xs
xsm
sm
md
lg

สภาพัฒน์ฯขออีก 1 เดือน ศึกษาเช่า-ซื้อรถเมล์NGV

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - สภาพัฒน์ฯ ถกรับข้อมูลรถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคันฉาว เล็งขอครม.ขยายเวลาศึกษาการเช่า-ซื้อต่ออีก 1 เดือน เผยเตรียมสรุปข้อมูลเข้าบอร์ดสัปดาห์หน้า ขณะที่เปิดรับฟังความคิดเห็นตัวแทนกลุ่มต่างๆ รุมอัดเละควรทบทวนรถเช่าใหม่ แถมประฌามนักการเมืองทำโครงการไม่เคยเห็นหัวเอกชน หวั่นเส้นทางเดินรถทับซ้อนรถร่วม แนะควรทำด้วยความรอบคอบ ขณะที่ภาคประชาชนเห็นว่า ไม่โปร่งใส ส่วน ผอ.ขสมก.วอนขอความเห็นใจ ย้ำรับไม่ได้กับการถูกตั้งข้อหาโกง

วานนี้ (23 มิ.ย.)นายอำพล กิตติอำพล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าเตรียมที่จะสรุปข้อมูลรายละเอียดของโครงการเช่ารถเมล์เอ็น4,000 คน เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ สศช. แต่หากทางคณะกรรมการเห็นว่า ข้อมูลยังไม่มีความชัดเจนทางสภาพัฒน์คงต้องขอให้ทางคณะรัฐมนตรีมีมติขยายเวลาการศึกษาโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันนี้ ออกไปอีกในระยะเวลา 30 วัน ทั้งนี้เพื่อให้การพิจารณาของทางคณะกรรมการเป็นไปด้วยความรอบคอบและทุกฝ่ายยอมรับ
ทั้งนี้ การดำเนินโครงการไม่ได้พิจารณาจากข้อเสนอของกระทรวงคมนาคมเป็นที่ตั้ง แต่จะดูถึงการดำเนินการของ ขสมก.แบบยั่งยืน ซึ่งจะบูรณาการถึงการบริการภาคประชาชนในระยะ 5-10 ปีข้างหน้า โดยจะดูรวมไปถึงการบริการระบบขนส่งมวลชนทั้งระบบไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าเส้นทาง ใหม่ การบริการของรถร่วมบริการ การเดินทางเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างกันทั้งเรือโดยสารและระบบอื่น ๆ รวมถึงความคุ้มค่าเชิงเศรษฐกิจ
“หากการพิจารณา 30 วัน ตามมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดให้ สศช.ไม่เพียงพอ ก็จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีขอขยายระยะเวลาออกไปอีก โดยขอยืนยันว่าจะพิจารณาบนพื้นฐานที่เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ”นายอำพนกล่าว
อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางสภาพัฒน์กำลังอยู่ในช่วงของการศึกษาโครงสร้างการบริหารในระบบขนส่งมวลชนทั้งหมด ซึ่งยังไม่มีการลงในรายละเอียดความเหมาะสมของงบประมาณโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน แต่อย่างใด

**โวย!รถเมล์ฉบับ“ซาเล้ง”ไม่เอื้อคนพิการ
วันเดียวกันที่โรงแรมปริ๊น พาเลซ สภาพัฒน์ฯได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นเรื่องแผนปรับปรุงการบริหารจัดการและ บริการของระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้จัดรับฟังความคิดเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจกรณีโครงการเช่ารถ เมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ของ ขสมก. โดยที่ประชุมมีตัวแทนจากหลายภาคส่วนเข้าร่วม เช่น ตัวแทนคนพิการ ตัวแทนสมาคมรถร่วม ขสมก. ตัวแทนสหภาพแรงงาน ขสมก. และภาคประชาชน
นายอำพน กล่าวว่า ได้รับขอข้อมูลจาก ขสมก. และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม ใน 4-5 เรื่อง จำนวน 300 หน้า โดยจะนำมาวิเคราะห์หากจะมีการเช่า รถ 4 พันคันกับให้รถร่วม ขสมก. จำนวน 1,888 คันมาเข้าโครงการจะออกมารูปแบบใด โดยจะประมวลเสนอบอร์ดสัปดาห์หน้า และหากไม่สามารถดำเนินการแล้วเสร็จ ก็จะเสนอต่อ ครม.เพื่อขยายอายุการพิจารณางาน เพื่อความเหมาะสม
นายอาคม เติมวิทยาไพรัฐ รองเลขาฯ สศช. กล่าวว่า ข้อมูลที่กระทรวงคมนาคม ส่งมาเช่น กรณีระบบรถไฟฟ้าที่หากดำเนินการก่อสร้างเสร็จสิ้น ปริมาณผู้ใช้จะเพิ่มเป็น 9% ต่อปีทำให้พ.ศ. 2565 อัตราการเพิ่มจะเป็น 50% และประชาชนจะเดินทางกับระบบรถไฟฟ้ามากขึ้น ดังนั้นเหตุผลที่ว่าคือ จะทำให้ระบบการเดินทางครอบคลุมมากขึ้น ขณะที่การใช้รถโดยสารประจำทางสาธารณะ จะมีบทบาทน้อยลงไปตามลำดับ เมื่อรถไฟฟ้าดำเนินไปอย่างทั่วถึง
ทั้งนี้ ขสมก. รายงานว่า ปี 2551 มีประชาชนเดินทางจำนวน 6,228 คนต่อเที่ยวต่อวัน ดังนั้นคาดว่าปี 2556 จะมีประชาชนเดินทางจำนวน 6,702 คนต่อเที่ยวต่อวัน คือจะลดลงถึง 50% ขณะที่ปี 2555 ถึงปี 2565 ผู้โดยสารก็จะลดลง ขณะเดียวกันที่ผ่านมาเส้นทางเดินรถก็ลดลงปีละ 1 เส้นทาง ขณะที่รถร่วม และรถตู้ร่วมบริการมีอัตราการโดยสารเฉลี่ยมากขึ้นปีละ 8 เส้นทาง
สำหรับการระดมความเห็น ได้มีการแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย ส่วนใหญ่เห็นว่า ควรทบทวนโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน เนื่องจากเห็นว่าอาจจะไม่คุ้มทุนค่าเช่า ค่าซ่อมบำรุงสูงกว่ามาตรฐาน
ขณะที่ตัวแทนคนพิการหลายองค์กร เห็นสอดคล้องกันว่า รถเมล์ไม่มีสเป๊กสำหรับคนพิการ เช่น รถที่จัดเพื่อคนพิการบนเส้นทางจำนวน 1 คันต่อเส้นทาง ใน 145 เส้นทางนั้น ยังเป็นประเด็นที่ตัวแทนคนพิการติดใจ เพราะรถเมล์ยังมีความสำคัญในการเดินของคนพิการ ขณะที่ตัวแทนคนพิการยังติดใจว่า ได้มีการวิเคราะห์ปริมาณที่เหมาะสมกับการลงทุนหรือรองรับความต้องการใช้รถในอีก 10 ปี รวมทั้งประสิทธิภาพในการให้บริการ และเชิงกายภาพตัวรถ ซึ่งหน้าที่ของรัฐในการอำนวยความสะดวกไม่ใช้ให้ผู้พิการเท่านั้น แต่ขณะนี้ประเทศกำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอขอภาคเอกชนจัดทำรถเพื่อคนพิการแทนรถ ขสมก.เพื่อเป็นต้นแบบด้วย

**เอกชนทั้งขานรับ-คัดค้าน จี้ทับซ้อนรถร่วม
นายฉัตรชัย ชัยวิเศษ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชน กล่าวว่า ตนคัดค้านในประเด็นที่รัฐจะเพิ่มรถใน 145 เส้นทาง แต่ไม่ได้ค้านที่จะให้โครงการเกิด เนื่องจากไม่เคยได้รับการชี้แจงอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะเส้นทางใหม่ทั้ง 145 เส้นทางที่ทับซ้อนเส้นทางของรถร่วมบริการถึงร้อยละ 80 เพราะปัจจุบัน ขสมก.มี112 เส้นทาง รถร่วมเอกชน มี 109 เส้นทาง ดังนั้นอยากให้สภาพัฒน์ไปพิจารณา อย่าเร่งดำเนินการ ขอให้ทำอย่างรัดกุม ถ้าเร่งทำเชื่อว่าภาคเอกชนจะย่ำแย่ขสมก.จะถึงคราวอวสาน นอกจากนี้ ภาคเอกชนก็เพิ่งจะรับทราบจากรักษาการผอ.ขสมก.คนใหม่ ว่า บอร์ดสภาพัฒน์ขอรับมาทำใน 1 เดือน เป็นเรื่องที่ภาคเอกชนไม่รู้เรื่องเลย
นายบรรยงค์ อัมพรตระกูล ประธานชมรมผู้ประกอบการรถร่วม กล่าวว่า เสนอยกเลิกมติ ครม.สมัยนายสมัคร สุนทรเวช เพราะโครงการรถเมล์นั้นถูกต่อรองกันถึง 4 ครั้ง ผอ.ขสมก.คนเก่าก็ออก ไปแล้ว หวังว่วา ผอ.คนใหม่ จะกระชับงานมากกว่านี้ โดยเฉพาะประเด็น 145 เส้นทาง ที่ขสมก. จะมีรายได้ 6 พันบาทต่อวันต่อคัน หากเอา 4 พันบาทต่อวันคันของรถร่วมจำนวน 1.8 คันมารวมด้วย แต่ตรงนี้ภาคเอกชนที่ต้นทุนต่ำกว่าอยู่แล้ว แต่รัฐบาลไหนมาก็ไปหาเสียงเพื่อกดราคาตั๋ว

**ประณาม “นักกินเมือง”ทำโครงการเมินเอกชน
นายธวัชชัย ตั้งสง่า ผู้บริหารบริษัทลาดกระบังขนส่ง กล่าวว่า ตนสนับสนุนให้รัฐจัดทำโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน อย่างไรก็ตาม เห็นว่า หากนำมาวิ่งในลักษณะตีเส้น 145 เส้นทาง และเชื่อมโยงกับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ จะเหมาะสมกว่า แต่น่าเสียดายที่ผู้คิดไม่ได้คิดในองค์รวม ว่าจะคิดในองค์รวมกับเอกชนอย่างไร ถ้าเอาผู้ประกอบการเข้ามาบริหารตั้งแต่ต้น เชื่อว่ารัฐบาลชุดนั้นจะถือว่าเป็นรัฐบุรุษของรัฐบาลนั้น ขณะที่การจัดทำทีโออาร์ ของ ขสมก. ที่ทำกัน 11 ครั้ง ก็เป็นการกระบวนการที่ทำเสร็จไปแล้ว และการรับฟังความเห็นเชื่อว่ามีข้อเสนอที่ดีมาก แต่ภาครัฐฟังเขาหรือไม่ ดังนั้นถ้ารัฐฟังคงจะผ่านไปเรียบร้อยแล้ว
“แต่ผมขอประณาม ทั้งนักการเมือง คนที่คิดโครงการนี้ขึ้นมา เพราะว่า ไม่ได้คิดถึงผู้ประกอบการเอกชน เพราะเอกชนเขาจะมีทั้งส่วนดีและส่วนเสีย แต่นัการเมืองกับคนคิดโครงการ กลับไม่มีคุณธรรม ขาดความยุติธรรม ซึ่งเป็นที่น่าเสียดาย เพราะเรื่องนี้เป็นการทำงานเพื่อสังคม จึงจะต้องตะหนักในเรื่องนี้”นายธวัชชัยกล่าว

**ภาคประชาชน ค้านหัวชนฝาตั๋ว 30 บาท
ด้านนายบุญชัย รุ่งเรืองไพศาลสุข ประธานเครือข่ายคัดค้านการขึ้นค่าโดยสารสาธารณะ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับโครงการเช่ารถเมล์ 4 พันตัน เพราะเห็นว่าปัจจุบัน ขสมก.ขาดทุนหลายหมื่นล้านบาท และยังมีปัญหาความไม่โปร่งใสในการดำเนินการ ขณะเดียวกันเห็นว่า รถเมล์ที่ยังมีอยู่ สามารถนำมาพัฒนาได้ ดังนั้นคนเป็นสหภาพฯต้องปกป้องผลประโยชน์ตัวเอง เนื่องจาก ขสมก.ขาดทุน ต้องไปดูว่าจะแก้ให้เลือดหยุดไหลอย่างไร ขณะที่ฐานข้อมูลที่เอามาทำก็เป็นฐานข้อมูลเก่า ๆ เป็นฐานข้อมูลที่ผิด ไร้ประสิทธิภาพสิ้นเชิง
“ผมคุยกับผู้ใหญ่ หลายคนเสนอให้รถเมลล์ ไม่ต้องติดไฟแดง และเห็นว่า หากรัฐยังคงเดินหน้าค่าโดยสาร 30 บาททั้งวัน โครงการนี้จะล้มแน่นอน ขอให้เห็นใจคนจน เพราะคนใช้ไม่ได้คิด คนคิดไม่ได้ใช้ และหากไม่คอรัปชั่นประชาชนก็พร้อมจะสนับสนุน เพราะข้อมูลที่มีการฟ้องร้องในศาลปกครอง ยังมีอยู่ ขออย่าโกหกประชาชน”
ขณะที่นายสนาน บุญงอก ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ขสมก. กล่าวแสดงความไม่พอใจต่อประเด็นนี้เป็นอย่างมาก โดยเห็นว่า สหภาพฯปกป้องผลประโยชน์มาตลอด และเห็นว่า เราจะใช้ฐานเดิมมาเถียงกันไปทำไม ขอให้พูดบนพื้นฐานความถูกต้อง แต่ติดอยู่กับโจทย์ที่ ครม.ให้มาตนไม่เห็นด้วย เพราะจะไปกระทบกับรถร่วม เพราะถ้าโปร่งใสการได้มาจะถือว่าง่าย ดังนั้นกรณีนี้หากนำไปคุยกันใหม่อีกครี่งปี ค่อยกลับมาคุยกันใหม่จะดีกว่า เขายังเห็นว่า รถเมล์ 4 พันคัน จำเป็นต้องนำมาใช้ และยืนยันว่า การดำเนินโครงการ ขสมก.ควรเป็นผู้ซื้อหรือเช่าซื้อรถเมล์แทนระบบเช่า โดยกระทรวงการคลังควรจะเป็นผู้ค้ำประกันการดำเนินการ ทางการเงิน เบื้องต้นอาจจะมีการซื้อหรือเช่าซื้อ 2,000 คันก่อน

**ขสมก. ขอความเมตตารับไม่ได้ข้อหาโกง
นายโอภาส เพชรมุณี บอร์ดและรักษาการผอ.ขสมก. คนใหม่ กล่าวว่า รับไม่ได้ที่จะมากล่าวหาว่า ใครโกง หรือ ขสมก.โกงเราไม่ได้ เราไม่ได้ต้องการให้มาชนะคะคานกัน และไม่ได้ คิดว่าจะมาโกง แต่ยอมรับว่า ขสมก.ขาดทุนมาตลอดจากนโยบายรัฐที่ผ่านมาที่ไม่ให้ขึ้นค่าโดยสารและเอาเส้นดีๆแยกไปให้เอกชนs,f
ทั้งนี้ เห็นว่า ข้อเท็จจริงถ้าไม่เช่า ขสมก.จะขาดทุน เพราะบังเอิญเงินเดือนพนักงานก็ยังคงที่ การเดินรถก็วิ่งได้น้อยลง โดยเฉพาะหากยังมีเออร์รี่ รีไทร์ ขสมก.ก็จะมีปัญหา ขณะที่เส้นทางวิ่ง 145 เส้นทาง เป็นส่วนที่ยังไม่ได้กำหนด คาดว่าจะมีการปฏิรูปเส้นทางกันใหม่ เช่นเพื่อให้เชื่อมกับระบบรางทั้งระบบ
“ที่เสนอให้เช่า เพราะเราสำเนียก เนื่องจากรัฐไม่มีเงิน เหมือนกับ ขสมก.เช่า จะต้องเอาเงิน มาวางมัดจำวันละ 4 หมื่นบาทต่อวัน ตรงนี้ขอให้มาช่วยกันคิดว่า เรา(ขสมก.)ทำผิดตรงไหน ขอให้ทุกท่านเมตตาเรา เพราะ ถ้าจะซื้อรถที่วิ่งวัน เสาร์หรืออาทิตย์ เราก็ต้องรับภาระ หากเป็นรถเอ็นจีวี ที่จะใช้เงิน 60-70% เราจะใช้ถึง 3-4พันบาทต่อวัน ดีกว่าปล่อยรถว่างไว้ หรืออย่างโครงการไหว้พระ 9 วัด ที่เราจัดก็เพื่อเป็นรายได้เข้า ขสมก.ก็โดนด่าหาว่าหาประโยชน์เข้าตัว”
นายโอภาส กล่าวว่า สิ่งที่เราเช่า ทั้งหมดนี้เรามีนโยบายที่จะให้ภาค เอกชนสามารถบรรจุรถร่วมบริการได้ โดยจะหารืออีกครั้งในอนาคต นอกจากนี้ยังจะทำแบบสอบถาม จำนวน 1 แสนชุดเพื่อให้ผู้นั่งรถเมล์ กรอกแบบสอบถามในเบื้องตันส่งมายัง ขสมก.
กำลังโหลดความคิดเห็น