ASTVผู้จัดการรายวัน - "อภิสิทธิ์" ยันคดี "สนธิ" ต้องเดินหน้าต่อไป ชี้วันนี้ "สุเทพ" ต้องให้คำตอบเกี่ยวกับทางออกของปัญหา โดยไม่สนเป็นญาติใคร ด้าน "สุเทพ" ควง "พัชรวาท" ลงใต้ เล่นบทยื้อชี้หากปลดต้องทำตามกฎเกณฑ์ กติกา "พัชรวาท" ไม่หวั่นกระแสย้าย อัด "ธานี" ต้องรายงานในฐานะผู้บังคับบัญชา ขณะที่ "ธานี" เชื่อมั่นจับ 2 ผู้ต้องหาได้แน่ ปัดเกาเหลานาย "ชุมพล" คนสนิท "สุเทพ" ปัดเด้ง ผบ.ตร.ยันจะไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย
วานนี้ (23 ก.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีกระแสข่าวขอให้ปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำงานต่อไปได้โดยไม่มีอุปสรรคว่า ตนเพิ่งคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง โดยนายสุเทพ จะกลับมารายงานเรื่องนี้ให้ตนทราบในวันที่ 24 ก.ค.นี้เกี่ยวกับทางออกของเรื่องนี้ที่จะทำให้การทำงานเดินหน้า
เมื่อถามว่านายสุเทพ ยืนยันว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงตำแหน่ง ผบ.ตร.นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนต้องรับฟังจากนายสุเทพ ว่ามีแนวทางแก้ปัญหานี้อย่างไร เมื่อถามว่า พล.ต.อ.ธานี อาจมีปัญหาด้วยตัวเองหรือไม่ เพราะทำงานไม่คืบหน้าและกล่าวโทษฝ่ายต่างๆ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
เมื่อถามอีกว่าหาก พล.ต.อ.พัชรวาท ไม่มีพี่ชายที่ชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมนั้นการทำงานจะราบรื่นขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวว่าใครชื่ออะไรและเป็นญาติกับใคร เมื่อถามว่า ตามหลักการนั้น ผบ.ตร.ในฐานะผู้บังคับบัญชา มีสิทธิสอบถามความคืบหน้าของคดีต่างๆ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอเรียนว่าตนให้ความ เป็นธรรม กับทุกฝ่ายแน่นอนและย้ำว่าคดีนี้เดินหน้าต่อไปได้และไม่เสียระบบ
**"เทพ"ควง"พัชรวาท"ลงใต้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันเวลา 07.00 น. ที่ ขส.ทบ. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เดินทางลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนายสุเทพ กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นการไปดูการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่
นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่แม้แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ออกมาระบุว่าค่อนข้างมีปัญหาว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ เพราะ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. ที่รับผิดชอบคดีนี้ ไม่ได้รายงานปัญหาและอุปสรรคให้ตนทราบ แต่อาจจะไปรายงานต่อนายกรัฐมนตรี ก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตนจะจัดทำบันทึกเฉพาะที่มีการรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น ซึ่ง พล.ต.อ.ธานี สามารถรายงานต่อนายกรัฐมนตรีได้โดยตรง เพราะถือเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดในการปฏิบัติราชการ โดยไม่จำเป็นต้องรายงานให้ตนทราบอีกครั้งก็ได้
**ปลด"พัชรวาท"ต้องทำตามกฎ กติกา
เมื่อถามว่าจะสอบถามรายละเอียดความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้กับ พล.ต.อ.ธานี หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) คงต้องสอบถามให้เป็นเรื่องเป็นราว และหากพบปัญหาก็จะต้องแก้ไข เพราะเรื่องนี้เป็นข่าวที่ทุกคนสนใจ
เมื่อถามถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า ต้องการให้มีการปรับเปลี่ยน ผบ.ตร. นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ทราบจะปรับเปลี่ยนเพราะอะไร ไม่รู้ว่ารายงานข่าวเขียนว่าอย่างไร ที่ผ่านมาตนยังไม่เคยได้ยินว่า ผบ.ตร.เป็นอุปสรรคในการทำงาน เพราะ พล.ต.อ.พัชรวาท เป็นผู้บัญชาการตำรวจ จะเป็นอุปสรรคได้อย่างไร แต่ถ้าพบว่ากระแสข่าวที่ออกมาเป็นเรื่องจริงก็ต้องว่ากันไปตามกฎเกณฑ์ กติกา เพราะข้าราชการมีระบบการทำงานของเขาอยู่ จึงต้องดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะทั้งหมดที่พูดมายังเป็นเพียงแค่กระแสข่าว ซึ่งตนพูดมาตลอดว่าอย่าไปจินตนาการเอาเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่ายังมั่นใจในตัวของ ผบ.ตร.อยู่หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง ว่า “ก็ยังไปทำงานกับผมอยู่ ถ้าไม่มั่นใจ ตนจะกล้าทำงานด้วยหรือ เพราะเดี๋ยวเขาไปตีกบาลผมกลางทางจะทำอย่างไร”
เมื่อถามถึงกรณีที่มีข่าวว่าจะให้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.เข้าไปร่วมเป็นทีมสอบสวนคดีลอบยิงนายสนธิ นายสุเทพ กล่าวว่า คดีลอบยิงนายสนธิ เป็นคดีสำคัญของบ้านเมือง เพราะเกิดขึ้นกลางกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นการกระทำที่อุกอาจ ใช้อาวุธสงครามออกมาดำเนินการ ทาง สตช. จึงระดมมือดีมาช่วยกันทำงาน แม้แต่ พล.ต.อ.ธานี ทาง ผบ.ตร.ก็เป็นผู้แต่งตั้งให้เข้ามาทำงานเอง ดังนั้น พล.ต.อ.ธานี จะไปแต่งตั้งใครเข้ามาทำงาน หรือแม้แต่ พล.ต.ท.อัศวิน ก็ได้ เพราะต้องให้คนที่มีฝีมือมาช่วยทำคดีให้ได้ เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญและประชาชนสนใจ
**"พัชรวาท"ไม่กังวลกระแสย้าย
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุลว่า ตนไม่ได้ลงไปยุ่งเกี่ยวในรายละเอียดของการสืบสวนสอบสวน เพราะได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. เป็นผู้ดำเนินการในกระบวนการต่างๆ ให้เสร็จเรียบร้อย แต่เท่าที่เห็นขณะนี้ก็ดูดี และผลงานออกมาดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกหนักใจหรือไม่ที่ผู้ใต้บังคับบัญชาออกมาระบายความรู้สึกเกี่ยวกับการทำงานในทำนองที่ไม่ค่อยสบายใจและเดินทางมาเข้าพบเพื่อหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี บ่อยครั้ง พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ความจริงถ้ามีอุปสรรคในการทำงาน ต้องรายงานให้ตนทราบก่อน เพราะตนในฐานะผู้บังคับบัญชาจะได้ช่วยแก้ไข
เมื่อถามว่าที่ผ่านมา พล.ต.อ.ธานี ได้รายงานอะไรบ้างหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ไม่ได้รายงาน เมื่อถามย้ำว่าแล้วได้เคยเข้ามาปรึกษาบ้างหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ยังไม่ได้เจอกัน เมื่อถามว่าการที่ พล.ต.อ.ธานี เข้ามาพบเพื่อรายงานกับนายกรัฐมนตรีโดยตรงถือเป็นการข้ามสายบังคับบัญชาหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ตามหลักหากมีปัญหาอะไร ที่ทำให้การทำงานสะดุด ก็ควรต้องรายงานตนก่อน อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ตนไม่ได้รู้สึกกังวล
**"ธานี"มั่นใจจับ 2 ผู้ต้องหา
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีว่า ตอนนี้ยังไม่ออกหมายจับใครเพิ่ม พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการเร่งทำงาน แต่ไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาว่าจะออกได้เมื่อใด ส่วนผู้ต้องหาทั้งสองคนที่ถูกออกหมายจับไปก่อนหน้านี้อยู่ระหว่างเร่งรัดติดตามตัวอยู่ ซึ่งก็มีโอกาสที่จะได้ตัว แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าหลบหนีอยู่ในพื้นที่ใด และการติดตามตัวผู้ต้องหาทั้งสองก็ไม่ได้มีปัญหากับผู้บังคับบัญชาของผู้ต้องหา โดยฝ่ายทหารให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดี
พล.ต.อ.ธานี กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้มีความขัดแย้งกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ซึ่งมีการรายงานความคืบหน้าคดีของนายสนธิ เป็นลายลักษณ์อักษรทุก 15 วัน
“ไม่อย่างนั้น พล.ต.อ.พัชรวาท จะกำชับเร่งรัดคดีได้อย่างไร ไม่ได้รายงานตรงต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนเดียว ส่วนกระแสข่าวว่าจะมีการต่ออายุราชการให้ผมในการทำคดีนี้ต่อนั้นขณะนี้ยังไม่ทราบ”
**สว.ตบเท้าให้กำลังใจ"ธานี"
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สนธยา แสวงเภา สมาชิกวุฒิสภาสรรหา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการบริหารมวลชนสัมพันธ์เชิงรุก เพื่อความมั่นคงและการบริหารงบประมาณ ในคณะกรรมมาธิการวุฒิสภา เดินทางมามอบกระเช้าดอกไม้ให้กำลังใจ พล.ต.อ.ธานี และคณะทำงานคลี่คลายคดีลอบฆ่านายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯเพื่อเป็นกำลังใจการทำงานในฐานะที่เป็นตำรวจที่ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ทำงานเพื่อประชาชน ยึดกฎหมายเป็นที่ตั้ง
**คนสนิท"เทือก"ลั่นไม่ปลด ผบ.ตร.
นายชุมพล กาญจนะ ประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ คนสนิทนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวถึงกระแสข่าวว่า จะมีการปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ออกจากตำแหน่งเนื่องจากเป็นอุปสรรคในการคลี่คลายคดีลอบยิงนายสนธิ ว่าตนทำงานใกล้ชิดกับนายสุเทพ ตลอดเวลา ยืนยันว่านายสุเทพ ไม่เคยมีแนวคิดจะปลด พล.ต.อ.พัชรวาท เพราะไม่เห็นเหตุผลอะไรที่จะไปทำเช่นนั้น เนื่องจาก พล.ต.อ.พัชรวาท จะเกษียณในปีนี้แล้ว และจะมีการสรรหาตัว ผบ.ตร.คนใหม่กลางเดือนสิงหาคมนี้ การปลด พล.ต.อ.พัชรวาท จึงไม่น่าจะทำให้เกิดประโยชน์กับใคร
ส่วนการย้าย พล.ต.อ.พัชรวาท เข้ากรุ เพื่อลดแรงกดดันจากกลุ่มการเมืองใด รัฐบาลก็ยังไม่เคยคิดและไม่ทำแน่นอน เนื่องจาก พล.ต.อ.พัชรวาท เหลืออายุงานอีกแค่ 2 เดือนกว่าก็เกษียณ คงไม่ไปทำอะไรที่ผิดกฎหมาย
นายชุมพล ยังกล่าวถึงกรณีหลายฝ่ายเรียกร้องให้ต่ออายุ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีลอบยิงนายสนธิ นายชุมพล กล่าวว่า คิดว่านายกรัฐมนตรีก็พูดชัดแล้วว่า จะไม่ต่ออายุราชการ พล.ต.อ.ธานี โดยหลังจากพล.ต.อ.ธานี เกษียณอายุไปก็เป็นอำนาจหน้าที่ของนายกฯว่าจะมอบหมายให้ใคร เพราะที่ผ่านมานายกฯได้กำหนดให้ผู้รับผิดชอบคดีนี้รายงานความคืบหน้าต่อตนโดยตรง
"คดีนี้เรื่องมวยล้มต้มคนดูไม่มีแน่ แต่จะจับคนร้ายหรือผู้บงการได้หรือไม่ ยังต้องจับตาดูกันต่อไป"นายชุมพล กล่าว
วานนี้ (23 ก.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีกระแสข่าวขอให้ปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำงานต่อไปได้โดยไม่มีอุปสรรคว่า ตนเพิ่งคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง โดยนายสุเทพ จะกลับมารายงานเรื่องนี้ให้ตนทราบในวันที่ 24 ก.ค.นี้เกี่ยวกับทางออกของเรื่องนี้ที่จะทำให้การทำงานเดินหน้า
เมื่อถามว่านายสุเทพ ยืนยันว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงตำแหน่ง ผบ.ตร.นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนต้องรับฟังจากนายสุเทพ ว่ามีแนวทางแก้ปัญหานี้อย่างไร เมื่อถามว่า พล.ต.อ.ธานี อาจมีปัญหาด้วยตัวเองหรือไม่ เพราะทำงานไม่คืบหน้าและกล่าวโทษฝ่ายต่างๆ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
เมื่อถามอีกว่าหาก พล.ต.อ.พัชรวาท ไม่มีพี่ชายที่ชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมนั้นการทำงานจะราบรื่นขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวว่าใครชื่ออะไรและเป็นญาติกับใคร เมื่อถามว่า ตามหลักการนั้น ผบ.ตร.ในฐานะผู้บังคับบัญชา มีสิทธิสอบถามความคืบหน้าของคดีต่างๆ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอเรียนว่าตนให้ความ เป็นธรรม กับทุกฝ่ายแน่นอนและย้ำว่าคดีนี้เดินหน้าต่อไปได้และไม่เสียระบบ
**"เทพ"ควง"พัชรวาท"ลงใต้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันเวลา 07.00 น. ที่ ขส.ทบ. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เดินทางลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนายสุเทพ กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นการไปดูการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่
นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่แม้แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ออกมาระบุว่าค่อนข้างมีปัญหาว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ เพราะ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. ที่รับผิดชอบคดีนี้ ไม่ได้รายงานปัญหาและอุปสรรคให้ตนทราบ แต่อาจจะไปรายงานต่อนายกรัฐมนตรี ก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตนจะจัดทำบันทึกเฉพาะที่มีการรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น ซึ่ง พล.ต.อ.ธานี สามารถรายงานต่อนายกรัฐมนตรีได้โดยตรง เพราะถือเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดในการปฏิบัติราชการ โดยไม่จำเป็นต้องรายงานให้ตนทราบอีกครั้งก็ได้
**ปลด"พัชรวาท"ต้องทำตามกฎ กติกา
เมื่อถามว่าจะสอบถามรายละเอียดความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้กับ พล.ต.อ.ธานี หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) คงต้องสอบถามให้เป็นเรื่องเป็นราว และหากพบปัญหาก็จะต้องแก้ไข เพราะเรื่องนี้เป็นข่าวที่ทุกคนสนใจ
เมื่อถามถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า ต้องการให้มีการปรับเปลี่ยน ผบ.ตร. นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ทราบจะปรับเปลี่ยนเพราะอะไร ไม่รู้ว่ารายงานข่าวเขียนว่าอย่างไร ที่ผ่านมาตนยังไม่เคยได้ยินว่า ผบ.ตร.เป็นอุปสรรคในการทำงาน เพราะ พล.ต.อ.พัชรวาท เป็นผู้บัญชาการตำรวจ จะเป็นอุปสรรคได้อย่างไร แต่ถ้าพบว่ากระแสข่าวที่ออกมาเป็นเรื่องจริงก็ต้องว่ากันไปตามกฎเกณฑ์ กติกา เพราะข้าราชการมีระบบการทำงานของเขาอยู่ จึงต้องดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะทั้งหมดที่พูดมายังเป็นเพียงแค่กระแสข่าว ซึ่งตนพูดมาตลอดว่าอย่าไปจินตนาการเอาเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่ายังมั่นใจในตัวของ ผบ.ตร.อยู่หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง ว่า “ก็ยังไปทำงานกับผมอยู่ ถ้าไม่มั่นใจ ตนจะกล้าทำงานด้วยหรือ เพราะเดี๋ยวเขาไปตีกบาลผมกลางทางจะทำอย่างไร”
เมื่อถามถึงกรณีที่มีข่าวว่าจะให้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.เข้าไปร่วมเป็นทีมสอบสวนคดีลอบยิงนายสนธิ นายสุเทพ กล่าวว่า คดีลอบยิงนายสนธิ เป็นคดีสำคัญของบ้านเมือง เพราะเกิดขึ้นกลางกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นการกระทำที่อุกอาจ ใช้อาวุธสงครามออกมาดำเนินการ ทาง สตช. จึงระดมมือดีมาช่วยกันทำงาน แม้แต่ พล.ต.อ.ธานี ทาง ผบ.ตร.ก็เป็นผู้แต่งตั้งให้เข้ามาทำงานเอง ดังนั้น พล.ต.อ.ธานี จะไปแต่งตั้งใครเข้ามาทำงาน หรือแม้แต่ พล.ต.ท.อัศวิน ก็ได้ เพราะต้องให้คนที่มีฝีมือมาช่วยทำคดีให้ได้ เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญและประชาชนสนใจ
**"พัชรวาท"ไม่กังวลกระแสย้าย
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุลว่า ตนไม่ได้ลงไปยุ่งเกี่ยวในรายละเอียดของการสืบสวนสอบสวน เพราะได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. เป็นผู้ดำเนินการในกระบวนการต่างๆ ให้เสร็จเรียบร้อย แต่เท่าที่เห็นขณะนี้ก็ดูดี และผลงานออกมาดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกหนักใจหรือไม่ที่ผู้ใต้บังคับบัญชาออกมาระบายความรู้สึกเกี่ยวกับการทำงานในทำนองที่ไม่ค่อยสบายใจและเดินทางมาเข้าพบเพื่อหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี บ่อยครั้ง พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ความจริงถ้ามีอุปสรรคในการทำงาน ต้องรายงานให้ตนทราบก่อน เพราะตนในฐานะผู้บังคับบัญชาจะได้ช่วยแก้ไข
เมื่อถามว่าที่ผ่านมา พล.ต.อ.ธานี ได้รายงานอะไรบ้างหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ไม่ได้รายงาน เมื่อถามย้ำว่าแล้วได้เคยเข้ามาปรึกษาบ้างหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ยังไม่ได้เจอกัน เมื่อถามว่าการที่ พล.ต.อ.ธานี เข้ามาพบเพื่อรายงานกับนายกรัฐมนตรีโดยตรงถือเป็นการข้ามสายบังคับบัญชาหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ตามหลักหากมีปัญหาอะไร ที่ทำให้การทำงานสะดุด ก็ควรต้องรายงานตนก่อน อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ตนไม่ได้รู้สึกกังวล
**"ธานี"มั่นใจจับ 2 ผู้ต้องหา
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีว่า ตอนนี้ยังไม่ออกหมายจับใครเพิ่ม พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการเร่งทำงาน แต่ไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาว่าจะออกได้เมื่อใด ส่วนผู้ต้องหาทั้งสองคนที่ถูกออกหมายจับไปก่อนหน้านี้อยู่ระหว่างเร่งรัดติดตามตัวอยู่ ซึ่งก็มีโอกาสที่จะได้ตัว แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าหลบหนีอยู่ในพื้นที่ใด และการติดตามตัวผู้ต้องหาทั้งสองก็ไม่ได้มีปัญหากับผู้บังคับบัญชาของผู้ต้องหา โดยฝ่ายทหารให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดี
พล.ต.อ.ธานี กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้มีความขัดแย้งกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ซึ่งมีการรายงานความคืบหน้าคดีของนายสนธิ เป็นลายลักษณ์อักษรทุก 15 วัน
“ไม่อย่างนั้น พล.ต.อ.พัชรวาท จะกำชับเร่งรัดคดีได้อย่างไร ไม่ได้รายงานตรงต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนเดียว ส่วนกระแสข่าวว่าจะมีการต่ออายุราชการให้ผมในการทำคดีนี้ต่อนั้นขณะนี้ยังไม่ทราบ”
**สว.ตบเท้าให้กำลังใจ"ธานี"
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สนธยา แสวงเภา สมาชิกวุฒิสภาสรรหา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการบริหารมวลชนสัมพันธ์เชิงรุก เพื่อความมั่นคงและการบริหารงบประมาณ ในคณะกรรมมาธิการวุฒิสภา เดินทางมามอบกระเช้าดอกไม้ให้กำลังใจ พล.ต.อ.ธานี และคณะทำงานคลี่คลายคดีลอบฆ่านายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯเพื่อเป็นกำลังใจการทำงานในฐานะที่เป็นตำรวจที่ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ทำงานเพื่อประชาชน ยึดกฎหมายเป็นที่ตั้ง
**คนสนิท"เทือก"ลั่นไม่ปลด ผบ.ตร.
นายชุมพล กาญจนะ ประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ คนสนิทนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวถึงกระแสข่าวว่า จะมีการปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ออกจากตำแหน่งเนื่องจากเป็นอุปสรรคในการคลี่คลายคดีลอบยิงนายสนธิ ว่าตนทำงานใกล้ชิดกับนายสุเทพ ตลอดเวลา ยืนยันว่านายสุเทพ ไม่เคยมีแนวคิดจะปลด พล.ต.อ.พัชรวาท เพราะไม่เห็นเหตุผลอะไรที่จะไปทำเช่นนั้น เนื่องจาก พล.ต.อ.พัชรวาท จะเกษียณในปีนี้แล้ว และจะมีการสรรหาตัว ผบ.ตร.คนใหม่กลางเดือนสิงหาคมนี้ การปลด พล.ต.อ.พัชรวาท จึงไม่น่าจะทำให้เกิดประโยชน์กับใคร
ส่วนการย้าย พล.ต.อ.พัชรวาท เข้ากรุ เพื่อลดแรงกดดันจากกลุ่มการเมืองใด รัฐบาลก็ยังไม่เคยคิดและไม่ทำแน่นอน เนื่องจาก พล.ต.อ.พัชรวาท เหลืออายุงานอีกแค่ 2 เดือนกว่าก็เกษียณ คงไม่ไปทำอะไรที่ผิดกฎหมาย
นายชุมพล ยังกล่าวถึงกรณีหลายฝ่ายเรียกร้องให้ต่ออายุ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีลอบยิงนายสนธิ นายชุมพล กล่าวว่า คิดว่านายกรัฐมนตรีก็พูดชัดแล้วว่า จะไม่ต่ออายุราชการ พล.ต.อ.ธานี โดยหลังจากพล.ต.อ.ธานี เกษียณอายุไปก็เป็นอำนาจหน้าที่ของนายกฯว่าจะมอบหมายให้ใคร เพราะที่ผ่านมานายกฯได้กำหนดให้ผู้รับผิดชอบคดีนี้รายงานความคืบหน้าต่อตนโดยตรง
"คดีนี้เรื่องมวยล้มต้มคนดูไม่มีแน่ แต่จะจับคนร้ายหรือผู้บงการได้หรือไม่ ยังต้องจับตาดูกันต่อไป"นายชุมพล กล่าว
