ASTVผู้จัดการรายวัน - เกษตรกรเพาะปลูกมันสำปะหลังหันปลูกอ้อยเพิ่มขึ้นหลังราคาอ้อยปี 2552/53 ส่อพุ่งตันละ 900 บาทหลังน้ำตาลทรายตลาดโลกดีดตัวสูงต่อเนื่องล่าสุดแตะ 17 เซนต์ต่อปอนด์แล้ว “สอน.”คุยโวอ้อยราคาดีแน่แถมขั้นสุดท้ายปี 51/52อาจเห็นระดับพันบาทต่อตันที่ 12.28 ซีซีเอส
นายนราธิป อนันตสุข หัวหน้าสำนักงานสมาคมชาวไร่อ้อยเขต 7 เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกยังคงขยับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 16-17 เซนต์ต่อปอนด์ส่งผลให้ที่ผ่านมาเกษตรกรผู้เพราะปลูกมันสำปะหลังส่วนหนึ่งหันมาปลูกอ้อยเพิ่มขึ้นแทน ประกอบกับปริมาณฝนค่อนข้างมากในช่วงเพาะปลูก จึงทำให้แนวโน้มปริมาณอ้อยในฤดูการผลิตปี 2552/2553
จะสูงกว่าฤดูการผลิตที่ผ่านมาและชาวไร่คาดหวังว่าราคาอ้อยขั้นต้นปี 52/53 น่าจะอยู่ในระดับ 900 บาทต่อตัน
“ชาวไร่อ้อยคงจะต้องดูแลและบำรุงรักษาอ้อยกันอย่างดีในปีนี้เพราะคาดว่าจะได้ราคาดีจึงทำให้ทิศทางการเพิ่มผลผลิตต่อไร่จะสูงขึ้นโดยภาพรวม”นายนราธิปกล่าว
นายประเสริฐ ตปนียางกูร เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) กล่าวว่า ราคาน้ำตาลตลาดโลกค่อนข้างสูงในขณะนี้จึงถือเป็นข่าวดีสำหรับชาวไร่อ้อยและคาดว่าราคาอ้อยขั้นสุดท้ายปี 2551/52 จะสูงกว่าราคาอ้อยขั้นต้นที่อยู่ระดับ 830 บาทต่อตันโดยมีแนวโน้มอาจจะอยู่ในระดับ 900-1,000 บาทต่อตันที่ระดับความหวาน 12. 28 ซีซีเอสโดยคาดว่าจะรู้ผลภายใน 30 ก.ย.นี้
สำหรับวาระอ้อยแห่งชาติที่เสนอของบประมาณจากรัฐบาล 1,000 ล้านบาท ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้บรรจุเรื่องในปีงบประมาณ 2553 ซึ่งจะพัฒนาการเพาะปลูกและผลิตอ้อยให้มีผลผลิตต่อไร่และความหวานสูงขึ้น จากปัจจุบันได้ผลผลิตไร่ละ 9-10 ตัน โดยอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายมีมูลค่ารวม 80,000 ล้านบาท มีชาวไร่เกี่ยวข้อง 200,000 ครัวเรือน มีผู้ที่อยู่ในโรงงานเกี่ยวข้องอุตสาหกรรมอ้อยเกือบ 40,000 ครอบครัว รวมมีคนไทยเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมนี้ 1 ล้านคน
แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ราคาอ้อยขั้นสุดท้ายปี 51/52 อย่างไม่เป็นทางการล่าสุดคำนวณแล้วอยู่ในระดับ 893 บาทต่อตัน(ความหวาน 10 ซีซีเอส) ขณะที่ราคาอ้อยขั้นต้นปี 52/53 มีแนวโน้มว่าจะอยู่ในระดับที่สูงกว่าปีที่แล้วพอสมควรโดยอาจจะวิ่งในระดับ 900-950 บาทต่อตันหากราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกแตะระดับ 16-17 เซนต์ต่อปอนด์และการขายน้ำตาลล่วงหน้าได้เร็วเนื่องจากล่าสุดบริษัทอ้อยและน้ำตาลทราย(อนท.)ทำการขายน้ำตาลล่วงหน้าไปได้แค่ 15% เท่านั้น
นายนราธิป อนันตสุข หัวหน้าสำนักงานสมาคมชาวไร่อ้อยเขต 7 เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกยังคงขยับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 16-17 เซนต์ต่อปอนด์ส่งผลให้ที่ผ่านมาเกษตรกรผู้เพราะปลูกมันสำปะหลังส่วนหนึ่งหันมาปลูกอ้อยเพิ่มขึ้นแทน ประกอบกับปริมาณฝนค่อนข้างมากในช่วงเพาะปลูก จึงทำให้แนวโน้มปริมาณอ้อยในฤดูการผลิตปี 2552/2553
จะสูงกว่าฤดูการผลิตที่ผ่านมาและชาวไร่คาดหวังว่าราคาอ้อยขั้นต้นปี 52/53 น่าจะอยู่ในระดับ 900 บาทต่อตัน
“ชาวไร่อ้อยคงจะต้องดูแลและบำรุงรักษาอ้อยกันอย่างดีในปีนี้เพราะคาดว่าจะได้ราคาดีจึงทำให้ทิศทางการเพิ่มผลผลิตต่อไร่จะสูงขึ้นโดยภาพรวม”นายนราธิปกล่าว
นายประเสริฐ ตปนียางกูร เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) กล่าวว่า ราคาน้ำตาลตลาดโลกค่อนข้างสูงในขณะนี้จึงถือเป็นข่าวดีสำหรับชาวไร่อ้อยและคาดว่าราคาอ้อยขั้นสุดท้ายปี 2551/52 จะสูงกว่าราคาอ้อยขั้นต้นที่อยู่ระดับ 830 บาทต่อตันโดยมีแนวโน้มอาจจะอยู่ในระดับ 900-1,000 บาทต่อตันที่ระดับความหวาน 12. 28 ซีซีเอสโดยคาดว่าจะรู้ผลภายใน 30 ก.ย.นี้
สำหรับวาระอ้อยแห่งชาติที่เสนอของบประมาณจากรัฐบาล 1,000 ล้านบาท ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้บรรจุเรื่องในปีงบประมาณ 2553 ซึ่งจะพัฒนาการเพาะปลูกและผลิตอ้อยให้มีผลผลิตต่อไร่และความหวานสูงขึ้น จากปัจจุบันได้ผลผลิตไร่ละ 9-10 ตัน โดยอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายมีมูลค่ารวม 80,000 ล้านบาท มีชาวไร่เกี่ยวข้อง 200,000 ครัวเรือน มีผู้ที่อยู่ในโรงงานเกี่ยวข้องอุตสาหกรรมอ้อยเกือบ 40,000 ครอบครัว รวมมีคนไทยเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมนี้ 1 ล้านคน
แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ราคาอ้อยขั้นสุดท้ายปี 51/52 อย่างไม่เป็นทางการล่าสุดคำนวณแล้วอยู่ในระดับ 893 บาทต่อตัน(ความหวาน 10 ซีซีเอส) ขณะที่ราคาอ้อยขั้นต้นปี 52/53 มีแนวโน้มว่าจะอยู่ในระดับที่สูงกว่าปีที่แล้วพอสมควรโดยอาจจะวิ่งในระดับ 900-950 บาทต่อตันหากราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกแตะระดับ 16-17 เซนต์ต่อปอนด์และการขายน้ำตาลล่วงหน้าได้เร็วเนื่องจากล่าสุดบริษัทอ้อยและน้ำตาลทราย(อนท.)ทำการขายน้ำตาลล่วงหน้าไปได้แค่ 15% เท่านั้น