xs
xsm
sm
md
lg

"บุญจง"ทวงงบอปท.ปี53 ขู่"มาร์ค"พังเพราะขัดรธน.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.) ครั้งที่ 4/2552 ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยเฉพาะวาระการพิจารณาการขอจัดสรรงบประมาณอดหนุนของอปท. ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 ที่จะได้รับเงินอุหนุน136,700 ล้านบาท รวมกับรายได้ที่ อปท.จัดเก็บ 201,000 ล้านบาท รวมเป็น 337,800 ล้านบาท
ทั้งนี้ได้มีการพิจารณาหนังสือแถลงการณ์ของ 3 องค์กร อปท. ประกอบด้วย สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย ตามที่นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย เสนอตามแถลงการณ์ เรื่อง “การจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ปี 53 ให้แก่ อปท.” ระบุว่า
รัฐบาลได้ลดเงินอุดหนุนที่ได้จัดสรรให้ อปท.จาก 104,000 ล้านบาทในปี 52 เหลือ 74,000 ล้านบาทในปี 53 และสำหรับเงินอุดหนุนทั่วไป ตามอำนาจหน้าที่ถ่ายโอนเลือกทำ ก็ลดลงจาก 57,000 ล้านบาทในปี 52 เหลือ 29,000 ล้านบาทในปี 53 และรัฐบาลยังเอาโครงการที่เป็นนโยบายรัฐ ทั้งโครงการหลักประกันผู้สูงอายุ โครงการเรียนฟรี 15 ปี และโครงการจ่ายเบี้ยยังชีพให้ อสม. โดยเป็นการใช้งบประมาณในสัดส่วนของ อปท.อีก รวมทั้งโครงการอื่นตามมติ ครม.ที่มีของรัฐบาลมาใช้งบประมาณในสัดส่วนของ อปท. ทำให้มีผลต่อการลงทุน และความอิสระของอปท.

**"มาร์ค"บ่นเงินหมดให้รองบปี 54
ทั้งนี้ ทำให้สัดส่วนรายได้ของ อปท.ต่อรายได้สุทธิของรัฐบาลปีงบ 53 ในอัตราร้อยละ25.02 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ต่ำกว่าในปี 52 ที่กำหนดไว้ร้อยละ 25.80 เป็นการดำเนินการที่อาจขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญปี 50 และพ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจแก่ อปท.ปี 42 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.49 ซึ่งมีเจตนารมณ์ให้กระจายอำนาจแก่ อปท.เพิ่มขึ้น และอาจส่งผลต่อความชอบธรรมด้วยกฎหมายของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 53
โดยขอให้รัฐบาลทบทวนปรับวงเงินเพิ่ม วงเงินอุดหนุนทั่วไปตามหน้าที่และการถ่ายโอนให้ไม่น้อยกว่าเดิม 57,000 ล้านบาท และเอาโครงการที่เป็นนโยบายรัฐ ที่ใช้งบในสัดส่วน อปท. รวมทั้งโครงการอื่นตามติ ครม.ที่เป็นนโยบายของรัฐบาลให้ไปใช้งบกลาง หรือเงินกู้ของรัฐบาล หรืองบประมาณอื่นๆ
"นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ขณะนี้ต้องยอมรับว่ารัฐบาลไม่สามารถที่จะจัดสรรงบประมาณให้กับ อปท. ตามที่ทั้ง 3 สมาคมเรียกร้องให้มีการเพิ่มงบประมาณปี 53 ได้ เพราะหากจะให้เพิ่มงบประมาณอีก ก็อาจจะต้องไปเพิ่มงบในปี 54 อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้อาจจะต้องไปหารือในขั้นกรรมาธิการงบประมาณ 53" นายกรัฐมนตรีกล่าว

**สนับสนุน อบจ.สูงสุดไม่เกินร้อยละ10
แหล่งข่าวกล่าวว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบการสนับสนุนงบประมาณให้ อปท. ให้แก่หน่วยงานต่างๆ โดยขอบเขตที่จะสนับสนุนจะเน้นภารกิจด้านการศึกษา และหรือสาธารณสุข ทั้งนี้หากต้องการรับการสนับสนุน อปท.นั้นๆจะต้องเสนอความเห็นมายังคณะกรรมการบริหารการถ่ายโอน บุคลากร และงบประมาณให้แก่ อปท.ระดับจังหวัด เพื่อเสนอวินิจฉัยโดยคณะกรรมการเฉพาะพื้นที่
โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) จะได้รับการสนับสนุนไม่เกินร้อยละ10 ของรายได้ไม่รวมค่าอุดหนุน เทศบาลขนาดใหญ่จะสนับสนุนงบประมาณได้ไม่เกินร้อยละ 2 ของรายได้ไม่รวมค่าอุดหนุน เทศบาลขนาดกลางและขนาดเล็ก จะได้รับการสนับสนุนงบประมาณไม่เกินร้อยละ3 ของรายได้ไม่รวมค่าอุดหนุน ขณะที่องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) จะได้รับการสนับสนุนงบประมาณไม่เกินร้อยละ 5 ของรายได้ไม่รวมเงินอุดหนุน
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นให้เสนอคณะกรรมการบริหารการถ่ายโอนภารกิจ บุคลากร และงบประมาณให้แก่ อปท.ระดับจังหวัดให้มีลักษณะไตรภาคีในสัดส่วนเท่าๆกัน และเพิ่มอำนาจหน้าที่วินิจฉัยสนับสนุนงบของ อปท.ที่นอกเหนือของเขตงานที่กำหนด

**สั่งศึกษาควบรวมกม.แจกเงินผู้สูงอายุ
แหล่งข่าวแจ้งว่า ขณะที่แนวทางพัฒนาระบบการสงเคราะห์ผู้สูงอายุ โดยเฉพาะการให้ยกร่างแนวทางของมหาดไทย และสำนักนายกรัฐมนตรีให้เป็นฉบับเดียวกัน เพื่อสงเคราะห์เงินช่วยเหลือผู้สูงอายุ รายละ 500 บาทต่อเดือน นายกฯยังไม่เห็นชอบโดยขอให้ฝ่ายเลขาฯไปศึกษาเพื่อดำเนินการ
ทั้งนี้การจ่ายค่าเบี้ยยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุ มีอยู่ 2 รูปแบบ ได้แก่ 1.รูปแบบของกระทรวงมหาดไทย จ่ายให้กับผู้สูงอยุที่มีฐานะยากจน หรือขาดผู้อุปการะ จะได้รับการสงเคราะห์เบี้ยยังชีพอย่างน้อยในอัตราคนละ 500 บาทต่อเดือน
2.รูปแบบตามโครงการหลักประกันรายได้ผู้สูงอายุของรัฐบาลที่จะจ่ายค่ายังชีพรายละ 500 บาทต่อเดือน แต่เกิดปัญหาที่ อปท.บางแห่งต้องใช้เงินรายได้จ่ายค่าสมทบเพิ่มเพื่อครอบคลุจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น เช่น บางแห่งจ่ายเพิ่มในอัตราคนละ 1,000 บาท บางแห่งจ่ายทุกเดือน บางแห่งจ่ายราย 3 เดือน 6 เดือน เป็นต้น
ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ปี 53 กำหนดโครงการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไว้ที่ 29,582,950,000 บาท โดยมีผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนไว้ 4,930,491 คน แต่รัฐบาลไม่ได้ตั้งงบประมาณในสัดส่วนที่ลงทะเบียนกับ อปท. เพื่อจ่ายสมทบให้ผู้สูงอายุจำนวน 513,919 คน ทำให้ท้องถิ่นต้องแบกภาระ
ที่ประชุมยังได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ กำหนดขอบเขตอำนาจหน้าที่และความสัมพันธ์ในการจัดบริการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยมี ศ.ชาติชาย ณ เชียงใหม่ เป็นประธาน
ขณะที่กรมสรรพากร ได้แจ้งการถอนคืนเงินรายได้แผ่นดินประเภทภาษีมูลค่าเพิ่มเพื่อโอนให้กระทรวงมหาดไทย นำไปจัดสรรให้ อปท. สำหรับบประมาณปี 52 งวดที่ 3 วงเงิน 7,1610 ล้านบาท โดยมีเงินที่ อปท.สะสมไว้ 24,620 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น