ASTVผู้จัดการรายวัน - "จิระ รัตนะรัตน์" เผยศาลอาญาส่งหนังสือนัดไกล่เกลี่ยคดีฟ้อง 21 บิ๊ก บสท. "อมใบหุ้น" วันที่ 24 มิ.ย.นี้ ลั่นพร้อมไปเจรจาแต่ บสท.ต้องฟื้นฟูหนี้ย้อนหลังในมาตรฐานเดียวกับ "สมบัติ พานิชชีวะ" กรณี "ไทยพับลิคพอร์ต" ที่ บสท.แฮร์คัต 85% และห้ามเลือกปฏิบัติกับลูกหนี้อื่นอีก ขณะที่รักษาการเอ็มดี บสท.เรียกผู้บริหารฯ ถกรับมือด่วน
นายจิระ รัตนะรัต ประธานบริษัท สยามเฆมี จำกัด มหาชน และผู้ก่อตั้งบริษัท ไทยพับลิคพอร์ต (บริษัท สีชังทองเทอร์มินัล จำกัด) เปิดเผยความคืบหน้าคดีฟ้อง บสท.เกี่ยวกับความผิดเกี่ยวกับเอกสารหรืออมใบหุ้นลูกหนี้ มีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 188 ว่า ขณะนี้ ศาลอาญาโดยนางศิริพร เด่นเจริญ นิติกร 8 ปฏิบัติการแทนผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลอาญา ส่วนไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทและคุ้มครองสิทธิ ได้ส่งหนังสือนัดประนอมข้อพิพาทในคดีอาญาหมายเลขคดีดำที่ อ.1739/2552 ศาลระบุว่าเนื่องจากคณะกรรมการดำเนินงานและส่งเสริมระบบประนอมข้อพิพาทศาลอาญาพิจารณาแล้วเห็นว่ามีทางตกลงกันได้ จึงให้ตนเดินทางไปประนอมข้อพิพาทกับนายเชาว์ สายเชื้อ และพวกรวม 21 คน
"หากคู่ความได้มีโอกาสพบปะเจรจากันเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและหากตกลงกันได้จะเป็นประโยชน์แก่คู่ความ จึงได้มีคำสั่งให้นำคดีนี้เข้าสู่ระบบการประนอมข้อพิพาท" หนังสือระบุและนัดประนอมข้อพิพาท ณ ห้องประนอมข้อพิพาท ศาลอาญา ในวันที่ 24 มิ.ย. 52 เวลา 13.30น.
นายจิระระบุว่า บสท.อมใบหุ้นที่ตนได้วางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันหนี้ที่กู้จาก บงล.ธนสยามจำนวน 39 ล้านบาท ก่อนจะถูกโอนไปยังไทยธนาคารและ บสท. เป็นหุ้นบริษัทสยามเฆมี ซึ่งปัจจุบันยังทำกิจการอยู่จำนวน 1,148,000 หุ้น หากตีราคาซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่หุ้นละ 10 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 11 ล้านบาท นอกจาก บสท.ไม่นำไปหักจากเงินต้นจนมีการเป็นการคำนวณยอดหนี้ผิดพลาดแล้ว ประเด็นสำคัญก็คือ ขณะนี้ บสท.ยังไม่คืนใบหุ้นทั้งๆ ที่ยึดเงินของตนเพื่อชำระหนี้ 96 ล้านบาทแล้ว
มาตรา 188 ระบุว่า "ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือ ทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพินัยกรรมหรือเอกสารใดของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกินห้าปีและปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท"
คดีดังกล่าวมีนัดไต่สวนครั้งแรกในวันที่ 27 ก.ค. 52 นายจิระกล่าวว่า ตนได้เตรียมพร้อมเพื่อฟ้องร้องให้ถึงที่สุด ผู้บริหารและบอร์ด บสท.จะต้องโดนลงโทษ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง อย่างไรก็ตาม การที่ศาลนัดไกล่เกลี่ยในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ ตนจะเดินทางไปตามคำสั่งศาลเพื่อดูท่าทีและคำชี้แจงของจำเลยว่ามีความเป็นธรรมมากน้อยเพียงไร หาก บสท.ขอประนอมข้อพิพาท ตนจะยื่นเงื่อนไขเรียกร้องให้ฟื้นฟูหนี้ตามมาตรฐานเดียวกับที่นายสมบัติ พานิชชีวะ ที่ได้รับจากการฟื้นฟูหนี้บริษัทไทยพับลิคพอร์ต ที่ บสท.ลดหนี้ (แฮร์คัต) ให้กว่า 85% หรือจากมูลหนี้เกือบ 6,000 ล้านบาท เหลือเพียง 600 กว่าล้านบาท และ บสท.ต้องไม่ปฏิบัติ 2 มาตรฐานอีก
นายจิระย้ำว่า อยากเรียกร้องสิทธิ์ที่ลูกหนี้พึงได้รับ ไม่อยากเห็น บสท.ใช้อำนาจโดยมิชอบกลั่นแกล้ง หวังว่าคดีนี้จะเป็นมาตรฐานให้ลูกหนี้ในอนาคต พร้อมยืนยันว่าไม่ต้องการแก้แค้นใครเป็นการส่วนตัว
"ลูกหนี้หลายคนเตือนว่ามีพวกนักเลงใหญ่พร้อมรับใช้ บสท.ในการข่มขู่ลูกหนี้ แต่ผมไม่กลัว ที่ผมสู้ด้วยการฟ้องกลับเพราะมันใช้นักเลงอันธพาลมาข่มขู่ผมไม่ได้ แต่ก็ยอมรับว่าญาติพี่น้องไม่ต้องการมีศัตรู โดยเฉพาะบุคคลที่มีชื่อเสียงทั้ง 21 คน" นายจิระกล่าวและว่า มีคำตอบในใจอยู่แล้ว ถ้าทาง บสท.ต้องการให้ยอมความ ไม่อยากติดคุก บสท.ก็ต้องปฎิบัติตามที่เรียกร้อง
สำหรับรายชื่อจำเลยทั้ง 21 ราย มีทั้งอดีตและบอร์ดปัจจุบัน ประกอบด้วย นายเชาว์ สายเชื้อ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม อดีตกรรมการผู้จัดการ ธนาคารไทยพาณิชย์ นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ อดีตกรรมการผู้จัดการ บสท. นายกัญจนพันธุ์ พันธุ์สุวรรณ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บสท. นายวิชิต ชุมชัยเวทย์ นายปรีชา อาภาวัฒนาสกุล น.ส.ธนษร เพชรแสงใสกุล นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง รศ.คิม ไชยแสนสุข อธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง ร.ต.คัมภีร์ แก้วเจริญ นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา นายธีระชัย ภูวนานรานุบาล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ นายชัยวัธ มะระพฤกษ์วรรณ กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทยและประธานสมาคมธนาคารไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาสมาคมธนาคารไทย นายวิรัช กฤตผล รองประธานกรรมการ บริษัท มิลเลนเนียม สตีล จำกัด (มหาชน) และนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)
***บสท.เรียกถกด่วนผู้บริหารฯ
บ่ายวานนี้ (8 มิ.ย.) "ASTVผู้จัดการรายวัน" ได้สอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไปยังนายกัญจนพันธุ์ พันธุ์สุวรรณ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บสท. 2 ครั้งคือบ่าย 3 โมงและ 5 โมงเย็น เลขานุการนายกัญจนพันธ์แจ้งว่า นายกัญจนพันธุ์มีประชุมด่วนกับผู้บริหารเกี่ยวกับกรณีที่นายจิระฟ้อง บสท. และไม่สะดวกในการชี้แจงสื่อมวลชนด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม ภายหลังได้ข้อสรุปในเรื่องนี้ บสท.จะออกเป็นหนังสือป็นทางการให้สื่อมวลชนทราบความคืบหน้าต่อไป
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง 1 ในบอร์ด บสท. กล่าวว่า ผู้บริหาร บสท.ได้แจ้งให้ทราบแล้วว่าถูกนายจิระฟ้องกลับ แต่ตนไม่มีความกังวลหรือรู้สึกหนักใจ เพราะ บสท.ระบุว่าเป็นการฟ้องแก้เกี้ยวเท่านั้น ฝ่ายกฎหมาย บสท.น่าจะแก้ปัญหาได้
ขณะที่บอร์ดอีกคนคือนายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า เรื่องอยู่ในชั้นศาลต้องไปสู้กันในศาล ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการประนอมหนี้ ตนทราบเรื่องแต่คงพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะ บสท.มอบหมายให้อัยการซึ่งทำหน้าที่แก้ต่างคดีให้ บสท.เป็นผู้ดำเนินการไปแล้ว.
นายจิระ รัตนะรัต ประธานบริษัท สยามเฆมี จำกัด มหาชน และผู้ก่อตั้งบริษัท ไทยพับลิคพอร์ต (บริษัท สีชังทองเทอร์มินัล จำกัด) เปิดเผยความคืบหน้าคดีฟ้อง บสท.เกี่ยวกับความผิดเกี่ยวกับเอกสารหรืออมใบหุ้นลูกหนี้ มีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 188 ว่า ขณะนี้ ศาลอาญาโดยนางศิริพร เด่นเจริญ นิติกร 8 ปฏิบัติการแทนผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลอาญา ส่วนไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทและคุ้มครองสิทธิ ได้ส่งหนังสือนัดประนอมข้อพิพาทในคดีอาญาหมายเลขคดีดำที่ อ.1739/2552 ศาลระบุว่าเนื่องจากคณะกรรมการดำเนินงานและส่งเสริมระบบประนอมข้อพิพาทศาลอาญาพิจารณาแล้วเห็นว่ามีทางตกลงกันได้ จึงให้ตนเดินทางไปประนอมข้อพิพาทกับนายเชาว์ สายเชื้อ และพวกรวม 21 คน
"หากคู่ความได้มีโอกาสพบปะเจรจากันเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและหากตกลงกันได้จะเป็นประโยชน์แก่คู่ความ จึงได้มีคำสั่งให้นำคดีนี้เข้าสู่ระบบการประนอมข้อพิพาท" หนังสือระบุและนัดประนอมข้อพิพาท ณ ห้องประนอมข้อพิพาท ศาลอาญา ในวันที่ 24 มิ.ย. 52 เวลา 13.30น.
นายจิระระบุว่า บสท.อมใบหุ้นที่ตนได้วางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันหนี้ที่กู้จาก บงล.ธนสยามจำนวน 39 ล้านบาท ก่อนจะถูกโอนไปยังไทยธนาคารและ บสท. เป็นหุ้นบริษัทสยามเฆมี ซึ่งปัจจุบันยังทำกิจการอยู่จำนวน 1,148,000 หุ้น หากตีราคาซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่หุ้นละ 10 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 11 ล้านบาท นอกจาก บสท.ไม่นำไปหักจากเงินต้นจนมีการเป็นการคำนวณยอดหนี้ผิดพลาดแล้ว ประเด็นสำคัญก็คือ ขณะนี้ บสท.ยังไม่คืนใบหุ้นทั้งๆ ที่ยึดเงินของตนเพื่อชำระหนี้ 96 ล้านบาทแล้ว
มาตรา 188 ระบุว่า "ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือ ทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพินัยกรรมหรือเอกสารใดของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกินห้าปีและปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท"
คดีดังกล่าวมีนัดไต่สวนครั้งแรกในวันที่ 27 ก.ค. 52 นายจิระกล่าวว่า ตนได้เตรียมพร้อมเพื่อฟ้องร้องให้ถึงที่สุด ผู้บริหารและบอร์ด บสท.จะต้องโดนลงโทษ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง อย่างไรก็ตาม การที่ศาลนัดไกล่เกลี่ยในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ ตนจะเดินทางไปตามคำสั่งศาลเพื่อดูท่าทีและคำชี้แจงของจำเลยว่ามีความเป็นธรรมมากน้อยเพียงไร หาก บสท.ขอประนอมข้อพิพาท ตนจะยื่นเงื่อนไขเรียกร้องให้ฟื้นฟูหนี้ตามมาตรฐานเดียวกับที่นายสมบัติ พานิชชีวะ ที่ได้รับจากการฟื้นฟูหนี้บริษัทไทยพับลิคพอร์ต ที่ บสท.ลดหนี้ (แฮร์คัต) ให้กว่า 85% หรือจากมูลหนี้เกือบ 6,000 ล้านบาท เหลือเพียง 600 กว่าล้านบาท และ บสท.ต้องไม่ปฏิบัติ 2 มาตรฐานอีก
นายจิระย้ำว่า อยากเรียกร้องสิทธิ์ที่ลูกหนี้พึงได้รับ ไม่อยากเห็น บสท.ใช้อำนาจโดยมิชอบกลั่นแกล้ง หวังว่าคดีนี้จะเป็นมาตรฐานให้ลูกหนี้ในอนาคต พร้อมยืนยันว่าไม่ต้องการแก้แค้นใครเป็นการส่วนตัว
"ลูกหนี้หลายคนเตือนว่ามีพวกนักเลงใหญ่พร้อมรับใช้ บสท.ในการข่มขู่ลูกหนี้ แต่ผมไม่กลัว ที่ผมสู้ด้วยการฟ้องกลับเพราะมันใช้นักเลงอันธพาลมาข่มขู่ผมไม่ได้ แต่ก็ยอมรับว่าญาติพี่น้องไม่ต้องการมีศัตรู โดยเฉพาะบุคคลที่มีชื่อเสียงทั้ง 21 คน" นายจิระกล่าวและว่า มีคำตอบในใจอยู่แล้ว ถ้าทาง บสท.ต้องการให้ยอมความ ไม่อยากติดคุก บสท.ก็ต้องปฎิบัติตามที่เรียกร้อง
สำหรับรายชื่อจำเลยทั้ง 21 ราย มีทั้งอดีตและบอร์ดปัจจุบัน ประกอบด้วย นายเชาว์ สายเชื้อ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม อดีตกรรมการผู้จัดการ ธนาคารไทยพาณิชย์ นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ อดีตกรรมการผู้จัดการ บสท. นายกัญจนพันธุ์ พันธุ์สุวรรณ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บสท. นายวิชิต ชุมชัยเวทย์ นายปรีชา อาภาวัฒนาสกุล น.ส.ธนษร เพชรแสงใสกุล นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง รศ.คิม ไชยแสนสุข อธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง ร.ต.คัมภีร์ แก้วเจริญ นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา นายธีระชัย ภูวนานรานุบาล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ นายชัยวัธ มะระพฤกษ์วรรณ กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทยและประธานสมาคมธนาคารไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาสมาคมธนาคารไทย นายวิรัช กฤตผล รองประธานกรรมการ บริษัท มิลเลนเนียม สตีล จำกัด (มหาชน) และนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)
***บสท.เรียกถกด่วนผู้บริหารฯ
บ่ายวานนี้ (8 มิ.ย.) "ASTVผู้จัดการรายวัน" ได้สอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไปยังนายกัญจนพันธุ์ พันธุ์สุวรรณ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บสท. 2 ครั้งคือบ่าย 3 โมงและ 5 โมงเย็น เลขานุการนายกัญจนพันธ์แจ้งว่า นายกัญจนพันธุ์มีประชุมด่วนกับผู้บริหารเกี่ยวกับกรณีที่นายจิระฟ้อง บสท. และไม่สะดวกในการชี้แจงสื่อมวลชนด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม ภายหลังได้ข้อสรุปในเรื่องนี้ บสท.จะออกเป็นหนังสือป็นทางการให้สื่อมวลชนทราบความคืบหน้าต่อไป
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง 1 ในบอร์ด บสท. กล่าวว่า ผู้บริหาร บสท.ได้แจ้งให้ทราบแล้วว่าถูกนายจิระฟ้องกลับ แต่ตนไม่มีความกังวลหรือรู้สึกหนักใจ เพราะ บสท.ระบุว่าเป็นการฟ้องแก้เกี้ยวเท่านั้น ฝ่ายกฎหมาย บสท.น่าจะแก้ปัญหาได้
ขณะที่บอร์ดอีกคนคือนายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า เรื่องอยู่ในชั้นศาลต้องไปสู้กันในศาล ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการประนอมหนี้ ตนทราบเรื่องแต่คงพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะ บสท.มอบหมายให้อัยการซึ่งทำหน้าที่แก้ต่างคดีให้ บสท.เป็นผู้ดำเนินการไปแล้ว.
