ASTVผู้จัดการรายวัน - “ประสงค์”แนะ“พัชรวาท”ลาออก ก่อนโดน “มาร์ค”ปลดวันนี้ เคลียร์ข้อสงสัยของสังคมเป็น “ตอ”ขวางคดี “สนธิ” พร้อมแนะนายกฯ ปลดรองนายกฯ ด้านความมั่นคง เหตุล้มเหลวจัดการคนเสื้อแดง แถมยอมให้พรรคร่วมมากดดัน
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และสมาชิกสภานิติบัญญัติ กล่าวในรายการ"คนในข่าว"ทางเอเอสทีวี ช่วงเวลา 20.30-22.00 น. วันที่ 30 ก.ค.ว่า ขณะที่รัฐบาลเปรียบเสมือนรถโดยสารที่มีคนขับเป็นคนเรียบร้อยไม่ชำนาญเส้นทางโดยมีคนเก็บค่าโดยสารที่คอยแต่จะทะเลาะกับผู้โดยสาร และมีคนคุมคิวเป็นคนกำกับทิศทางเวลาการเดินรถอีก แล้วรถคันนี้ก็วิ่งไปบุรีรัมย์ก่อนเพื่อน ทำให้ 6-7 เดือนที่มาผู้โดยสารทยอยลงจากรถและอาจจะลงทั้งหมดแล้วไปหาคันใหม่ เพียงแต่ในขณะนี้ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่าเท่านั้น
น.ต.ประสงค์ กล่าวต่อว่า พรรคแกนนำรัฐบาลขณะนี้ดีกว่าพรรคอื่นๆ ก็จริง แต่ประชาชนที่เคยฝากความหวังไว้ใกล้จะหมดหวัง เพราะการจัดการบริหารไม่เป็น กระทรวงที่ควบคุมเศรษฐกิจไม่ว่าพาณิชย์ เกษตร คมนาคม อุตสาหกรรม ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงยินยอมให้คนเหล่านี้เข้าไปอยู่ในตำแหน่งในภาวะวิกฤติอย่างนี้ ส่วนกระทรวงที่ดูแลด้านความมั่นคง ทั้งมหาดไทยและกลาโหม ยังไม่อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ปล่อยให้เกิดปัญหาบูรณภาพแห่งดินแดน ให้ผู้นำประเทศเล็กๆ มาข่มขู่ ดูหมิ่นเหยียดหยามทหารไทย ปัญหาที่สำคัญคือ ผู้นำกองทัพไม่ได้ทำตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญที่กำหนดหน้าที่ชัดเจนของทหารไว้เลยว่า มีหน้าที่ในการป้องกันรักษาเอกราชอธิปไตย ปกป้องรักษาความมั่นคงของสถาบันกษัตริย์
น.ต.ประสงค์กล่าวอีกว่า รัฐบาลยังไม่ได้ใส่ใจ ออกมายับยั้งเรื่องนี้ตั้งแต่แรก ต้องให้องคมนตรีอย่าง พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ ลงมาแปดเปื้อน นอกจากนี้พรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นแกนหลักของรัฐบาลยังขยับตัวช้า ปล่อยให้พรรคภูมิใจไทยดำเนินการก่อน และเพิ่งจะตื่น ซึ่งมันไม่ทันเวลาแล้ว วันที่ 31 ก.ค.คนเสื้อแดงก็จะเริ่มชุมนุมแล้ว มีการขนเถิดเทิงกลองยาวเข้ามาพร้อมแล้ว ส่วนรายชื่อที่ล่ามาจะได้ถึงล้านรายชื่อหรือไม่นั้นไม่ทราบ แต่ว่าพวกเขากำลังจะมาแสดงทางจิตวิทยา ขณะที่รัฐบาลมัวทำอะไรอยู่
“พระราชอำนาจกำลังถูกกดดันโดยการใช้มวลชนที่ไม่เข้าใจ ผมไม่โทษมวลชนพวกนั้น แต่ผมโทษรัฐบาล ที่ไม่ทำให้ประชาชน.เข้าใจว่า สิ่งเหล่านี้ทำไม่ได้ และคนที่ไปลงชื่อก็อาจจะมีความผิดด้วย”
น.ต.ประสงค์ยังตำหนิสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณล่าช้า และปล่อยให้คนเสื้อแดงไปชุมนุมใกล้เขตพระราชทานที่ อ.หัวหิน และยังปล่อยให้มีการจาบจ้วงผ่านสื่อของคนเสื้อแดงอยู่ทุกวัน ซึ่งแม้ว่านายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะไม่เชื่อว่าจะมีใครล้มราชบัลลังก์ได้ แต่ถ้าปล่อยให้ถูกบ่อนเซาะอยู่ตลอดเวลาโดยไม่มีการยับยั้ง ก็เป็นเรื่องที่น่ากลัวสำหรับวันข้างหน้า
น.ต.ประสงค์ กล่าวถึงคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า รัฐบาลต้องมุ่งมั่นที่จะคลี่คลายคดีนี้ มิฉะนั้นแล้วจะถูกกล่าวหาว่าไม่มีความสารถและจำนนกับความไม่ถูกต้อง นอกจากนี้การที่มีมีทหารตำรวจมาเกี่ยวข้องนั้น อยากเห็นผู้บังคับบัญชาทหารกระตือรือร้นที่จะจับคนผิด โดยการตั้งกรรมการขึ้นมาติดตามตัว ไม่ใช่ปัดความรับผิดชอบว่า โดยบอกว่าทหารคนที่เกี่ยวข้องถูกออกจากราชการไปแล้ว
น.ต.ประสงค์กล่าวว่า ความเป็นไปได้ที่จะมีการรัฐประหารเพื่อให้ตัวเองมีอำนาจต่อไปนั้นยังมีอยู่ แต่ประชาชนคงไม่ยอม รวมทั้งคนที่มีอาวุธด้วยกันเองที่อึดอัดก็อาจจะไม่ยอมด้วย ในขณะนี้ปัญหากำลังจ่อมาที่อกของคนบางคน ถือว่ายืนก็ติดกำแพงแล้ว ทางออกที่ดีที่สุด ใครก็ตามที่รู้ตัวเองว่าเป็นปัญหาแล้ว ควรสละตัวเองด้วยการยอมรับสภาพความเป็นจริง ถ้ามีตำแหน่งหน้าที่ก็ลาออกเสีย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฝ่ายความมั่นคงนั้น อย่าสำคัญผิดคิดว่าตนเองเป็นผู้จัดการรัฐบาล โดยอ้างว่าไม่มีเขาเราไม่เป็นรัฐบาล ทั้งที่ในความเป็นจริงคนที่ทำให้ประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลคือพันธมิตรฯ และในความเป็นจริงแล้วควรจะบอกว่าไม่มีเขาเราสบายมากกว่า เนื่องจากพรรคการเมืองเหล่านั้นคอยกดดันพรรคประชาธิปัตย์ตลอดเวลา
น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ในวันที่ 31 ก.ค. อยากให้นายอภิสิทธิ์ พูดให้ชัดเจนเกี่ยวกับคดีนายสนธิ และไม่ควรยืดเวลาออกไปอีก และอยากให้นายอภิสิทธิ์ทำในสิ่งที่ประชาชนจดจำในฐานะเป็นผู้นำชาติบ้านเมืองไปทางที่กล้าหาญ ถูกต้อง ไม่อยากให้จดจำว่าเป็นนายกฯ เพราะมีคนอุ้มแล้วต้องทำตามเหมือนไม่ใช่ตัวของตัวเอง โดยเฉพาะข่าวที่ว่ามีการต่อรองไม่ให้ปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.นั้น มันพิสูจน์ว่า ถ้าไม่มีเขาเราสบายกว่านี้ เพราะฉะนั้นจึงขอให้นรายอภิสิทธิ์ไม่ต้องกลัวคำขู่ และอยากขอร้องให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ลาออกไปเลย ถ้าลาออกปัญหาจะจบ แม้ว่า พล.ต.อ.พัชรวาทอาจไม่เกี่ยวข้องกับคดียิงนายสนธิ แต่ในเมื่อสังคมมีความสงสัยแล้ว ก็ควรจะลาออก ก็จะแก้ปัญหาได้ ถ้าจะมาคิดสู้ มันไม่ถูกหรอก
ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.พัชรวาท ฟ้องเอเสอทีวีข้อหาหมิ่นประมาท โดยอ้างว่าตระกูลวงษ์สุวรรณถูกกระทำมามากแล้ว จะสู้ทุกอย่าง ทั้งทางกฎหมายและนอกฎหมายนั้น น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ต้องไปถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พี่ชาย พล.ต.อ.พัชรวาทว่าเป็นความต้องการอย่างนั้นจริงหรือไม่ ถ้าใช่นายอภิสิทธิ์ก็ปลดได้เลย ถ้ามาข่มขู่อย่างนี้ และก่อนอื่นต้องปลดนายสุเทพ ที่เป็นคนใกล้ชิดก่อน ไม่เช่นนั้นภาวะผู้นำของนายอภิสิทธิ์จะตกต่ำลงเรื่อยๆ นายสุเทพเป็นผู้จัดการรัฐบาลก็จริง แต่ตอนนี้นายอภิสิทธิ์มีอำนาจมากที่สุด มีดาบแล้วไม่ใช้ ก็จะจบชีวิตทางการเมืองไม่ดี นายอภิสิทธิ์ต้องตระหนักว่าสิ่งที่หนุนหลัง ไม่ใช่นายสุเทพ นายเนวิน พล.อ.ประวิตร แต่อยู่ที่ศรัทธาของประชาชน
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และสมาชิกสภานิติบัญญัติ กล่าวในรายการ"คนในข่าว"ทางเอเอสทีวี ช่วงเวลา 20.30-22.00 น. วันที่ 30 ก.ค.ว่า ขณะที่รัฐบาลเปรียบเสมือนรถโดยสารที่มีคนขับเป็นคนเรียบร้อยไม่ชำนาญเส้นทางโดยมีคนเก็บค่าโดยสารที่คอยแต่จะทะเลาะกับผู้โดยสาร และมีคนคุมคิวเป็นคนกำกับทิศทางเวลาการเดินรถอีก แล้วรถคันนี้ก็วิ่งไปบุรีรัมย์ก่อนเพื่อน ทำให้ 6-7 เดือนที่มาผู้โดยสารทยอยลงจากรถและอาจจะลงทั้งหมดแล้วไปหาคันใหม่ เพียงแต่ในขณะนี้ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่าเท่านั้น
น.ต.ประสงค์ กล่าวต่อว่า พรรคแกนนำรัฐบาลขณะนี้ดีกว่าพรรคอื่นๆ ก็จริง แต่ประชาชนที่เคยฝากความหวังไว้ใกล้จะหมดหวัง เพราะการจัดการบริหารไม่เป็น กระทรวงที่ควบคุมเศรษฐกิจไม่ว่าพาณิชย์ เกษตร คมนาคม อุตสาหกรรม ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงยินยอมให้คนเหล่านี้เข้าไปอยู่ในตำแหน่งในภาวะวิกฤติอย่างนี้ ส่วนกระทรวงที่ดูแลด้านความมั่นคง ทั้งมหาดไทยและกลาโหม ยังไม่อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ปล่อยให้เกิดปัญหาบูรณภาพแห่งดินแดน ให้ผู้นำประเทศเล็กๆ มาข่มขู่ ดูหมิ่นเหยียดหยามทหารไทย ปัญหาที่สำคัญคือ ผู้นำกองทัพไม่ได้ทำตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญที่กำหนดหน้าที่ชัดเจนของทหารไว้เลยว่า มีหน้าที่ในการป้องกันรักษาเอกราชอธิปไตย ปกป้องรักษาความมั่นคงของสถาบันกษัตริย์
น.ต.ประสงค์กล่าวอีกว่า รัฐบาลยังไม่ได้ใส่ใจ ออกมายับยั้งเรื่องนี้ตั้งแต่แรก ต้องให้องคมนตรีอย่าง พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ ลงมาแปดเปื้อน นอกจากนี้พรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นแกนหลักของรัฐบาลยังขยับตัวช้า ปล่อยให้พรรคภูมิใจไทยดำเนินการก่อน และเพิ่งจะตื่น ซึ่งมันไม่ทันเวลาแล้ว วันที่ 31 ก.ค.คนเสื้อแดงก็จะเริ่มชุมนุมแล้ว มีการขนเถิดเทิงกลองยาวเข้ามาพร้อมแล้ว ส่วนรายชื่อที่ล่ามาจะได้ถึงล้านรายชื่อหรือไม่นั้นไม่ทราบ แต่ว่าพวกเขากำลังจะมาแสดงทางจิตวิทยา ขณะที่รัฐบาลมัวทำอะไรอยู่
“พระราชอำนาจกำลังถูกกดดันโดยการใช้มวลชนที่ไม่เข้าใจ ผมไม่โทษมวลชนพวกนั้น แต่ผมโทษรัฐบาล ที่ไม่ทำให้ประชาชน.เข้าใจว่า สิ่งเหล่านี้ทำไม่ได้ และคนที่ไปลงชื่อก็อาจจะมีความผิดด้วย”
น.ต.ประสงค์ยังตำหนิสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณล่าช้า และปล่อยให้คนเสื้อแดงไปชุมนุมใกล้เขตพระราชทานที่ อ.หัวหิน และยังปล่อยให้มีการจาบจ้วงผ่านสื่อของคนเสื้อแดงอยู่ทุกวัน ซึ่งแม้ว่านายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะไม่เชื่อว่าจะมีใครล้มราชบัลลังก์ได้ แต่ถ้าปล่อยให้ถูกบ่อนเซาะอยู่ตลอดเวลาโดยไม่มีการยับยั้ง ก็เป็นเรื่องที่น่ากลัวสำหรับวันข้างหน้า
น.ต.ประสงค์ กล่าวถึงคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า รัฐบาลต้องมุ่งมั่นที่จะคลี่คลายคดีนี้ มิฉะนั้นแล้วจะถูกกล่าวหาว่าไม่มีความสารถและจำนนกับความไม่ถูกต้อง นอกจากนี้การที่มีมีทหารตำรวจมาเกี่ยวข้องนั้น อยากเห็นผู้บังคับบัญชาทหารกระตือรือร้นที่จะจับคนผิด โดยการตั้งกรรมการขึ้นมาติดตามตัว ไม่ใช่ปัดความรับผิดชอบว่า โดยบอกว่าทหารคนที่เกี่ยวข้องถูกออกจากราชการไปแล้ว
น.ต.ประสงค์กล่าวว่า ความเป็นไปได้ที่จะมีการรัฐประหารเพื่อให้ตัวเองมีอำนาจต่อไปนั้นยังมีอยู่ แต่ประชาชนคงไม่ยอม รวมทั้งคนที่มีอาวุธด้วยกันเองที่อึดอัดก็อาจจะไม่ยอมด้วย ในขณะนี้ปัญหากำลังจ่อมาที่อกของคนบางคน ถือว่ายืนก็ติดกำแพงแล้ว ทางออกที่ดีที่สุด ใครก็ตามที่รู้ตัวเองว่าเป็นปัญหาแล้ว ควรสละตัวเองด้วยการยอมรับสภาพความเป็นจริง ถ้ามีตำแหน่งหน้าที่ก็ลาออกเสีย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฝ่ายความมั่นคงนั้น อย่าสำคัญผิดคิดว่าตนเองเป็นผู้จัดการรัฐบาล โดยอ้างว่าไม่มีเขาเราไม่เป็นรัฐบาล ทั้งที่ในความเป็นจริงคนที่ทำให้ประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลคือพันธมิตรฯ และในความเป็นจริงแล้วควรจะบอกว่าไม่มีเขาเราสบายมากกว่า เนื่องจากพรรคการเมืองเหล่านั้นคอยกดดันพรรคประชาธิปัตย์ตลอดเวลา
น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ในวันที่ 31 ก.ค. อยากให้นายอภิสิทธิ์ พูดให้ชัดเจนเกี่ยวกับคดีนายสนธิ และไม่ควรยืดเวลาออกไปอีก และอยากให้นายอภิสิทธิ์ทำในสิ่งที่ประชาชนจดจำในฐานะเป็นผู้นำชาติบ้านเมืองไปทางที่กล้าหาญ ถูกต้อง ไม่อยากให้จดจำว่าเป็นนายกฯ เพราะมีคนอุ้มแล้วต้องทำตามเหมือนไม่ใช่ตัวของตัวเอง โดยเฉพาะข่าวที่ว่ามีการต่อรองไม่ให้ปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.นั้น มันพิสูจน์ว่า ถ้าไม่มีเขาเราสบายกว่านี้ เพราะฉะนั้นจึงขอให้นรายอภิสิทธิ์ไม่ต้องกลัวคำขู่ และอยากขอร้องให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ลาออกไปเลย ถ้าลาออกปัญหาจะจบ แม้ว่า พล.ต.อ.พัชรวาทอาจไม่เกี่ยวข้องกับคดียิงนายสนธิ แต่ในเมื่อสังคมมีความสงสัยแล้ว ก็ควรจะลาออก ก็จะแก้ปัญหาได้ ถ้าจะมาคิดสู้ มันไม่ถูกหรอก
ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.พัชรวาท ฟ้องเอเสอทีวีข้อหาหมิ่นประมาท โดยอ้างว่าตระกูลวงษ์สุวรรณถูกกระทำมามากแล้ว จะสู้ทุกอย่าง ทั้งทางกฎหมายและนอกฎหมายนั้น น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ต้องไปถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พี่ชาย พล.ต.อ.พัชรวาทว่าเป็นความต้องการอย่างนั้นจริงหรือไม่ ถ้าใช่นายอภิสิทธิ์ก็ปลดได้เลย ถ้ามาข่มขู่อย่างนี้ และก่อนอื่นต้องปลดนายสุเทพ ที่เป็นคนใกล้ชิดก่อน ไม่เช่นนั้นภาวะผู้นำของนายอภิสิทธิ์จะตกต่ำลงเรื่อยๆ นายสุเทพเป็นผู้จัดการรัฐบาลก็จริง แต่ตอนนี้นายอภิสิทธิ์มีอำนาจมากที่สุด มีดาบแล้วไม่ใช้ ก็จะจบชีวิตทางการเมืองไม่ดี นายอภิสิทธิ์ต้องตระหนักว่าสิ่งที่หนุนหลัง ไม่ใช่นายสุเทพ นายเนวิน พล.อ.ประวิตร แต่อยู่ที่ศรัทธาของประชาชน