ยะลา - ผู้บัญชาการทหารบก เรียกหน่วยกำลังในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชุมติดตามความคืบหน้าเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เน้นในเรื่องการค้นหาวัตถุระเบิด
วันนี้ (23 เม.ย.) ที่บริเวณห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกองอำนวยการรักษาความมันคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าร่วมประชุมกับ ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจหมายเลข 1 ตัว และหมายเลข 2 ตัว ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอ ของจังหวัดสงขลา ตัวแทนจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
พล.ต.ต.ยงยุทธ เจริญวานิช รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องรับผิดชอบการปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อติดตามความคืบหน้าเหตุความไม่สงบ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 / กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผบ.พตท.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร ร่วมให้การต้อนรับ
โดยในการประชุมครั้งนี้ เป็นการติดตามความคืบหน้าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ผ่านมา โดยเน้นในเรื่องของการดำเนินการในเรื่องการควบคุมวัตถุระเบิด และการควบคุมความเคลื่อนไหวทางการเงินของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ ผลการเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย ความคืบหน้าการเสียชีวิตของ นายยะผา กาเซ็ง โต๊ะอิหม่ามในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ที่เสียชีวิตระหว่างการควบคุมตัวของหน่วยทหาร รวมทั้งเรื่องของการสลายการชุมนุมชาวบ้าน ที่บริเวณหน้า สภ.ตากใบ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ทหารปะทะกับคนร้ายที่บริเวณมัสยิดกรือเซ๊ะ อ.เมือง จ.ปัตตานี
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ในส่วนของมาตรการการดูแลขบวนรถไฟวิ่งเข้าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นั้น ตนเองได้สั่งการให้แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผบ.พตท.จัดกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อคุ้มครองพื้นที่สูงข่ม พื้นที่ล่อแหลม สำหรับในส่วนความรับผิดชอบของจังหวัดและอำเภอ จะปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ โดยเร่งดำเนินการปรับพื้นที่สูงข่ม ริมทางรถไฟในพื้นที่รับผิดชอบ
โดยใช้เบิกงบประมาณขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น แต่ในบางพื้นที่ที่ไม่สามารถจัดสรรงบประมาณได้ จะดำเนินการถากถางพื้นที่ให้โล่งเตียนไปก่อน เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และ มีการจัดหา อุปกรณ์ เครื่องใช้ต่างๆ เพื่อการรักษาความปลอดภัยบริเวณสถานี เช่น เครื่องวอร์ก ทรู หรือ เครื่องตรวจบัตรแบบบุคคลเดินผ่าน มีการปรับปรุงโบกี้รถไฟให้มีความแข็งแรง เพื่อให้สามารถป้องกันกระสุนได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยจะเร่งดำเนินการ
ด้านมาตรการรักษาความปลอดภัยในระยะยาว ได้ขอความร่วมมือจากผู้ใหญ่บ้านและประชาชนในพื้นที่ ได้มีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อความปลอดภัยในเส้นทางการเดินรถไฟ โดยทางจังหวัดและอำเภอจะผนวกกำลังด้านเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ใหญ่บ้าน เป็นการเร่งด่วน ทั้งนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย จะร่วมดำเนินการ และให้การสนับสนุนด้านงบประมาณในการเสริมสร้างความเข้มแข็ง ให้กับกำลังประชาชนต่อไป
ส่วนในเรื่องการต่อ พ.ร.ก.ในพื้นที่เสี่ยงภัย ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ก็ต้องใช้ต่อไปในบางพื้นที่ ที่ยังมีความเสี่ยงหรือเหตุการณ์ยังไม่ดีขึ้น ซึ่งถ้าหากในพื้นที่ดังกล่าวมีความสงบสุข หรือ มีความปกติเหมือนในพื้นที่อื่น ตนเองก็พร้อมที่จะยกเลิก พ.ร.ก.ในพื้นที่นั้นโดยทันที ก็คิดว่าคงจะไม่ส่งผลกระทบกับความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่แต่อย่างใด
ด้านเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ในขณะนี้ลดลงมาก จากการสอบถามจากหน่วยกำลังที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ตนเองพอใจมาก เพราะในขณะนี้ประชาชนในพื้นที่ได้ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่รัฐมากยิ่งขึ้น ตนเองคาดว่าอีกไม่นานความสงบสุขจะกลับเข้ามาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างแน่นอน