xs
xsm
sm
md
lg

แก๊งห้อยไม่เห็นหัวนายกฯขู่รถเมล์ล่มขสมก.เจ๊งแสนล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ใครกล้าขวางเพื่อนเนวินจะเอารถเมล์ ล่าสุดส่ง “ปิยะพันธ์ จัมปาสุต” ประธานบอร์ด ขสมก. ขู่นายกฯ หากขวางต้องรับผิดชอบ ขสมก.เป็นหนี้สะสมถึงแสนล้านบาทแน่ๆ อ้างค่าเช่ายุค "ซาเล้ง" ถูกว่า "เฮียเพ้ง" "ชวรัตน์-บุญจง" ดันสุดลิ่ม อ้างประชาชนได้ประโยชน์ ตั้งป้อมถ้าถูกล้มโครงการฯ ต้องมีเหตุผล คลังร่วมเบรกชี้ดอกเบี้ยแพงเกิน "สุเทพ" โยนให้ ครม.พิจารณา พร้อมปัดดึง ขสมก.ให้ กทม.ทำ "สาทิตย์" เผยแกนนำ 2 พรรคพูดคุยทำความเข้าใจกันแล้ว เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา เชื่อมีทางออกสำหรับเรื่องนี้

ภายหลังจากที่หลายฝ่ายคัดค้านโครงการรถเช่าเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน เพราะมีกลิ่นทุจริตและไม่เห็นความจำเป็นเร่งด่วน รวมทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้แสดงท่าทีชัดเจนในการท้วงติงปรากฏว่า วานนี้ (1 มิ.ย.) นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานคณะกรรมการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพื่อเปิดให้ซักถามถึงปัญหาโครงการดังกล่าว
นายปิยะพันธ์แถลงยืนยันว่าการจัดเช่ารถเมล์NGVถือเป็นแนวทางที่ดีที่สุด จำเป็นต่อการฟื้นฟูสถานะของ ขสมก.ที่ขณะนี้ขาดทุนถึง 6,000 ล้านบาท และจะมีผลขาดทุนสะสมมากกว่า 100,000 ล้านบาทในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านอกจากนี้ การจัดเช่ารถทำให้องค์กรไม่ต้องแบกรับภาระค่าซ่อมบำรุง ตลอดอายุ 10 ปีของสัญญา แต่การจัดซื้อจะมีหลักประกันซ่อมบำรุงเพียง 3 ปีแรก

"หากนายกรัฐมนตรี ต้องการให้มีการศึกษาแนวทางการจัดซื้อรถเมล์ควบคู่ไปกับการเช่า ก็เห็นด้วย หรือหาก กทม.จะรับองค์กรของ ขสมก.ไปจัดการดูแล ก็จะเป็นการดี แต่ห่วงเรื่องประสบการณ์การเดินรถถ้าหากท้ายที่สุดรัฐบาลเห็นว่าไม่ควรดำเนินโครงการนี้ รัฐบาลก็จะเป็นผู้รับผิดชอบต่อประชาชน เพราะในฐานะคนทำงาน ประธานบอร์ด ขสมก. ผมได้แสดงความพยายาม และทำงานอย่างเต็มที่แล้ว หากรัฐบาลไม่ทำ ก็คงต้องไปหาทางทำให้ ขสมก.เลิกขาดทุนเอง”

นายปิยะพันธ์ยืนยันว่า ตัวเลขที่มีการเช่ารถ 4,657 บาท/คัน/วัน เป็นราคาที่เหมาะสม ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า ค่าซ่อมบำรุงต่อ กม.ของโครงการ ที่ 7.50 บาท/กม.แพงไปนั้น เรื่องนี้ อยากให้พรรคประชาธิปัตย์ไปตรวจสอบย้อนหลังดู อย่างโครงการรถบีอาร์ทีของกรุงเทพมหานคร ที่พรรคประชาธิปัตย์กำกับดูแล จัดซื้อรถคันละ 7 ล้านบาท มีค่าเหมาซ่อม อีก 1.6 ล้านบาท/คัน เป็นการจ่ายค่าซ่อมล่วงหน้า 3 ปี ซึ่งเรื่องนี้อยากให้ไปพิสูจน์ดูว่า ทำได้หรือไม่ และค่าซ่อมแพงไปหรือเปล่า

นอกจากนี้หากเปรียบเทียบราคาในอดีตถึงปัจจุบันแล้ว ในปี 2549 ช่วงที่นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีการเนอราคาค่ารถ 8 ล้านบาท โดยในขณะนี้ภายหลังากนายโสภณ ซารัมย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกรทรวงคมนาคม ค่ารถก็ได้มีการลดลงมาเหลือ 5 ล้านบาทต่อคัน แล้วที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าแพงไปนั้นคืออะไร

“ตัวเลขค่ารถที่ปรับลดลงมา ากจะมีนโยบายให้มีกรปรับลงอีกหรือไม่ ก็สามารถปรับลงได้แต่ก็ปรับลดคุณสมบัติบางอย่างออกไป ซึ่งที่ผ่านมาในเรื่องของอัราค่าซ่อมบำรุงที่นเสนอไป 7.50 บาทต่อกิโลมตร ให้ครม.พิจารณานั้น เป็นอัตราที่เหมาสมแล้ว เพราะราคาที่ถาบันพระปกเหล้าศึการาคามาที่ 4.50 บาทต่อิโลเมตร เป็นการนำอะไหล่เก่ามาทำใหม่ เครื่องยนต์ก็เป็นมือ 2 ถึงไม่มีความปลอดภัย และไม่คุ้มทุน”

นายปิยะพันธ์กล่าวว่า ขณะนี้ประเด็นทั้งหมดเป็นกระแสข่าวว่าเป็นประเด็นการเมืองหรือไม่นั้น ส่วนตัวก็คงไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นประเด็นทางการเมืองมาเกี่ยวข้องหรือไม่แต่ในหลายๆ ประเด็นที่ถูกนำเสนอไปแล้วกลายเป็นประเด็นทางการเมือง

“ขอให้อย่ามองว่าค่ารถที่แพงด้วยวามรู้สึก หรือหมั่นไส้ ต้องดูด้วยเหตุด้วยผล และโครงการก็ไมใช่การขายฝันว่า ขสมก.จะหมดหนี้หรือไม่ เพราะมันทำได้อย่างแน่นอน ” นายปิยะพันธ์กล่าว

***ถ้าเลื่อนเข้า ครม.ต้องมีเหตุผลที่ฟังได้
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย แกนนำพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน ที่ นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม แกนนำพรรคภูมิใจไทย เตรียมผลักดันเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งที่มีเสียงคัดค้านจำนวนมากว่า โครงการเช่ารถเมล์ 4,000 คัน นายโสภณ ซารัมย์ ได้เสนอเข้าที่ประชุม ครม.ไปแล้ว ดังนั้น เรื่องนี้จะต้องเข้าที่ประชุม ครม.วันที่ 3 มิ.ย.นี้ เพราะถือว่า รมว.คมนาคมได้ทำหน้าที่แล้ว เมื่อถามว่าหากรัฐบาลไม่ยอมนำเรื่องนี้เข้า ครม. พรรคภูมิไจไทยจะทำอย่างไร นายบุญจงกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ต้องรอให้ถึงเวลานั้นก่อน ต้องดูความเหมาะสมก่อน ถ้าพบการฮั้วกัน ก็ไม่ยอม แต่ถ้าฝ่ายประชาธิปัตย์คัดค้าน ก็ต้องมีเหตุผลที่รับได้ ต้องดูเจตนาของโครงการ ที่ประชาชนต้องการใช้บริการขนส่งมวลชน ส่วนกรณีที่หากพรรคร่วมรัฐบาลไม่สนับสนุนและค้านด้วยเสียงโหวตในสภานั้น ยังไม่ทราบ ยืนยันว่า ถ้ามีทุจริตก็พร้อมจะเลิกโครงการ

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า โครงการเช่ารถเมล์ที่สังคมกังขา รมว.คมนาคมจะต้องชี้แจงต่อสาธารณชน ส่วนการที่พรรคภูมิใจไทยยืนยันจะเดินหน้าโครงการ ก็ต้องขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี เพราะช่วงนี้ท่านคงมีภารกิจมาก

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคภูมิใจไทย ยอมให้มีการเลื่อนเข้าครม.ได้ใช่หรือไม่ นายชวรัตน์ ตอบว่า ไม่เลื่อนจะดีกว่า เพราะประชาชนจะเดือดร้อน หากมีรถเมล์จาก โครงการนี้ใช้ประชาชนจะได้ขึ้นรถเมล์ในราคา 30 บาทต่อวัน และทุกสายที่ร่วมโครงการ ( E ticket ) จะถูกกว่าต้องขึ้นรถเมล์เป็นระยะๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีเสียงวิจารณ์ว่าค่าเช่ารถเมล์แพงกว่าการซื้อ เหตุใดจึงเลือก วิธีเช่า นายชวรัตน์ กล่าวว่า เป็นการตั้งราคากลางขึ้นมา เพื่อให้บริษัทเอกชนได้ประมูล ซึ่งมีการตั้งราคาไว้สูง เพื่อเปิดโอกาสให้มีการแข่งขัน แต่บริษัทที่จะได้งาน ก็คือคนที่เสนอราคาต่ำที่สุดในการประมูล แต่หากมีข้อสงสัยเรื่องการฮั้วประมูล ก็ต้องชี้แจง และหากพบว่า เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นจริง สามารถยกเลิกโครงการได้ เพราะรัฐบาลมีอำนาจอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม งบประมาณที่ใช้ไม่ใช่งบประมาณของรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีสัญญาณว่าจะมีการฮั้วประมูล เนื่องจากมีรถเมล์จำนวนหนึ่ง มาจอดรอไว้แล้ว นายชวรัตน์ ตอบว่า ถือเป็นการแข่งขัน เอกชนก็ได้งาน รัฐก็ได้ประโยชน์ ดังนั้นเรื่องนี้ก็วินวิน ส่วนการฮั้วประมูลนั้น ตนไม่ทราบ เพราะยังไม่เกิดขึ้น

***การเมืองเก่า!ยื่นหมูยื่นแมว
นายชวรัตน์ ยังกล่าวถึงความขัดแย้งเรื่องโครงการให้เกษตรกรเช่าที่ดิน ของนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ที่ถูก นายศักดิ์ สยามชิดชอบ ประธานคณะทำงาน รมว.มหาดไทย คัดค้านว่า เรื่องนี้ นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลย์วุฒิ อธิบดีกรมที่ดิน ได้มาชี้แจงรายละเอียดกับตนแล้ว ซึ่งเป็นโครงการเดิม ที่เริ่มเข้าสู่ ครม.ตั้งแต่ปี 2547 และจะอนุมัติให้เช่าในปี 2552ไม่ใช่โครงการที่เพิ่งเริ่มในสมัยรัฐบาลนี้ ซึ่งที่ดินส่วนใหญ่ อยู่ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เงื่อนไขการเช่าในสัญญาเป็นเวลา 5 ปี อัตราการเช่าตารางวาละ 10 บาท และยืนยันว่า ไม่พบการเอื้อประโยชน์ให้นายทุน ซึ่งเหตุผลที่นายศักดิ์สยาม ออกมาแสดงความเห็นตนมองว่า ไม่ใช่การขัดขา นายถาวร เสนเนียม ในฐานะกำกับดูแลกรมที่ดิน ส่วนที่มีข่าวว่าตนอาจนำกรมที่ดินกลับมาดูเองนั้น ไม่มี คงเป็นการถามนำ และเรื่องนี้ไม่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างพรรคภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์แน่นอน

ต่อข้อถามว่านายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ระบุว่าจะผลักดันให้บรรจุ เรื่องนี้เข้าที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์นี้ นายชวรัตน์ตอบว่า กระทรวงคมนาคม เป็นเจ้าของเรื่อง แต่หาก ครม.ไม่อนุมัติ หรือมีการเลื่อนเวลา ก็จะต้องมีเหตุผล ที่จะอธิบายว่าเพราะอะไร
ส่วนเหตุผลอะไรที่จะรับไม่ได้ นายชวรัตน์กล่าวว่า ถึงเวลาก็จะรู้เอง เมื่อถามอีกว่าจะถือว่าเป็นการต่อรองที่พรรคภูมิใจไทย อาจไม่ยกมือในการผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 หรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ต้องมองโลกในแง่ดี จะทำอะไรก็ต้องมีเหตุผล

ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องนี้ถือเป็นการยื่นหมูยื่นแมวกับพรรคประชาธิปัตย์ที่จะดำเนินโครงการให้เกษตรกรเช่าที่ดินหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ไม่ใช่ยื่นหมูยื่นแมว เพราะเรื่องที่ดิน เป็นนโยบายมาตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และได้ดำเนินการไปแล้ว

ส่วนกรณีคนของพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภา ที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแสดงการคัดค้านอย่างหนัก นายชวรัตน์ ตอบว่า ท่านคงมีเหตุผล ต้องไปถามว่ามีเหตุผลอะไร เมื่อถามอีกว่า ความสัมพันธ์กับพรรคประชาธิปัตย์ขณะนี้เป็นอย่างไร หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยตอบว่า รักกันดี จูบปากกันทุกวัน

***โสภณลั่นดันเข้า ครม.พรุ่งนี้
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า วันที่ 3 มิถุนายนนี้ ยังยืนยันนำเรื่องโครงการเช่ารถเมล์ NGV 4 พันคัน เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามที่ ครม.ได้เคยตั้งเวลา 2 สัปดาห์ในการทบทวนโครงการ ทั้งนี้แม้ ครม.จะไม่อนุมัติโครงการก็ยอมรับได้แต่ต้องการให้ทุกฝ่ายยอมรับว่า โครงการดังกล่าวจะเป็นการช่วยฟื้นฟู ขสมก. ที่ขณะนี้มีปัญหาหนี้สินอยู่เป็นจำนวนมาก

***สหภาพฯ หวั่นตกงานขอพบ "โสภณ"
นายสนาน บุญงอก ประธานสหภาพรัฐวิสาหกิจขสมก. กล่าวว่า สหภาพฯ มีความกังวลว่าโครงการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อพนักงานของ ขสมก. เนื่องจากการใช้ระบบตั๋วโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ จะทำให้พนักงานกว่า 1 หมื่นคนต้องตกงาน ดังนั้นในวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านาจึงขอเข้าพบรมว.คมนาคม เพื่อชี้แจงถึงผกระทบดังกล่าว ว่ารัฐบาลจะมีการช่วยเหลือย่างไร

***เทพเทือกเลือกโยน ครม.ตัดสิน
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่าการระบายข้าวไม่มีปัญหาอะไรใน ครม. ไม่มีการโต้กันไปมาเมื่อใน ครม.มีความเห็นไม่ตรงกันก็ต้องตั้งคณะกรรมการฯเข้ามาดูดพคุยแก้ปัญหา โดยตนก็ได้รับมอบหมายให้จัดการเรื่องนี้ และที่เราได้พูดคุยกันแล้ว ทุกอย่างก็ลงตัวดี ไม่ได้โต้อะไรกันเลย
สำหรับโครงการเช่ารถเมล์ 4 พันคันที่มีการเสนอว่าให้กทม.เข้ามาดำเนินการ กิจการ ขสมก. มีการพูดประเด็นนี้หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า บังเอิญตนไม่ได้ยินที่ประธานวุฒิสภาให้ความเห็นเรื่องนี้ จึงไม่กล้าวิจารณ์

จริงๆ แล้วเรื่องเช่ารถเมล์ยังไม่ได้สรุปอะไรสักอย่าง เพียงแต่ว่าเมื่อกระทรวงคมนาคมซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลกิจการ ขสมก. เขาเห็นปัญหาของขสมก. ที่ขาดทุนทุกวันและมีหนี้สินจำนวนมาก และมีหน้าที่ต้องให้บริการประชาชน ทั้งรถเมล์ฟรี รถเมล์จ่ายเงิน เขาก็ต้องการแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้น โครงการนี้ ทำต่อเนื่องกันมาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว โดยหันมาใช้วิธีการเช่าซื้อ โดยไม่ต้องเอาเงินสด ไปลงทุน โดยเห็นว่าสามารถบริหารจัดการได้ ให้ได้รถดี มีคุณภาพและมีกำไรขึ้น และเมื่อมาถึงรัฐบาลชุดนี้ ได้มีข้อท้วงติงหลายประการที่ให้เขาไปปรับปรุงแก้ไข และมาถึงวันนี้ยังไม่ได้มีการตกลงใจอะไรอย่างที่เป็นข่าวทั้งสิ้นใน ครม.ส่วนเมื่อมาถึงขณะนี้กระทรวงคมนาคมจะไปพิจารณาอย่างไรก็เป็นหน้าที่ของเขา เมื่อทบทวนโครงการเสร็จสิ้น ก็ต้องเสนอมาให้ครม.พิจารณาตัดสินใจต่อไป เวลานี้เรื่องยังมาไม่ถึงครม.

***ปัด ปชป.หนุนโอน ขสมก.ให้ กทม.
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีมีเสียงคัดค้านการเช่าซื้อรถเมล์4 พันคันมากเพื่อให้รัฐบาลอยู่ได้ยาว รัฐบาลควรยอมถอยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ขอยืนยันว่ายังไม่มีเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับการทุจริตใดๆ ทั้งสิ้น และในฐานะตนเป็นผู้ประสานงานเรื่องนี้ ไม่ใช่เป็นผู้ปฏิบัติงานแทนกระทรวงต่างๆ ดังนั้นแนวนโยบายและข้อคิดเห็นต่างๆ ต้องให้ทางกระทรวงเป็นผู้เสนอขึ้นมา ตนคงไม่เสนออะไรแทนกระทรวงทั้งหลาย แต่หน้าที่ของตนต้องทำให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องต่อกัน ส่วนการเข้าใจ ที่ถูกต้องจะเห็นด้วยกันหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ต่อข้อถามว่าเรื่องรถเมล์เป็นเกมที่พรรคประชาธิปัตย์จะดึงไปให้กทม. ทำเอง หรือไม่ เพราะเป็นพวกเดียวกัน นายสุเทพกล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก็จริงแต่จะไปเล่นเกมตามเสียงเชียร์คงไม่ได้ พรรคประชาธิปัตย์ต้องทำหน้าที่ เป็นแกนกลางให้ดีที่สุดและไม่คิดว่าคนของประชาธิปัตย์จะไปดึงงานของใครมาทำเอง เราคงไม่ทำหรอกแต่การที่มีคนออกมาแสดงความคิดเห็นเป็นเรื่องปกติ เราก็ต้องฟังทุกฝ่าย

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์มีแนวคิดจะเอาเรื่องนี้มาให้กทม.รับผิดชอบหรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเรื่องของรัฐบาลและจะได้ข้อสรุปโดยเร็วเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับกระทรวงคมนาคมทำเสร็จ เสนอครม. พิจารณาเมื่อไหร่ แล้วเมื่อ ครม.พิจารณาแล้วจะจบหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุมครม. ซึ่งมีทุกฝ่ายทุกพรรคอยู่ในนั้นอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า โครงการนี้หากมีอะไรที่ส่อไปในทางทุจริตจะระงับหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ขอดูก่อน ตนคงไม่ไปพูดอะไรล่วงหน้า เพราะพูดไม่ได้

***สาทิตย์เผย 2 พรรคได้ทางออกแล้ว
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคภูมิใจไทยทั้งในเรื่องการระบายสินค้าเกษตร และโครงการเช่ารถเมล์ 4 พันคันว่า ความไม่เข้าใจกันในเชิงนโยบายต้องยอมรับว่า เป็นเรื่องที่ต้องคุยกัน กรณีรถเมล์ที่เป็นกระแสตอนนี้ก็ต้องคุยกัน เข้าใจว่า เมื่อวันที่ 31 พ.ค. แกนนำได้มีการประสานพูดคุยกันแล้วคิดว่าคงทำความเข้าใจกันได้และมีทางออกในเรื่องนี้ และเรื่องนี้ต้องทำให้คนเกิดความมั่นใจว่าเชิงนโยบายบจะเดินหน้าอย่างไรและมีข้อกังวนที่เกิดขึ้นทั้งภาคประชาชนและภาคอื่นจะชี้แจงอย่างไร เชื่อว่าที่สุดจะมีทางออกและสามารถชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจได้

ส่วนที่แกนนำพรรคภูมิใจไทยยื่นคำขาดหากโครงการเช่ารถเมล์ 4 พันคันไม่ผ่านจะถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล นายสาทิตย์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มีการยื่นคำขาดใดๆ เพราะเวลาทำงานเป็นพรรคร่วมด้วยกันทุกคนรับทรายกันว่าต้องรับผิดชอบร่วมกัน

นายสาทิตย์ ยังเชื่อว่าปัญหานี้จะไม่ส่งผลกระทบกับเสถียรภาพรัฐบาล เราต้องมองเป้าร่วมกันเป็นรัฐบาลต้องรับผิดชอบร่วมกันและแก้ไขปัญหาให้ประชาชนเกิดคสามเชื่อมั่นได้

ผู้สื่อข่าวถามว่ามองอย่างไรที่มีเสียงวิจารณ์ว่า เมื่อศึกนอกเบาก็เปิดศึดในกันเอง นายสาทิตย์ กล่าวว่า รัฐบาลผสมทุกยุคทุกสมัยอาจจะมีบางเรื่องที่เห็นไม่ตรงกัน รัฐบาลเสียงข้างมากเด็ดขาดอย่างสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังมีปัญหาเกาเหลาข้างในนับประสาอะไรกับพรรคร่วมมันต้องมีบ้าง แต่ทั้งหมดต้องโปร่งใส มันอยู่ภายใต้การตรวจสอบของสื่อมวลชนของประชาชนอยู่แล้ว หากโครงการใด เขาสงสัยว่ามีข้อขัดแย้งกันก็ต้องชี้แจงให้ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลผสมจะถูกมองสมประโยชน์หรือเปล่าในเรื่องของที่ดินกับรถเมล์ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ทุกเรื่องต้องทำให้โปร่งใสชี้แจงประชาชนได้ จึงสร้างความเชื่อมั่นได้

***เชื่อมือประสานรัฐบาลเคลียร์ใจได้
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าประชาชนเบื่อหน่ายความขัดแย้งของรัฐบาลและการทุจริตคอรัปชั่นว่า การเมืองในอดีตที่ผ่านมา ทั้งสองเรื่องเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยงแปลงทางการเมืองมากที่สุด แต่เชื่อว่ารัฐบาลนี้รู้จุดอ่อนและปัญหาดังกล่าว แต่เชื่อว่าขณะนี้รัฐบาลยังมีเสถียรภาพมั่นคงอยู่ ยังไม่มีรอยร้าวหรือมีปรากฏการณ์ให้เห็นความแตกแยก เพราะนายกฯ เป็นผู้นำที่มีเหตุผลมีความเป็นธรรมกับทุกพรรคร่วมรัฐบาล ประกอบกับเป็นคนสุภาพ เรียร้อบร้อยรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาล เรื่อความแตกแยกไม่น่าจะเกิดขึ้นกับรัฐบาล
นอกจากนี้ เรายังมีผู้จัดการรัฐบาลที่เป็นมือประสานและได้รับความเชื่อถือ จากพรรคร่วมรัฐบาล เป็นนักการเมืองที่ทำงานการเมืองอย่างตรงไปตรงมา ข่าวความขัดแย้งที่อาจจะมีการปล่อยออกมาก็ไม่น่าจะเกิดขึ้น ส่วนปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นนั้น ถ้าดูจากประวัติของนายกฯที่เป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ใสสะอาด สามารถที่จะตรวจสอบได้ว่าไม่มีเรื่องด่างพร้อยหรือทุจริต ตนเขื่อว่าบุคลิกของนายกฯจะสามารถ นำพาและแก้ปัญหาคอรัปชั่นได้ หากหัวไม่ส่าย ก็หวังว่าหางคงไม่กระดิก เชื่อว่ารัฐบาลจะพยายามให้ทุกโครงการมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ คำว่าบุฟเฟต์คาบิเนต หรือฟาสต์ฟูดส์ที่พรรคเพื่อไทยพูดนั้น“ยืนยันว่า ไม่มีเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน

แต่อยากถามว่าบุฟเฟต์คาบิเนตหรือฟาสต์ฟูดส์หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "แดกด่วน" นั้น เกิดขึ้นในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใช่หรือไม่ ถ้าประเทศไทยและรัฐบาลนี้ได้รับโอกาสระยะหนึ่ง เชื่อว่ารัฐบาลจะกอบกู้เกียรติภูมิของประเทศในเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นดีขึ้นอย่างแน่นอน

***“สุขุมพันธุ์” ลั่นพร้อมคุม ขสมก.
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงกรณีการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ที่มีสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เสนอว่าให้รัฐบาลโอนเรื่องดังกล่าวให้กทม. ดูแล เนื่องจากเป็นมหานครที่ต้องรับผิดชอบการจราจรทั้งระบบ ว่า หากรัฐบาลโอนภารกิจดังกล่าวให้กทม. ดูแล กทม.ก็มีศักยภาพพอ และพร้อมที่จะเข้าไปบริหารจัดการให้ แต่ไม่ขอรับโอนความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในรัฐบาล อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ได้มีการหารือเรื่องดังกล่าวกับทางแกนนำรัฐบาลภายในพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ทั้งนี้หากมีการหารือ และรัฐบาลเห็นด้วยที่จะโอนการบริหารรถเมล์เช่ามาให้ ก็ควรที่จะโอนองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) มาให้กทม.ดูแลด้วย ซึ่งก็จะต้องมีการทำข้อตกลงกัน อาทิ กทม.รับงานบริหาร แต่รัฐบาลส่วนกลางต้องจัดการบริหารหนี้ของ ขสมก. ที่มีกว่า 70,000 ล้านบาท

“หากกทม.ได้ ขสมก. มาอยู่ในความดูแล จะเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างมาก เพราะการวางระบบจราจรนั้นต้องทำให้สัมพันธ์กับระบบขนส่งมวลชนที่มีอยู่ในปัจจุบัน อาทิ รถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดิน และรถบีอาร์ทีที่กทม. ได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว ดังนั้นการจัดรถโดยสารประจำทางเข้าไปวิ่งในเส้นทางก็ต้องคำนึงถึงความคุ้มทุน คุ้มค่า ประชาชนได้ประโยชน์”

***อนุ กมธ.สอบเตือนอย่าดันทุรัง
นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ รองประธานกรรมการการมีส่วนร่วมของประชาชน อนุกรรมาธิการตรวจสอบโครงการของรัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจ ออกมาแสดงความไม่พอใจ ที่โครงการเช่ารถเมล์ 4 พันคัน เกิดความล่าช้าในการพิจารณาของ ครม.ว่า อยากถามว่าประชาชนคนไหนร้องเรียนว่า โครงการดังกล่าวเกิดความล่าช้า ยังไม่เห็นมีประชาชนคนไหนออกมาพูดบอกว่า เราต้องการโครงการดังกล่าว ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกใจ เพราะยังไม่เห็นว่ามีประชาชนคนไหนที่เดือดร้อนจากความล่าช้าของโครงการ

"อยากขอร้องให้เห็นแก่ประเทศชาติบ้าง ในภาวะที่บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ ยังดันทุรังผลักดันโครงการดังกล่าว ไม่อย่างนั้นประชาชนทั้งประเทศจะคลางแคลงใจ วอนคิดให้รอบคอบไม่อย่างนั้นการบริหาราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดนี้จะสะดุดได้ หากยังเดินหน้า วุฒิสภาก็จะเดินหน้าตรวจสอบเหมือนกัน และเชื่อว่าไม่ใช่ในสภาเท่านั้น นอกสภาก็จะตรวจสอบเหมือนกัน" นางนฤมลกล่าว

***"เพื่อไทย" ร้องประชาชนจับตา
นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวถึงโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ของกระทรวงคมนาคม ว่า ขอให้ประชาชนร่วมกันจับตาดูโครงการนี้ ว่าจะผ่านความเห็นชอบของครม.หรือไม่ เพราะหากผ่านไปได้ ก็คงต้องถามว่า ในสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก่อนจะเป็นนายกรัฐมนตรี รวมทั้งส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจ และคัดค้านโครงการนี้มาแล้ว โดยระบุว่า มีผลประโยชน์คันละหลายล้านบาท ดังนั้นเมื่อเป็นรัฐบาลแล้วมาตรฐานจะอยู่ที่ไหน เชื่อว่าสังคมกำลังจับตาดูว่า จะเอื้อประโยชน์ให้ประชาชนหรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือไม่ เพราะถือว่าเป็นอภิมหาโคตรโกง ไม่ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ไปกู้เงินทำให้ประชาชนต้องแบกภาระ เชื่อว่าคนทั้งประเทศคงยอมรับไม่ได้ และจะเป็นจุดตายของรัฐบาลนี้ด้วย

***คลังร่วมเบรกชี้ดอกเบี้ยแพงเกิน
นายอารีพงศ์ ภูชะอุ่ม ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า สคร.อยู่ระหว่างทำหนังสือแสดงความคิดเห็นประกอบโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ซึ่งหลังจากหารือกับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยแล้วเห็นว่า อัตราดอกเบี้ยควรจะอยู่ที่ 6% เพราะถือว่าเป็นโครงการของรัฐบาล ซึ่งเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 5-7% ขณะที่คมนาคมเสนอมาที่ 9% นั้นเห็นว่าสูงเกินไป
“สคร.หารือกับทางคมนาคมเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ก็ได้ข้อสรุปในส่วนของราคากลางแล้ว เพื่อที่จะเป็นราคาในการเปิดประมูล รวมถึงค่าซ่อมต่างๆ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทำหนังสือความคิดเห็นอย่างเป็นทางการ เพราะยังไม่ชัดเจนว่า คมนามคมจะเสนอเรื่องดังกล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 3 พฤษภาคมนี้หรือไม่ แต่ได้กำชับไปว่า จะต้องเตรียมพร้อมในการตอบคำถามต่างๆให้ได้ รวมถึงให้ชี้แจงแผนที่ชัดเจนในส่วนรายได้ที่จะเกิดจากโครงการดังกล่าวให้ชัดเจนด้วย” นายอารีพงศ์กล่าว

***หม่อมอุ๋ยยุมาร์คล้มโครงการ
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำกลุ่มรักษ์เมืองไทย กล่าวว่า ทางกลุ่มรักษ์เมืองไทยดีใจที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมาขัดขวางการเช่ารถเมล์ 4000 คัน เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่อง ที่อยู่ในใจของคนไทยที่ติดตามเรื่องนี้ โดยเชื่อว่ามีผลประโยชน์แน่นอน เพราะตัวเลขสูงมากและมีการปรับลดลงง่ายๆ และจากข้อมูลเชิงลึกที่ทางกลุ่มทราบมีความชัดเจนว่าเป็นเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ของกลุ่มนักการเมือง ซึ่งคนไทยอึดอัดเรื่องนี้มานานมากและรู้สึกว่าไม่เห็นมีผู้นำคนไหนมาหยุดเรื่องนี้ได้เลย ดังนั้นการที่นายกฯออกมาขวางแบบนี้และสามารถขวางได้สำเร็จจริงๆจะทำให้ขวัญและกำลังใจของคนไทยดีขึ้น

"อยากให้นายกฯยกเลิกโครงการนี้ไปเลย เพราะอะไรที่ทำไปแล้วคนสงสัยและมีข้อมูลชัดว่ามีผลประโยชน์แอบแฝง ถ้านายกฯไม่ขวางและไม่หยุดโครงการนี้ไว้ คนก็จะหมดหวังนายกฯแน่นอน จึงขอให้นายกฯทำให้สุดไปเลย ยกเลิกไปเลย เพราะโครงการแบบนี้ทำใหม่ก็ได้แต่อย่าให้เห็นชัดว่ามีผลประโยชน์ซ่อนเร้นแบบนี้ นายกฯอย่าทำให้ประชาชนท้อเพราะคนกำลังในระยะที่เศรษฐกิจเป็นแบบนี้ ประชาชนต้องการผู้นำที่ดีและกล้าหาญ ผมย้ำว่าถ้ารัฐบาลจะต้องไป หรือจะต้องหลุด แต่ถ้าเป็นไปเพื่อความถูกต้องก็ต้องทำ และเชื่อว่าถ้าทำถูกต้องไม่มีทางหลุดแน่นอน"

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า แม้ว่าทางกระทรวงคมนาคมจะผลักดันเรื่องดังกล่าวเข้าไปในการประชุม ครม.วันที่ 3 มิ.ย. นี้เชื่อว่าจะไม่เป็นผล เพราะประเด็นอยู่ที่นายกฯ เมื่อเข้าไปได้ก็ต้องถอนออกได้ ถ้านายกฯมีความแน่วแน่ และยึดหลักรักษาความถูกต้องเหนือสิ่งอื่นใด เชื่อว่านายกฯจะขัดขวางโครงการเช่ารถเมล์นี้ ได้สำเร็จ ส่วนเรื่องพรรคภูมิใจไทยจะตีรวนหรือถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาลนั้น ขอให้นายกฯอย่าไปคิดเรื่องนี้ เพราะถ้าคิดว่าได้ทำเพื่อความถูกต้องเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ ทำไปเลย อย่าไปกลัว เพราะความดีจะเป็นเกราะป้องกันและกระแสประชาชนจะสนับสนุนนายกฯเอง

***รถร่วมสบช่องขอขึ้นค่าโดยสาร 1-2 บ.
นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ) ในฐานะรักษาการผ้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่าสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชน ผู้ประกอบการรร่วม ขสมก. ได้ยื่นหนังสือขอปรับขึ้นขึ้นค่าโดยสาร รถปรับอากาศ 2 บาทตามระยะทาง และ 1 บาท สำหรับรถร้อน โดยอ้างว่าราคาน้ำมันได้ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 24.59 บาทแล้ว และขอยกเว้นค่าตอบแทนส่วนแบ่งรายได้ที่ต้องจ่ายใหกับ ขสมก.เป็นระยะเวลา 3 ปีแบ่งเป็นรถร้อน 35 บาทต่อคันต่อวัน และรถแอร์ 60 บาทต่อคันต่ออัน อย่างไรก็ตามในวันที่ 2 มิถุนายนนี้จะมีการหารือร่วมกับผู้ประกอบการอีกครั้งเพื่อพิจารณาว่าควรจะปรับเพิ่มค่าโดยสารให้หรือไม่

“ยืนยันว่าจะไม่ปรับขึ้นค่าโดยสารให้กับรถร่วม ขสมก.แน่นอน เนื่องจากราคาน้ำมันยังอยู่ที่ 24 บาทกว่าเท่านั้นยังไม่ถึงฐานที่กำหนดไว้คือราคาต้องปรับเพิ่มขึ้น 3 บาท หรือต้อง 27 บาทกว่าจึงจะมีการพิจารณา" นายชัยรัตน์กล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น