แม้ว่าข้อสรุปการควบรวมในกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมียังไม่ชัดเจน แต่ประเด็นการควบรวมกิจการได้กลายเป็น Highlight ที่ผลักดันให้ราคาหุ้นในกลุ่ม 4 บริษัท (TOP, PTTAR, IRPC, PTTCH) ได้รับความน่าสนใจมากขึ้นใน 2H/52 ตามที่ SCRI คาดไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม การควบรวมกิจการ 4 บริษัทเข้าด้วยกันซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการควบรวมกิจการมีข้อจำกัดที่ทำให้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ดังนั้น SCRI จึงประเมินว่าทางเลือกที่เป็นไปได้สูงสุดในการควบรวมจะเหลืออยู่ 3 รูปแบบ ได้แก่ TOP รวมกับ IRPC, IRPC รวมกับ PTTAR และ TOP รวมกับ IRPC และ PTTAR ส่วน PTTCH คาดว่ามีโอกาสเป็นบริษัทเดียวมากที่สุดจากประเด็นข้อจำกัดในด้านผู้ถือหุ้น
จากการประเมินในทุกกรณี SCRI ประเมินว่า TOP ยังคงหุ้นที่น่าสนใจที่ดีที่สุด ณ ราคาปัจจุบัน โดยหากมีการควบรวม คาดว่า TOP จะมี SWAP Ratio ได้เปรียบมากที่สุด ขณะที่หากการควบรวมพลิกเป็น IRPC + PTTAR เชื่อว่า TOP ยังคงมีความน่าสนใจจาก 1) ระดับ PER ที่ต่ำกว่าบริษัทใหม่ที่ควบรวม และ 2) ยังคงมี upside จากราคาปัจจุบันอยู่สูงกว่า SCRI ยังคงแนะนำ " Trading Buy " TOP และ " Take Profit " IRPC และ PTTCH (ราคาสูงกว่ามูลค่าเหมาะสมปี 2553 ที่ 8% และ 13%) ส่วน PTTAR คงคำแนะนำ " ถือ "
คงความเห็นว่าการควบรวมจะเป็นรูปแบบ Amalgamation: ตามที่ SCRI เคยวิเคราะห์ไว้ถึงการควบรวมกิจการในปลายเดือน ก.ค. 2552 การควบรวมโดยวิธี Amalgamation (ควบรวมกันโดยจัดตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ แล้วกำหนดอัตราแลกหุ้นบริษัทเดิมไปเป็นบริษัทใหม่) ยังคงเป็นรูปแบบที่คาดจะถูกนำมาใช้เนื่องจาก 1) ทำให้ PTT ยังคงสัดส่วนการถือครองหุ้นในบริษัทใหม่ไว้ได้ตามสัดส่วนเดิมตามที่ตั้งใจไว้ 2) เป็นวิธีที่ทำให้คงสิทธิประโยชน์ต่างๆไว้ได้ดีที่สุด และ 3) วิธีนี้ PTT ยังคงมีสิทธิในการโหวต อย่างไรก็ตาม การควบรวมในกรณี 4 บริษัทที่ประเมินว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด น่าจะเกิดขึ้นได้ยากจากประเด็นความซับซ้อน และให้น้ำหนักกับการหลีกเลี่ยงโอกาสในการถูกต่อต้านจากประเด็นการเป็น monopoly ในธุรกิจโรงกลั่น(กำลังการผลิต TOP + PTTAR + IRPC รวมอยู่ที่ 630 KBD คิดเป็น 59% ของกำลังการกลั่นประเทศที่ 1,072 KBD) ทั้งนี้ SCRI ยังคงเห็นว่าวิธีนี้ดีที่สุดหากไม่คำนึงข้อจำกัดดังกล่าว
3 รูปแบบการควบรวมกิจการที่มีความเป็นไปได้สูงสุด คือ TOP + IRPC, IRPC + PTTAR และ TOP + IRPC + PTTAR : หากการรวม 4 บริษัทมีข้อจำกัดในการดำเนินการ SCRI ประเมินว่า PTTCH จะเป็นบริษัทที่มีโอกาสอยู่เดี่ยวมากที่สุด เนื่องจาก 1) ธุรกิจมีความแข็งแกร่งในตัวเอง โดยมี Value หลักโดดเด่นอยู่ที่ผลิตภัณฑ์สายก๊าซซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับ 3 บริษัทที่เหลือซึ่งเป็น Value Chain ในสายน้ำมันน้อย และ 2) มองในเชิงของโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ PTTCH ซึ่งมี SCC เป็นผู้ถือหุ้นหลักรายหนึ่งในสัดส่วน 20.33% (ณ วันที่ 3 มิ.ย. 2552) มีโอกาสไม่เห็นชอบต่อการนำ PTTCH ไปควบรวมกับธุรกิจในสายโรงกลั่น ซึ่งดูจะทำให้ PTTCH มีความผันผวนมากขึ้น นอกจากนี้ ไม่ใช่ธุรกิจในสายการลงทุนของ SCC และทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของ SCC ถูก Dilute ลง ทั้งนี้ หาก PTT จะแก้ปัญหาด้วยการซื้อสัดส่วนหุ้นของ PTTCH จาก SCC จะต้องใช้เม็ดเงินสูงถึงประมาณ 24,000 ล้านบาท (คำนวณที่สัดส่วนถือหุ้น 20.33% และราคาปิดวานนี้ที่ 79 บาท และที่สำคัญคือจะติดในประเด็นปัญหาสัดส่วนถือหุ้นในบริษัทใหม่ของ PTT ซึ่งจะเกินกว่า 50% ซึ่งทำให้ติดเกณฑ์การเป็นรัฐวิสาหกิจ ดังนั้น SCRI เชื่อว่ากรณี IRPC + PTTAR + PTTCH หรือ IRPC + TOP + PTTCH มีโอกาสเป็นไปได้น้อยจากประเด็นผู้ถือหุ้น
ในทุกกรณี TOP ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจที่สุด : SCRI ประเมินในกรณีที่มีการควบรวมกิจการโดยมี TOP รวมอยู่ด้วย ได้แก่ TOP + IRPC และ TOP + IRPC + PTTAR การกำหนดอัตราส่วน SWAP Ratio มีแนวโน้มจะทำให้ TOP มีความได้เปรียบมากที่สุดจากระดับราคาในปัจจุบัน และในกรณีที่การควบรวมกิจการไม่มี TOP รวมอยู่ด้วย SCRI ประเมินว่า TOP ยังคงเป็นทางเลือกที่ดูน่าสนใจที่สุด เนื่องจากเมื่อนำเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทใหม่ในกรณี IRPC+ PTTAR พบว่า TOP ดูจะมี Upside คงเหลืออยู่มากกว่า รวมถึง PER ต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบ (PER ของ TOP อยู่ที่ 8.41 เท่า เทียบกับกรณี PTTAR + IRPC อยู่ที่ 10.32 เท่า) ดังนั้น ยังคงแนะนำ "Trading Buy" ที่ TOP โดยอิงราคาเหมาะสมปี 2553 ตาม DCF ที่ 55 บาท สำหรับ IRPC , PTTCH ราคาที่ปรับขึ้นมาเกินกว่ามูลค่าเหมาะสมปี 2553 ที่ 4.02 บาท และ 70 บาท อยู่ 8% และ 13% ปรับคำแนะนำเป็น "ขายทำกำไร" ส่วน PTTAR มูลค่าเหมาะสมปี 53 อยู่ที่ 25.80 บาท คงเหลือ upside 2% คงคำแนะนำ "ถือ" ทั้งนี้ ความเสี่ยงสำคัญคือการยกเลิกหรือถูกคัดค้านแผนควบรวมกิจการ
จากการประเมินในทุกกรณี SCRI ประเมินว่า TOP ยังคงหุ้นที่น่าสนใจที่ดีที่สุด ณ ราคาปัจจุบัน โดยหากมีการควบรวม คาดว่า TOP จะมี SWAP Ratio ได้เปรียบมากที่สุด ขณะที่หากการควบรวมพลิกเป็น IRPC + PTTAR เชื่อว่า TOP ยังคงมีความน่าสนใจจาก 1) ระดับ PER ที่ต่ำกว่าบริษัทใหม่ที่ควบรวม และ 2) ยังคงมี upside จากราคาปัจจุบันอยู่สูงกว่า SCRI ยังคงแนะนำ " Trading Buy " TOP และ " Take Profit " IRPC และ PTTCH (ราคาสูงกว่ามูลค่าเหมาะสมปี 2553 ที่ 8% และ 13%) ส่วน PTTAR คงคำแนะนำ " ถือ "
คงความเห็นว่าการควบรวมจะเป็นรูปแบบ Amalgamation: ตามที่ SCRI เคยวิเคราะห์ไว้ถึงการควบรวมกิจการในปลายเดือน ก.ค. 2552 การควบรวมโดยวิธี Amalgamation (ควบรวมกันโดยจัดตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ แล้วกำหนดอัตราแลกหุ้นบริษัทเดิมไปเป็นบริษัทใหม่) ยังคงเป็นรูปแบบที่คาดจะถูกนำมาใช้เนื่องจาก 1) ทำให้ PTT ยังคงสัดส่วนการถือครองหุ้นในบริษัทใหม่ไว้ได้ตามสัดส่วนเดิมตามที่ตั้งใจไว้ 2) เป็นวิธีที่ทำให้คงสิทธิประโยชน์ต่างๆไว้ได้ดีที่สุด และ 3) วิธีนี้ PTT ยังคงมีสิทธิในการโหวต อย่างไรก็ตาม การควบรวมในกรณี 4 บริษัทที่ประเมินว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด น่าจะเกิดขึ้นได้ยากจากประเด็นความซับซ้อน และให้น้ำหนักกับการหลีกเลี่ยงโอกาสในการถูกต่อต้านจากประเด็นการเป็น monopoly ในธุรกิจโรงกลั่น(กำลังการผลิต TOP + PTTAR + IRPC รวมอยู่ที่ 630 KBD คิดเป็น 59% ของกำลังการกลั่นประเทศที่ 1,072 KBD) ทั้งนี้ SCRI ยังคงเห็นว่าวิธีนี้ดีที่สุดหากไม่คำนึงข้อจำกัดดังกล่าว
3 รูปแบบการควบรวมกิจการที่มีความเป็นไปได้สูงสุด คือ TOP + IRPC, IRPC + PTTAR และ TOP + IRPC + PTTAR : หากการรวม 4 บริษัทมีข้อจำกัดในการดำเนินการ SCRI ประเมินว่า PTTCH จะเป็นบริษัทที่มีโอกาสอยู่เดี่ยวมากที่สุด เนื่องจาก 1) ธุรกิจมีความแข็งแกร่งในตัวเอง โดยมี Value หลักโดดเด่นอยู่ที่ผลิตภัณฑ์สายก๊าซซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับ 3 บริษัทที่เหลือซึ่งเป็น Value Chain ในสายน้ำมันน้อย และ 2) มองในเชิงของโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ PTTCH ซึ่งมี SCC เป็นผู้ถือหุ้นหลักรายหนึ่งในสัดส่วน 20.33% (ณ วันที่ 3 มิ.ย. 2552) มีโอกาสไม่เห็นชอบต่อการนำ PTTCH ไปควบรวมกับธุรกิจในสายโรงกลั่น ซึ่งดูจะทำให้ PTTCH มีความผันผวนมากขึ้น นอกจากนี้ ไม่ใช่ธุรกิจในสายการลงทุนของ SCC และทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของ SCC ถูก Dilute ลง ทั้งนี้ หาก PTT จะแก้ปัญหาด้วยการซื้อสัดส่วนหุ้นของ PTTCH จาก SCC จะต้องใช้เม็ดเงินสูงถึงประมาณ 24,000 ล้านบาท (คำนวณที่สัดส่วนถือหุ้น 20.33% และราคาปิดวานนี้ที่ 79 บาท และที่สำคัญคือจะติดในประเด็นปัญหาสัดส่วนถือหุ้นในบริษัทใหม่ของ PTT ซึ่งจะเกินกว่า 50% ซึ่งทำให้ติดเกณฑ์การเป็นรัฐวิสาหกิจ ดังนั้น SCRI เชื่อว่ากรณี IRPC + PTTAR + PTTCH หรือ IRPC + TOP + PTTCH มีโอกาสเป็นไปได้น้อยจากประเด็นผู้ถือหุ้น
ในทุกกรณี TOP ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจที่สุด : SCRI ประเมินในกรณีที่มีการควบรวมกิจการโดยมี TOP รวมอยู่ด้วย ได้แก่ TOP + IRPC และ TOP + IRPC + PTTAR การกำหนดอัตราส่วน SWAP Ratio มีแนวโน้มจะทำให้ TOP มีความได้เปรียบมากที่สุดจากระดับราคาในปัจจุบัน และในกรณีที่การควบรวมกิจการไม่มี TOP รวมอยู่ด้วย SCRI ประเมินว่า TOP ยังคงเป็นทางเลือกที่ดูน่าสนใจที่สุด เนื่องจากเมื่อนำเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทใหม่ในกรณี IRPC+ PTTAR พบว่า TOP ดูจะมี Upside คงเหลืออยู่มากกว่า รวมถึง PER ต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบ (PER ของ TOP อยู่ที่ 8.41 เท่า เทียบกับกรณี PTTAR + IRPC อยู่ที่ 10.32 เท่า) ดังนั้น ยังคงแนะนำ "Trading Buy" ที่ TOP โดยอิงราคาเหมาะสมปี 2553 ตาม DCF ที่ 55 บาท สำหรับ IRPC , PTTCH ราคาที่ปรับขึ้นมาเกินกว่ามูลค่าเหมาะสมปี 2553 ที่ 4.02 บาท และ 70 บาท อยู่ 8% และ 13% ปรับคำแนะนำเป็น "ขายทำกำไร" ส่วน PTTAR มูลค่าเหมาะสมปี 53 อยู่ที่ 25.80 บาท คงเหลือ upside 2% คงคำแนะนำ "ถือ" ทั้งนี้ ความเสี่ยงสำคัญคือการยกเลิกหรือถูกคัดค้านแผนควบรวมกิจการ