xs
xsm
sm
md
lg

"พัชรวาท"โคม่า"มาร์ค"คิดปลด-"สุเทพ"ยื้อ "ธานี"แฉบัญชีตร.ไส้ศึกคดีสนธิ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกฯเชื่อมือ“ธานี”การันตีทำคดี“สนธิ”ได้ก่อนเกษียณ ลั่นไร้ปัญหามีชื่อ“พ.อ.สุนัย”รับต้องจัดการหากเป็นคนใต้บังคับบัญชา แฉอำนาจโยกย้ายของ"พัชรวาท"ส่งผลทีมทำคดีเกียร์ว่าง เหลือแค่ 5 คน นายกฯตัดสินใจปลด แต่"เทพเทือก"ขอเคลียร์ "ธานี"ถกทีมงานชุดใหญ่ ถามเรียงตัว ใครทำไม่ทำ ก่อนมอบ"อัศวิน"ล่าผู้ต้องหา ลั่นจะไม่ทำให้หมายจับเป็นเพียงแค่เศษกระดาษ ปลัดกลาโหม ยัน พลเอก ป.ไม่เกี่ยวข้อง

วานนี้(22 ก.ค.)นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการรายงานความคืบหน้าคดีลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ภายหลัง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน เข้ารายงานความคืบหน้าเมื่อเวลา 07.30 น.โดยใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในการรายงานผลว่า มารายงานภาพรวม มีความคืบหน้าแต่ยังต้องการบางสิ่งบางอย่างเพิ่มเติม ก็คุยถึงปัญหาอุปสรรค กำลังจะดำเนินการต่อไป  เมื่อถามว่า  พล.ต.อ.ธานี ได้ขอความช่วยเหลือเรื่องอะไรบ้างหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เพื่อให้ได้ระดมทุกฝ่ายให้ทำเรื่องนี้ได้เต็มที่ ส่วนการออกหมายจับนั้นก็เป็นความสะดวกในการจับกุม แต่เจ้าตัวไหวตัวทันก็เป็นปัญหาอยู่

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาการดำเนินการติดตามตัวคนร้ายยังมีอุปสรรคอยู่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า  ในภาพรวมยังมีอุปสรรคหลายจุดที่มีการรายงานมา เมื่อถามอีกว่า  ต้องใช้อำนาจนายกฯ ในตัดสินใจเพื่อคลี่คลายอุปสรรคนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า  มาพูดคุยกัน ตนก็จะสอบถามไป ขณะนี้มีผู้เกี่ยวข้องที่อยู่ในส่วนราชการด้วย เมื่อถามอีกว่า จะขอความร่วมมือประสานงานกับกองทัพในการเรียกตัวผู้ต้องสงสัย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ได้เจาะจงที่หน่วยงาน แต่เจาะจงในแง่การทำงาน บุคคลในทีมที่ทำงานมีปัญหาอะไรบ้าง

ต่อข้อถามว่า จะตัดสินใจเพื่อคลี่คลายได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนมีหน้าที่ในการทำให้คดีนี้มีความก้าวหน้าชัดเจน เรียบร้อยตรงไปตรงมา ส่วนจะยาวนานหรือไม่เพราะ พล.ต.อ.ธานี จะเกษียณแล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่หรอก เพราะได้คุยกันอยู่ พล.ต.อ.ธานี บอกว่าน่าจะทำได้ก่อนเกษียณ  เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการระบุถึงชื่อ พ.อ. สุนัย  ประภูชะเนย์  หัวหน้าฝ่ายเสธ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งนายกรัฐมนตรี เป็นผอ.รมน. จะมีปัญหาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า  ไม่มีปัญหา เพราะได้บอกแล้วว่า หากเกี่ยวข้องกับคนของหน่วยไหน ผู้บังคับบัญชาก็ต้องดำเนินการตรงไปตรงมา  ถ้าเป็นกอ.รมน. ตนก็ต้องดำเนินการ

เมื่อถามว่า มีความกังวลถึงการเข้าไม่ถึงตัวบุคคลที่เกี่ยวข้อง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พล.ต.อ.ธานี ก็มารายงานอุปสรรค เมื่อถามว่าได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบุคคลนี้หรือยังว่า มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ไปลงรายละเอียด เป็นหน้าที่ทางพนักงานสอบสวน เพียงแต่รับทราบในภาพกว้าง ยังไม่สั่งการไปยังกอ.รมน.  ตอนนี้มีแต่คนที่ออกหมายจับไป  ส่วนการขยายผล พล.ต.อ. ธานี บอกว่าจะใช้เวลาอีก 1  สัปดาห์


อำนาจ"พัชรวาท"กระทบคดีสนธิ

นอกจากนั้น ผู้สื่อข่าวยังรายงานถึงเบื้องหลังการเข้ารายงานคดีของ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร.ปรากฎว่า พล.ต.อ.ธานี ได้รายงานถึงอุปสรรคในการคลี่คลายคดี เนื่องจากชุดคลี่คลายคดีมีทีมอยู่หลายสิบคนไม่ว่าจะเป็น พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รองผบก.ศส.บช.น. พ.ต.อ.ขิง แชวงวิเศษชัยชาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม ผกก.สส.บก.น. 1-9 ผกก.ศส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ชนะสงคราม เกียร์ว่างไม่เดินหน้าทำงาน จนทำให้การสะสางคดีเป็นไปอย่างล่าช้า ซึ่ง พล.ต.อ.ธานี ระบุว่าหากการสะสางคดีเป็นลักษณะอย่างนี้ไม่แน่ว่าก่อนเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายน จะสามารถสรุปคดีได้หรือไม่

"มาร์ค"คิดปลด"เทพ"ขอเคลียร์

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ ได้ซักถาม พล.ต.อ.ธานีว่า ทีมทำคดีมีอยู่หลายสิบคนก็ไม่น่าจะเกียร์ว่างกันทั้งหมด ซึ่งพล.ต.อ.ธานี ให้ข้อมูลว่า ทีมคลี่คลายคดีมีหลายสิบคนก็จริง แต่ตอนนี้ทำงานกันแค่ 5 คนเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีกเป็นสิบคนไม่ได้ลุยทำงานกันเต็มที่ นอกจากนั้น ในชุดคลี่คลายคดีมีทีมสืบสวนที่ลงพื้นที่หาหลักฐาน แกะรอยคดีมีอยู่เพียง 2 คนเท่านั้น ซึ่งข้อมูลที่ทำให้ทีมคลี่คลายคดีเกียร์ว่างเนื่องมาจากขณะนี้ใกล้ช่วงแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ ซึ่งอำนาจในการโยกย้ายอยู่ในมือของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ได้รับข้อมูลว่าเหตุผลดังกล่าวทำให้ทีมคลี่คลายคดีส่วนใหญ่หวั่นเกรงว่าจะถูกกลั่นแกล้งโยกย้ายไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ดีและถูกลดชั้น

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ นายอภิสิทธิ์ ได้ตัดสินใจในระดับหนึ่งแล้วว่าจะปลด พล.ต.อ.พัชรวาท ออกจากตำแหน่ง ผบ.ตร.เพื่อให้การทำคดีคลี่คลายไปได้ทันเวลา แต่ติดอยู่ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่เอ่ยปากขอเวลาเคลียร์ปัญหาทุกอย่างก่อนที่ นายอภิสิทธิ์ จะตัดสินใจเรื่องดังกล่าว

"ธานี"เปิดใจคุยทีมทำคดีชุดใหญ่

ต่อมาเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร.เรียกทีมพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าวเข้าประชุมเพื่อสรุปผลความคืบหน้าในการติดตามตัวสองผู้ต้องหาและติดตามผลการทำงาน ซึ่งประกอบด้วย พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พร้อมหัวหน้าชุดในการทำงานจากศส.บช.น. , กก.สส.น.1 และสน.ชนะสงคราม

โดยใช้เวลาการประชุมกว่า 1ชม. ทั้งนี้พนักงานสืบสวนสอบสวนชุดในการทำงานได้ออกมาจากห้องประชุมก่อน เหลือเพียง พล.ต.อ.ธานี พล.ต.ท.อัศวินและพล.ต.ท.วรพงษ์ อยู่ภายในห้องประชุมและพูดคุยกันนานร่วมครึ่ง ชม. ชนิดถามเรียงตัวว่าใคร ยังอยากจะทำคดีต่อไปหรือม่ จากนั้นทั้งสามจึงออกจากห้องประชุมและพล.ต.อ.ธานี ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่รอหน้าห้องประชุมด้วยสีหน้าชื่นมื่น โดย พล.ต.ท.อัศวิน ยืนประกบทางด้านขวา และพล.ต.ท.วรพงษ์ ยืนด้านซ้าย

วัดใจ"อัศวิน"ตามจับผู้ต้องหา

พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า ได้นัดชุดทำงานมาพูดคุยกันว่าจะเดินหน้ากันต่อไปอย่างไร หลังจากที่ได้ออกหมายจับคนร้ายไปแล้วสองคน ซึ่งก็เหมือนว่าทีมทำงานก็เริ่มมานับหนึ่งกันใหม่ โดยคุยกันว่า ติดตามผลว่าที่สั่งการก่อนหน้านี้เป็นยังไง ตั้งแต่นี้เราจะยังไงให้ทำงานกันอย่างรวดเร็ว และหารือกันว่าออกหมายจับไปแล้วมีหลักฐานเพียงพอจะออกหมายจับเพิ่มเติมได้อีกหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้ออกหมายจับใครเพิ่ม รอรวบรวมพยานหลักฐานอยู่

เมื่อถามว่า การหารือกันเพียง 3 คน เป็นการเปิดใจเพื่อเคลียร์ปัญหาตามข่าวที่ออกไปก่อนหน้านี้ว่าชุดทำงานทำตัวเป็นไส้ศึกทำให้คดีไม่คืบหน้าหรือไม่ พล.ต.อ.ธานี กล่าวพร้อมหัวเราะว่า ก็เป็นหารือเรื่องการทำงาน ตนก็ถามทุกคนนะว่าใครทำก็ทำ ไม่อยากทำก็ไม่ทำ ทุกคนก็ตอบว่าสมัครใจทำงานต่อ อย่างไรก็ตามในเรื่องข่าวสารทุกวันนี้มันรวดเร็วมาก ข่าวยิ่งออกมาก ตำรวจก็ยิ่งทำงานลำบาก หลังจากที่มีข่าวเรื่องตรวจหาหลักฐานภายในรถกระบะโตโยต้า วีโก้ ตนก็กำชับเรื่องการให้ข่าวตามสื่อต่าง ๆมาโดยตลอด

พล.ต.อ.ธานี ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมากล่าวว่า การทำงานคดีนี้เจอตอ ว่า ที่ว่าเจอตอนั้น อยากจะบอกว่า การทำงานเรื่องใหญ่ ๆเป็นธรรมดาที่จะต้องเจอปัญหา หรือ อุปสรรค ในเรื่องต่าง ๆไม่ว่าจะเป็นการตามจับตัวผู้ต้องหา ซึ่งเรื่องนี้ก็สั่งการให้ พล.ต.ท.อัศวิน รับผิดชอบไป

ยันค้นรัง"เชษฐา"ทำตามหลักฐาน

เมื่อถามว่า มีปัญหาในการประสานต้นสังกัดของ จ.ส.ต.ปัญญา ศรีเหรา หรือไม่ พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า อย่าไปพูดเลยว่าต้นสังกัด ต้นสังกัดตำรวจก็ไม่เห็นเอาตัวมาเลย ส่วนจะหนีออกนอกประเทศไปหรือยังนั้น คิดว่ายัง เพราะเงินจะใช้ยังไม่มีเลย สำหรับ พ.อ. (ส.) หรือเสธ. ด. ที่ปรากฎชื่อตามสื่อต่าง ๆนั้น เรามีแนวทางการทำงาน ซึ่งต้องดูตามพยานหลักฐาน พร้อมยืนยันว่า แม้จะเหลือเวลาชการอีกเพียง 2 เดือน แต่ก็ไม่เป็นปัญหาในการทำงาน จะไม่ยอมให้หมายจับที่ออกไปนั้นเป็นเพียงแต่เศษกระดาษ และเชื่อว่า ในช่วงเวลาที่ยังเหลืออยู่จะมีความคืบหน้าในคดีอีกแน่นอน

สำหรับเรื่องรถกระบะโตโยต้า วีโก้ จากพยานหลักฐาน พบว่าเป็นรถที่ใช้ก่อเหตุ และเป็นสิทธิ์ของเจ้าของรถที่จะยื่นหนังสือขอรถคืน ส่วนการขอรถยนต์ ทะเบียน สษ 1785 กรุงเทพ ที่เป็นรถราชการของดีเอสไอ มาตรวจสอบนั้น ก็รอดีเอสไอส่งมาให้ตรวจอยู่ ส่วนที่เกรงว่าหากล่าช้าจะมีการทำลายพยานหลักฐานภายในรถ ยอมรับว่ามันช้า อย่างรถวีโก้ก็นานแล้ว แต่ก็ตรวจได้

ส่วนกรณีที่ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีต รมว.กลาโหม ระบุว่า ตำรวจทำไม่เหมาะสมเรื่องการตรวจค้นบริษัทกฤษณาฟ้าสยาม จำกัด อ.เขาสมิง จ.ตราด นั้น พล.ต.อ.ธานี ยืนยันว่า ตำรวจทำตามขั้นตอนตามกฎหมายมาตลอด ที่จริงทีมสืบสวนทราบมาก่อนแล้วว่า หนึ่งในผู้ต้องหาทำงานอยู่ในบริษัทดังกล่าว แต่ตำรวจยึดหลักกฎหหมาย ต้องขอหมายจับก่อน จึงจะขอหมายค้นไปตรวจสอบได้

ปัด พลเอก ป.ไม่เกี่ยวข้อง

พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ตำรวจ ออกมาเปิดเผยอักษร พลเอก ป. อยู่เบื้องหลังในการลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ว่าจริง ๆแล้วเป็นเรื่องที่พิสูจน์ทราบไม่ได้ เพียงแต่ จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา เป็นกำลังพลของกองทัพ และถูกขอตัวมาช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ซึ่งทางแม่ทัพภาคที่ 4 ก็ได้ชี้แจงไปแล้ว ว่าขณะนี้ จ.ส.อ.ปัญญา ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ แต่หากเจอตัวก็จะจับกุมให้ ตำรวจดำเนินการทันที ส่วนรายละเอียดต้องเป็นเรื่องผลการสอบสวนของตำรวจ มากกว่า สิ่งที่เขาเปิดเผยอาจจะเพื่อเบี่ยงประเด็นอะไรก็แล้วเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่าความไม่ชัดเจนของตำรวจ และรีบออกมาเปิดเผยชื่อ เพราะ พลเอก ป. ที่มีความเชื่อมโยงกับนักการเมือง ทหาร และ ตำรวจ โดยเฉพาะการพุ่งเป้า ไปที่ตัวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า เราคุยกันตลอด ทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือบุคคลที่มีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้อง จะเป็น อักษร ป. อย่างที่จะพยายามคาดเดาว่าโยงไปถึง โดยผมยืนยันว่า บุคคลที่ถูกพาดพิงทั้งหลายไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เมื่อถามถึงมีข่าวว่า พ.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ไม่มีอะไร ถ้ามีการพาดพิงไปถึง และมีหลักฐานไปถึงก็สามารถดำเนินการได้

ยธ.ไฟเขียวสอบการใช้รถ ดีเอสไอ

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า พนักงานสอบสวนทำหนังสือขอตรวจสอบรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน สศ 1785 กทม. มีจุดประสงค์เพื่อต้องการหาหลักฐานบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับคดี ซึ่งสมมติมีใครเบิกรถยนต์ไปใช้ก็ต้องมีบันทึกที่ตรวจสอบได้ ซึ่งตนให้นโยบายไปว่าดีเอสไอจะต้องให้ความร่วมมือทุกอย่าง ดังนั้น ทางพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีนี้สามารถเดินทางไปตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆที่ดีเอสไอได้ทันที ไม่จำเป็นต้องรอให้ระยะเวลานานออกไป

“ตำรวจต้องการหลักฐานบางอย่างเกี่ยวกับการเบิกใช้รถยนต์ ซึ่งเป็นการตรวจสอบการกระทำของบุคคลคนนั้น ไม่ได้มาตรวจสอบองค์กร หรือหมายความว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษจะทำผิดไปด้วย จึงให้เดินทางมาได้เลย ไม่ต้องรอ ต้องการหลักฐานอะไรก็ให้บอกมา ถือว่าเป็นการตรวจสอบร่วมกัน หลังจากนั้น หากพนักงานสอบสวนต้องการอะไรเพิ่มเติม ก็สามารถประสานอีกครั้งได้”

รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีสั่งให้อธิบดีดีเอสไอรายงานข้อเท็จจริงการปฏิบัติงานของ ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ สังกัด บช.ปส.ช่วยราชการดีเอสไอ รวมถึงการเบิกใช้เครื่องมืออุปกรณ์ของดีเอสไอว่า ตนให้ระยะเวลาจนถึง 31 ก.ค.นี้ ขณะนี้อธิบดีดีเอสไอ ยังไม่ได้ทำหนังสือรายงานมา

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ อธิบดีดีเอสไอ เคยรายงานให้ตนทราบด้วยวาจาแล้ว แต่เห็นว่าเรื่องนี้เป็นคดีสำคัญ การเบิกใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ทุกชนิดต้องมีระเบียบการใช้ที่ถูกต้อง ชัดเจนจึงให้ทำรายงานข้อเท็จจริงอีกครั้ง

"รัศมี"มอบทนายขอวีโก้คืน

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายครรชิต เกิดจรัญ ทนายความนายสมนึก ทับโชติ บิดาของ น.ส.รัศมี เมฆชัย ซึ่งเป็นเจ้าของรถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีเปลือกมังคุด หมายเลขทะเบียน บธ 1474 ลพบุรี ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นรถที่กลุ่มคนร้ายใช้เป็นพาหนะในคดียิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้เดินทางมายังสำนักงาน พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. เพื่อยื่นหนังสือขอนำรถยนต์คันดังกล่าวคืน โดยมี พล.ต.ต.สมวุฒิ วรรณพิรุณ ผบก.ประจำสำนักงาน พล.ต.อ.ธานี เป็นผู้รับหนังสือแทน

นายครรชิต กล่าวว่า ตนเป็นตัวแทนของนายสมนึก ยื่นเอกสารขอรถยนต์คันดังกล่าวคืน โดยก่อนหน้านี้ที่มีเจ้าหน้าที่มาขอความร่วมมือตรวจสอบรถ นายสมนึก ได้ให้ความร่วมมือกับเหน้าที่ตำรวจในการให้ปากคำตามความจริง ส่วนรถที่ได้ตรวจยึดไว้เพื่อตรวจหาร่องรอยพยานหลักฐานในทางคดี ซึ่งนายสมนึก ได้ทราบว่าการตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวได้เสร็จสิ้นแล้ว แต่ยังไม่ส่งมอบคืนรถจึงทำให้นายสมนึกได้รับความเดือดร้อนมาก เพราะมีรถเพียงคันเดียว และไม่สามารถนำรถยนต์มาใช้ประโยชน์ประกอบอาชีพได้ตามปกติ โดยเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ส่งรถคืนภายใน 3 วัน ตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ หากเลยจากกำหนดแล้วจะคิดค่าเสียหายวันละ 2,000 บาท ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ต้องการตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวอีกเมื่อไหร่ นายสมนึกก็พร้อมจะให้ตรวจสอบทุกเมื่อ.
กำลังโหลดความคิดเห็น