อดีตแม่ยายซัดกลับ “ริว” ตอแหลให้ข่าวดูแลลูกอย่างดี ฉะแหลกต้องทวงค่าเลี้ยงดูทุกเดือน ก่อนแฉแต่งงานได้ไม่นานก็ดีแตกไปมีแฟนใหม่อายุคราวแม่ รับสุดเจ็บปวดที่ลูกสาวคิดฆ่าตัวตาย พร้อมยื่นคำขาดเรียก 10 ล้านแล้วต่างคนต่างอยู่
เป็นเรื่องที่หลายคนสนใจไม่น้อยทีเดียวสำหรับกรณีที่อดีตพระเอกดัง “ริว อาทิตย์ ตั้งสวัสดิ์รัตน์” ออกมารับว่าตนเคยแต่งงานมาแล้ว 2 ครั้ง โดยมีลูกชายกับภรรยาคนแรก 2 คน ชื่อ "เภา-ภีม" และลูกสาวกับภรรยาคนปัจจุบันอีก 1 คน ชื่อ "ลิ้งค์ลิ้งค์" ซึ่งแม้จะเลิกรากับภรรยาคนแรกทว่าตนก็ทำหน้าที่พ่อส่งเสียเลี้ยงดูลูกชายทั้งสองเป็นอย่างดี
แต่แล้วจู่ๆ ในวันศุกร์ที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมาทางด้านนาง "สุภาพร อัศวกิตติเมธิน” แม่ของ “เก๋” ซึ่งเป็นภรรยาคนแรกของหนุ่มริวก็ได้ออกมาแฉกลับอดีตลูกเขยผ่านรายการทีวี โดยบอกว่าสิ่งที่ฝ่ายชายพูดออกไปนั้นเป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น เพราะที่ผ่านมาอีกฝ่ายไม่เคยทำหน้าที่ได้สมกับคำว่าพ่อเลยสักนิดเดียว
ทั้งนี้นางสุภาพรเผยว่ารู้จักกับหนุ่มริวราว 8 ปีที่แล้วเพราะเป็นเพื่อนเรียนมหามหาวิทยาลัยเดียวกันกับลูกสาว พร้อมยอมรับว่าช่วงนั้นอีกฝ่ายดังมาก มีทั้งงานละคร พิธีกรหลายรายการ เป็นคนที่น่ารัก อ่อนน้อม เรียกตนว่ามาม๊าและไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเจ้าตัวก็ยืนยันว่าตกใจมากเมื่อรู้เรื่องที่ทั้งสองแอบไปจดทะเบียนและบอกว่าจะแต่งงานกันในอีก 1 ปีต่อมา
“ไม่ได้ไม่เหมาะ แต่ว่าตำแหน่งมันต่างกัน คือตอนที่เขาเข้ามาสู่ครอบครัวเรา เราก็รู้ว่าเขามีคนนั้นมีคนนี้ ทั้งตามข่าวทั้งตามเพื่อนเขา เพื่อนบ้างคนที่เรียนม.รังสิตก็หวังดี คือทุกคนจะรักคุณแม่ เพราะคุณแม่จะมีบ้านที่ชวนชื่นใครก็จะมากินมาอยู่มาอะไรได้ เพราะคุณแม่เป็นคนสปอตตู้เย็นสามตู้เต็มทุกใบ”
“หนึ่งเขาเป็นดารา ไม่ชอบ พระเอกหนังไม่ชอบ ไม่ชอบจะมาเป็นเขย แต่เป็นลูกได้ ขนาดไม่ได้มาเป็นลูกเขยไปทานข้าวกัน มันยังมีสายโทรศัพท์เข้ามาไม่ขาด เอาง่ายๆ คือมันอยู่กันแล้วไม่ยืดว่างั้นเหอะ แต่ที่นี้เขาก็มาบอกว่าเขาต้องการครอบครัวอบอุ่น เขาอยากมีลูกที่บ้านคุณแม่เพราะครอบครัวเขาแตก เขาโตมาด้วยครอบครัวแตก เขาว้าเหว่แล้วเขาก็มาเจอมาม๊า”
รับ ฝันอยากเห็นลูกสาวคนเดียวแต่งชุดเจ้าสาว ทว่าก็เป็นไปไม่ได้เพราะทางฝ่ายชายถูกขอร้องมาจากต้นสังกัดอาร์เอสฯ ที่ขอให้ปิดข่าว พร้อมยืนยันลูกสาวไม่ได้ท้องก่อนแต่ง...“ไม่ลับ แต่เราไม่ให้ข่าวเนื่องจากเขาขอร้อง ขอร้องว่าในขณะนั้นเขามีงานเยอะมาก ลูกเราเองก็มาขอร้องเรา"
"เราก็เลยบอกอะไรวะ ฉันมีลูกสาวคนเดียวฉันก็อยากขึ้นเวทีเป็นเจ้าภาพเจ้าสาวสิ แล้วหนูก็ควรจะต้องแต่งชุดเจ้าสาว ตามประสาคุณแม่ ซึ่งมีโอกาสครั้งเดียวในงานแต่งงานลูก สุดท้ายลูกสาวก็ไม่ได้แต่งเพราะคุณริวขอร้องว่าไม่อยากแต่ง เนื่องจากถ้าใส่ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวเราก็ต้องถ่ายรูป”
“ใช่ค่ะทางต้นสังกัดเขามาขอร้อง แต่คุณแม่ไม่ทราบไม่ได้ขอคุณแม่ นี่คือความเป็นจริง คือขอกับทางริว เราก็มีพิธีจัดกันสองงานคือที่แชงกรีล่า ถามว่าใหญ่ไหมก็คือทานอาหารกันธรรมดา แล้วก็มียกน้ำชา แล้วก็จะทะเบียน จดในวันที่ยังไม่ได้มีงานเลี้ยงด้วยซ้ำ ไปจดเองคุณแม่ไม่ได้ไปด้วย ไม่ทราบเลยค่ะ จดเสร็จเอาใบทะเบียนมาให้คุณแม่ดู คุณแม่ก็ต้องจัดให้สิคะ”
“ตอนแต่งงานกันเสร็จเขาขออนุญาตใช้นามสกุลมาม๊า ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เพราะว่าครอบครัวคนจีนเป็นลูกเขยจะมาใช้นามสกุลฉันได้ยังไง เธอก็ใช้แซ่ตั้ง ตั้งสวัสรัตน์"
นางสุภาพรเผยต่อไปว่า หลังทั้งสองแยกไปมีครอบครัวเมื่อลูกสาวตนเองเริ่มตั้งครรภ์ทางฝ่ายลูกเขยก็เริ่มออกลาย ไม่ค่อยจะดูแลโดยอ้างเรื่องงานตลอด..."กลิ่นมันค่อนข้างแรง คือในขณะนั้นวงการไม่ทราบว่าเขาแต่งงาน เราก็เช็คกับลูกว่า ขอริวพูดกับมาม๊าหน่อยว่าตอนนี้ไปฝากท้องไปอะไรต่างๆ ที่ไหน"
"ลูกก็บอกว่ามาม๊าไม่เป็นไรหรอกงานริวเขายุ่งมาก มาม๊าแค่นี้นะง่วงนอน คือจะมีอะไรต่างๆ ตลอด ลูกเราก็ช่วยปิดให้เขา...เราก็พยายามติดต่อไม่รับสายสักที คุณแม่ก็มาที่บ้านสุขุมวิท เท่าที่จำได้วันนั้นมาตี 1 เปิดประตูเข้าไปเพราะเรามีกุญแจ เปิดเข้าไปเราก็อุ๊ยตายพระเจ้า"
"ลูกเราอาเจียนเต็มห้อง คือเขาแพ้ท้อง ท้องแรกมันก็แพ้ค่อนข้างรุนแรง ปรากฏว่าอาเจียนแล้วอาหารที่อยู่บนโต๊ะเห็นคือไม่ได้ทาน ทานไปอย่างละนิด แล้วเท่าที่มองเป็นอาหารซื้อหมด แล้วสามีไปไหน ไม่เจอเขาเลยเห็นแต่ลูกเรานอนร้องไห้ แล้วก็โอ้กอ้ากๆ เราก็อะไรเนี่ย”
“เราก็ถามลูกว่าเก๋แล้วริวไปไหน เพราะเราไม่อยากถามแรง เพราะเราสงสารลูก เราไม่มีน้ำตาเพราะเราน้ำตาออกไม่ได้ เดี๋ยวลูกเราจะเสียใจเพราะเราเคยบอกเคยเตือนแล้วก่อนแต่งงาน เสร็จแล้วเราก็จัดการเก็บกวาดเช็ดถูทุกอย่างให้หมด ก็หานมอะไรให้เขาทาน"
"แล้วเขาก็บอกเราว่ามาม๊ากลับไปเถอะ ไม่มีอะไรหรอก เขาไปถ่ายกองถ่ายต้องถ่ายกลางคืนอะไรต่อมิอะไร โอเคเราก็หลอกลูกว่าเดี๋ยวมาม๊ากลับ แต่จริงๆ ไม่ได้กลับ เราก็ปิดไฟ เขาก็อยู่ในห้อง เราก็ได้ยินเสียงเขาร้องไห้ จะกินยาฆ่าตัวตายจะเอาลูกออก"
"เราก็นอนรอที่โซฟา ตี3 กว่าเขาก็เปิดประตูเข้ามา แต่เราปิดไฟไงพอเขาเห็นก็ตกใจอุ๊ยตายมาม๊ามานอนอยู่ตรงนี้ เราก็รีบเข้ามากอด มาม๊าครับริวเพิ่งเสร็จจากงาน เราก็บอกว่าเหรอ แน่ใจเหรอ สั้นๆ แต่ว่าเก๋กำลังท้องนะ ทำไมไม่รีบกลับมาล่ะ"
"แล้วขอโทษอยู่กองถ่ายไหนเพราะว่าคุณแม่เช็คได้ ไม่ใช่คนโง่ ไม่ใช่ตาสีตาสา เขาก็บอกว่าพอดีไปถ่ายละครที่ต่างจังหวัด ลูกสาวก็ออกมา มาม๊าเก๋ขอร้อง อย่าเกิดเรื่องเลย ไหนๆ มาม๊าก็เดินมาถึงตรงนี้แล้ว”
บอกหนุ่มริวหายไปนานปีๆ ไม่เคยโทรมาถามอาการภรรยา ก่อนจะกลับมาหลังลูกสาวคลอดลูก และเมื่อตั้งท้องคนที่สองเจ้าตัวก็ออกจากวงการ ไปทำธุรกิจก่อนจะหายไปอีกครั้งแม้กระทั่งวันคลอดลูกคนที่สองก็ไม่ไม่มารับไปโรงพยาบาล ก่อนจะมาถึงจุดแตกหักเมื่อทราบว่าลูกเขยไปคั่วหญิงแก่คราวแม่
“ที่เป็นจุดเลยคือหลังจากที่คลอดน้องเภาคนที่สองได้ประมาณ 6-7 เดือน ก็มีข่าวจากเพื่อนๆ สนิทแก๊งค์เขานั่นแหละ ซึ่งสนิทกับคุณแม่ด้วย เขาก็โทร.มาบอกน้องเก๋คือเขาเป็นเดือดเป็นแค้น ว่าตัวเองรู้ไหมว่าริวนะไปอะไรต่อมิอะไร จัดงานที่ต่างจังหวัดเสร็จแล้ว ก็มีผู้หญิงคนนึงอายุเยอะแล้วล่ะ จะบอกเลยว่าแก่กว่ามาม๊าอีก(หัวเราะ) มาม๊าจะบอกว่าตาก็ตก มาม๊าไม่ธรรมดานะ เราก็โทร.ตามหาเขา เขาก็ไม่รับ”
“คือเราพยายามมากโทรๆๆ จนกระทั่งเขาด่าเราว่าเราจิกเขา โทร.จนกระทั่งเขารับ เราก็บอกว่าข่าวมันเป็นอย่างนี้ๆๆ นะริว เขาก็บอกว่ามาม๊าไม่จริงหรอก เพื่อนร่วมงาน เหมือนเป็นสปอนเซอร์ต่างจังหวัดเพื่อนร่วมงาน เขาก็พูดอย่างนี้มาตลอด แล้วเราก็ไม่เคยพูดเลย"
"จนกระทั่งอาทิตย์ที่แล้ว ที่เขามาบอกว่ามาม๊าคือริวจำเป็นต้องพูดวันนี้ เพราะข่าวจะออกมาแล้ว เพราะข่าวจะออกมาแล้ว (เน้นเสียง) ชัดเจนไหมคะ บอกเพราะข่าวจะออกมาแล้ว ริวมีลูกสาว แม่เพิ่งทราบเมื่อวันเสาร์ (30 พ.ค.) ที่คริสตัสปาร์ค ร้านฮั่วเซ่งฮ้ง ลูกสาว (เก๋) เองก็นั่งอยู่ เขาบอกว่าริวไม่อยากปิดอะไรแล้ว คือมีสื่อนำภาพออกมา"
“ไม่ทราบมาตลอดเลย ว่าเขาไปหย่ากันมาเมื่อไหร่ เพิ่งมาเห็นใบหย่าตอนหลัง เก๋เองเขาก็ไม่เคยบอกอะไร ไม่เคยรู้เลย ผู้หญิงอย่างนี้วิเศษไหมล่ะ”
นางสุภาพรบอกว่าสิ่งที่ตนเจ็บปวดมากที่สุดก็คือการที่ลูกสาวตนจะฆ่าตัวตายหลายครั้งหลายหน และที่ต้องออกมาเปิดเผยเรื่องราวในครั้งนี้ก็เพราะรับไม่ได้กับข่าวที่อีกฝ่ายบอกว่าดูแลครอบครัวเป็นอย่างดีทั้งๆ ที่ความเป็นจริงอย่างไรก็รู้ๆ กันอยู่ นอกจากนี้เจ้าตัวยังบอกด้วยว่าเสียใจมากๆ ที่ถูกอดีตลูกเขยโทรมาด่าเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (3 มิ.ย.) ทั้งๆ พร้อมยื่นเงื่อนไขขอเรียกเงินก้อนจำนวน 10 ล้านบาท จากเคยส่งค่าเลี้ยงดูเดือนละ 3 หมื่น
“ขอย้อนถามจากคุณแม่ที่เลี้ยงลูกแบบคุณหนู เรามีลูกคนเดียว แล้วขณะนั้นธุรกิจเรามากมาย เขามาอยู่ตรงนี้ จะบอกเลยนะ ไม่ได้กลัวเลย ขณะนี้ถ้าฉันฆ่าแกได้ฉันฆ่าไปแล้ว คือเราก็บอกว่าเพื่อหลาน เพื่อหลาน แล้วในขณะนั้นคุณตาเอง(พ่อเก๋) ก็เป็นโรคหัวใจ แล้วเราต้องทำธุรกิจอีกคุณลองนึกดูสิ”
“เขา (พ่อตา) รักริวมาก ญาติพี่น้องที่บ้านเรารักเขาหมดเพราะเขาน่ารักมาก เราไม่เคยว่า ว่าเขาเป็นคนไม่น่ารัก ถึงทุกวันนี้สายตาคุณแม่เขาก็ยังเป็นคนน่ารัก แต่ ต้องมีแต่ แต่เขาตอแหล ตอแหลที่ข่าวไง มันไม่จริง ทนไม่ได้ เรื่องที่เขาดูแลลูก ใครดูแล...ใครดูแล แฉความจริงออกมาสิ ไหนๆ ก็จะเปิดแล้ว"
“10 ล้านเพื่อตลอดชีวิตของลูกๆ เขา แล้วเราไม่ปิดกั้นพ่อลูก มารับไปเที่ยวได้แต่อย่ามารับไปครอบครัวที่สองตามที่เขาแถลง สงสารเด็ก คือเขาไปเจอน้องอีกคนนึง แล้วกลับมาบอกคุณยาย ซึ่งเขาก็กลับมาพูดกับเราว่าเนี่ยปะป๊าบอกว่าเป็นลูกของปะป๊านะ เป็นน้องของหนูสองคน แล้วแม่เขาก็คือป้าสุ"
"แล้วป้าสุเป็นใครก็ไม่รู้ เสร็จแล้วเด็กก็จะมาบอกว่า ภีมกับเภาเป็นลูกมาม๊านะ แล้วแม่เก๋เป็นแม่นี่ แม่เก๋ก็ต้องเป็นแฟนกับปะป๊านะ แล้วทำไมปะป๊าไม่เคยมานอนบ้านเราเลย เขาก็ไม่เข้าใจตามประสาเด็ก”
ขณะที่ทางด้านของหนุ่มริวเองที่อยู่ในรายการฯ ด้วย หลังได้ฟังคำบอกล่าวของอดีตแม่ยายก็ได้บอกว่าที่ผ่านมาตนคุยกับอดีตภรรยาตลอด แต่ว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้เล่าให้ผู้เป็นมารดาฟังจึงไม่รู้ว่าตนทำอะไรไปบ้าง เหนื่อยตรงไหน ลำบากอย่างไร ก่อนเผยส่งเงินให้อดีตภรรยาทุกเดือน ส่วนถ้าเป็นเงินก้อนตนจะพยายามหามาให้ พร้อมสัญญาจะไม่พาลูกชายไปพบกับครอบครัวใหม่อีกแล้ว
“ริวก็ส่งเงินให้เก๋ทุกเดือน ตั้งแต่หย่ากันมาสามปี ตั้งแต่เราเซ็นใบหย่าผมส่งทุกเดือน ผมให้ คือผมไม่ได้มีความรู้สึกว่าผมต้องส่ง ผมทำตามความรู้สึกของคนเป็นพ่อ แล้วผมก็รู้สึกผิดอยู่แล้ว ผมก็เสียใจในสิ่งที่มันเกิดขึ้น จริงๆ ผมก็รักม๊า”
“เรื่องเงินริวก็ให้ แต่ชีวิตคนหมายถึงทั่วๆ ไปทุกคน มันเสกไม่ได้นะครับ มันต้องไปหา มันต้องไปเหนื่อย มันต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป แล้วสิ่งที่ทำอยู่ ณ วันนี้ก็ค่อนข้างจะเหนื่อย เพราะงานเราก็ยุ่ง ไอ้ความที่ไม่มีเวลามันก็เลยกลายเป็นว่า เราไม่ได้สื่อสารกัน"
"ก็ต้องตอบมาม๊าว่า ริวมีความสามารถแค่ไหน ริวก็จะให้ เพราะทุกวันนี้ทำงานเพื่อถวายตัวให้ลูกอยู่แล้ว ถามว่าตอนนี้ลำบากไหม ไม่ลำบาก แต่ว่าเรากำลังอยู่ในกระบวนการทำงาน ที่สุดท้ายแล้วของชีวิตผมจะทิ้งไว้ให้ลูกทุกคน”
“ต่อไปก็คงทำตามที่อาม่าบอก ก็คงไม่พาพวกเขาไปเจอกันอีกแล้ว ผมก็ได้คุยกับเก๋แล้ว คือริวขอบอกตรงนี้เลยแล้วกัน จริงๆ แล้ว ริวรักทุกคน ริวรักมาม๊า ริวรักลูก ริวรักเก๋ (ร้องไห้) ชีวิตนี้ของริวก็เหลืออยู่ไม่เท่าไหร่”
แม่ยาย : “ไม่ใช่หรอก ม๊าเองต่างหาก เพราะม๊าหกสิบแล้ว คุณยังสามสิบเอ็ดอยู่นี่ ก็ในเมื่อเงินก้อนไม่ได้แล้วมาม๊าก็บอกว่าสามหมื่นเป็นอะไรๆ ก็เคยพูดเลย แล้วสื่อต่างๆ จะได้ทราบด้วยว่าสิ่งที่เราขอไม่ได้มากไปหรอกค่ะ"
"สามหมื่นตรงนั้นโอเคเป็นค่าอะไรๆ ไป แต่คือเด็กพอโตขึ้นมันก็จะมีค่าคอมพิวเตอร์อะไรต่อมิอะไร ซึ่งข้อเท็จจริงมันเป็นอย่างนี้จริงๆ คุณเป็นคุณพ่อก็จะทราบ คือตรงนี้มาม๊าจะไม่ให้ริวปฏิเสธเลย เพราะมาม๊ารู้ว่าตอนนี้ริวกำลังได้ กำลังไหว”
“ขออีกสองหมื่นเด็กคนละหมื่น เพราะฉะนั้นเด็กให้คนละหมื่น ไม่ใช่ว่าเรามาขอว่าต้องได้ แต่ต้องใช้คำว่าควรจะได้ เพราะมันเป็นค่าใช้จ่าย แล้วขณะนี้ริวมีลูกสาวมีลูกสาว 8 เดือนริวอาจจะไม่ได้จ้างคนมาเลี้ยง แต่สำหรับมาม๊าตลอดเวลามา 6 ขวบคนนึง 4 ขวบคนนึงเหนื่อยมาทั้งหมด ไม่ได้ขออะไรเลยส่วนตัวนะ ตอนนั้นเขาบอกเขาไม่มีสตางค์เราโอเคเราก็อดทน คือเราไปทำธุรกิจอะไรไม่ได้แล้วไง เพราะเราต้องเลี้ยงหลานเต็มร้อย”
“แต่ต่อไปนี้หลังจากที่ริวก็ไม่ได้ให้ความเกรงใจมาม๊า ก้าวร้าวกับมาม๊า ด่าซะมากมายมาม๊าก็เลยคิดว่าต่อไปนี้มาม๊าคงเลี้ยงลูกให้ริวฟรีไม่ได้แล้วล่ะ แล้วไม่ใช่เลี้ยงลูกฟรีๆ คือเราก็ต้องจ่ายค่าอะไรต่อมิอะไรที่เด็กๆ อยากได้ อย่างของเล่นกระทั่งชิ้นละเป็นหมื่น มาม๊าซื้อให้หลานได้"
"แต่ว่าลูกริวพาริวไปที่ของเล่นริวก็จะรีบจูงเขาวิ่งไปที่อื่น แล้วถามว่าทำไมมาม๊าฟุ่มเฟือยซื้อของเล่นราคาแพงให้เด็กๆ เพราะว่าเราไม่อยากให้หลานเรามีปมด้อยเพราะเพื่อนเขามี แล้ววันที่ไปไหว้น้ำเขาก็จะเอาไปเล่นด้วยกันไง ม๊าก็อธิบายให้ริวฟัง”
ริว ; “ริวยอมรับผิด ในวัยที่ยังไม่มีความอดทนเพียงพอ แล้วตอนนี้ก็ต้องโตขึ้นกว่าเดิมอีกแล้ว ก็ต้องกราบขอโทษ (ก้มลงกราบที่ตักมาม๊า) ทุกๆ คนในชีวิตริว ที่ริวทำอะไรให้ต้องรู้สึกอย่างนี้ ก็เกิดจากการกระทำของตัวเอง ริวยอมรับผิดทั้งหมดครับ"
"แต่ตอนนี้ถอยไม่ได้แล้ว เพราะริวมีลูก ลูกริวต้องโตก็เหมือนกันก็เข้าใจ รักเหมือนกัน ปกป้องได้ปกป้อง แล้วที่มาม๊ามาในวันนี้ก็เพื่อปกป้อง ริวเองก็มาในวันนี้ก็เพื่อมายอมรับความเป็นจริง มายอมรับว่าริวผิด แล้วก็อยากบอกด้วยว่ารักทุกคน”
“ในเงื่อนไขเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ริวพยายามทำอยู่แล้ว พยายามแล้ว แล้วก็พยายามที่จะทำให้ได้ ความรู้สึกหรือว่าน้ำตาทุกหยดของมาม๊าที่มาม๊าร้องไห้ (ร้องไห้) ริวก็ร้องไห้ และริวก็เสียใจ ริวรักมาม๊ามาก แต่ริวก็รู้สึกผิดทุกครั้งที่ทำไมพอทนอะไรไม่ได้ก็เหมือนระเบิดลง ริวจะพยายามเป็นผู้ใหญ่ แล้วก็ดูแลทุกอย่างให้ดีที่สุด มาม๊าวันนี้ริวขอโทษนะครับ (กราบที่ตักอีกครั้ง อดีตแม่ยายก็เอามือลูบที่ศีรษะริวเบาๆ และร้องไห้ทั้งคู่)”
แม่ยาย : “(ร้องไห้) จริงๆ แล้วไม่เคยโกรธเขา รักเขาเสมอมา แม้แต่สิ่งต่างๆ ที่เขาทำกับครอบครัวเรา แต่ที่ให้อภัยไม่ได้เลยคือเมื่อวันพุธ เอกสารที่จะต้องใช้กับลูกเขา คือเขาไม่รับโทรศัพท์ กดทิ้งตลอด”
...
“ริว” สารภาพ มีเมีย 2 ลูก 3 จริง เผย มีลูกตั้งแต่อายุ 24 ส่วนเหตุที่ลาวงการ เพราะไม่อยากโกหกเรื่องมีครอบครัว