xs
xsm
sm
md
lg

ผช.ผบ.ตร.ลงยะลาระดมความคิดเห็นแก้ปัญหา 3 จชต.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ยะลา - ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ จ.ยะลา เรียกหน่วยกำลังในพื้นที่ ระดมความคิดเห็น เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมเข้มการใช้วิทยุสื่อสาร

วันนี้ (21 ก.ค.) ที่ห้องประชุมยะลารวมใจ ชั้น 2 อาคารศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร) เดินทางมาเป็นประธานในการสัมมนาผู้บริหาร ผู้นำหน่วยตำรวจตั้งแต่ระดับกองบัญชาการ ถึงระดับ หัวหน้าสถานีตำรวจ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 148 นาย เข้าร่วมในการประชุม

โดยมี พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฎฐ์ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจในระดับผู้บังคับบัญชาร่วมให้การต้อนรับ ซึ่งการประชุมสัมมนาในครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-24 ก.ค.52 โดยมีนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้นำหน่วย ผู้เชี่ยวชาญทางด้านความมั่นคง มาระดม และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อนำข้อมูลต่างๆ มาวิเคราะห์ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร) กล่าวว่า ตนเอง และคณะ เดินทางลงมาในพื้นที่ จ.ยะลา ในครั้งนี้เพื่อร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่เพื่อทบทวนการปฏิบัติงานในด้านต่างๆ ว่ามีจุดอ่อนจุดแข็ง อย่างไร เพื่อนำข้อมูลที่ได้นำมาแก้ไขปัญหา รวมทั้ง ประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมานั้นเหตุการณ์ความรุนแรงลดลงมาก และเมื่อเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้

ส่วนในกรณีเหตุคาร์บอมบ์ที่ อ.ยะหา จ.ยะลา จนทำให้ รอง ผบ.ฉก.14 อ.ยะหา และลูกน้อง เสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บอีก 4 นาย เมื่อวันที่ 17 ก.ค.52 ที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดำเนินการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยที่มีหลักฐานยืนยันได้แล้วจำนวน 12 คน และกำลังสืบสวนสอบสวน เพื่อหาข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมต่อไป ขณะนี้ไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้ กลัวว่าอาจจะกระทบต่อรูปคดี

สำหรับกลุ่มคนร้ายได้เปลี่ยนรูปแบบของตัวจุดชนวนระเบิด โดยได้นำเครื่องวิทยุสื่อสารมาเป็นตัวจุดชนวนระเบิดนั้น ขณะนี้ ตนเองได้สั่งการ พร้อมทั้ง กำชับทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้มีการตรวจสอบ และให้มีการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการพกพาวิทยุสื่อสารให้เข้มงวดมากกว่าเดิม เพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ได้นำมาประกอบเป็นระเบิด เพื่อมาก่อเหตุร้ายได้อีก

สำหรับความคืบหน้ากรณีกลุ่มคนร้ายไม่ทราบกลุ่ม จำนวน 4-6 คน ใช้อาวุธปืนสงครามยิงเข้าใส่ชาวบ้าน ภายในมัสยิดอัลฟรุกอน บ้านไอร์ปาแย ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ในขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว เป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.นราธิวาส สามารถออกหมายจับคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้วจำนวน 1 หมาย คาดว่าจะสามารถขยายผลต่อไปได้ และนำผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว






กำลังโหลดความคิดเห็น