“รองนายกฯ สุเทพ” ออกตัวลานายกฯ พรุ่งนี้ ปัดหนี “สนธิ” หลังแจ้งข่าวขอร่วมฟังการชี้แจงคดีลอบฆ่า ฉุน “พันธมิตรฯ” เรียงหน้าไล่ อ้าง “กิเลส” บาง ถ้าไม่มีประโยชน์พร้อมม้วนเสื่อกลับบ้าน ติงสื่ออย่าปักหลักต้องปลด “พัชรวาท” ให้ได้ ทั้งที่ไม่มีความผิด ยอมรับเหตุหนึ่งมาจากโผโยกย้าย
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวความชัดเจนเรื่องการปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าจะชัดเจนในวันที่ 31 ก.ค.ว่า ต้องรอฟังว่านายกฯ จะชี้แจงว่าอย่างไร ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล ขอโอกาสเข้ามารับฟังด้วยทำได้หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มีใครห้ามอยู่แล้ว เป็นสื่อมวลชนก็มาได้ทุกคน เมื่อถามว่าแต่นายสนธิเกี่ยวข้องในคดีด้วยจะทำให้รูปคดีมีปัญหาหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ที่พูดๆ กันทุกวันก็เป็นปัญหามากอยู่แล้ว ตนคิดว่าทุกฝ่ายก็ต้องอดทน และเคารพในความเป็นมืออาชีพของคนอื่นเขาบ้าง สำหรับตนแม้ว่านายกฯ จะมอบหมายให้ตนคุมงานของตำรวจ แต่ก็ต้องขีดกรอบของตัวเองว่าตนลงไปรับรู้อะไรแค่ไหน จะลงลึกไปมาก็จะหาว่าตนไปแทรกแซง ดังนั้นตนก็ต้องระมัดระวัง
“เมื่อเช้าตื่นมาดูข่าวก็เห็นมีกลุ่มคน 4-5 คนเรียงเป็นแถว และแถลงข่าวว่าให้ปลดผมด้วยเพราะผมเป็นอุปสรรค ผมไม่ได้ว่าอะไรเขาหรอก ก็อยากจะบอกว่าผมอดทน อาจารย์โพธิ์ที่สวนโมกข์ได้สอนผมไว้ว่าอย่าปล่อยให้กิเลสมันครอบงำ ซึ่งที่ผมทำงานทุกวันนี้ ผมมุ่งหวังว่าจะมาแก้ปัญหาชาติบ้านเมืองและเห็นว่านายกฯ เป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดที่จะมาแก้ปัญหาบ้านเมืองขณะนี้ผมจึงช่วยท่านทำงานมาแต่ต้น แต่มาตอนนี้อาจจะมีบางคนที่อยากผูกขาดความรักกับนายกฯเอาไว้เฉพาะกลุ่มตัวเองก็ได้ ซึ่งก็ไม่เห็นว่าจะเป็นประโยชน์อะไรกับบ้านเมือง แต่ที่จะมากดดันให้นายกฯ หรือคนอื่นเข้าใจผมผิด ไม่ว่าจะขับไล่ผมหรือปลดผม อะไรก็แล้วแต่ไม่ต้องออกแรงถึงขนาดนั้นเพราะผมมันประเภทอย่างบาง ผมกิเลสบาง ถ้าผมเห็นว่าผมไม่เป็นประโยชน์ต่อนายกฯ หรือไม่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองผมก็กลับบ้าน ไม่ได้ยากเย็นอะไร” รองนายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่าการชี้แจงพรุ่งนี้ของนายกฯ จะสามารถอธิบายได้ชัดเจนโดยไม่มีแรงกระเพื่อมใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า “พูดถึงตรงนี้ต้องบอกก่อนว่าผมไม่อยู่ ผมลานายกฯ ไว้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งนายกฯ ใช้ให้ผมไปทำงานบางอย่าง ดังนั้นต้องบอกก่อน เดี๋ยวมาบอกว่าผมไม่อยู่ก็มาบอกว่าสุเทพหนีแล้ว ก็ไปกันอีก เดี๋ยวนี้มันน่ากลัวไปหมด” นายสุเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ออกมาถามนายกฯ และตัวท่านว่า พล.ต.อ.พัชรวาท มีความผิดอะไร รองนายกฯ กล่าวว่า ตนก็ขอตอบท่านเลยว่า ตนได้บอกนายกฯและพูดกับสื่อแล้วว่าตนยังไม่พบความผิดของ พล.ต.อ.พัชรวาท ตนยังไม่มีหลักฐาน เอกสารหรือพยานที่จะยืนยันได้ว่า พล.ต.อ.พัชรวาท เป็นอุปสรรคในคดีนี้ นี่คือข้อเท็จจริงในส่วนของตน แต่การตัดสินใจมันอาจมีเหตุผลอื่นๆ อีกหรืออย่างไรก็แล้วแต่นายกฯ เพราะนายกฯ เป็นผู้บังคับบัญชา ซึ่งที่ผ่านมาคนก็ไปกดดันนายกฯ ตนก็เห็นใจนายกฯ เพราะท่านก็เครียดไปหลายวันแล้ว อะไรที่ตนทำให้ได้ตนก็จะทำ ตนคิดว่าเราไม่ควรไปกดดันนายกฯ มากมายขนาดนั้น
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าสุดท้ายแล้ว พล.ต.อ.พัชรวาท ก็จะไม่โดนทำอะไรเลย และรอยืมมือ ป.ป.ช.ในการจัดการ นายสุเทพกล่าวว่า “ทำไมสื่อจึงไปตั้งหลักคิดอย่างนั้น ทำไมจะต้องคิดว่าจะต้องจัดการกับเขาให้ได้ อย่างที่ผมบอกว่าถ้าเราจะจัดการก็ต้องเห็นว่าเขาทำผิด มีหลักฐาน แต่นี่เราเห็นเขาไม่ผิด แต่เราก็พยายามที่จะจัดการเขาให้ได้ หรือสังคมเรียกร้องให้จัดการมันก็เป็นปัญหา ก็เหมือนกับการเรียกร้องให้จัดการกับผม ผมก็ไม่เข้าใจ” รองนายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า โผโยกย้ายตำรวจเป็นเหตุหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ก็มีคนพูดอย่างนั้น ซึ่งนายกฯก็สั่งระงับไปแล้ว เมื่อถามว่าการโยกย้ายมีการไปยัดไส้เด็กของใครหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า บอกตรงๆ ว่าไม่ทราบ เพราะว่าที่นั่งเป็นประธาน ก.ตร.และคณะกรรมการ ก.ตร.ก็รับแนวทางของผมที่ให้ ผบ.ตร. และรอง ผบ.ตร.ทุกท่านรวมถึง พล.ต.อ.ประทีป ที่เป็นจเรตำรวจ ร่วมกันเป็นกรรมการในการที่จะพิจารณาบัญชีโยกย้ายแต่งตั้งทั้งหลาย เขาก็ไปทำกัน ถ้าไปพูดคุยกัน เถียงกันแล้วไม่รู้เรื่องตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อถามว่าแล้วจะให้เหตุการณ์กดดันไปอย่างนี้เรื่อยๆ หรือ นายสุเทพกล่าวว่า ก็พรุ่งนี้นายกฯถึงจะชี้แจงให้ชัดเจน
เมื่อถามว่านายสนธิพูดเหมือนรู้ตัวว่าใครเป็นคนทำ โดยเฉพาะเป็นชุดทหาร ในรายงานมีการระบุชัดเจนอย่างนั้นหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ในฐานะที่เป็นรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ยืนยันว่าไม่ว่าตำรวจจะสืบสาวไปถึงใครต่อให้เป็น พล.ต. หรือ พล.ท. หรือ พล.อ. ออกหมายจับได้ทุกคน ดำเนินการได้ทุกคน และเชื่อว่าทหารทั้งกองทัพเขาไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยเพราะเป็นเรื่องของตัวบุคคล
“เมื่อเช้าดูทีวีก็เห็นข่าวบอกว่าผมเคยพูดว่าตำรวจไม่ทำงานกรณีที่พัทยา ผมก็ยอมรับว่าผมพูดจริงและผมก็ไม่ได้ถือโกรธ เพราะวันนั้นผมไปประชุมกับตำรวจที่พัทยาตอนเมื่อเขาไม่ทำงานแล้ว เขาก็บอกกับผมว่าเขาทำไม่ได้ เพราะถ้าเขาไปสกัดกั้นม็อบเสื้อแดง เกิดการปะทะกันเกิดมีคนบาดเจ็บ เสียหายเขาก็จะถูกดำเนินคดีอาญาโดยเขาได้ยกเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 ผมก็บอกเขาว่าให้ร่างคำสั่งมาหน่อยว่าให้ความรับผิดนั้นเป็นของผม ผมจะเซ็นคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อที่เขาจะได้ไม่ถูกดำเนินคดีอาญา เขาก็บอกทำไม่ได้เพราะไม่มีกฎหมาย นี่เป็นเหตุผล แต่ถ้าจะให้บอกว่าถูกหรือผิด พูดไม่ได้หรอก และต้องขอบคุณทหารที่เข้ามาช่วยรักษากฎหมายเมื่อตอนเหตุการณ์เดือนตุลาคม หลังจากเหตุการณ์ที่พัทยาที่เสื้อแดงล้มการประชุมจนเสียหายไปแล้ว แล้วมายึด กทม. 3 แยก 4 แยกเผายางรถยนต์เหมือนเกิดสงครามกลางเมือง ผมก็ไปขอให้ทหารออกมาช่วยแก้ปัญหา วันนั้นหากมีคนบาดเจ็บ ล้มตาย ทหารทั้งหลายก็คงถูกดำเนินคดีเป็นจำเลยกันหมดรวมถึงผมด้วย ก็ต้องขอบคุณเขา และวันนี้หากใครจะมายุยง ปลุกปั่นให้ผมมีปัญหากับคนเหล่านี้ ผมไม่เอาด้วย ผมแยกมิตร แยกศัตรูชัดเจน วันนี้คนในบ้านเมืองหลายคนแยกมิตรแยกศัตรูไม่ชัดเจน รบกันไปหมดทุกคนบ้านเมืองก็แย่ ดังนั้นผมไม่เดินด้วยในแนวทางนั้น” นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่าคิดว่าใครเป็นคนป่วนเรื่องทั้งหมดเหล่านี้ รองนายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวประชาชนก็เห็นเอง ไม่มีใครสามารถปิดบังข้อเท็จจริงได้ทั้งหมด
“ผมขอย้ำว่าอย่าพยายามทำร้ายผมเลย เพราะผมกำลังทำงานให้บ้านเมือง และผมไม่มีอะไรที่จะเป็นปัญหากับนายกฯ ทั้งสิ้น ถ้าเมื่อไหร่สังคมคิดอย่างนั้น หรือคนพูดอย่างนั้น หรือผมเกิดรู้ตัวเอง ผมลาออกทันที แม้แต่พวกคุณเข้าชื่อกัน หรือยกมือกันตรงนี้เลยให้ผมลาออก ผมก็ไปแล้ว ผมไม่ใช่อย่างบาง ไม่ต้องกลัว” นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่าขณะนี้มิตรโดยเฉพาะพันธมิตรฯ ยังเป็นมิตรกับท่านอยู่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า พวกคุณก็อ่านข่าวกันเองก็แล้วกัน