ยะลา - รองนายกรัฐมนตรี พร้อมผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ยะลา บำรุงขวัญเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร พร้อมชี้เตรียมเงิน 6 หมื่นล้านยกระดับความเป็นอยู่ประชาชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
วันนี้ (23 ก.ค.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ถนนวงเวียน 2 เทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ จ.ยะลา เข้ารับฟังความคืบหน้าคดีสำคัญในพื้นที่ และตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดยะลา
โดยมี นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พล.ต.ต.สายัณห์ กระแสแสน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา นายอับดุลการิม เด็งระกีนา สส.พรรคประชาธิปัตย์ยะลา และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ พร้อมกันนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้ร่วมประชุมเพื่อรับฟังความคืบหน้าคดีสำคัญ และรับฟังการบรรยายสรุปการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ถึงการดำเนินงานในการแก้ปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้น และรับฟังปัญหาข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานในด้านต่างๆ รวมทั้งได้มอบนโยบายในการทำงานเพื่อให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ในการแก้ปัญหาความไม่สงบอีกด้วย หลังจากนั้น รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบของที่ระลึก และเงินบำรุงขวัญพร้อมให้กำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดยะลา กว่า 500 นาย
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนเองเดินทางลงมาในพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อตรวจเยี่ยม และให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเข้าประชุมร่วมกับผู้บังคับบัญชาในทุกระดับชั้นในพื้นที่จังหวัดยะลา ซึ่งจากการได้รับฟังข้อมูลในด้านต่างๆ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ผลการปฏิบัติงานในด้านต่างๆ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีขวัญและกำลังใจดี และสามารถทำงานร่วมกับฝ่ายพลเรือน ทหารได้ดีมากขึ้น
สังเกตได้จากคดีสำคัญๆ หลายคดีสามารถคลี่คลายได้เร็ว การสืบสวนสอบสวนก็มีความคืบหน้าในหลายๆ คดี มีการออกหมายจับผู้ต้องสงสัย สิ่งที่มีความน่าภาคภูมิใจ คือเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยึดถือความถูกต้องตามกฎหมาย ในแนวทางอย่างเคร่งครัด โปร่งใส และมีความอดทน โดยเฉพาะเหตุคาร์บอมบ์ที่บริเวณหน้าสนามกีฬาที่ว่าการอำเภอยะหา จ.ยะลา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถควบคุมผู้ต้องสงสัย และสามารถออกหมายจับได้แล้ว ถือว่าทำงานได้ดีและมีความรวดเร็วมาก
อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลเองก็จะต้องมีหน้าที่ ให้การสนับสนุนเครื่องมือตรวจจับวัตถุระเบิด และเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์ว่ามีเพียงพอหรือไม่อย่างไร สำหรับเงินงบประมาณกว่า 6 หมื่นล้านบาท ที่จะลงมาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า งบประมาณในส่วนนี้เป็นเงินงบประมาณที่ต้องการยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ยกระดับรายได้ประชาชน ในแต่ละหมู่บ้าน ส่วนคนยากคนจนที่ได้ขึ้นบัญชีเอาไว้แล้วนั้น มีการตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องมีรายได้ไม่น้อยกว่าปีละ 120,000 บาท หากสามารถทำได้อย่างสมบูรณ์พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็จะเจริญก้าวหน้า และสงบสุขโดยเร็วอย่างแน่นอน