณฑ์ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และชุดตรวจสอบความเหมาะสมโครงการฯ รวมทั้งผู้ตรวจราชการทุกเขต ในวันที่ 13 ตุลาคม 2552 และรายงานรัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุขเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
“ขอยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการโครงการไทยเข้มแข็งต่อไปอย่างแน่นอน ด้วยความโปร่งใส คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนทุกพื้นที่ ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ตอบสังคมได้ และมอบอำนาจในการจัดซื้อจัดจ้างให้กับพื้นที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป” นายแพทย์สุพรรณกล่าว