xs
xsm
sm
md
lg

พาณิชย์ถือหางเอกชนสุดลิ่มยุฟ้องรัฐหากล้มประมูลข้าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“พาณิชย์”ทำตัวเป็นพ่อค้า ให้ท้ายเอกชนที่ชนะประมูลข้าวฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลได้ หากมีการล้มประมูล แถมโต้แทนกรณี “กอร์ปศักดิ์”ระบุไม่สามารถฟ้องรัฐได้ เพราะรัฐมีข้าวอยู่ในมือพร้อมส่งมอบ ไม่ใช่ไม่มีข้าว เอกชนปูดพาณิชย์ขอเจรจาไกล่เกลี่ยอย่าเพิ่งฟ้อง ให้รอความชัดเจนก่อน “กอร์ปศักดิ์”กำหนดกรอบระบายข้าวโพดให้ยึดเกณฑ์ใหม่ที่ “สุเทพ” กำหนด ปชป.หน้าแหก คชก. เบรกจำนำกุ้ง อ้างขัดนโยบายรัฐบาลที่ให้เลิกจำนำ

แหล่งข่าวจากองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยถึงการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลจำนวน 2 ล้านตัน ที่อคส.ได้เรียกผู้ชนะการประมูลข้าว 17 ราย เข้ามาเซ็นสัญญาซื้อขายข้าว และได้มีการวางเงินค้ำประกัน 5% ของมูลค่าข้าวที่เสนอซื้อไปแล้ว ว่า ขณะนี้ผู้ชนะการประมูลข้าวบางรายได้มีการชำระเงินค่าข้าวบางส่วนให้กับอคส.แล้วรายละ 10-20% ของปริมาณข้าวที่ชนะการประมูล หากมีการล้มประมูลข้าวครั้งนี้ เอกชนสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับภาครัฐได้ เนื่องจากสัญญาข้าวระบุไว้ชัดเจนว่า อคส. จะยกเลิกสัญญาซื้อข้าวได้ ก็ต่อเมื่อไม่มีข้าวอยู่ในสต๊อกรัฐบาล

“ปัญหาความยืดเยื้อดังกล่าวถือเป็นกรณีใหม่ ยังไม่เคยเกิดขึ้น เพราะตามปกติ หากอคส.ได้เซ็นสัญญาและได้รับชำระเงินแล้ว ก็ต้องส่งมอบสินค้าให้ เว้นแต่ว่าข้าวในสต๊อกไม่มี ครั้งนี้มีข้าวอยู่ในสต๊อก แต่ไม่สามารถส่งมอบให้ได้ เพราะยังไม่มีความชัดเจนในนโยบาย ดังนั้น อคส.ในฐานะองค์กร ก็ไม่กล้าที่จะส่งมอบให้ข้าว จึงต้องชะลอไว้ก่อน โดยหากเอกชนจะฟ้องคงฟ้องที่ตัวบุคคล ถือว่าอคส.เป็นแพะรับบาปกรณีนี้ เพราะไม่สามารถฟ้องรัฐบาล หรือคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้” แหล่งข่าวกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมบอรด์อคส. ที่มีนายวิวัฒน์ เลาหพูนรังษี เป็นประธาน ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ จะมีการหารือในประเด็นเงื่อนไขของสัญญาซื้อขายข้าวกับเอกชน หลังมีการหยิบยกเป็นมาเป็นประเด็นว่าผู้ซื้อที่ชนะประมูลสามารถฟ้องร้องและเรียกค่าเสียหายจากอคส.ได้ในกรณีใดบ้าง และผู้ซื้อไม่สามารถฟ้องร้องต่อรัฐในกรณีใดบ้าง

ก่อนหน้านี้ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาระบุว่า เอกชนไม่สามารถฟ้องร้องกระทรวงพาณิชย์ได้ เพราะในสัญญามาตรฐานการขายสินค้าที่ตรวจโดยสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุไว้ชัดเจนว่า หากผู้ขายไม่มีของให้ผู้ซื้อ ไม่มีสิทธิฟ้องร้องภาครัฐได้ แต่กรณีการขายข้าว รัฐบาลมีข้าวอยู่ในมือ จึงไม่ถือว่าเข้าข่าย

นายสมพงษ์ กิตติเรียงลาภ ประธานกรรมการ บริษัท พงษ์ลาภ จำกัด กล่าวว่า ได้ติดต่อไปยังอคส. เพื่อสอบถามถึงการรับมอบข้าวที่ประมูลได้ ซึ่งทางอคส. ขอเวลา 1-2 วัน ในการดำเนินการก่อน ถึงจะให้คำตอบว่าจะสามารถให้เอกชนเข้าไปรับมอบข้าวได้หรือไม่ โดยขณะนี้บริษัทได้รับการติดต่อจากบุคคลระดับสูงขอให้ชะลอการดำเนินคดีตามกฎหมายในโกดังอื่นที่ยังไม่ได้แจ้งความไว้ก่อน เพื่อรอความชัดเจนในเรื่องนี้

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงฯ ได้เริ่มเจรจาไกล่เกลี่ยกับเอกชนที่ชนะการประมูลแล้ว และส่วนใหญ่ยืนยันว่าต้องการให้รัฐบาลอนุญาตขนย้ายข้าวตามที่ตกลงไว้ ไม่เช่นนั้นจะใช้สิทธิฟ้องร้องรัฐบาล เพราะครั้งนี้รัฐมีข้าวอยู่ แต่ไม่อนุญาตให้เอกชนขนย้าย ถือว่าไม่ถูกต้อง และทำให้เอกชนได้รับความเสียหาย

อีกทั้ง การประมูลครั้งนี้ทำอย่างถูกต้องตามทุกขั้นตอนทุกอย่าง หากนายกรัฐมนตรีมองว่าการประมูลไม่โปร่งใสน่าจะสอบสวนหาผู้กระทำผิด ไม่ใช่มาชะลอหรือล้มประมูล

นอกจากนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้าจะมีการอธิบายผลดี ผลเสีย ทางออกของการประมูลข้าวครั้งนี้ โดยเฉพาะหากมีการสั่งให้เปิดประมูลใหม่ และได้ราคาต่ำกว่าเดิมรัฐบาลจะหาทางออกอย่างไร เนื่องจากทิศทางราคาข้าวตลาดโลกเริ่มลดลง รวมถึงผลกระทบต่อความเชื่อมั่นประเทศ กับผู้ซื้อขายสินค้ากับชาวต่างชาติด้วย

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจดูแลสินค้าเกษตรทั้งระบบ ว่า ขณะนี้ ยังไมได้ดำเนินการใดๆ เพราะต้องรอคำสั่งจากนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ อย่างเป็นทางการก่อน เพียงแต่ติดตามสถานการณ์การค้าสินค้าเกษตรทั้งข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพด ซึ่งเป็นภารกิจปกติของกรมฯอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการประมูลสต๊อกข้าวรัฐบาลนั้น ยังไม่ทราบเช่นกัน เพราะเป็นเรื่องที่ทางอคส.ดำเนินการมาก่อน จึงต้องรอนโยบาย

ยึดแนวทาง”สุเทพ”ระบายข้าวโพด

นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แห่งชาติ ว่า ที่ประชุมได้กำหนดกรอบและแนวทางในการระบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ยังค้างอยู่ในสต๊อกของรัฐบาล โดยขอให้ใช้แนวทางใหม่ตามที่คณะกรรมการที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกำหนดเอาไว้ และจะมีการเสนอรายละเอียดต่างๆให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันที่ 3 มิ.ย.นี้

“การระบายข้าวโพดครั้งต่อไป ต้องยึดกรอบที่กำหนดไว้ และขอให้ดูว่าจะสามารถเปิดโอกาสให้กับกลุ่มสหกรณ์ที่มีความต้องการใช้ในประเทศสามารถเข้ามาซื้อได้หรือไม่ แต่ยังให้คงหลักเพื่อการส่งออกเอาไว้”

นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า ส่วนผลการระบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อการส่งออก จำนวน 4.49 ล้านตัน ที่ได้มีการเปิดประมูลก่อนหน้านี้ และมีผู้ส่งออกที่ชนะการประมูลจำนวน 3 รายนั้น กระทรวงพาณิชย์ได้แจ้งว่าขณะนี้ผู้ชนะการประมูลได้ทำหนังสือขอยกเลิกสัญญาการประมูล และคืนหลักประกันจากอคส. แล้ว ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบ

ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า การที่ผู้ส่งออกยกเลิกการประมูลเป็นเพราะคณะกรรมการฯ ทำให้เกิดความล่าช้า ขอยืนยันว่าคณะกรรมการฯ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง เพราะในการประชุมช่วงปลายเดือนมี.ค. ได้ขอให้ระงับการประมูลออกไปก่อน และให้กระทรวงพาณิชย์ทำรายละเอียดว่าการระบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทำตามขั้นตอนถูกต้องหรือไม่และมีอำนาจในการดำเนินการหรือไม่ และให้นำเข้าสู่ที่ประชุมครม. โดยเร็ว แต่ปรากฎว่ากระทรวงพาณิชย์กลับใช้เวลานานกว่า 6 สัปดาห์ ก่อนที่จะเสนอครม.พิจารณา ทำให้เสียเวลา จนเอกชนยกเลิกการประมูลในที่สุด

นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบให้กระทรวงพาณิชย์ ไปทบทวนนโยบายโครงการลงทุนสินค้าเกษตรแบบมีสัญญาในประเทศเพื่อนบ้าน (คอนแทรก ฟาร์มมิ่ง) โดยเฉพาะสินค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2547 ที่ให้รับซื้อสินค้าคืนจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีประเด็นว่า กระทรวงพาณิชย์สามารถที่จะทบทวนการให้โควตานำเข้าได้หรือไม่

คชก.เบรกจำนำกุ้ง

รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) แจ้งว่า กระทรวงพาณิชย์ นำเสนอโครงการช่วยเหลือราคากุ้งขาวแวนนาไม ของกลุ่มเกษตกรผู้เลี้ยงกุ้ง 8 จังหวัดภาคใต้ ให้ที่ประชุม คชก. พิจารณา 2 แนวทาง คือ ให้เปิดรับจำนำ 10,000 ตัน ราคากก.ละ 105-160 บาท จากปริมาณผลผลิตรวม 400,000 ตัน ตามที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอมา หรือให้รัฐบาลสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนให้กลุ่มสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งกู้ยืม และทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (คอนแทรค ฟาร์มมิ่ง) ให้เอกชนไปรับซื้อจากมือเกษตรกรโดยตรง

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้อนุมัติในแนวทางที่สอง คือ ให้การสนับสนุนวงเงินและทำคอนแทรค ฟาร์มมิ่งเท่านั้น ส่วนแนวทางการรับจำนำไม่ผ่านการอนุมัติ โดยตัวแทนคณะกรรมการ จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และกระทรวงมหาดไทยได้คัดค้าน เพราะเห็นว่าการเปิดรับจำนำขัดกับนโยบาย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมตรี และของนายกอร์ปศักดิ์เองที่ต้องการยกเลิกระบบจำนำ และการเปิดจำนำเพียงหมื่นตัน ไม่ส่งผลดีต่อภาพรวมของเกษตรกร

ทั้งนี้ นายกอร์ปศักดิ์ ได้เข้าประชุมด้วย แต่ไม่สามารถตอบคำถามดังกล่าวได้ แต่แจ้งว่าให้นำเรื่องนี้กลับมาพิจารณาในการประชุม คชก.ครั้งหน้า และในสัปดาห์หน้าจะประชุมภายในเพื่อหาทางออกอีกครั้ง เพราะเรื่องนี้ถูกกดดันจาก กลุ่ม ส.ส.ภาคใต้ ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์
กำลังโหลดความคิดเห็น