รองนายกฯ ด้านความมั่นคงย้ำอีก ปลด “พัชรวาท” ผิดตรงไหน โวยไม่เคยยึดตำแหน่งอย่าใช้กระบวนการไล่ทางอ้อม แย้มไต๋พร้อมวางมือทางการเมืองหากเป็นตัวถ่วงรัฐบาล แกล้งพูดพร้อมจัดการทหารหากผลสอบโยงคดีลอบยิง “สนธิ” ปัดข้อตกลงลับ “ประวิตร” พร้อมท้าเปิดโปงถ้ามีจริง โดดเดี่ยว “มาร์ค” แถลงข่าวอ้างติดภารกิจ ขึงขังไม่เคยคิดหนีตอบคำถาม “สนธิ”
วันนี้ (30 ก.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะมาฟังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงถึงความคืบหน้าคดีลอบสังหาร ในวันที่ 31กรกฎาคมนี้ว่า รัฐบาลเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนทุกฝ่าย ไม่ได้จำกัดสิทธิเสรีภาพของใครเลย นักข่าวที่มาสัมภาษณ์ตนทุกวันก็ไม่จำเป็นต้องออกใบรับรอง มาตั้งคำถามได้ เราก็ตอบไปทุกคำถาม
ส่วนการโยกย้าย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.นั้น นายสุเทพกล่าวว่า ตนพูดไปหลายครั้งแล้วว่า หากข้อมูลหลักฐานที่แสดงให้เห็นชัดเจนไม่ได้ว่า พล.ต.อ.พัชรวาทขัดขวางหรือเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของพนักงานสืบสวนสอบสวน ตนได้ส่งรายงานพร้อมบันทึกความเห็นให้กับนายกรัฐมนตรีไปแล้ว และที่คนบางกลุ่มเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีปลดตนด้วยเพราะเป็นอุปสรรคในการสืบสวนคดีนี้ ตนอยากเรียนว่าเป็นศิษย์สวนโมกข์ ท่านอาจารย์ก็บอกตนว่าอย่าไปติดยึดกับกิเลส
“อย่าถึงกับต้องสร้างกระบวนการมาปลดผมเลย ที่ทำงานอยู่ทุกวันนี้ผมก็ตั้งใจมาช่วยแก้ปัญหาชาติบ้านเมือง ดูแลให้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้ และมาช่วยนายกฯ ทำงาน ไม่มีปัญหาอะไร ที่พยายามให้ผมกับนายกฯ อภิสิทธิ์มีปัญหากัน ยืนยันว่าไม่มีหรอกครับ เพราะผมมันเป็นคนประเภทกิเลสบาง ไม่จำเป็นต้องสร้างกระบวนการใหญ่โตขึ้นมาปลดผม เอาแต่สื่อมวลชนที่อยู่ตรงนี้ แค่ยกมือบอกว่าพี่สุเทพไปได้แล้ว ผมก็สวัสดี ได้ ไม่มีปัญหาอะไร” นายสุเทพกล่าว
นายสุเทพกล่าวว่า ถ้าเมื่อใดที่ตนเห็นว่าตนเป็นภาระกับรัฐบาล เป็นภาระกับนายกฯ และเห็นว่าอยู่ไปจะทำให้รัฐบาลทำงานยาก ตนจะตัดสินใจกลับบ้านเอง ไม่มีอะไรติดยึด และขอให้สื่อมวลชนเป็นพยานได้ พร้อมทุกเมื่อ และตนก็ไม่มีความทะเยอทะยานมากไปกว่านี้ นอกจากช่วยนายกฯ ทำงาน จึงไม่ได้ติดใจอะไร เพียงแค่อยากบอกว่าอย่าได้ยุยงปลุกปั่นทำให้บ้านเมืองมันวุ่นวายไปมากกว่านี้เลย คนในบ้านเมืองควรจะแยกมิตรแยกศัตรูให้ชัดเจน คนที่ไม่เป็นศัตรูก็ไม่ต้องเป็น
“จริงๆ วันนี้ผมก็อายุ 60 ปีแล้ว เคยรับปากลูกไว้ว่า 60 จะหยุด นี่ก็เลย 60 มาหลายวันแล้ว แต่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อท่านนายกฯ อยู่ แต่ถ้าเมื่อใดเห็นว่าไม่เป็นประโยชน์ก็ไม่มีปัญหา” นายสุเทพกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าพร้อมจะวางมือ นายสุเทพกล่าวว่า ตนเป็นศิษย์มีครู ลูกศิษย์วัดสวนโมกข์ไม่ติดยึดอะไรอยู่แล้ว ทุกคนต้องทำหน้าที่ของตัวเอง ยึดหลักเพื่อชาติบ้านเมือง และตนมีความสุขที่ได้ทำงาน
ถามย้ำว่า แสดงว่าหากนายกฯ ย้าย ผบ.ตร.จะตัดสินใจวางมือ นายสุเทพหัวเราะ ก่อนกล่าวว่า “นี่ไง..เห็นมั้ย ทุกคนก็จินตนาการ คุณไม่ต้องไปตีความที่ผมพูด ก็จะยิ่งไปกันใหญ่”
นายสุเทพกล่าวอีกว่า ที่ตนพูดว่าตำรวจไม่ทำงานที่พัทยา ระหว่างการให้การกับคณะกรรมการตรวจสอบเหตุการณ์การชุมนุม ยอมรับว่าพูดจริง แต่ตำรวจชี้แจงว่าถ้าเขาออกไปขัดขวางคนเสื้อแดง จะต้องมีการปะทะกันแน่นอนและทำให้ถูกดำเนินคดีเหมือนกับคดี 7 ตุลาฯ เมื่อคนเสื้อแดงย่ามใจมายึด กทม. ปิดสี่แยก ก่อสงครามกลางเมือง ตนก็ไปขอกำลังทหารมาจัดการโดยประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังเหตุการณ์ตนก็ขอบคุณว่าทหารเสียสละ เพราะถ้าทำผิดพลาดไปจะถูกดำเนินคดี แต่ก็มีกระบวนการจับแยกตนกับกลุ่มทหาร บอกว่าตนอยู่กับกลุ่มสีเขียว ทั้งที่กลุ่มสีเขียวได้ทำประโยชน์ให้แก่ชาติบ้านเมือง และเท่าที่เล่นการเมืองมา 31 ปี ตนเห็นว่าทหารชุดนี้เป็นทหารที่เรียบร้อยที่สุด อะไรไม่ดีก็ไม่เคยมากดดันรัฐบาล ขอวิงวอนว่า อย่าได้โยงเรื่องนี้ไปเกี่ยวกับสถาบันทหาร ถ้าทีมสอบสวนคดีคุณสนธิบอกว่ามีทหารผิดกี่คน ไม่ว่าจะเป็นพลตรี พลโท พลเอก จะดำเนินให้ออกหมายจับได้ทุกคน เชื่อว่าไม่มีทหารคนไหนออกมาขัดขวาง ถ้าทหารคนไหนขัดขวางตนจะจัดการเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสนธิระบุว่านายสุเทพมีข้อตกลงลับกับ พล.อ.ประวิตร ไม่ให้ปลด พล.ต.อ.พัชรวาท รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ถ้านายสนธิกล่าวหาตนเช่นนั้น ตนอยากถามกลับว่า นายสนธิเอามาจากไหนว่าตนมีข้อตกลงลับ เพราะแม้แต่ตนยังไม่รู้เลยว่ามี เพราะไม่เคยทำ เมื่อถามว่ามองว่านายสนธิต้องการกดดันรัฐบาล นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่ทราบ ตนพูดไปตามเนื้อหา แต่ไม่ขอวิจารณ์ เพราะไม่อยากให้ปัญหาบ้านเมืองมันเลวร้ายไปกว่านี้
“ถ้าคุณสนธิพูดอย่างนี้มันทำให้เหตุการณ์บ้านเมืองปั่นป่วน คุณสนธิต้องกรุณาไม่พูดจาอะไรที่ทำให้สถานการณ์บ้านเมืองมันเสียหายไปมากกว่านี้” นายสุเทพ กล่าวว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากนายสนธิต้องการเข้ามาฟังการแถลงข่าวของนายกฯ จะอนุญาตให้ทีมการ์ดเข้าฟังด้วยหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า “ถ้าคนพกปืนเข้าทำเนียบ ผมก็ต้องไม่ให้เข้า แต่ถ้าสื่อมวลชนอย่างพวกคุณเข้ามา เข้าได้ทุกคน ไม่เคยตรวจเลยว่าพกหรือไม่พกปืน”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขบวนการตอกลิ่มให้เกิดความขัดแย้งระหว่างนายสุเทพกับนายอภิสิทธิ์ เป็นคนกลุ่มใด รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อ่านหนังสือพิมพ์ ดูโทรทัศน์ ติดตามเอาเองได้ เมื่อถามว่ากลุ่มเดียวกับที่เรียกร้องให้ปลด พล.ต.อ.พัชรวาทหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า “โอ้ๆๆ พูดไปเดี๋ยวเป็นเรื่องใหญ่”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้คุยกับ พล.อ.ประวิตรบ้างหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ได้คุยเลย แต่วันนี้ตนได้ดูข่าวโทรทัศน์ พล.อ.ประวิตรก็บอกว่าให้ไปถามรองนายกฯ สุเทพว่า พล.ต.อ.พัชรวาทมีความผิดอะไร ตนก็ตอบได้เลยว่ายังไม่เห็นว่า พล.ต.อ.พัชรวาทมีความผิดอะไร ส่วนนายกฯ จะเห็นตรงกันหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนยังไม่ได้ถาม เพราะตนเป็นแต่ลูกน้อง มีหน้าที่รายงานข้อเท็จจริงต่อนายกฯ การใช้ดุลพินิจวิจารณญาณเป็นเรื่องของนายกฯ อย่าไปกดดันท่านเลย ท่านนายกฯพูดอย่างไร ตนก็ว่าอย่างนั้น
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (31 ก.ค.) นายกฯ จะเป็นคนชี้แจงด้วยตัวเอง เดี๋ยวจะคิดว่าตนหนีไปไหนผู้สื่อข่าวถามว่า หนังสือพิมพ์บางฉบับลงอย่างนั้นอยู่แล้ว นายสุเทพกล่าวว่า “นี่ไง แล้วผมจะไปฟ้องศาลไหนดี คนที่ว่าผม ผมจะไปทำงานตามที่นายกฯ มอบหมายให้ผมไปทำงานบางอย่าง ไม่ได้อยู่ที่บ้าน” เมื่อถามว่า ไม่ได้หนีใช่ไหม นายสุเทพกล่าวว่า “สุเทพจะไปหนีอะไร”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทราบการตัดสินใจของนายกฯ ที่จะแถลงพรุ่งนี้หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ทราบเลย ตนเป็นลูกน้อง ก็ทำงานตามที่นายกฯใช้ เวลาท่านจะตัดสินใจอะไร ก็ต้องเคารพ เราจะไปกดดันอะไรท่าน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ไม่อยู่เป็นเพราะจงใจหนีเลี่ยงนายสนธิหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า “นี่เห็นไหม..ตกลงเราไม่มีเพื่อนกันเลยใช่ไหมเนี่ย โอ้โห จินตนาการแต่ละคนรุนแรงมาก ผมทำหนังสือลาหลายวันแล้ว ลาก่อนที่นายกฯ จะบอกว่าท่านจะแถลงเรื่องนี้ ไม่มีหรอกครับ เรื่องคุณสนธิไม่เป็นปัญหาอุปสรรคอะไรกับผม”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่ใช่กลัวนายสนธิมาตั้งคำถามจี้ใจดำ นายสุเทพกล่าวว่า จะให้ตอบว่าไม่กลัว เดี๋ยวจะกลายเป็นท้าทาย เอาเป็นว่าแค่ไม่ใช่เรื่องนี้ก็แล้วกัน ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังนายกฯแถลงต่อสาธารณะจะทำให้ทุกอย่างคลี่คลายลงไปหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนคิดว่าทุกคนก็ควรจะฟังนายกฯ เมื่อเราไว้ใจให้เป็นผู้นำประเทศ แก้ไขปัญหาชาติบ้านเมือง ก็สมควรที่จะฟังนายกฯ เมื่อถามว่า รวมถึง รมว.กลาโหมด้วยหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า รวมถึงตนด้วย