นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ระบุว่า เตรียมส่งสัญญาณไปยังคณะรัฐมนตรีให้เร่งดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้ตามที่รัฐบาลวางไว้ เช่น การเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี การเร่งรัดการลงทุนภาครัฐวิสาหกิจ และงบประมาณค้างจ่ายขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ทันเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อให้เศรษฐกิจไตรมาสที่ 1 ปีนี้ ปรับตัวดีขึ้นกว่าไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ที่คาดว่าจะเติบโตติดลบร้อยละ 3
นายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า กลไกการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ไม่ได้ส่งผลต่อผู้ประกอบการ SME ไทย โดยควรรวมกลุ่มธุรกิจเพื่อช่วยลดต้นทุน และเลือกลงทุนในตลาดเฉพาะกลุ่ม อีกทั้งต้องติดตามทิศทางนโยบายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศของรัฐบาลอย่างใกล้ชิดด้วย
ขณะที่นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดว่า เศรษฐกิจโลกปีนี้จะขยายตัวเพียงร้อยละ 0.5-1.2 ขณะที่การส่งออกของ SME ไทย จะเติบโตติดลบร้อยละ 10.3 ส่งผลให้การจ้างงานปีนี้ลดลงกว่า 300,000 คน โดยกลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ยานยนต์ ชิ้นส่วน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พลังงานและเคมีภัณฑ์ ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งสนับสนุนแหล่งเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการ หรือค้ำประกันเงินกู้ให้ผู้ประกอบการ เพื่อลดปัญหาการเลิกจ้าง
นายระพี สุจริตกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นระยะนี้จะปรับตัวสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนเริ่มทยอยเข้าลงทุนเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปีใหม่ แต่ยังมีความผันผวนจากการเทขายของนักลงทุนบางส่วน และเชื่อว่าตลาดหุ้นอาจฟื้นตัวได้ ในช่วงกลางปี หรือหลังไตรมาสที่ 2 จากเม็ดเงินของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่จะถึงมือประชาชนและเกิดการลงทุนของภาคเอกชน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเสถียรภาพและการดำเนินโครงการของรัฐบาลด้วย
นายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า กลไกการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ไม่ได้ส่งผลต่อผู้ประกอบการ SME ไทย โดยควรรวมกลุ่มธุรกิจเพื่อช่วยลดต้นทุน และเลือกลงทุนในตลาดเฉพาะกลุ่ม อีกทั้งต้องติดตามทิศทางนโยบายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศของรัฐบาลอย่างใกล้ชิดด้วย
ขณะที่นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดว่า เศรษฐกิจโลกปีนี้จะขยายตัวเพียงร้อยละ 0.5-1.2 ขณะที่การส่งออกของ SME ไทย จะเติบโตติดลบร้อยละ 10.3 ส่งผลให้การจ้างงานปีนี้ลดลงกว่า 300,000 คน โดยกลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ยานยนต์ ชิ้นส่วน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พลังงานและเคมีภัณฑ์ ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งสนับสนุนแหล่งเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการ หรือค้ำประกันเงินกู้ให้ผู้ประกอบการ เพื่อลดปัญหาการเลิกจ้าง
นายระพี สุจริตกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นระยะนี้จะปรับตัวสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนเริ่มทยอยเข้าลงทุนเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปีใหม่ แต่ยังมีความผันผวนจากการเทขายของนักลงทุนบางส่วน และเชื่อว่าตลาดหุ้นอาจฟื้นตัวได้ ในช่วงกลางปี หรือหลังไตรมาสที่ 2 จากเม็ดเงินของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่จะถึงมือประชาชนและเกิดการลงทุนของภาคเอกชน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเสถียรภาพและการดำเนินโครงการของรัฐบาลด้วย