ASTVผู้จัดการรายวัน – อสังหาฯสุวรรณภูมิซัปพลายเหลือเพียบ เหตุจัดสรรรายเล็กและรายใหญ่แห่ผุดโครงการ ก่อนสนามบินเปิดใช้ ผลร้ายเกิดปัญหาสะสมสต๊อกบ้านเก่าในพื้นที่ล้นตลาด ด้านมั่นคงเคหะการฯสั่งเบรกโครงการบ้านสิรีนเฮ้าส์สุวรรณภูมิ ผุด4 โครงการใหม่ดันยอดขายเข้าเป้า2,400 ล้านบาท มั่นใจปีนี้ปิดการขายเพิ่ม4โครงการ แจงครึ่งปีแรกกวาด1,100ล้านบาท
นายชูเกียรติ ตั้งมติธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายการตลาด บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK กล่าวว่า บริษัทได้ตัดสินใจชะลอแผนการพัฒนาโครงการบ้านสิรีนเฮ้าส์ในย่านสนามบินสุวรรณภูมิออกไป เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวมีโครงการเหลือขายอยู่จำนวนมาก(ซัปพลาย) ทั้งในส่วนของบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ซึ่งการสะสมมาตั้งแต่ในช่วงก่อนการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากในช่วงก่อนหน้านั้น มีกลุ่มผู้ประกอบการรายเล็กและรายใหญ่ เข้าไปพัฒนาโครงการใหม่จำนวนมาก ทำให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรง และมีซัปพลายล้นตลาดในที่สุด
“ โครงการบ้านสิรีนเฮ้าส์นั้น บริษัทวางแนวคิดให้เป็นโครงการบ้านราคาถูก มีแบบบ้านผสมผสานทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮาส์ ทำให้ขณะนี้ MK มีที่ดินรอการพัฒนาในย่านสนามบินสุวรรณภูมิเกือบ100 ไร่ หลังจากที่ชะลอการพัฒนาโครงการบ้านสิรีนเฮ้าส์ออกไป อย่างไรก็ตาม ที่ดินดังกล่าวไม่ได้ติดภาระทางการเงิน ทำให้บริษัทไม่จำเป็นต้องเร่งพัฒนาแต่อย่างใด”
สำหรับปีนี้ บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถปิดการขายโครงการเก่าที่เปิดขายในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้เพิ่มอีก4โครงการ ประกอบด้วย โครงการชวนชื่นวัชระพล โครงการชวนชื่นวงแหวนปิ่นเกล้าวงแหวน โครงการชวนชื่นอุดมสุข และโครงการกรีนพาร์คซิตี้รามอินทรา ส่งผลให้สต๊อกบ้านในพอร์ตของบริษัทฯลดลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในช่วงปลายปีนี้ บริษัทจึงมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอีก 4 โครงการ แบ่งเป็น 2โครงการใหม่ ย่านถนนสิรินธร และแจ้งวัฒนะ
ทั้งนี้ โครงการเลียบถนนสิรินธรนั้น จะพัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยวผสมบ้านแฝด บนที่ดิน 40-50ไร่ มูลค่าขายรวมประมาณ 650ล้านบาท สำหรับที่ดินในการพัฒนาโครงการดังกล่าว บริษัทได้ซื้อเข้ามาในช่วง 1เดือนที่ผ่านมา ส่วนโครงการใหม่ย่านแจ้งวัฒนะซึ่งได้ซื้อที่ดินจำนวน 60ไร่เข้ามาพร้อมกันนั้น จะพัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยวมูลค่าขายรวมประมาณ1,000 ล้านบาทเศษ
ส่วนอีก2โครงการใหม่ที่เหลือ จะเป็นโครงการเฟสต่อเนื่องในโครงการชวนชื่นเพชรเกษม 81 และอีก1โครงการนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินจำนวนหนึ่ง อยู่ติดกับโครงการเดิมที่มีมีการพัฒนาและเปิดขายไปแล้ว
สำหรับงบประมาณในการลงทุนซื้อที่ดินในปีนี้ ได้เตรียมงบไว้ 500-600 ล้านบาท ซึ่งหลังจากที่ซื้อที่ดินทั้ง 3 แปลงดังกล่าวแล้ว จะทำให้เหลืองบซื้อที่ดินเพิ่มได้อีก1แปลงเท่านั้น
นายชูเกียรติ กล่าวถึงภาพรวมของตลาดอสังหาฯว่า แม้ในไตรมาสแรกที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ไม่ได้กระทบต่อตลาดรวมมากจนทำให้ตลาดหดตัวอย่างรุนแรง เพียงแต่กระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า ทำให้มีการชะลอการซื้อออกไปบ้าง ซึ่งส่งผลให้อัตราการขยายตัวของตลาดอยู่ในระดับทรงตัวเท่าๆกับช่วงปลายปี51
" จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการทั้งที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์และนอกตลาด พบว่า แทบทุกรายมียอดขายกลับมาอยู่ในระดับปกติ เทียบเท่าช่วงเดียวกับในช่วงต้นปี51แล้ว โดยเฉพาะในส่วนของ MK นั้น ยอดขายกลับมาเทียบเท่าช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา และจากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ จะส่งผลให้ตลาดกลับมาขยายตัวได้ในช่วงปลายปีได้ "นายชูเกียรติกล่าว
ในด้านผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกของปี 52 มียอดขายแล้ว 1,100 ล้านบาท จากเป้ารวมทั้งปี 2,400 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าในช่วงครึ่งหลังของปี จะสามารถทำยอดขายได้ 1,300 ล้านบาทตามเป้าแน่นอน โดยในช่วงปลายปี บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอีก4โครงการ ซึ่งจะส่งผลให้มียอดขายเป็นไปตามเป้า
นายชูเกียรติ ตั้งมติธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายการตลาด บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK กล่าวว่า บริษัทได้ตัดสินใจชะลอแผนการพัฒนาโครงการบ้านสิรีนเฮ้าส์ในย่านสนามบินสุวรรณภูมิออกไป เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวมีโครงการเหลือขายอยู่จำนวนมาก(ซัปพลาย) ทั้งในส่วนของบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ซึ่งการสะสมมาตั้งแต่ในช่วงก่อนการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากในช่วงก่อนหน้านั้น มีกลุ่มผู้ประกอบการรายเล็กและรายใหญ่ เข้าไปพัฒนาโครงการใหม่จำนวนมาก ทำให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรง และมีซัปพลายล้นตลาดในที่สุด
“ โครงการบ้านสิรีนเฮ้าส์นั้น บริษัทวางแนวคิดให้เป็นโครงการบ้านราคาถูก มีแบบบ้านผสมผสานทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮาส์ ทำให้ขณะนี้ MK มีที่ดินรอการพัฒนาในย่านสนามบินสุวรรณภูมิเกือบ100 ไร่ หลังจากที่ชะลอการพัฒนาโครงการบ้านสิรีนเฮ้าส์ออกไป อย่างไรก็ตาม ที่ดินดังกล่าวไม่ได้ติดภาระทางการเงิน ทำให้บริษัทไม่จำเป็นต้องเร่งพัฒนาแต่อย่างใด”
สำหรับปีนี้ บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถปิดการขายโครงการเก่าที่เปิดขายในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้เพิ่มอีก4โครงการ ประกอบด้วย โครงการชวนชื่นวัชระพล โครงการชวนชื่นวงแหวนปิ่นเกล้าวงแหวน โครงการชวนชื่นอุดมสุข และโครงการกรีนพาร์คซิตี้รามอินทรา ส่งผลให้สต๊อกบ้านในพอร์ตของบริษัทฯลดลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในช่วงปลายปีนี้ บริษัทจึงมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอีก 4 โครงการ แบ่งเป็น 2โครงการใหม่ ย่านถนนสิรินธร และแจ้งวัฒนะ
ทั้งนี้ โครงการเลียบถนนสิรินธรนั้น จะพัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยวผสมบ้านแฝด บนที่ดิน 40-50ไร่ มูลค่าขายรวมประมาณ 650ล้านบาท สำหรับที่ดินในการพัฒนาโครงการดังกล่าว บริษัทได้ซื้อเข้ามาในช่วง 1เดือนที่ผ่านมา ส่วนโครงการใหม่ย่านแจ้งวัฒนะซึ่งได้ซื้อที่ดินจำนวน 60ไร่เข้ามาพร้อมกันนั้น จะพัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยวมูลค่าขายรวมประมาณ1,000 ล้านบาทเศษ
ส่วนอีก2โครงการใหม่ที่เหลือ จะเป็นโครงการเฟสต่อเนื่องในโครงการชวนชื่นเพชรเกษม 81 และอีก1โครงการนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินจำนวนหนึ่ง อยู่ติดกับโครงการเดิมที่มีมีการพัฒนาและเปิดขายไปแล้ว
สำหรับงบประมาณในการลงทุนซื้อที่ดินในปีนี้ ได้เตรียมงบไว้ 500-600 ล้านบาท ซึ่งหลังจากที่ซื้อที่ดินทั้ง 3 แปลงดังกล่าวแล้ว จะทำให้เหลืองบซื้อที่ดินเพิ่มได้อีก1แปลงเท่านั้น
นายชูเกียรติ กล่าวถึงภาพรวมของตลาดอสังหาฯว่า แม้ในไตรมาสแรกที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ไม่ได้กระทบต่อตลาดรวมมากจนทำให้ตลาดหดตัวอย่างรุนแรง เพียงแต่กระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า ทำให้มีการชะลอการซื้อออกไปบ้าง ซึ่งส่งผลให้อัตราการขยายตัวของตลาดอยู่ในระดับทรงตัวเท่าๆกับช่วงปลายปี51
" จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการทั้งที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์และนอกตลาด พบว่า แทบทุกรายมียอดขายกลับมาอยู่ในระดับปกติ เทียบเท่าช่วงเดียวกับในช่วงต้นปี51แล้ว โดยเฉพาะในส่วนของ MK นั้น ยอดขายกลับมาเทียบเท่าช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา และจากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ จะส่งผลให้ตลาดกลับมาขยายตัวได้ในช่วงปลายปีได้ "นายชูเกียรติกล่าว
ในด้านผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกของปี 52 มียอดขายแล้ว 1,100 ล้านบาท จากเป้ารวมทั้งปี 2,400 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าในช่วงครึ่งหลังของปี จะสามารถทำยอดขายได้ 1,300 ล้านบาทตามเป้าแน่นอน โดยในช่วงปลายปี บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอีก4โครงการ ซึ่งจะส่งผลให้มียอดขายเป็นไปตามเป้า
