xs
xsm
sm
md
lg

AYFแบกรับพรีมาเวสท์ขาดทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ฉัตรพี ตันติเฉลิม
บลจ.พรีมาเวสท์ เร่งโอนย้ายสินทรัพย์ 1.4 หมื่นล้านให้ บลจ.อยุธยา พ่วงผลขาดทุนหลายสิบล้าน หลังเจอวิกฤตเศรษฐกิจเล่นงาน คาดกระบวนการควบรวมจบปลายไตรมาส 3 ชี้เปิดเสรีอีก 2 ปี ได้เห็นกระแสควบรวมหนาขึ้น บลจ.เล็ก อาจต้องเบนเป้าหาลูกค้าเฉพาะกลุ่มแทน ด้านเอวายเอฟ เสนขายบอนด์กิมจิกอง 2 ล็อกเงิน 9 เดอนให้ผลตอบแทน 2.10

นายเพิ่มพล  ประเสริฐล้ำ  ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พรีมาเวสท์  เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการโอนถ่ายสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) มูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท ให้กับบลจ.อยุธยา (AYF) ซึ่งคาดว่าขั้นตอนดังกล่าวน่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3 ปี 2552 โดยมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารที่โอนไปนั้น เป็นธุรกิจกองทุนรวมเกือบทั้งหมด รวม 36 กองทุน ที่เหลือเป็นกองทุนส่วนบุคคลมีมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท

โดยปัจจุบัน บลจ.พรีมาเวสท์มีลูกค้าประมาณ 1 หมื่นราย ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าของธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ซึ่งหลังโอนสินทรัพย์ไปอยู่ที่บลจ.อยุธยาแล้ว จะทำให้สินทรัพย์ของบลจ.อยุธยา เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมีประมาณ 3 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้น ส่งผลให้มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารในปี 2551 ได้รับผลกระทบ เพราะออกกองทุนได้ในจำนวนไม่มาก ประกอบกับมีกองทุนที่มีสินทรัพย์ขนาดใหญ่ครบอายุไถ่ถอน ส่งผลให้ผลการดำเนินงานปี 2551 มีผลขาดทุนสุทธิประมาณ 16 ล้านบาท จากปี 2550 ที่มีกำไรสุทธิ 1 ล้านบาท และปัจจุบันมียอดขาดทุนสะสมหลายสิบล้านบาท

 “การควบรวมกิจการเป็นนโยบายของผู้ถือหุ้น คือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งถือหุ้นในบลจ.ทั้ง 2 แห่ง ซึ่งก่อนวิกฤตบลจ.แต่ละแห่งต่างดำเนินงานด้วยตัวเองได้ แต่มาถึงตอนนี้เมื่อวิกฤตเกิดขึ้น จึงจำเป็นต้องมองเรื่องของการประยัดต้นทุน จึงเกิดการการควบรวมกิจการ”นายเพิ่มพล กล่าว

 นายเพิ่มพล กล่าวว่า สำหรับการแข่งขันในธุรกิจกองทุนรวมเริ่มสูงขึ้นและอีก 2 ปีมีการเปิดเสรีแล้ว ก็เชื่อว่าจะแข่งขันมากขึ้นกว่านี้ และแนวโน้มบลจ.ขนาดเล็กมีโอกาสที่จะมีการควบรวมกิจการมากขึ้น เนื่องจากต้องการลดต้นทุนและเป็นการประหยัดต่อขนาด ซึ่งบลจ.ที่มีธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ถือหุ้น น่าจะมีความได้เปรียบในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากสามารถกระจายผลิตภัณฑ์ให้กับฐานลูกค้าของธนาคารได้ง่ายและสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ได้อย่างหลากหลาย

ขณะที่บลจ.ที่ไม่มีเครือข่ายของธนาคารอาจต้องเปลี่ยนรูปแบบในการนำเสนอกองทุนแก่ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ไม่ใช่ลูกค้าทั่วไปเหมือนลูกค้าธนาคาร
นายเพิ่มพล กล่าวว่า กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ศาลาแอทสาทร (SSPF) ที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวานนี้ (10 ส.ค.) จะเป็นกองทุนสุดท้ายของบลจ.พรีมาเวสท์ เพราะต้องโอนสินทรัพย์ไปบลจ.อยุธยาแล้ว ซึ่งกองทุน SSPF มีมูลค่าสินทรัพย์ 1,670 ล้านบาท ซึ่งเป็นกองทุนประเภทฟีโฮลด์ เป็นเจ้าของสินทรัพย์ที่ดินและอาคารสำนักงานของโครงการ ศาลาแอทสาทร ตั้งอยู่ถรรสาทร ศูนย์กลางของธุรกิจการเงินในเขตกรุงเทพของบริษัท เซ็นหลุยส์ โฮลดิ้งส์

 อย่างไรก็ตาม แม้ภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่เชื่อว่าหากเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวสำนักงานให้เช่าที่มีการก่อสร้างเสร็จแล้วจะมีความได้เปรียบกว่าสำนักงานที่ยังไม่ได้มีการดำเนินการก่อสร้าง ดังนั้นการลงทุนในครั้งนี้จึงมองระยะยาว และในช่วง 2 ปีแรกของการลงทุนจะมีการการันตีผลตอบแทนในวงเงิน 25 ล้านบาท หรือคิดเป็นผลตอบแทนประมาณ 1% ให้แก่กองทุน โดยในปีแรกคาดว่าจะมีอัตราเช่าพื้นที่อยู่ที่ประมาณ 50% ทั้งนี้ เราคาดหวังว่ากองทุนจะสามารถจ่ายผลตอบแทนได้ประมาณ 6.5% เหมือนกองทุนอาคารสำนักงานให้เช่ากองอื่น .

 สำหรับความเคลื่อนไหวหลังจากเข้าซื้อขายในตลาดวานนี้  ปิดตลาดราคาอยู่ที่ 7 บาทจากราคาพาร์ 10 บาท โดยตลอดทั้งวันมีการซื้อขายเพียง 1 รายการเท่านั้น ซึ่งเป็นการขายของนักลงทุนรายย่อยจำนวน 500 หุ้น มูลค่า 4,000 บาท
 เอวายเอฟขายบอนด์เกาหลี6เดือน

 ด้านนายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนอยุธยา จำกัด เปิดเผยว่า   บลจ.อยุธยา เสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีพันธบัตรเกาหลี 9M1 เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้เป็นกองทุนที่ 2 หลังจากกองทุนเปิดกรุงศรีพันธบัตรเกาหลี 6M1  ที่เสนอขายไปก่อนหน้านี้ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก ซึ่งโดยกองทุนเปิดกรุงศรีพันธบัตรเกาหลี 9M1 มีอายุประมาณ 9 เดือน ที่เน้นลงทุนในพันธบัตร MSB ที่ออกโดยธนาคารกลางของเกาหลีใต้ ผู้ลงทุนจะได้รับอัตราการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติไม่น้อยกว่า 2.10% ต่อปี (หลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 0.60%) กองทุนดังกล่าวมี มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท และเสนอขายวันนี้ถึงวันที่ 17 สิงหาคม 2552 ลงทุนขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท

 ทั้งนี้ กองทุนพันธบัตรเกาหลียังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก โดยทางบลจ. อยุธยา พร้อมที่จะออกกองทุนดังกล่าว ในหลาย ๆ ช่วงอายุ ซึ่งทีมงานจะคัดเลือกช่วงอายุที่คิดว่าน่าสนใจที่สุดในแต่ละช่วงเวลาเพื่อนำมาเสนอขายให้กับลูกค้า ในส่วนของปัจจัยพื้นฐานของประเทศเกาหลีใต้ นับได้ว่ามีการพัฒนาในทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยล่าสุด ค่าเงินวอนที่แข็งค่าขึ้น ก็เป็นอีกตัวแปรหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงกระแสของเงินทุนที่ไหลเข้าประเทศเกาหลีอย่างต่อเนื่อง
กำลังโหลดความคิดเห็น