ขรก.เฮอีก เตรียมรับโบนัส พ.ค.นี้ ด้าน ครม.อ้างงบประมาณต้องใช้จ่ายตามความความจำเป็น พร้อมเสนอปรับหลักเกณฑ์ให้แจกโบนัสปีหน้า หลังพบ “ดีเอสไอ-กรมศุลกากร” เอาเปรียบรับโบนัสซ้ำซ้อน ผงะ “อธิบดี” รับสินบนนำจับถึง 10 ล้าน ขณะที่ “รมว.ยุติธรรม” ล้อมคอกเสนอวางหลักเกณฑ์ใหม่ แก้ปัญหารับเงินซ้ำซ้อน
วันนี้ (28 เม.ย.) นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.เห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ประเมินผลการปฏิบัติราชการ ตามคำรับรองการปฏิบัติราชการ และการจัดสรรเงินรางวัล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2551 ของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา โดยขอความเห็นชอบผลการประเมินตามคำรับรองการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2551 ของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา หลักเกณฑ์ วิธีการ แนวทางการจัดสรรสิ่งจูงใจ การจ่ายเงินรางวัลสำหรับผู้ปฏิบัติ และเงินเพิ่มพิเศษ สำหรับผู้บริหารของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา ที่มีการจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2551 และรายงานผลการศึกษาของสำนักงาน ก.พ.ร.
“โดย ครม.รับทราบการดำเนินงานของสำนักงาน ก.พ.ร.ในการประสานสำนักงบประมาณเพื่อจัดงบประมาณไปตั้งจ่ายที่กรมบัญชีกลาง 6,735 ล้านบาท สำหรับจ่ายเป็นเงินรางวัลประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2551 ให้แก่หน่วยงานเพื่อหน่วยงานจัดสรร ให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน 5,550 ล้านบาท และจ่ายเป็นเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหาร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2551 รวม 1,185 ล้านบาท” นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัยกล่าวอีกว่า ครม.ยังอนุมัติให้นายพระนาย สุวรรณรัฐ ในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผอ.ศอ.บต.) ในช่วงระหว่างวันที่ 31 ต.ค.2549-30 ก.ย.2550 ซึ่งปฏิบัติงานเสมือนหนึ่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้ได้รับเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหาร ในปีงบประมาณ พ.ศ.2550 เป็นการเฉพาะราย ตามวิธีการการจัดสรรเงินเพิ่มพิเศษ สำหรับผู้บริหารที่ ก.พ.ร.กำหนด ในตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย
แหล่งข่าวจาก ครม.เปิดเผยว่า การพิจารณาอนุมัติเงินโบนัสข้าราชการครั้งนี้ ครม.ได้อภิปรายอย่างกว้างขวาง เนื่องจากมีความเป็นห่วงต่องบประมาณที่ต้องมีการใช้อย่างจำเป็น ถึงขึ้นมีการเสนอหลักเกณฑ์การพิจารณาโบนัสใหม่ในปีหน้า
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ ก.พ.ร. รายงานว่า หน่วยงานราชการส่วนใหญ่ได้รับการประเมินอยู่ในระดับดีถึงดีมาก มีสถาบันการศึกษา 2 แห่งเท่านั้น ที่ไม่ผ่านการประเมิน โดยการจัดสรรเงินรางวัลประจำปีจะถึงมือข้าราชการภายในเดือน พ.ค.นี้ และนอกจากข้าราชการจำนวน 1.5 ล้านคน จะได้รับการจัดสรรโบนัสตามที่ตั้งงบประมาณไว้ 5,000 ล้านบาทแล้ว ข้าราชการยังจะได้รับเพิ่มจากโบนัสในส่วนของผู้บริหาร ซึ่งตั้งไว้จำนวน 1,000 ล้านบาท แต่ต้องแบ่งเป็นสองส่วน คือ ประมาณ 500 กว่าล้านบาท นำมาเฉลี่ยให้ข้าราชการ ทำให้ข้าราชการจะได้รับโบนัสในส่วนเพิ่มตกเฉลี่ยคนละ 4,000 บาท
“การที่ข้าราชการจะได้รับเงินโบนัสเพิ่มเติมจากส่วนที่ผู้บริหารแบ่งมา ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้รับเหมือนกันหมด เพราะแต่ละหน่วยงานมีการประเมินต่างกัน นอกจากนี้ ครม.ยังได้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การประเมินหน่วยงานได้รับเงินรางวัล ตามที่ ก.พ.ร.รายงาน พบว่า ส่วนใหญ่ได้รับการประเมินประสิทธิภาพ ถึงขั้นดีถึงดีมาก ขณะเดียวกันการจัดสรรเงินรางวัลอย่างนี้ มีบางหน่วยงานได้รับเงินรางวัลจากสินบนนำจับอยู่แล้ว เช่น กรมศุลกากร และกรมสอบสวนคดีพิเศษ” แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ที่สำคัญทราบมาว่า อธิบดีได้รับสินบนนำจับถึง 10 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นเงินที่ถูกกฎหมาย เมื่อถึงคราว ก.พ.ร.ต้องประเมินหน่วยงานเพื่อจัดสรรเงินรางวัล ก็ได้รับโบนัสส่วนนี้เข้าไปอีก อย่างนี้ก็ถือเป็นการได้รับโบนัสสองต่อ ส่งผลให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ซึ่งกำกับดูแลหน่วยงานดีเอสไอ เสนอต่อที่ประชุมว่า ในปีหน้าควรวางหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินรางวัลประจำปีกันใหม่ เพื่อแก้ปัญหาการรับโบนัสซ้ำซ้อน