ASTVผู้จัดการรายวัน - กระทรวงอุตสาหกรรม ลุ้นบอร์ด ธ.ก.ส.ทบทวนแผนปล่อยกู้ 5.2 พันลบ.วันนี้(26 ก.พ.)หลังยื่นหนังสือขอให้ทบทวนการชำระหนี้ที่บอร์ด ธ.ก.ส.กำหนดให้จ่ายใน 4 ปีใหม่เหตุขัดต่อมติ ครม.ให้จ่ายภายใน 12 ปี หลังชาวไร่ขู่บุกพรรค ปชป.หากการจ่ายค่าอ้อยมีปัญหาซ้ำรอยกลุ่มวังขนาย
แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม เปิด เผยว่า ได้รับแจ้งว่าคณะกรรมการบริหารธนาคาร เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะประชุมพิจารณาทบทวนมติบอร์ดธ.ก.ส.ใหม่อีกครั้งวันนี้ (26 ก.พ.)ตามข้อเสนอของกระทรวง อุตสาหกรรม ที่ขอให้ทบทวนการปล่อยกู้วงเงิน 5,277 ล้านบาทให้แก่กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย ในส่วนของแผนการชำระหนี้ที่บอร์ด ธ.ก.ส. กำหนดให้ชำระภายใน 4 ปีแต่มติ ครม.8 ม.ค. 51 กำหนดให้ชำระภายใน 12 ปีทำให้กองทุนฯไม่สามารถลงนามเงินกู้ได้เนื่องจากเกรงจะขัดกับมติครม.
'วงเงินดังกล่าวเกิดจากกรณีราคาอ้อยขั้นสุดท้ายปี 49/50 ต่ำกว่าขั้นต้นหลักการ กองทุนอ้อยฯจะต้องจ่ายคืนโรงงานน้ำตาลแต่ช่วงนั้นกองทุนฯไม่มีเงินรัฐบาลจึงให้คลังจัดหาแหล่งเงินกู้ให้ต่อมาก็เสนอเป็น ธ.ก.ส. แต่การจ่ายคืนหนี้ผิดไปจากมติ ครม. ดังนั้นหากไม่มีอะไรผิดพลาดเมื่อบอร์ด ธ.ก.ส. ทบทวนก็จะทำให้การลงนามเงินกู้น่าจะทำได้ภายในสิ้นเดือน นี้เป็นอย่างเร็ว' แหล่งข่าวกล่าว
ทั้งนี้ วงเงินกู้ดังกล่าวทางโรงงานน้ำตาลส่วนใหญ่ต่างคาดหวังที่จะได้รับคืนเพื่อนำไปเสริมสภาพคล่องทางการเงินเพราะในช่วงนี้เป็นฤดูหีบอ้อยที่โรงงานต้องจ่ายเงินค่าอ้อยฤดูกาลผลิตปี 51/52 อยู่และโรงงานน้ำตาลบางแห่งส่งสัญญาณว่าเงินกู้ดังกล่าวควรจะได้รับเพื่อนำมาจ่ายค่าอ้อยงวดวันที่ 7 มี.ค.นี้ไม่เช่นนั้นอาจมีปัญหาได้ อย่างไรก็ตาม การจ่ายค่าอ้อยที่จะต้องจ่ายทุกวันที่ 7 และ 22 ของเดือนงวดวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมายังไม่พบว่ามีโรงงานใดเบี้ยวจ่ายเงินค่าอ้อยแก่ชาวไร่ยกเว้นโรงงานรีไฟน์ชัยมงคล (อู่ทอง) กลุ่มวังขนายที่มีปัญหาขาดสภาพคล่องและมีการค้างจ่ายค่าเช็คแล้ว 2 งวดคือ 7 ม.ค. และ 22 ม.ค.
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มชาวไร่อ้อยเขต 7 ที่ส่วนใหญ่ป้อนอ้อยแก่โรงงาน รีไฟน์ชัยมงคลมายื่นหนังสือที่กระทรวงอุตสาหกรรมและระบุว่าจะบุกพรรคประชาธิปัตย์ หากรัฐไม่สามารถแก้ไขปัญหาการจ่ายเงินได้โดยได้ขีดเส้นตาย 22 ก.พ.ปรากฏว่ามีการจ่ายค่าอ้อยส่วนของเงินสดเรียบร้อยแต่กรณีเช็คที่ได้รับครั้งนี้จะมีเงินเข้าหรือไม่ ต้องรอครบกำหนดวันที่ 22 มี.ค.ก่อน อย่างไรก็ตามกระทรวงอุตสาหกรรมยืนยันว่าจะหาวิธีการจ่ายเงินให้แน่นอนจึงขอร้องให้ชาวไร่อ้อยอย่าเคลื่อนไหวใดๆ ในช่วงนี้
แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม เปิด เผยว่า ได้รับแจ้งว่าคณะกรรมการบริหารธนาคาร เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะประชุมพิจารณาทบทวนมติบอร์ดธ.ก.ส.ใหม่อีกครั้งวันนี้ (26 ก.พ.)ตามข้อเสนอของกระทรวง อุตสาหกรรม ที่ขอให้ทบทวนการปล่อยกู้วงเงิน 5,277 ล้านบาทให้แก่กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย ในส่วนของแผนการชำระหนี้ที่บอร์ด ธ.ก.ส. กำหนดให้ชำระภายใน 4 ปีแต่มติ ครม.8 ม.ค. 51 กำหนดให้ชำระภายใน 12 ปีทำให้กองทุนฯไม่สามารถลงนามเงินกู้ได้เนื่องจากเกรงจะขัดกับมติครม.
'วงเงินดังกล่าวเกิดจากกรณีราคาอ้อยขั้นสุดท้ายปี 49/50 ต่ำกว่าขั้นต้นหลักการ กองทุนอ้อยฯจะต้องจ่ายคืนโรงงานน้ำตาลแต่ช่วงนั้นกองทุนฯไม่มีเงินรัฐบาลจึงให้คลังจัดหาแหล่งเงินกู้ให้ต่อมาก็เสนอเป็น ธ.ก.ส. แต่การจ่ายคืนหนี้ผิดไปจากมติ ครม. ดังนั้นหากไม่มีอะไรผิดพลาดเมื่อบอร์ด ธ.ก.ส. ทบทวนก็จะทำให้การลงนามเงินกู้น่าจะทำได้ภายในสิ้นเดือน นี้เป็นอย่างเร็ว' แหล่งข่าวกล่าว
ทั้งนี้ วงเงินกู้ดังกล่าวทางโรงงานน้ำตาลส่วนใหญ่ต่างคาดหวังที่จะได้รับคืนเพื่อนำไปเสริมสภาพคล่องทางการเงินเพราะในช่วงนี้เป็นฤดูหีบอ้อยที่โรงงานต้องจ่ายเงินค่าอ้อยฤดูกาลผลิตปี 51/52 อยู่และโรงงานน้ำตาลบางแห่งส่งสัญญาณว่าเงินกู้ดังกล่าวควรจะได้รับเพื่อนำมาจ่ายค่าอ้อยงวดวันที่ 7 มี.ค.นี้ไม่เช่นนั้นอาจมีปัญหาได้ อย่างไรก็ตาม การจ่ายค่าอ้อยที่จะต้องจ่ายทุกวันที่ 7 และ 22 ของเดือนงวดวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมายังไม่พบว่ามีโรงงานใดเบี้ยวจ่ายเงินค่าอ้อยแก่ชาวไร่ยกเว้นโรงงานรีไฟน์ชัยมงคล (อู่ทอง) กลุ่มวังขนายที่มีปัญหาขาดสภาพคล่องและมีการค้างจ่ายค่าเช็คแล้ว 2 งวดคือ 7 ม.ค. และ 22 ม.ค.
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มชาวไร่อ้อยเขต 7 ที่ส่วนใหญ่ป้อนอ้อยแก่โรงงาน รีไฟน์ชัยมงคลมายื่นหนังสือที่กระทรวงอุตสาหกรรมและระบุว่าจะบุกพรรคประชาธิปัตย์ หากรัฐไม่สามารถแก้ไขปัญหาการจ่ายเงินได้โดยได้ขีดเส้นตาย 22 ก.พ.ปรากฏว่ามีการจ่ายค่าอ้อยส่วนของเงินสดเรียบร้อยแต่กรณีเช็คที่ได้รับครั้งนี้จะมีเงินเข้าหรือไม่ ต้องรอครบกำหนดวันที่ 22 มี.ค.ก่อน อย่างไรก็ตามกระทรวงอุตสาหกรรมยืนยันว่าจะหาวิธีการจ่ายเงินให้แน่นอนจึงขอร้องให้ชาวไร่อ้อยอย่าเคลื่อนไหวใดๆ ในช่วงนี้