xs
xsm
sm
md
lg

“เทือก” ชิ่งหนีฮ่องกง ปล่อย “มาร์ค” ตอบคดีสนธิ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - นายกฯ ถาม “สนธิ” จะมาฟังอะไร ยันวันนี้คดีจะมีความชัดเจน
“สุเทพ” ออกตัวลานายกฯ ปัดหนี “สนธิ” ฉุน “พธม.” เรียงหน้าไล่ อ้าง “กิเลส” บาง ถ้าไม่มีประโยชน์พร้อมม้วนเสื่อกลับบ้าน ติงสื่ออย่าปักหลักต้องปลด “พัชรวาท” ด้าน ประวิตร และ ผบ.เหล่าทัพ ปิดปากไม่พูด 13 หทารร่วมทีมยิง

วานนี้ (30 ก.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงกรณีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิไตย ซึ่งถูกลอบยิงจะเข้ารับฟังการชี้แจงเกี่ยวกับการพิจารณาปลดไม่ปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผบ.ตร.ที่ถูกระบุว่าเป็นอุปสรรคทำให้คดีไม่คืบหน้าในฐานะสื่อมวลชนคนหนึ่ง โดยนายอภิสิทธิ์ ตอบเสียงแข็งว่า จะมาฟังอะไร ก่อนจะเดินเข้าห้องประชุม

ต่อมา นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งหลังการประชุมหัวหน้าส่วนราชการซึ่งมี พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผบ.ตร.ร่วมประชุมด้วย ว่าไม่ได้คุยอะไรกันพิเศษ เป็นการประชุมหัวหน้าระดับปลัดกระทรวงกันตามปกติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้ (31 ก.ค.) จะมีการแถลงความชัดเจนที่พูดไว้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าคงเรียบร้อย โดยจะมีความชัดเจนว่าคดีจะเดินหน้าได้ อย่างไร เมื่อถามว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล จะขอเข้าร่วมฟังการแถลงด้วยจะขัดข้องหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนยังไม่รู้เลยว่าจะแถลงหรือเปล่า แต่ทุกอย่างจะชัดเจนในวันนี้ (31 ก.ค.) แต่ถ้าทุกคนมายืนถามอย่างนี้ตนก็ตอบอยู่แล้ว มีบัตรสื่อมวลชน ก็เข้ามาในฐานะสื่อมวลชนได้อยู่แล้ว เมื่อถามว่า ที่บอกว่าจะชัดเจนนั้นเป็นลักษณะไหน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าบอกแล้วก็คงไม่ต้องรอ เมื่อถามว่าจะมีคำสั่งหรือการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ปฏิเสธตอบคำถาม

**ไม่ขัด “สนธิ” เข้าซักถามนายกฯ**

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวความชัดเจนเรื่องการปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ที่นายกรัฐมนตรี บอกว่าจะชัดเจนในวันที่ 31 ก.ค.ว่าต้องรอฟังว่านายกฯจะชี้แจงว่าอย่างไร ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล ขอโอกาสเข้ามารับฟังด้วยทำได้หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มีใครห้ามอยู่แล้ว เป็นสื่อมวลชนก็มาได้ทุกคน  

เมื่อถามว่า แต่นายสนธิ เกี่ยวข้องในคดีด้วยจะทำให้รูปคดีมีปัญหาหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ที่พูดๆ กันทุกวันก็เป็นปัญหามากอยู่แล้ว ตนคิดว่าทุกฝ่ายก็ต้องอดทน และเคารพในความเป็นมืออาชีพของคนอื่นเขาบ้าง สำหรับตนแม้ว่านายกฯจะมอบหมายให้ผมคุมงานของตำรวจ แต่ผมก็ต้องขีดกรอบของตัวเองว่าผมลงไปรับรู้อะไร แค่ไหน จะลงลึกไปมาก็จะหาว่าผมไปแทรกแซง ดังนั้นผมก็ต้องระมัดระวัง

** “สุเทพ” หนี “สนธิ” ขอลา 1 วัน**

เมื่อเช้าตื่นมาดูข่าวก็เห็นมีกลุ่มคน 4-5 คนเรียงเป็นแถวและแถลงข่าวว่า ให้ลดผมด้วยเพราะผมเป็นอุปสรรค ผมไม่ได้ว่าอะไรเขาหรอก ก็อยากจะบอกว่าผมอดทน อาจารย์โพธิ์ที่สวนโมกได้สอนผมไว้ว่าอย่าปล่อยให้กิเลสมันครอบงำ  ซึ่งที่ผมทำงานทุกวันนี้ ผมมุ่งหวังว่าจะมาแก้ปัญหาชาติบ้านเมืองและเห็นว่านายกฯเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดที่จะมาแก้ปัญหาบ้านเมืองขณะนี้ผมจึงช่วยท่านทำงานมาแต่ต้น แต่มาตอนนี้อาจจะมีบางคนที่อยากผูกขาดความรักกับนายกฯเอาไว้เฉพาะกลุ่มตัวเองก็ได้ ซึ่งก็ไม่เห็นว่าจะเป็นประโยชน์อะไรกับบ้านเมือง แต่ที่จะมากดดันให้นายกฯหรือคนอื่นเข้าใจผมผิด ไม่ว่าจะขับไล่ผมหรือปลดผม อะไรก็แล้วแต่ไม่ต้องออกแรงถึงขนาดนั้นเพราะผมมันประเภทอย่างบาง ผมกิเลสบาง ถ้าเห็นว่าผมไม่เป็นประโยชน์ต่อนายกฯ หรือไม่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองผมก็กลับบ้าน ไม่ได้ยากเย็นอะไร

เมื่อถามว่าการชี้แจงของนายกฯจะสามารถอธิบายได้ชัดเจนโดยไม่มี แรงกระเพื่อมใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า “พูดถึงตรงนี้ต้องบอกก่อนว่าผมไม่อยู่ ผมลานายกฯไว้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งนายกฯใช้ให้ผมไปทำงานบางอย่าง ดังนั้นต้องบอกก่อน เดี๋ยวมาบอกว่าผมไม่อยู่ก็มาบอกว่าสุเทพ หนีแล้ว ก็ไปกันอีก เดี๋ยวนี้มันน่ากลัวไปหมด” นายสุเทพ กล่าว

**ยันอีกไม่พบความผิด “พัชรวาท”**

ผู้สื่อข่าวถามว่าล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ออกมาถาม นายกฯและตัวท่านว่า พล.ต.อ.พัชรวาท มีความผิดอะไร  รองนายกฯ กล่าวว่า ตนก็ขอตอบท่านเลยว่า  ตนได้บอกนายกฯและพูดกับสื่อแล้วว่าตนยังไม่พบความผิดของพล.ต.อ.พัชรวาท ตนยังไม่มีหลักฐาน เอกสารหรือพยานที่จะยืนยันได้ว่าพล.ต.อ.พัชรวาท เป็นอุปสรรคในคดีนี้ นี่คือข้อเท็จจริงในส่วนของตน แต่การตัดสินใจมันอาจมีเหตุผลอื่น ๆ อีกหรืออย่างไรก็แล้วแต่นายกฯเพราะนายกฯเป็นผู้บังคับบัญชา ซึ่งที่ผ่านมาคนก็ไปกดดันนายกฯ ตนก็เห็นใจนายกฯเพราะท่านก็เครียดไปหลายวันแล้ว อะไรที่ตนทำให้ได้ตนก็จะทำ ตนคิดว่าเราไม่ควรไปกดดันนายกฯมากมายขนาดนั้น

เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าสุดท้ายแล้ว พล.ต.อ.พัชรวาท ก็จะไม่โดนทำอะไรเลย และรอยืมมือ ป.ป.ช.ในการจัดการ นายสุเทพ กล่าวว่า “ทำไมสื่อจึงไปตั้งหลักคิดอย่างนั้น ทำไมจะต้องคิดว่าจะต้องจัดการกับเขาให้ได้ อย่างที่ผมบอกว่าถ้าเราจะจัดการก็ต้องเห็นว่าเขาทำผิด มีหลักฐาน แต่นี่เราเห็นเขาไม่ผิด แต่เราก็พยายามที่จะจัดการเขาให้ได้ หรือสังคมเรียกร้องให้จัดการมันก็เป็นปัญหา  ก็เหมือนกับการเรียกร้องให้จัดการกับผม ผมก็ไม่เข้าใจ”รองนายกฯ กล่าว

**ปัดไม่รู้เรื่องโยกย้ายตำรวจ**

ผู้สื่อข่าวถามว่า โผโยกย้ายตำรวจเป็นเหตุหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ก็มีคนพูดอย่างนั้น ซึ่งนายกฯก็สั่งระงับไปแล้ว เมื่อถามว่าการโยกย้ายมีการไปยัดไส้เด็กของใครหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า บอกตรง ๆ ว่าไม่ทราบ เพราะว่าที่นั่งเป็นประธาน ก.ตร.และคณะกรรมการ ก.ตร.ก็รับแนวทางของผมที่ให้ ผบ.ตร. และรอง ผบ.ตร.ทุกท่านรวมถึง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ ที่เป็นจเรตำรวจ ร่วมกันเป็นกรรมการในการที่จะพิจารณาบัญชีโยกย้ายแต่งตั้งทั้งหลาย เขาก็ไปทำกัน ถ้าไปพูดคุยกัน เถียงกันแล้วไม่รู้เรื่องตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อถามว่าแล้วจะให้เหตุการณ์กดดันไปอย่างนี้เรื่อย ๆ หรือ นายสุเทพ กล่าวว่า ก็นายกฯจะชี้แจงให้ชัดเจน

เมื่อถามว่านายสนธิพูดเหมือนรู้ตัวว่าใครเป็นคนทำ โดยเฉพาะเป็นชุดทหาร ในรายงานมีการระบุชัดเจนอย่างนั้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ยืนยันว่าไม่ว่าตำรวจจะสืบสาวไปถึงใครต่อให้เป็น พล.ต. หรือ พล.ท. หรือ พล.อ. ออกหมายจับได้ทุกคน ดำเนินการได้ทุกคน และเชื่อว่าทหารทั้งกองทัพเขาไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยเพราะเป็นเรื่องของตัวบุคคล

**คุยโวแยกมิตร-ศัตรูชัดเจน**

เมื่อเช้าดูทีวีก็เห็นข่าวบอกว่าผมเคยพูดว่าตำรวจไม่ทำงานกรณีที่พัทยา ผมก็ยอมรับว่าผมพูดจริงและผมก็ไม่ได้ถือโกรธ เพราะวันนั้นผมไปประชุมกับตำรวจที่พัทยาตอนเมื่อเขาไม่ทำงานแล้ว เขาก็บอกกับผมว่าเขาทำไม่ได้ เพราะถ้าเขาไปสกัดกั้นม็อบเสื้อแดง เกิดการปะทะกันเกิดมีคนบาดเจ็บ เสียหายเขาก็จะถูกดำเนินคดีอาญา โดยเขาได้ยกเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 ผมก็บอกเขาว่า ให้ร่างคำสั่งมาหน่อยว่า ให้ความรับผิดนั้นเป็นของผม ผมจะเซ็นคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อที่เขาจะได้ไม่ถูกดำเนินคดีอาญา เขาก็บอกทำไม่ได้เพราะไม่มีกฎหมาย นี่เป็นเหตุผล แต่ถ้าจะให้บอกว่าถูกหรือผิด พูดไม่ได้หรอก และต้องขอบคุณทหารที่เข้ามาช่วยรักษากฎหมาย เมื่อตอนเหตุการณ์เดือนตุลาคม หลังจากเหตุการณ์ที่พัทยาที่เสื้อแดงล้มการประชุม จนเสียหายไปแล้ว แล้วมายึด กทม. 3 แยก 4 แยกเผายางรถยนต์เหมือนเกิด สงครามกลางเมือง ผมก็ไปขอให้ทหารออกมาช่วยแก้ปัญหา วันนั้นหากมีคนบาดเจ็บ ล้มตาย ทหารทั้งหลายก็คงถูกดำเนินคดีเป็นจำเลยกันหมดรวมถึงผมด้วย ก็ต้องขอบคุณเขา และวันนี้หากใครจะมายุยง ปลุกปั่นให้ผมมีปัญหากับคนเหล่านี้ ผมไม่เอาด้วย ผมแยกมิตร แยกศัตรูชัดเจน วันนี้คนในบ้านเมืองหลายคน แยกมิตรแยกศัตรูไม่ชัดเจน รบกันไปหมดทุกคนบ้านเมืองก็แย่ ดังนั้นผมไม่เดินด้วย ในแนวทางนั้น

ผมขอย้ำว่า อย่าพยายามทำร้ายผมเลย เพราะผมกำลังทำงานให้บ้านเมือง และผมไม่มีอะไรที่จะเป็นปัญหากับนายกฯทั้งสิ้น ถ้าเมื่อไหร่สังคมคิดอย่างนั้น หรือคนพูดอย่างนั้น หรือผมเกิดรู้ตัวเอง ผมลาออกทันที แม้แต่พวกคุณเข้าชื่อกัน หรือยกมือกันตรงนี้เลยให้ผมลาออก ผมก็ไปแล้ว ผมไม่ใช่อย่างบาง ไม่ต้องกลัว เมื่อถามว่าขณะนี้มิตรโดยเฉพาะพันธมิตรฯยังเป็นมิตรกับท่านอยู่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า พวกคุณก็อ่านข่าวกันเองก็แล้วกัน

** “ประวิตร” ปิดปากไม่พูดทหารยิงสนธิ**

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานประชุมสภาลาโหม โดยมี พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ. ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ. กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ. อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และสมาชิกสภากลาโหม เข้าร่วมประชุมพร้อมเพียง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงกรณีนาย สนธิ ลิ้มทองกุล ออกมาระบุว่าขบวนการลอบสังหารมีนายทหาร 13 นาย และตำรวจ 1 นาย รวมทั้งกรณีที่มีการข่าวแก๊ง 4 สหาย อยู่เบื้องหลังกดดันให้เปลี่ยนตัว พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. โดยกล่าวเพียงสั้นๆว่า “เมื่อวาน (วันที่ 29 กรกฎาคม) ให้สัมภาษณ์เยอะแล้ว วันนี้ขอตัว” ก่อนที่ พล.อ.ประวิตร จะเดินเลี่ยงขึ้นบันไดหน้าตึกกระทรวงกลาโหม เพื่อเข้าร่วมประชุมสภากลาโหม ทั้งนี้ ปกติทุกครั้งที่มีการประชุมสภากลาโหม พล.อ.ประวิตร จะอนุญาตให้ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ถึงประเด็นข่าวทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ยอมให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว
           
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุม พล.อ.ประวิตร พร้อมด้วย พล.อ.อภิชาต พล.อ.ทรงกิตติ พล.อ.อนุพงษ์ พล.ร.อ.กำธร พล.อ.อ.อิทธพร และ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก ได้ร่วมรับประทานอาหารและหารือกันอีกครั้ง โดยคาดว่า พล.อ.ประวิตร หยิบยกประเด็นที่นายสนธิ ออกมาระบุถึงรู้ตัวทีมลอบสังหารที่มีทหารรบพิเศษเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการใช้ทีมจากกองปฏิบัติการพิเศษ หรือหน่วย ฉก.90 ทั้งนี้ ภายหลังรับประทานอาหารเสร็จสิ้น ผู้สื่อข่าวพยายามเข้าไปสัมภาษณ์ พล.อ.อนุพงษ์ ถึงกรณีดังกล่าว แต่ พล.อ.อนุพงษ์ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยเดินขึ้นรถประจำตำแหน่งไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

**กองทัพไม่สน “สนธิ” กล่าวหา**

พ.อ.สรรเสริญ  แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสนธิ  ลิ้มทองกุล ระบุว่า ขบวนการลอบสังหารยิงเป็นทหารป่าหวาย จำนวน 13 คน และตำรวจอีก 1คนว่า ทางกองทัพไม่ได้มีการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว เพราะเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะผู้ดำเนินการ ซึ่งทางกองทัพบกพร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจ หากมีการทำหนังสือขอตัวทหารมายังกองทัพบก อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางกองทัพบกยังไม่ได้รับหนังสือการขอตัวเพิ่มเติมจากเดิม ขณะนี้มีเพียงการขอตัว จ.ส.อ.ปัญญา  ศรีเหรา นายทหารสังกัดหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษคนเดียวเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ทางกองทัพพร้อมร่วมือในการหาตัวจ.ส.อ.ปัญญา  
           
“ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการออกหมายจับ หรือขอตัวเพิ่มเติม กรณีที่นายสนธิออกมาพูดว่าขบวนการลอบสังหารเป็นทหารจากป่าหวายนั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในกระแสข่าว ซึ่งเกิดจากการวิพากษ์วิจารณ์ของบางกลุ่ม กองทัพจึงไม่ต้องดำเนินการตรวจสอบ เพราะกองทัพเป็นหน่วยงานที่มีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ และจะไม่วิ่งไปตามกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามหากมีนายทหารคนใดถูกหมายจับ และมีการหนีหมายจับ รวมถึงมีการหนีราชการ ทางกองทัพจะพิจารณาดำเนินการลงโทษทางวินัยทหารตามขั้นตอนของกองทัพ”

**เชื่อ “พล.ท.ภุชงค์” ไม่ทำบาป**

ขณะที่ พล.ต.คณิศร สาสูงเนิน เป็น รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) เปิดเผยว่า ตนยังไม่รู้ข้อเท็จจริง กรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ออกมาระบุว่า มีทหารในหน่วยสงครามพิเศษเกี่ยวข้อง 13 คน ในการลอบสังหาร และก็ไม่มีตำรวจประสานมา เพื่อขอให้ตรวจสอบ แต่ยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่ และ พล.ท.ภุชงค์ รัตนวรรณ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ไม่ได้มีการสั่งการให้ตนไปตรวจสอบทหารที่เกี่ยวข้อง เชื่อ ท่านคงดำเนินการตรวจสอบ ด้วยตนเองอยู่ แต่สำหรับตนขอการันตีพันเปอร์เซ็นต์ว่า พล.ท.ภุชงค์ เป็นคนดี ไม่มีทางทำเรื่องบาปหนา หรือผิดกฎหมาย เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนนายร้อย รู้นิสัยใจคอเป็นอย่างดีส่วนการที่ นายสนธิ ออกมาระบุว่า ทหารหน่วยตนดูแล เกี่ยวข้องก็คงเป็นสิทธิ์นายสนธิ ไม่อยากไปตอบโต้ เพราะจะทำให้เรื่องบานปลาย

ขณะที่ นายเวรของ พล.ท.ภุชงค์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ พล.ท.ภุชงค์ รู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ยืนยันว่าไม่เคยวิตกและนิ่งสงบ ไม่หวั่นไหว และคงไม่ต้องชี้แจงให้สังคมทราบ แต่คงจะได้พูดคุยกับ ผบ.ทบ.แทน
กำลังโหลดความคิดเห็น