ASTVผู้จัดการรายวัน-สศช.ยันสรุปความเห็นชี้ชะตาโครงการเอ็นจีวี 4,000 คันเสนอ ครม.ใน ก.ย.นี้ ว่าการ เช่า-เช่าซื้อ-ซื้อ หรือยกเลิก เหมาะสม
นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ สศช.วานนี้ (14 ก.ย.) ว่า ที่ประชุมฯได้พิจารณาข้อมูลโครงการเช่ารถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง หรือรถเมล์เอ็นจีวี จำนวน 4,000 คันขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอว่า สศช.จะใช้ระยะเวลาประมาณ 10
วันหลังจากนี้ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด ก่อนที่จะมีการประชุมอีกครั้งเพื่อสรุปแนวทางว่าจะดำเนินการโดยวิธิเช่า เช่าซื้อ ซื้อ หรือยกเลิกโครงการ และเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในปลายเดือนก.ย.52นี้
นายอำพน กล่าวว่า ที่ประชุมฯได้พิจารณาข้อมูลที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยการจัดทำของสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จำนวน 5 ข้อ ประกอบด้วย 1.จำนวนเส้นทางการเดินรถที่ปรับเพิ่มจาก 145 เส้นทาง เป็น 155 เส้นทางเพื่อให้ครอบคลุมการให้บริการทั้งหมด 2.จำนวนผู้โดยสารต่อคันต่อวัน จากเดิมที่ประมาณการไว้ที่ 355 คนต่อวันต่อคัน เป็น 330 คนต่อคันต่อวัน
3.จำนวนพนักงานที่เข้าโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด (Early Retire) จำนวน 7,900 คน และระบบตั๋วโดยสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket)
4.การคาดการณ์ราคาตั๋วโดยสารราคา 30 บาทต่อคนต่อวัน ให้สอดคล้องกับจำวนผู้โดยสารที่ใช้บริการแ่ละ 5.ความพร้อมของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับการให้บริการก๊าซเอ็นจีวีว่ามีความสอดคล้องกับโครงการอย่างไร
“ข้อมูลที่พิจารณาวันนี้ต้องตรจสอบอีกครั้งโดยมีระยะเวลา 10 วัน และหลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว จะประชุมคณะกรรมการอีกครั้ง ก่อนดูว่าใช้วิธีอะไรดี ไม่ว่าจะเช่า เช่าซื้อ หรือวิธีอื่น ซึ่งทันตามที่ครม.กำหนดไว้แน่นอน โดยที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้ส่งเอกสารมาที่สศช.ตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.แต่มีกระบวนการพิจารณาได้อีก 30 วัน ก่อนเสนอครม.”นายอำพน กล่าว
นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ สศช.วานนี้ (14 ก.ย.) ว่า ที่ประชุมฯได้พิจารณาข้อมูลโครงการเช่ารถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง หรือรถเมล์เอ็นจีวี จำนวน 4,000 คันขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอว่า สศช.จะใช้ระยะเวลาประมาณ 10
วันหลังจากนี้ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด ก่อนที่จะมีการประชุมอีกครั้งเพื่อสรุปแนวทางว่าจะดำเนินการโดยวิธิเช่า เช่าซื้อ ซื้อ หรือยกเลิกโครงการ และเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในปลายเดือนก.ย.52นี้
นายอำพน กล่าวว่า ที่ประชุมฯได้พิจารณาข้อมูลที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยการจัดทำของสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จำนวน 5 ข้อ ประกอบด้วย 1.จำนวนเส้นทางการเดินรถที่ปรับเพิ่มจาก 145 เส้นทาง เป็น 155 เส้นทางเพื่อให้ครอบคลุมการให้บริการทั้งหมด 2.จำนวนผู้โดยสารต่อคันต่อวัน จากเดิมที่ประมาณการไว้ที่ 355 คนต่อวันต่อคัน เป็น 330 คนต่อคันต่อวัน
3.จำนวนพนักงานที่เข้าโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด (Early Retire) จำนวน 7,900 คน และระบบตั๋วโดยสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket)
4.การคาดการณ์ราคาตั๋วโดยสารราคา 30 บาทต่อคนต่อวัน ให้สอดคล้องกับจำวนผู้โดยสารที่ใช้บริการแ่ละ 5.ความพร้อมของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับการให้บริการก๊าซเอ็นจีวีว่ามีความสอดคล้องกับโครงการอย่างไร
“ข้อมูลที่พิจารณาวันนี้ต้องตรจสอบอีกครั้งโดยมีระยะเวลา 10 วัน และหลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว จะประชุมคณะกรรมการอีกครั้ง ก่อนดูว่าใช้วิธีอะไรดี ไม่ว่าจะเช่า เช่าซื้อ หรือวิธีอื่น ซึ่งทันตามที่ครม.กำหนดไว้แน่นอน โดยที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้ส่งเอกสารมาที่สศช.ตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.แต่มีกระบวนการพิจารณาได้อีก 30 วัน ก่อนเสนอครม.”นายอำพน กล่าว
