“ศุภชัย” ยันรถเมล์ NGV โปร่งใส เป็นประโยชน์สำหรับคนกรุง รับขาดการสื่อสารให้เข้าใจ เร่งเดินหน้าแจงประชาชน หวังปูฐานเสียงคนกรุง แต่ดันเบรกแตก จวก ส.ส.เพื่อไทย-ส.ว.ไม่รู้จักหน้าที่ตัวเอง เหน็บพวกค้านมัวแต่นั่งเบนซ์ จะรู้อะไรกับคนนั่งรถเมล์ ซัด “พร้อมพงศ์” รู้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องตัวเอง ย้อนถ้าไม่ดีจริงทำไมไม่ค้านตั้งแต่รัฐบาล “สมัคร”
วันนี้ (2 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า โครงการรถเมล์เช่า NGV 4 พันคันที่เสนอโดย รมว.คมนาคม จากพรรคภูมิใจไทย เป็นโครงการที่มีความโปร่งใส ไม่มีการทุจริต เป็นโครงการที่มีประโยชน์กับคน กทม.และองค์การขนส่งมวลชน (ขสมก.) ที่จะช่วยฟื้นฟูให้ดีขึ้น หลังจากที่ประสบกับภาวะขาดทุนมานาน แต่ยอมรับว่า ที่ผ่านมา ขาดการสื่อสารและขาดการทำความเข้าใจกับสังคม ถูกบิดเบือนไปเยอะ จนทำให้รู้สึกว่าโครงการนี้มีความไม่ชอบมาพากล
“โครงการนี้ ถ้านายกฯเห็นว่า ยังไม่เหมาะที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ก็ไม่เป็นไร เราไม่สนใจ และพรรคภูมิใจไทยไม่ตายหากไม่ได้นำเข้า ครม.ซึ่งแกนนำพรรคมีการหารือกันแล้ว และเห็นว่า ต้องเดินหน้าชี้แจงให้สังคมเข้าใจ และเห็นว่า โครงการนี้มีประโยชน์จริงๆ โดยจะใช้การชี้แจงผ่านสื่อในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะกับผู้ที่ใช้บริการ ขสมก.เพราะข้อกล่าวหาต่างๆ เป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงและไม่เป็นความจริง และที่สำคัญเราต้องการทำโครงการนี้เพื่อใช้เป็นโครงการหาเสียงในกทม.ของพรรคในอนาคตด้วย” โฆษกพรรค กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่พรรคเพื่อไทย นำโดย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ และ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ เดินทางไปตรวจสอบรถเมล์ตัวอย่างที่เป็นสเปกของโครงการนี้ ที่ ขสมก.แต่ไม่พบ นายศุภชัย กล่าวว่า ความจริงโครงการนี้เริ่มมาตั้งแต่สมัย นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ และนายสันติ พร้อมพัฒน์ ซึ่งเป็น รมว.คมนาคม ขณะนั้นเป็นผู้เสนอเข้า ครม.และปัจจุบันก็เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่ โครงการนี้เป็นโครงการเดิมที่รัฐบาลนายสมัคร ให้ความเห็นชอบมาแล้ว เพียงแต่มาปรับจำนวนรถจาก 6 พันคัน มาเป็น 4 พันคัน ตามมติของคณะกรรมการที่มีพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ เป็นประธาน และเปลี่ยนให้ผลิตในประเทศ 70% และจากต่างประเทศ 30% เท่านั้น นอกนั้นเหมือนเดิมทุกอย่าง
“ผมอยากจะถามคุณพร้อมพงศ์ ว่า โครงการนี้ตอนอยู่ในสมัยรัฐบาลนายสมัคร ไม่ทุจริต แต่พอมาอยู่กับ รัฐบาลอภิสิทธิ์ กลับเห็นว่า มีทุจริต ทั้งที่เป็นโครงการเก่าตั้งแต่สมัยที่คุณพร้อมพงศ์ สอบตกนั่นแหล่ะ วันนี้ คุณพร้อมพงศ์ รู้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องตัวเอง” นายศุภชัย กล่าว
ส่วนกรณีที่ 40 ส.ว.ออกมาคัดค้านและพยายามใช้เงื่อนไขที่จะไม่ให้ความเห็นชอบ พ.ร.ก.เงินกู้ 4 แสนล้านบาทนั้น นายศุภชัย กล่าวว่า อยากบอกว่าใครที่มีหน้าที่ทำอะไรก็ทำหน้าที่ของตัวเองไป ไม่ควรมีพฤติกรรมที่พูดจาในลักษณะแบล็กเมล์หรือต่อรอง และอยากแนะนำให้ ส.ว.ที่คัดค้านไปศึกษาโครงการนี้ให้ละเอียดถี่ถ้วนโดยเฉพาะที่บอกว่ามีการทุจริตนั้น ทุจริตอย่างไร ใครเป็นผู้ให้และใครเป็นผู้รับประโยชน์ เพราะยังไม่รู้เลยว่าใครชนะการประมูล
“คนที่ออกมาคัดค้านโครงการนี้มีการถามประชาชนที่ใช้บริการ ขสมก.บ้างหรือไม่ว่าอยากให้โครงการนี้เดินหน้าต่อหรือไม่ ที่สำคัญคนที่ออกมาคัดค้านปัจจุบันล้วนเป็นผู้ที่ไม่ได้ใช้บริการขสมก.เลยสักคน มีแต่ขับรถเก๋ง นั่งรถเบนซ์กันทั้งนั้น แล้วมาค้านโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด กลัวว่าจะตกกระบวน วันนี้บ้านเมืองต้องการการพัฒนา ดังนั้น ควรใช้สติปัญญาในการทำงาน รู้จักมีเหตุผล และรู้หน้าที่ของตัวเอง” โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว
