xs
xsm
sm
md
lg

รู้ทันตลาดทุน: PTT : แนวโน้มกำไรฟื้นตัวต่อเนื่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

SCRI คาดผลประกอบการ Q2/52 PTT จะมีกำไรสุทธิ 17,881 ล้านบาท ฟื้นตัวต่อเนื่อง 140%qoq แต่ยังลดลง 40%yoy ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้น qoq มาจากธุรกิจก๊าซ ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี กำไรของ PTTEP ที่ฟื้นตัวดีขึ้น การรับรู้กำไรจากธุรกิจถ่านหินใหม่ รวมถึงมีผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม yoy กำไรยังคงลดลงค่อนข้างมากในแต่ละธุรกิจ แนวโน้มกำไรใน 2H/52 คาดจะทรงตัวโดยธุรกิจหลักกลุ่มก๊าซและ PTTEP คาดจะฟื้นตัวดีขึ้น แต่ถูกชดเชยจากผลประกอบการโรงกลั่นและธุรกิจปิโตรเคมีที่คาดอ่อนตัวลง ทั้งนี้ SCRI คงประมาณการกำไรปี 2552 ซึ่งประเมินกำไรปกติลดลง 10%yoy อย่างไรก็ตาม คาดผลประกอบการรายไตรมาสผ่านจุดต่ำสุดตั้งแต่ Q1/52 และจะเห็นการฟื้นตัวเด่นชัดในปี 2553 ทั้งนี้ SCRI ประเมินหุ้นมีปัจจัยหนุนทั้งในประเด็นผลประกอบการและประเด็นกังวลในเรื่องการอุดหนุนชดเชยต่างๆมีแนวโน้มที่คลีคลายลง ขณะที่ ประเด็นมาตรา 67 มีความคืบหน้ามากขึ้น รวมถึงการทำการควบรวมกิจการในกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมีที่คาดเห็นความคืบหน้าใน 2H/52 จะส่งผลบวกต่อ PTT คงคำแนะนำ "ซื้อ"

* คาดกำไรสุทธิ Q2/52 ที่ 17,881 ล้านบาท ฟื้นตัวต่อเนื่อง 140%qoq แต่ยังลดลง 40%yoy : ทั้งนี้ คาดเป็นกำไรอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ 2,665 ล้านบาท หากพิจาณาเฉพาะกำไรปกติคาดจะอยู่ที่ 15,216 ล้านบาท เพิ่ม 89%qoq แต่ลดลง 54%yoy ทั้งนี้ qoq เพิ่มขึ้นจาก 1) ธุรกิจก๊าซ ซึ่งมีปัจจัยหนุนจากการปรับค่าผ่านท่อ ปริมาณการส่งก๊าซที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 10%qoq เป็น 3,606 mmscfd และอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจโรงแยกก๊าซที่ดีขึ้น 2) ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีที่เพิ่มขึ้นจากผลของกำไรสต็อกน้ำมันและส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ฟื้นตัวดีขึ้นใน Q2/52 3) กำไรของ PTTEP ที่ฟื้นตัวดีขึ้นจากปริมาณจำหน่ายปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้นและการตัดจำหน่ายหลุมแห้งที่ลดลง และ 4) จากการรับรู้กำไรจากธุรกิจถ่านหินใหม่ระยะเวลา 2M อย่างไรก็ตาม yoy กำไรในแต่ละธุรกิจถือว่ายังคงลดลงค่อนข้างมากจาก Q2/51 ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลา Peak และใกล้ Peak ของธุรกิจโรงแยกก๊าซ โรงกลั่นและปิโตรเคมี โดยธุรกิจโรงแยกกำไรยังคงฟื้นตัวกลับมาได้เพียงประมาณ 30% ของช่วง Peak ใน Q3/51

* แนวโน้มกำไร 2H/52 คาดทรงตัว : โดยธุรกิจก๊าซและ PTTEP คาดกำไรจะปรับสูงขึ้นจากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาเฉลี่ยผลิตภัณฑ์ ปริมาณการผลิต และการปรับลดลงของต้นทุนก๊าซสำหรับโรงแยกจากการปรับราคาแหล่งยูโนแคล(เดือนก.ค. 2552)ซึ่งถือเป็นแหล่งสำคัญ(สัดส่วนประมาณ 22%) อย่างไรก็ตาม คาดจะถุกชดเชยจากผลประกอบการโรงกลั่นและธุรกิจปิโตรเคมีที่อ่อนตัวลง จากการลดลงของผลกำไรสต็อกน้ำมัน ค่าการกลั่นที่ลดต่ำลง และใน Q4/52 PTTCH มีการ Shutdown โรงโอเลฟินส์ I1 และ โรง HDPE ค่อนข้างนาน

* ความคืบหน้าการชดเชย LPG : ปัจจุบันเริ่มได้รับเงินคืนแล้ว โดยในส่วนของการชดเชยปี 2551 รวมจำนวน 7,900 ล้านบาท ได้รับคืนมาแล้ว 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ในส่วนนี้จะทยอยคืนภายในระยะเวลา 2 ปี(นับจากเม.ย. 51) ขณะที่ ในส่วนของการชดเชยการนำเข้าใหม่ในปี 2552 สามารถทยอยขอคืนได้ทันทีโดยกำหนดเพดานไว้ไม่เกิน 500 ล้านบาท/เดือน ทั้งนี้ ยอดในเดือนม.ค.-มิ.ย. 2552 การชดเชยอยู่ที่ 710 ล้านบาท ได้ยื่นขอรับคืนมาแล้ว 340 ล้านบาท คงเหลือภาระอีก 370 ล้านบาท ทั้งนี้ เพดานวงเงินที่กำหนดคาดจะยังคงเพียงพอรองรับการนำเข้าในปัจจุบัน สำหรับ NGV เชื่อว่าจะมีโอกาสได้รับการปรับขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีผลขาดทุนจาก Cash Cost โดยแนวโน้มอาจจะได้รับการปรับขึ้นประมาณ 2 บาท/กก. ใกล้เคียงกับผลขาดทุนจาก Cash Cost

* ประเด็นกังวลมาตรา 67 : ความคืบหน้าของตีความมาตรา 67 ที่กฤกษฏีกาตีความให้หน่วยงานรัฐสามารถออกใบอนุญาติดำเนินธุรกิจใหักับโครงการเดิมที่ได้รับ EIA โดยอิงจากกม.สิ่งแวดล้อมในปี 2535 นั้น ทำให้ความกังวลต่อโครงการเดิมที่ใกล้กำหนดดำเนินการ เช่น Ethan Cracker ของ PTTCH โรงแยกก๊าซ 6 และโครงการของ PTTAR ลดลง อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการใหม่ยังต้องรอการออกระเบียบรองรับเพิ่มเติม เพื่อให้รองรับมาตรา 67 ทั้งนี้ ในช่วงเดือนส.ค. 52 คาดจะมีความคืบหน้าเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการจัดทำแผนควบคุมมลพิษ

* คงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่มูลค่าเหมาะสม 296 บาท : SCRI คงประมาณการกำไรปกติปี 2552 ที่ระดับ 46,331 ล้านบาท อ่อนตัวลง 10%yoy แต่แนวโน้มกำไรรายไตรมาสคาดจะผ่านจะจุดต่ำสุดไปแล้วโดยกลับมาเป็นทิศทางขาขึ้นตั้งแต่ Q1/52 และในปี 2553 กลับมาเติบโต 37%yoy เป็น 63,314 ล้านบาท จากการฟื้นตัวของธุรกิจก๊าซ(ราคาผลิตภัณฑ์กลับมาฟื้นตัวและการเริ่มดำเนินการโรงแยกก๊าซ 6 ) การเติบโตที่ก้าวกระโดดของ PTTEP รวมถึงการเริ่มโอเลฟินส์แครกเกอร์ใหม่ของ PTTCH (ผ่านการถือหุ้น 100% ใน PTTPE) นอกจากนี้ การควบรวมกิจการในกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมีที่คาดจะเห็นความคืบหน้าของผลการศึกษาในช่วงปลาย Q3/52 ถึง Q4/52 คาดจะเป็นปัจจัยกระตุ้นความน่าสนใจของ PTT ด้วยเนื่องจากเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่จะได้รับประโยชน์จาก Synergy Benefit จากการควบรวม
กำลังโหลดความคิดเห็น