ยอมตายไม่ยอมเสียรถเมล์! “ซาเล้ง” พล่านหนัก บุกกระทุ้ง “เทพเทือก” ทวงสัญญาเก่า แค่พยักหน้าช่วยเข็นรถเมล์ 4 พันคัน ยันปรับลดราคาเช่าเหลือแค่ 6.49 หมื่นล้าน พร้อมปรับเงื่อไขใหม่ ดบ.จูงใจสุดๆ โวยเสียงค้านต้องมีคำตอบว่าค้านทำไม ลั่นหากไม่ผ่าน ครม.ต้องมีคำตอบ “ชวรัตน์” ลุ้นตัวโก่ง พร้อมทำใจ หากพรรค ภท.ต้องทานแห้ว
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการเข้าชี้แจง โครงการเช่ารถเมล์ NGV จำนวน 4,000 คัน ต่อ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า ตนเองได้ชี้แจงรายละเอียดของโครงการทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าจะมีการนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้หรือไม่ ซึ่งตนเองมั่นใจว่า สามารถชี้แจงให้ผ่านได้
นายโสภณ ระบุว่า ข้อมูลเช่ารถเมล์ 4 พันคัน ที่ตนเองนำเสนอในครั้งนี้ ได้มีการปรับลดราคาลง จากค่าเช่าทั้งหมด เหลือเพียง 64,885 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเหลือเพียง ร้อยละ 67.25 เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม นายโสภณ ยังได้เรียกร้องให้ ผู้คัดค้านโครงการ ช่วยเสนอแนะ ข้อคิดเห็นเรื่องที่จะมาปรับปรุง พร้อมยืนยัน โครงการนี้ หากไม่ผ่านรัฐบาล ต้องชี้แจงเหตุผลที่ชัดเจน แต่โครงการนี้จะผ่านหรือไม่นั้น ก็ยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยก็จะร่วมเป็นพรรครัฐบาล ต่อไป
สำหรับประเด็นที่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จำนวน 40 คน ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิกโครงการ โดยขู่ว่าจะไม่ให้ พ.ร.ก.กู้เงิน 400,000 ล้าน ผ่านการพิจารณา หาก ครม.สนับสนุนโครงการเช่ารถเมล์นั้น รมว.คมนาคม มองว่า คงจะต้องดูเหตุผลที่แท้จริง แต่หากว่า ส.ว.จะมีการตรวจสอบตนก็ยินดี
ก่อนหน้านี้ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการผลักดันโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน เข้าที่ประชุม ครม.พรุ่งนี้ ได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม ครม.หรือไม่ พร้อมยืนยันว่า รมว.คมนาคม มีความพร้อมที่จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม ครม.ตลอดเวลา เพราะเคยนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมแล้ว และเชื่อว่า นายโสภณ สามารถชี้แจงได้ ส่วนจะต้องมีการติวเข้มเรื่องการชี้แจง ครม.ให้กับ นายโสภณ ก่อนหรือไม่นั้น ตนคิดว่า นายโสภณ เป็นเจ้าของเรื่องน่าจะรู้ดีที่สุด ถ้าหากชี้แจงไม่ได้เราก็ช่วยอะไรไม่ได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีหลายฝ่ายออกมาทักท้วงโครงการดังกล่าว ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล ทางภูมิใจไทยจะนำโครงการดังกล่าวมาทบทวนหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ต้องดูว่าโครงการขนส่งมวลชนดังกล่าวมีความจำเป็นต่อประชาชนหรือไม่ ขณะนี้มีประชาชนที่ใช้บริการขนส่งมวลชนจำนวนหลายล้านคน ดังนั้น เราก็จำเป็นต้องให้บริการ อย่างไรก็ตาม หากโครงการดังกล่าวผ่านที่ประชุม ครม.ก็ต้องเปลี่ยนการจำหน่ายตั๋วโดยสารมาเป็นระบบ e-ticket เนื่องจากเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนพนักงานเก็บค่าโดยสาร ซึ่งจะทำให้พนักงานเก็บค่าโดยสารต้องหางานใหม่ แต่เราต้องให้เงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน
นายชวรัตน์ ระบุว่า โครงการดังกล่าว กลุ่มของตนเองได้เสนอมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช โดยแรกเริ่มโครงการ ได้ตั้งจำนวนรถเมล์เอาไว้ที่ 6 พันคัน พร้อมทั้งให้ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ มาเป็นประธานพิจารณาเรื่องนี้หลายครั้ง แต่ตนไม่ได้ร่วมประชุมด้วย จึงไม่ทราบว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร จนกระทั่งมีรัฐบาลชุดใหม่แล้วมีคนของพรรคภูมิใจไทย เป็นเจ้ากระทรวง ก็ทำให้ราคาค่าเช่ารถเมล์จากเดิมที่ตั้งไว้คันละ 8 ล้านบาท ลดเหลือคันละ 5 ล้านบาท
“คงต้องถือว่า โครงการรถเมล์ขณะนี้ ถือเป็นเรื่องสมเหตุสมผลแล้ว ผมคงไม่อยากจะวิจารณ์เรื่องนี้ว่าเป็นเหตุผลทางการเมืองหรือไม่ เพราะผมเองเป็นหัวหน้าพรรค ไม่อยากไปแตะเรื่องนี้เพราะมันละเอียดอ่อน เพราะถ้าวิจารณ์ไปอาจจะเป็นเรื่องทะเลาะกัน”
เมื่อถามว่า หากนายกฯ ไม่นำโครงการดังกล่าวเข้าที่ประชุม ครม.จะเป็นสัญญาณความขัดแย้งระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคภูมิใจไทย หรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า นายกฯ ต้องมีเหตุผล เมื่อถามว่า หากยกเหตุผลเรื่องการทุจริต นายชวรัตน์ กล่าวว่า เราก็ต้องมีวิธีที่ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าโปร่งใส ซึ่งอาจจ้างบุคคลที่ 3 มาทำแผนความเป็นไปได้ของโครงการ
เมื่อถามว่า ยังมีการมองว่า พรรคภูมิใจไทย พยายามผลักดันโครงการดังกล่าว เพื่อต้องการหาเงินทุนสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป นายชวรัตน์ กล่าวว่า ทำให้ประชาชน ไม่ได้ทำให้พรรค เพราะขณะนี้มีคนบริจาคเงินให้พรรคสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าอยู่แล้ว อีกทั้งการใช้จ่ายของพรรคยังมีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คอยควบคุมดูแลอยู่แล้ว