ASTVผู้จัดการรายวัน - ปตท.หวั่นเศรษฐกิจโลกไม่ฟื้นจริง ขณะที่กำลังการผลิตใหม่ทั้งปิโตรเคมีและน้ำมันจากตะวันออกกลางเริ่มผลิตในครึ่งปีหลังนี้จะ กดดันมาร์จินไตรมาส 3 หดตัวลง เร่งวางกลยุทธ์รับมือทั้งลดค่าใช้จ่าย สร้างความร่วมมือ(Synergy)ระหว่างกลุ่มธุรกิจ เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังเปิดโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไย"ลำไยยิ้มได้"ที่มีนายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงานและนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์เป็นประธานวานนี้(27 ก.ค.)ว่า ขณะนี้ค่าการกลั่นน้ำมันของโรงกลั่นได้ปรับตัวลดลงมากเหลือเพียง 1-2 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลและมาร์จินธุรกิจปิโตรเคมีก็ลดลงเช่นกัน เนื่องจากมีกำลังการผลิตใหม่เข้ามาทั้งจากตะวันออกกลางและภูมิภาคนี้ ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันและปิโตรเคมีไม่ได้เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นหากเศรษฐกิจโลกไม่ฟื้นตัว เชื่อว่าผลการดำเนินงานของกลุ่มปตท.ในไตรมาส 3 นี้จะมีกำไรปรับตัวลดลงจากไตรมาส 2/2552
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2552 คาดว่ามาร์จินจะดีขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นและคำสั่งซื้อเม็ดพลาสติกเข้ามารองรับเทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่ ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทฯในไตรมาส 2 นี้ มีรายได้และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่าไตรมาส 1/2552
นายประเสริฐ กล่าวต่อไปว่า กลุ่มปตท.ได้วางกลยุทธ์รับมือกำลังการผลิตน้ำมันและปิโตรเคมีที่เพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลังนี้ โดยให้บริษัทในเครือลดค่าใช้จ่ายลง รวมทั้งการบริหารเงินสด การร่วมมือระหว่างบริษัทในเครือเพื่อสร้างSynergyระหว่างกันมากขึ้น รวมไปถึงแนวทางการควบรวมกิจการของบริษัทลูก 4 บริษัท คือ บมจ.ไทยออยล์ บมจ.ไออาร์พีซี บมจ.ปตท.เคมิคอล และบมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปลายปีนี้
นายปรัชญา ภิญญาวัธน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มปิโตรเลียมขั้นปลาย บมจ. ปตท. กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มปตท.ได้มีการทำSynergyระหว่างบริษัทในเครือเพื่อลดต้นทุนทั้งด้านการนำเข้าน้ำมันดิบ การทำตลาดส่งออก การแชร์ถังเก็บเพื่อประหยัดค่าลอจิสติกส์ รวมไปถึงการนำองค์ความรู้มาแชร์ระหว่างบริษัทในกลุ่มเพื่อพัฒนาความสามารถให้ทัดเทียมมาตรฐานระดับโลก ซึ่งในช่วง 3ปี(2549-2551) ประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว 800 ล้านบาท
นายประเสริฐ กล่าวถึงการออกหุ้นกู้ของปตท.จำนวน 3 หมื่นล้านบาทว่า ขณะนี้ความต้องการหุ้นกู้ปตท.มีจำนวนมากโดยเฉพาะสถาบันที่ต้องการหุ้นกู้อายุ 15ปี ขณะที่ประชาชนทั่วไปตอ้งการหุ้นกู้อายุ 3ปี 7ปี จนทำให้หุ้นกู้ 3 หมื่นล้านบาทที่จะเสนอขาย 27-30 ก.ค.นี้ คงไม่เพียงพอ จึงจะออกกรีนชูเพิ่มเติมอีก 5 พันล้านบาทรวมทั้งสิ้น 3.5 หมื่นล้านบาท ส่วนปีนี้ปตท.จะออกหุ้นกู้เพิ่มเติมอีกหรือไม่ยังไม่สามารถระบุได้ ขึ้นอยู่กับความจำเป็นต้องการใช้เงินก็อาจจะมีการขอวงเงินกู้เพิ่มเติมได้
ส่วนสถานการณ์ราคาน้ำมันในช่วงนี้พบว่า สัปดาห์ก่อนราคาน้ำมันโลกได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 6-7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้ค่าการตลาดน้ำมันขายปลีกเหลือไม่ถึง 1บาท/ลิตร ดังนั้นปตท.คงต้องเฝ้าจับตาดูทิศทางราคาอย่างใกล้ชิดก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงราคาขายปลีกอีกครั้ง ซึ่งค่าการตลาดที่เหมาะสมอยู่ที่ 1.50 บาท/ลิตร โดยช่วงครึ่งปีแรกนี้ ค่าการตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 1บาทกว่า/ลิตร ทำให้ผู้ค้ามีกำไรพออยู่ได้
วานนี้ (27 ก.ค.) โครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไย"ลำไยยิ้มได้" ทางบมจ.ปตท.และบมจ.บางจากปิโตรเลียม ซึ่งเป็นหน่วยงานสังกัดกระทรวงพลังงาน ได้เปิดจุดจำหน่ายลำไยให้เกษตรกรผ่านปั๊มน้ำมันกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศเพื่อเป็นช่องทางหนึ่งในการระบายลำไยสดที่ปีนี้มีผลผลิตเพิ่มขึ้น จนทำให้เกิดปัญหาราคาตกต่ำดังนั้นหากเกษตรกรรายใดสนใจต้องการนำลำไยมาขายที่ปั๊มปตท.หรือปั๊มบางจาก ก็ให้แสดงความจำนงผ่านกรมการค้าภายใน ขณะเดียวกันทั้ง 2บริษัทฯนำร่องซื้อลำไยจากเกษตรกรหน่วยงานละ 1หมื่นกก.
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังเปิดโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไย"ลำไยยิ้มได้"ที่มีนายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงานและนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์เป็นประธานวานนี้(27 ก.ค.)ว่า ขณะนี้ค่าการกลั่นน้ำมันของโรงกลั่นได้ปรับตัวลดลงมากเหลือเพียง 1-2 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลและมาร์จินธุรกิจปิโตรเคมีก็ลดลงเช่นกัน เนื่องจากมีกำลังการผลิตใหม่เข้ามาทั้งจากตะวันออกกลางและภูมิภาคนี้ ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันและปิโตรเคมีไม่ได้เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นหากเศรษฐกิจโลกไม่ฟื้นตัว เชื่อว่าผลการดำเนินงานของกลุ่มปตท.ในไตรมาส 3 นี้จะมีกำไรปรับตัวลดลงจากไตรมาส 2/2552
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2552 คาดว่ามาร์จินจะดีขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นและคำสั่งซื้อเม็ดพลาสติกเข้ามารองรับเทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่ ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทฯในไตรมาส 2 นี้ มีรายได้และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่าไตรมาส 1/2552
นายประเสริฐ กล่าวต่อไปว่า กลุ่มปตท.ได้วางกลยุทธ์รับมือกำลังการผลิตน้ำมันและปิโตรเคมีที่เพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลังนี้ โดยให้บริษัทในเครือลดค่าใช้จ่ายลง รวมทั้งการบริหารเงินสด การร่วมมือระหว่างบริษัทในเครือเพื่อสร้างSynergyระหว่างกันมากขึ้น รวมไปถึงแนวทางการควบรวมกิจการของบริษัทลูก 4 บริษัท คือ บมจ.ไทยออยล์ บมจ.ไออาร์พีซี บมจ.ปตท.เคมิคอล และบมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปลายปีนี้
นายปรัชญา ภิญญาวัธน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มปิโตรเลียมขั้นปลาย บมจ. ปตท. กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มปตท.ได้มีการทำSynergyระหว่างบริษัทในเครือเพื่อลดต้นทุนทั้งด้านการนำเข้าน้ำมันดิบ การทำตลาดส่งออก การแชร์ถังเก็บเพื่อประหยัดค่าลอจิสติกส์ รวมไปถึงการนำองค์ความรู้มาแชร์ระหว่างบริษัทในกลุ่มเพื่อพัฒนาความสามารถให้ทัดเทียมมาตรฐานระดับโลก ซึ่งในช่วง 3ปี(2549-2551) ประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว 800 ล้านบาท
นายประเสริฐ กล่าวถึงการออกหุ้นกู้ของปตท.จำนวน 3 หมื่นล้านบาทว่า ขณะนี้ความต้องการหุ้นกู้ปตท.มีจำนวนมากโดยเฉพาะสถาบันที่ต้องการหุ้นกู้อายุ 15ปี ขณะที่ประชาชนทั่วไปตอ้งการหุ้นกู้อายุ 3ปี 7ปี จนทำให้หุ้นกู้ 3 หมื่นล้านบาทที่จะเสนอขาย 27-30 ก.ค.นี้ คงไม่เพียงพอ จึงจะออกกรีนชูเพิ่มเติมอีก 5 พันล้านบาทรวมทั้งสิ้น 3.5 หมื่นล้านบาท ส่วนปีนี้ปตท.จะออกหุ้นกู้เพิ่มเติมอีกหรือไม่ยังไม่สามารถระบุได้ ขึ้นอยู่กับความจำเป็นต้องการใช้เงินก็อาจจะมีการขอวงเงินกู้เพิ่มเติมได้
ส่วนสถานการณ์ราคาน้ำมันในช่วงนี้พบว่า สัปดาห์ก่อนราคาน้ำมันโลกได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 6-7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้ค่าการตลาดน้ำมันขายปลีกเหลือไม่ถึง 1บาท/ลิตร ดังนั้นปตท.คงต้องเฝ้าจับตาดูทิศทางราคาอย่างใกล้ชิดก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงราคาขายปลีกอีกครั้ง ซึ่งค่าการตลาดที่เหมาะสมอยู่ที่ 1.50 บาท/ลิตร โดยช่วงครึ่งปีแรกนี้ ค่าการตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 1บาทกว่า/ลิตร ทำให้ผู้ค้ามีกำไรพออยู่ได้
วานนี้ (27 ก.ค.) โครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไย"ลำไยยิ้มได้" ทางบมจ.ปตท.และบมจ.บางจากปิโตรเลียม ซึ่งเป็นหน่วยงานสังกัดกระทรวงพลังงาน ได้เปิดจุดจำหน่ายลำไยให้เกษตรกรผ่านปั๊มน้ำมันกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศเพื่อเป็นช่องทางหนึ่งในการระบายลำไยสดที่ปีนี้มีผลผลิตเพิ่มขึ้น จนทำให้เกิดปัญหาราคาตกต่ำดังนั้นหากเกษตรกรรายใดสนใจต้องการนำลำไยมาขายที่ปั๊มปตท.หรือปั๊มบางจาก ก็ให้แสดงความจำนงผ่านกรมการค้าภายใน ขณะเดียวกันทั้ง 2บริษัทฯนำร่องซื้อลำไยจากเกษตรกรหน่วยงานละ 1หมื่นกก.