ASTVผู้จัดการรายวัน-แฉ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ตอตัวจริงคดีสนธิ แท็กทีม “เนวิน-ประวิตร” ดอดไปกดดัน “อภิสิทธิ์”ถึงพัทยาขู่ถอนตัวจากรัฐบาลหากนายกฯปลด ‘พัชรวาท’ พ้นเก้าอี้ผบ.ตร.
จากเมื่อวันที่ 28 ก.ค.คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์แจ้งข้อกล่าวหาผิดวินัยร้ายแรง และความผิดอาญา มาตรา 157 ตามกฎหมายอาญา แก่พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากเหตุการณ์ตำรวจเข้าสลายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ชุมนุมประท้วงหน้ารัฐสภา และบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าที่ออกมาเรียกร้องขัดขวางการประกาศนโยบายของรัฐบาลหุ่นเชิด นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ซึ่งเรียกเหตุการณ์ดังกล่าวในเวลาต่อมาว่า “7 ตุลาเลือด”
เพราะผลที่เกิดจากการเข้าสลายม็อบของตำรวจที่ใช้อาวุธปืน และระเบิดยิงเข้าใส่ฝูงชน โดยมีเจตนาที่จะฆ่ามากกว่าที่จะสลายกลุ่มคนตามหลักสากล ส่งผลให้มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตหลายราย บาดเจ็บสาหัส ร่างกายพิการแขนขาขาดจำนวนมาก อีกทั้งมีผู้ได้รับผลกระทบกระเทือนทางจิตใจอีกจำนวนมากเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มติคณะกรรมการป.ป.ช. ชุดใหญ่ครั้งนี้ ได้กลับคำวินิจฉัยของอนุกรรมการ ที่ได้เคยชี้ว่า พล.ต.อ.พัชรวาทมีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง มาเป็นความผิดวินัยร้ายแรงและมีความผิดอาญา ทั้งนี้เนื่องจากปรากฏหลักฐานจากการซัดทอดว่า พล.ต.อ.พัชรวาทร่วมในเหตุการณ์ 7 ตุลาเลือด และยังพบว่าการเคลื่อนกำลังตำรวจออกมาได้นั้น อยู่ในอำนาจของผบ.ตร.เพียงคนเดียว ทำให้เชื่อได้ว่า พล.ต.อ.พัชรวาทมีความผิดชัดเจน รวมทั้งพล.ต.อ.พัชรวาท จะปฏิเสธความรับผิดชอบในเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้ เพราะเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของหน่วย
ดังนั้น จากมติกรรมการป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหาทั้งวินัยร้ายแรงและอาญาต่อพล.ต.อ.พัชรวาท ก็จะมีผลคือ ในด้านวินัย พล.ต.อ.พัชรวาท จะต้องถูกปลดหรือไล่ออกจากตำแหน่ง ผบ.ตร. ส่วนด้านอาญาป.ป.ช.ก็จะส่งฟ้อง พล.ต.อ.พัชรวาทในความผิดตาม ม.157 ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมืองต่อไป ทั้งนี้ตามขั้นตอนของป.ป.ช.จะเปิดโอกาสให้ พล.ต.อ.พัชรวาท แก้ข้อกล่าวหาได้อีกครั้ง ซึ่งนัดให้มาพบป.ป.ช.ในวันที่ 3 ส.ค. หลังจากนั้น จะมีการประชุมเพื่อวินิจฉัยเพื่อชี้มูลความผิด
**แฉเทือก-เนวิน-ประวิตรแท็กทีมขู่มาร์ค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังที่มีมติป.ป.ช.ดังกล่าวแพร่เผยออกไป( 28ก.ค.) ก็มีความเคลื่อนไหวในกลุ่มอำนาจใหม่ และตัวพล.ต.อ.พัชรวาท เพื่อออกมากดดัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่ให้มีการปลด พล.ต.อ.พัชรวาท โดยแกนนำกลุ่มอันประกอบด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พี่ชายของ พล.ต.อ.พัชรวาท นายเนวิน ชิดชอบ และพล.ต.อ.พัชรวาท ได้เดินทางไปดักพบนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังรู้ว่าทั้งสองคนจะเดินทางไปร่วมงานพบกับนักธุรกิจจีน ซึ่งจะมาลงทุนในประเทศไทย
โดยมีรายงานว่า นัดหมายดังกล่าว พล..ต.อ.พัชรวาท พล.อ.ประวิตรและนายเนวิน ได้มีการนัดหมายกับนายสุเทพ ที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่เมืองพัทยา เพื่อหารือถึงแผนการที่จะเข้าต่อรองกับนายอภิสิทธิ์ เพื่อกดดันไม่ให้นายกรัฐมนตรีปลด พล.ต.อ.พัชรวาท พ้นเก้าอี้ ผบ.ตร.
“ข้อเสนอที่กลุ่มอำนาจใหม่และนายสุเทพ ยื่นเป็นเงื่อนตายแก่นายอภิสิทธิ์ ก็คือหากนายอภิสิทธิ์ ใช้อำนาจปลดพล.ต.อ.พัชรวาท ก็จะให้พรรคภูมิใจไทย ถอนตัวจากรัฐบาล ซึ่งจะส่งผลให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้” ผู้สื่อข่าวเปิดเผย และว่า หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เสร็จภารกิจแล้ว กลุ่ม พล.อ.ประวิตร นายเนวิน และนายสุเทพได้พบกับนายอภิสิทธิ์ และคาดว่านายอภิสิทธิ์ ได้รับฟังข้อเสนอที่กลุ่มอำนาจใหม่จนนายอภิสิทธิ์ จะไม่กล้าปฏิเสธ ส่วนพล.ต.อ.พัชรวาท ไม่ได้เข้าร่วมวงต่อรอง แต่ได้มาดักรอพบนายอภิสิทธิ์ ก่อนที่จะกลับ แต่ทั้งสองไม่ได้พูดคุยอะไรกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายอภิสิทธิ์ ได้รับข้อเสนอที่มีข้อแลกเปลี่ยนที่ยากจะทำได้ เพราะหากนายอภิสิทธิ์ ยอมรับข้อเรียกร้องของกลุ่มอำนาจใหม่ เพื่อหวังจะยืดอายุรัฐบาลต่อไป ก็จะทำให้ระบบราชการ และระบบความถูกต้องของประเทศสูญเสียไป จึงคาดว่า นายอภิสิทธิ์ จะต้องคิดหนักกับเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตาม คนใกล้ชิดของนายอภิสทธิ์ บอกว่า นายอภิสิทธิ์คงไม่เลือกที่จะสยบยอมตามเงื่อนตายของกลุ่มอำนาจใหม่ และนายสุเทพ ดังนั้นหากจะต้องยุบสภาเพื่อรักษาระบบความถูกต้องชอบธรรมของประเทศ นายอภิสิทธิ์ ก็จะเลือกที่จะยุบสภาดีกว่าที่จะให้ทำในสิ่งที่ผิด
** “เทือก” โป้ยตอบถูกประวิตรกดดัน
ด้านนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังจากเดินทางกลับจากปฏิบัติราชการที่จังหวัด ปัตตานี ถึงกรณี พล.อ ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ออกมาถามเหตุลการปลด พล.ต.อ.พัชราวาท มีเหตุผลอะไร ว่า ไม่มีอะไร ตนไม่ทราบ เพราะตนเดินทางออกจากกทม.ตั้งแต่เช้ามืด ยังไม่ได้คุยกับพล.อ.ประวิตรเลย
เมื่อถามว่าหากมีการปลด ผบ.ตร.อาจจะสร้างความไม่พอใจให้กับกองทัพ นายสุเทพ กล่าวว่า ตน ไม่ขอออกความเห็น แต่ตนก็ภาวนาให้ทุกอย่างเรียบร้อย เมื่อถามย้ำว่าในระหว่างเดินทางไปพัทยา ได้มีการนั่งรถคันเดียวกันกับนายกรัฐมนตรี ได้มีการหารือในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า ตนได้เรียนให้นายกทราบตามข้อมูลเอกสารหลักฐานสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทีได้รวบรวมมาทั้งหมด และมอบให้นายกฯหมดเรียบร้อยแล้ว ยืนยันตามเอกสาร และไม่มีอะไรเพิ่มเติม
เมื่อถามว่ากรณีปปช.แจ้งข้อหาเพิ่มเติมจะมีผลต่อการปลดผบ.ตร.หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่อง นี้ตนไม่เกี่ยว เพราะเป็นเรื่องของปปช.คิดว่าไม่ใช่เรื่องที่จะเอามามารวมกันได้ ถ้าการปลดผบ.ตร.เป็นประเด็นก็ต้องหลังจากที่ปปช.ชี้มูลความผิดไปแล้ว
เมื่อ ถามขณะนี้ ผบ.ตร.จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนพูดไปมากแล้วเรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับว่าจะเป็นมาตรฐานของพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นมาตรฐานของการปฏิบัติราชการ
**“ประวิตร”ถาม“น้องผิดอะไร”
วันเดียวกันที่กระทรวงกลาโหม พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสการปลด พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ พ้นจากตำแหน่ง ผบ.ตร.ว่า ต้องไปถามนายกรัฐมนตรีและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี แต่อยากเรียนว่า พล.ต.อ. พัชรวาท ผิดอะไร ทั้งนี้ ตนไม่ได้เกี่ยวข้องพูดไม่ได้
เมื่อถามว่า ป.ป.ช.ชี้มูลว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ผิดวินัยร้ายแรงกรณีการสลายม็อบ 7 ตุลาคม พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องว่าไปกันตามกฎหมาย คือต้องถามว่าเขาผิดอะไร ทั้งนี้ คนที่ถูกกล่าวหาต้องไปแก้ข้อกล่าวหา เมื่อถามว่า กรณีที่พาดพิงถึงท่านจะฟ้องร้องทางกฎหมายหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ก็ดูอยู่ หากพาดพิงถึงผมก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย”
ต่อข้อถามว่า เป็นการกลั่นแกล้ง ผบ.ตร. เพื่อพาดพิงให้ถึงตัวท่านหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้และไม่ทราบ อย่านำไปโยง ตนพูดแล้วว่ามาทำงานการเมือง ไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง ซึ่งตนไม่ได้ยึดติดอะไรทั้งสิ้น ตนทำงานให้ประเทศชาติและประชาชน ทั้งนี้ ไม่เคยคิดเป็นนักการเมือง จึงไม่คิดว่าจะมายืนอยู่ตรงนี้
ส่วนกองทัพและรัฐบาลยังมีความสัมพันธ์อันดีอยู่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีอะไรความสัมพันธ์ยังดี กองทัพเป็นกลไกรัฐบาล ไม่มีปัญหา สั่งอย่างไรก็ปฏิบัติตามนั้น ทั้งนี้ กองทัพที่เป็นปึกแผ่นวันนี้ เขาดูแลกันเอง ตนมาดูแลภาพรวม แสดงให้เห็นว่า ผบ.เหล่าทัพ ดูแลกำลังพลให้อยู่ในระเบียบได้ดี
เมื่อถามว่า รัฐบาลเห็นว่ากองทัพเป็นปึกแผ่นมีอำนาจต่อรองจึงต้องทำสลายขั้ว พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า กองทัพเป็นปึกแผ่นดี เพื่อดูแลความสงบดูแลประเทศชาติให้เกิดความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ การที่กองทัพเป็นปึกแผ่นไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากลัวของรัฐบาล เป็นสิ่งที่ดี และประชานก็อาจจะชอบว่ากองทัพมีความเข้มแข็ง
จากเมื่อวันที่ 28 ก.ค.คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์แจ้งข้อกล่าวหาผิดวินัยร้ายแรง และความผิดอาญา มาตรา 157 ตามกฎหมายอาญา แก่พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากเหตุการณ์ตำรวจเข้าสลายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ชุมนุมประท้วงหน้ารัฐสภา และบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าที่ออกมาเรียกร้องขัดขวางการประกาศนโยบายของรัฐบาลหุ่นเชิด นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ซึ่งเรียกเหตุการณ์ดังกล่าวในเวลาต่อมาว่า “7 ตุลาเลือด”
เพราะผลที่เกิดจากการเข้าสลายม็อบของตำรวจที่ใช้อาวุธปืน และระเบิดยิงเข้าใส่ฝูงชน โดยมีเจตนาที่จะฆ่ามากกว่าที่จะสลายกลุ่มคนตามหลักสากล ส่งผลให้มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตหลายราย บาดเจ็บสาหัส ร่างกายพิการแขนขาขาดจำนวนมาก อีกทั้งมีผู้ได้รับผลกระทบกระเทือนทางจิตใจอีกจำนวนมากเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มติคณะกรรมการป.ป.ช. ชุดใหญ่ครั้งนี้ ได้กลับคำวินิจฉัยของอนุกรรมการ ที่ได้เคยชี้ว่า พล.ต.อ.พัชรวาทมีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง มาเป็นความผิดวินัยร้ายแรงและมีความผิดอาญา ทั้งนี้เนื่องจากปรากฏหลักฐานจากการซัดทอดว่า พล.ต.อ.พัชรวาทร่วมในเหตุการณ์ 7 ตุลาเลือด และยังพบว่าการเคลื่อนกำลังตำรวจออกมาได้นั้น อยู่ในอำนาจของผบ.ตร.เพียงคนเดียว ทำให้เชื่อได้ว่า พล.ต.อ.พัชรวาทมีความผิดชัดเจน รวมทั้งพล.ต.อ.พัชรวาท จะปฏิเสธความรับผิดชอบในเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้ เพราะเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของหน่วย
ดังนั้น จากมติกรรมการป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหาทั้งวินัยร้ายแรงและอาญาต่อพล.ต.อ.พัชรวาท ก็จะมีผลคือ ในด้านวินัย พล.ต.อ.พัชรวาท จะต้องถูกปลดหรือไล่ออกจากตำแหน่ง ผบ.ตร. ส่วนด้านอาญาป.ป.ช.ก็จะส่งฟ้อง พล.ต.อ.พัชรวาทในความผิดตาม ม.157 ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมืองต่อไป ทั้งนี้ตามขั้นตอนของป.ป.ช.จะเปิดโอกาสให้ พล.ต.อ.พัชรวาท แก้ข้อกล่าวหาได้อีกครั้ง ซึ่งนัดให้มาพบป.ป.ช.ในวันที่ 3 ส.ค. หลังจากนั้น จะมีการประชุมเพื่อวินิจฉัยเพื่อชี้มูลความผิด
**แฉเทือก-เนวิน-ประวิตรแท็กทีมขู่มาร์ค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังที่มีมติป.ป.ช.ดังกล่าวแพร่เผยออกไป( 28ก.ค.) ก็มีความเคลื่อนไหวในกลุ่มอำนาจใหม่ และตัวพล.ต.อ.พัชรวาท เพื่อออกมากดดัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่ให้มีการปลด พล.ต.อ.พัชรวาท โดยแกนนำกลุ่มอันประกอบด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พี่ชายของ พล.ต.อ.พัชรวาท นายเนวิน ชิดชอบ และพล.ต.อ.พัชรวาท ได้เดินทางไปดักพบนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังรู้ว่าทั้งสองคนจะเดินทางไปร่วมงานพบกับนักธุรกิจจีน ซึ่งจะมาลงทุนในประเทศไทย
โดยมีรายงานว่า นัดหมายดังกล่าว พล..ต.อ.พัชรวาท พล.อ.ประวิตรและนายเนวิน ได้มีการนัดหมายกับนายสุเทพ ที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่เมืองพัทยา เพื่อหารือถึงแผนการที่จะเข้าต่อรองกับนายอภิสิทธิ์ เพื่อกดดันไม่ให้นายกรัฐมนตรีปลด พล.ต.อ.พัชรวาท พ้นเก้าอี้ ผบ.ตร.
“ข้อเสนอที่กลุ่มอำนาจใหม่และนายสุเทพ ยื่นเป็นเงื่อนตายแก่นายอภิสิทธิ์ ก็คือหากนายอภิสิทธิ์ ใช้อำนาจปลดพล.ต.อ.พัชรวาท ก็จะให้พรรคภูมิใจไทย ถอนตัวจากรัฐบาล ซึ่งจะส่งผลให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้” ผู้สื่อข่าวเปิดเผย และว่า หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เสร็จภารกิจแล้ว กลุ่ม พล.อ.ประวิตร นายเนวิน และนายสุเทพได้พบกับนายอภิสิทธิ์ และคาดว่านายอภิสิทธิ์ ได้รับฟังข้อเสนอที่กลุ่มอำนาจใหม่จนนายอภิสิทธิ์ จะไม่กล้าปฏิเสธ ส่วนพล.ต.อ.พัชรวาท ไม่ได้เข้าร่วมวงต่อรอง แต่ได้มาดักรอพบนายอภิสิทธิ์ ก่อนที่จะกลับ แต่ทั้งสองไม่ได้พูดคุยอะไรกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายอภิสิทธิ์ ได้รับข้อเสนอที่มีข้อแลกเปลี่ยนที่ยากจะทำได้ เพราะหากนายอภิสิทธิ์ ยอมรับข้อเรียกร้องของกลุ่มอำนาจใหม่ เพื่อหวังจะยืดอายุรัฐบาลต่อไป ก็จะทำให้ระบบราชการ และระบบความถูกต้องของประเทศสูญเสียไป จึงคาดว่า นายอภิสิทธิ์ จะต้องคิดหนักกับเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตาม คนใกล้ชิดของนายอภิสทธิ์ บอกว่า นายอภิสิทธิ์คงไม่เลือกที่จะสยบยอมตามเงื่อนตายของกลุ่มอำนาจใหม่ และนายสุเทพ ดังนั้นหากจะต้องยุบสภาเพื่อรักษาระบบความถูกต้องชอบธรรมของประเทศ นายอภิสิทธิ์ ก็จะเลือกที่จะยุบสภาดีกว่าที่จะให้ทำในสิ่งที่ผิด
** “เทือก” โป้ยตอบถูกประวิตรกดดัน
ด้านนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังจากเดินทางกลับจากปฏิบัติราชการที่จังหวัด ปัตตานี ถึงกรณี พล.อ ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ออกมาถามเหตุลการปลด พล.ต.อ.พัชราวาท มีเหตุผลอะไร ว่า ไม่มีอะไร ตนไม่ทราบ เพราะตนเดินทางออกจากกทม.ตั้งแต่เช้ามืด ยังไม่ได้คุยกับพล.อ.ประวิตรเลย
เมื่อถามว่าหากมีการปลด ผบ.ตร.อาจจะสร้างความไม่พอใจให้กับกองทัพ นายสุเทพ กล่าวว่า ตน ไม่ขอออกความเห็น แต่ตนก็ภาวนาให้ทุกอย่างเรียบร้อย เมื่อถามย้ำว่าในระหว่างเดินทางไปพัทยา ได้มีการนั่งรถคันเดียวกันกับนายกรัฐมนตรี ได้มีการหารือในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า ตนได้เรียนให้นายกทราบตามข้อมูลเอกสารหลักฐานสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทีได้รวบรวมมาทั้งหมด และมอบให้นายกฯหมดเรียบร้อยแล้ว ยืนยันตามเอกสาร และไม่มีอะไรเพิ่มเติม
เมื่อถามว่ากรณีปปช.แจ้งข้อหาเพิ่มเติมจะมีผลต่อการปลดผบ.ตร.หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่อง นี้ตนไม่เกี่ยว เพราะเป็นเรื่องของปปช.คิดว่าไม่ใช่เรื่องที่จะเอามามารวมกันได้ ถ้าการปลดผบ.ตร.เป็นประเด็นก็ต้องหลังจากที่ปปช.ชี้มูลความผิดไปแล้ว
เมื่อ ถามขณะนี้ ผบ.ตร.จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนพูดไปมากแล้วเรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับว่าจะเป็นมาตรฐานของพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นมาตรฐานของการปฏิบัติราชการ
**“ประวิตร”ถาม“น้องผิดอะไร”
วันเดียวกันที่กระทรวงกลาโหม พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสการปลด พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ พ้นจากตำแหน่ง ผบ.ตร.ว่า ต้องไปถามนายกรัฐมนตรีและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี แต่อยากเรียนว่า พล.ต.อ. พัชรวาท ผิดอะไร ทั้งนี้ ตนไม่ได้เกี่ยวข้องพูดไม่ได้
เมื่อถามว่า ป.ป.ช.ชี้มูลว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ผิดวินัยร้ายแรงกรณีการสลายม็อบ 7 ตุลาคม พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องว่าไปกันตามกฎหมาย คือต้องถามว่าเขาผิดอะไร ทั้งนี้ คนที่ถูกกล่าวหาต้องไปแก้ข้อกล่าวหา เมื่อถามว่า กรณีที่พาดพิงถึงท่านจะฟ้องร้องทางกฎหมายหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ก็ดูอยู่ หากพาดพิงถึงผมก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย”
ต่อข้อถามว่า เป็นการกลั่นแกล้ง ผบ.ตร. เพื่อพาดพิงให้ถึงตัวท่านหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้และไม่ทราบ อย่านำไปโยง ตนพูดแล้วว่ามาทำงานการเมือง ไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง ซึ่งตนไม่ได้ยึดติดอะไรทั้งสิ้น ตนทำงานให้ประเทศชาติและประชาชน ทั้งนี้ ไม่เคยคิดเป็นนักการเมือง จึงไม่คิดว่าจะมายืนอยู่ตรงนี้
ส่วนกองทัพและรัฐบาลยังมีความสัมพันธ์อันดีอยู่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีอะไรความสัมพันธ์ยังดี กองทัพเป็นกลไกรัฐบาล ไม่มีปัญหา สั่งอย่างไรก็ปฏิบัติตามนั้น ทั้งนี้ กองทัพที่เป็นปึกแผ่นวันนี้ เขาดูแลกันเอง ตนมาดูแลภาพรวม แสดงให้เห็นว่า ผบ.เหล่าทัพ ดูแลกำลังพลให้อยู่ในระเบียบได้ดี
เมื่อถามว่า รัฐบาลเห็นว่ากองทัพเป็นปึกแผ่นมีอำนาจต่อรองจึงต้องทำสลายขั้ว พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า กองทัพเป็นปึกแผ่นดี เพื่อดูแลความสงบดูแลประเทศชาติให้เกิดความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ การที่กองทัพเป็นปึกแผ่นไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากลัวของรัฐบาล เป็นสิ่งที่ดี และประชานก็อาจจะชอบว่ากองทัพมีความเข้มแข็ง