ASTVผู้จัดการรายวัน- ครม.ตีกลับโครงการรถเช่าเอ็นจีวี 4,000 คัน "เสธ.หนั่น" ฉุนโดนวางยา อิงสถาบันพระปกเกล้า-ขสมก.มั่วตัวเลข โยนกระทรวงคมนาคม-คลัง-สำนักงบฯทบทวนตัวเลขค่าซ่อมรถ-ดอกเบี้ยเงินกู้ “มาร์ค” ลั่นครม.มีอำนาจสั่งทบทวนโครงการเพื่อความรัดกุม เชื่อ“โสภณ” เข้าใจ ให้เวลา 2 สัปดาห์นำเข้าครม.ใหม่ ติงค่าซ่อมแพง ตั้งวงเงินสูงเกินไป ด้าน”ชัยรัตน์”รักษาการ ผอ.ขสมก. เผยตั้งค่าซ่อม 7.50 บาทถือว่าถูกแล้ว แต่ครม.ไม่เอาด้วย ก็ต้องทบทวนใหม่ ด้านรถร่วมฯได้ทีค้านต่อ ชี้โครงการส่อทุจริต ล็อกสเปก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า กระทรวงคมนาคม ได้มีการเสนอโครงการเช่ารถเมล์ เอ็นจีวี 4,000 คัน เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ครม. ซึ่งหลักที่รัฐบาลบอกว่าสามารถดำเนินการได้คือ 1. ต้องเป็นการประกอบรถขึ้นในประเทศไม่น้อยกว่า 70% 2. ให้มีการดูเรื่องของการปรับลดตัวเลขต่างๆ ตามที่คณะทำงานของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้เคยดำเนินการไว้ ซึ่งถ้าเห็นว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นปัญหาในเรื่องใดก็ตาม ก็ให้ทางกระทรวงคมนาคมไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ ก่อนที่จะเสนอกลับเข้าให้ ครม.พิจารณาอีกครั้งในอีก 2 สัปดาห์
"กระทรวงคมนาคม ยังมีประเด็นที่เห็นไม่ตรงกันกับคณะทำงานของพล.ต.สนั่น ในตัวเลขบางส่วน เช่น การคำนวณหลักเกณฑ์เกี่ยวกับค่าซ่อมรถ และดอกเบี้ย ซึ่งได้ขอให้กลับไปทบทวน ซึ่งรมว.คมนาคม ไม่ว่าอะไร เพราะเข้าใจดี อีกทั้งยังบอกว่าเรื่องนี้มีเรื่องที่ส่งไปยัง พล.ต.สนั่น และมีการปรับลดตัวเลข ซึ่งทาง ขสมก. ก็ติดใจมาตั้งแต่ต้นว่าปรับได้ตามนั้นจริงหรือไม่ แต่เมื่อเสนอมา ครม.ก็มีความเห็นว่า เมื่อยังไม่สามารถทำได้ และยังไม่มีความชัดเจน ก็ต้องกลับไปดูร่วมกัน ซึ่งกระทรวงคมนาคมไม่ได้ติดใจอะไร" นายอภิสิทธิ์กล่าว
ด้านพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ที่เคยตั้งคณะทำงานตรวจสอบเรื่องนี้ ในสมัยรัฐบาลที่ผ่านมา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้ไปดูเรื่องวงเงินเป็นหลัก หลักการก็ให้แก้ไขทุกอย่างตามที่คณะทำงานที่ตนเป็นประธานได้กำหนดไป ส่วนวงเงินที่แตกต่างกัน ขอกลับไปดูตัวเลขให้ชัดเจนอีกครั้ง
นายศุภชัย ใจสุมทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่านายกฯ แสดงความสนใจในส่วนของค่าซ่อม และอัตราดอกเบี้ยโดยสอบถามถึงค่าซ่อมรถที่มีความแตกต่าง ตามที่ ขสมก.เสนอปรับ เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 52 (ตามที่คณะกรรมการฯที่มี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสตร์ สมัยเป็นรองนายกฯช่วงรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เสนอ) และค่าเช่าตามที่คณะกรรมการ TOR ของ ขสมก.กำหนด (นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เสนอ) มีการเปรียบเทียบตารางทั้ง 2 ส่วน พบว่า ค่าซ่อมรถตามที่ ขสมก.เสนออยู่ที่ 1,359 บาทต่อคันต่อวัน รวมทั้งโครงการ 19,841 ล้านบาท ขณะที่ค่าซ่อมรถตามที่คณะกรรมการฯ TOR เสนออยู่ที่ 2,250 บาทต่อคัน ต่อวัน รวมทั้งโครงการ 32,850 ล้านบาท สามารถที่จะปรับลดได้หรือไม่
"ขณะที่อัตราดอกเบี้ย ซึ่งมีความแตกต่าง ขอให้กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม และสำงบประมาณไปดูว่า ควรจะนับดอกเบี้ยของคณะกรรมการชุดใด เพราะตามที่ ขสมก.เสนอ อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 9.875% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยของบอร์ด ขสมก. เสนอที่ 10.25% ตรงนี้ตัวเลขอาจจะแตกต่างกัน โดยให้พิจารณากรอบวงเงินที่เกี่ยวข้องกับ ค่าซ่อมบำรุงรักษา และดอกเบี้ย ซึ่งยังมีความเห็นแตกต่างกันอยู่"
ระบุ“ดอกเบี้ย-ค่าซ่อม”สูง
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สอบถาม นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ว่า จะพิจารณาในเรื่องของการปรับลดอัตรากำลังของพนักงาน ขสมก.หรือไม่ ซึ่งก็ไมได้ติดใจเรื่องออะไร เห็นเพียงว่า เรื่องอัตราดอกเบี้ยกับค่าซ่อมสูงไปหรือไม่ จะต้องหาจุดตัวเลขค่าซ่อมที่แย้งกัน ระหว่าง กม.ละ 4.50 บาท (ขสมก.) และค่าซ่อม กม.ละ 7.50 บาท (บอร์ด ขสมก.) ว่าอยู่ตรงไหน เนื่องจากมีการรายงานว่า มีการเสนอให้สถาบันพระปกเกล้า ไปสำรวจอัตราค่าซ่อม เพราะ รักษาการ ผอ.ขสมก.ได้ชี้แจงครม.ว่า ขสมก.ไม่ยอมรับข้อเสนอดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าไม่ใช่ตัวเลขตามข้อเท็จจริง ซึ่ง ขสมก.เคยเสนอค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะอยู่ที่ 8-9 บาท/กม./คัน/วัน ส่วนค่าดอกเบี้ย ที่ขสมก.มีภาระต้องใช้เงินลงทุน ก็ยังมีความเห็นที่ต่างกันกัน โดยขสมก.เคยเสนอคณะกรรมการ เกี่ยวกับ ดอกเบี้ยจ่ายที่ยังต่างกัน อยู่ที่ 0.50%
"มีการคิดดอกเบี้ยที่ต่างกัน ข้อมูลการคำนวณมีหลายส่วน เป็นการเปรียบเทียบสองรายการ ซึ่งมีค่าต่างกันประมาณ 0.50% ตรงนี้สถาบันพระปกเกล้า คงไปสำรวจมาแล้ว แต่ผมก็แปลกใจว่า ทำไมต้องเป็นสถาบันพระปกเกล้า เพราะเห็นแต่ทำเรื่องสมานฉันท์ หรือเรื่องการเมือง ไม่รู้ว่าใครมอบหมาย แต่ในวันนี้ ไม่มีมติเรื่องของค่าซ่อมและดอกเบี้ย" นายศุภชัยกล่าว
นายศุภชัย กล่าวว่า สถาบันพระปกเกล้า ได้คิดคำนวณกรอบวงเงินค่าเช่า 4,000 คัน (ไม่รวมค่าอู่) ในกรอบวงเงิน 66,788 ล้านบาท ขณะที่อ้างว่า บอร์ด ขสมก.เสนอนายโสภณ ในกรอบ TOR ซึ่งมีการประชุมกว่า 10 ครั้ง ในกรอบวงเงิน 69,788 ล้านบาท
งงตัวเลขส.พระปกเกล้ามาจากไหน
นายอรรคพล สรสุชาติ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์) กล่าวเพิ่มเติมว่า จะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อชี้แจงตัวเลขที่แตกต่างกัน เพื่อให้นายกฯเก็บไว้ใช้เป็นดุลพินิจ และเปรียบเทียบกับผลการพิจารณาของคณะกรรมการที่ ครม.ตั้งขึ้นในครั้งนี้ โดยตัวเลขที่แตกต่างกันยังรวมไปถึงการหักค่าระบบอิเลกทรอนิกส์เฉพาะของรถร่วม 11,684 คัน ซึ่งคณะทำงานของ พล.ต.สนั่น เคยท้วงติงไม่ให้นำวงเงินมาร่วมกับโครงการนี้จำนวน 5,941.67 ล้านบาท แต่ ขสมก.ได้ยอมหักวงเงินนี้ลง แต่กลับปรับลดลงเพียง 4,277.80 ล้านบาท รวมทั้งการปรับลดค่าจัดหาอู่ 5,920 ล้านบาท แต่ ขสมก. เสนอปรับลดลงเพียง 4,161 ล้านบาท
ส่วนกรณีค่าซ่อมรถที่คิด กม.ละ 4.50 บาท รวมเป็นเงิน 19,841 ล้านบาทนั้น แต่เดิมตนไม่เคยไปแตะ และก็ค่อนข้างสับสนที่การเสนอของ ขสมก.ในครั้งนี้เพิ่มเป็น กม.ละ 7.50 บาท รวมเป็นเงินถึง 32,850 ล้านบาท ส่วนอัตราดอกเบี้ยก็น่าสงสัยเพราะการพิจารณาครั้งก่อนช่วงเดือนก.ย.51 เมื่อเทียบกับภาวะปัจจุบันเป็นสถานการณ์ดอกเบี้ยขาลง ข้อเสนอเพิ่มดอกเบี้ยไม่น่าเป็นไปได้ ทำให้มูลค่าโครงการร่วมเพิ่มขึ้นจาก 66,021 ล้านบาท เป็น 69,788 ล้านบาท
"เรื่องที่ ขสมก.ใส่ตัวเลขค่าระบบอิเลกทรอนิกส์เฉพาะของรถร่วม 11,684 คัน วงเงิน 5,941.67 ล้านบาทนั้น ผมก็ไม่เข้าใจว่าเอามาใส่ร่วมกับโครงการนี้ได้อย่างไร และเป็นเอกสารที่ผมไปค้นหามาได้ด้วยตัวเอง ขณะที่ผมก็แปลกใจว่า ตัวเลขที่อ้างว่า สถาบันพระปกเกล้า ไปคำนวณมามาได้อย่างไร เพราะตัวเลขที่เห็นชอบเมื่อวันที่ 2 ก.ย.52 เป็นตัวเลขที่คณะทำงานพิเศษของพล.ต.สนั่น ไปคำนวณมา"
รายงานข่าวแจ้งว่า ทั้งนี้นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา จากพรรคภูมิใจไทย มีอีกตำแหน่ง โดยเป็น ประธานสภาสถาบันพระปกเกล้าด้วย
ค่าเช่า ฉบับ“ซาเล้ง” แพงบรรลัย
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมได้พิจารณา กรอบค่าเช่า 2 กรอบ เป็น ค่าเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ที่ ขสมก. เสนอเข้าครม.ครั้งนี้ เป็นค่าเช่าคันละ 4,780 บาทต่อคันต่อวัน วงเงินรวมทั้งโครงการ 69,788 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าตัวรถ 2,195 บาทต่อคันต่อวัน หรือทั้งโครงการ 32,047 ล้านบาท ค่าซ่อมรถ 2,250 บาทต่อคันต่อวัน รวมทั้งโครงการ 32,850 ล้านบาท ค่าระบบอิเลกทรอนิกส์ 157 บาทต่อคันต่อวัน รวม 2,292 ล้านบาท ค่าประกันภัย 31 บาทต่อคันต่อวัน รวม 453 ล้านบาท ค่าภาษี 8 บาทต่อคันต่อวัน รวม 117 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายบริหารจัดการ 139 บาทต่อคันต่อวัน รวม 2,029 ล้านบาท
ส่วนที่คณะทำงานที่พล.ต.สนั่น ซึ่งอ้างว่า ขสมก.เสนอนั้น เสนอรวมค่าเช่าวันละ 4,522 บาทต่อคันต่อวัน วงเงินรวมทั้งโครงการ 66,021 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าค่าตัวรถ 2,537 บาทต่อคันต่อวัน หรือทั้งโครงการ 37,040 ล้านบาท ค่าซ่อมรถ 1,359 บาทต่อคันต่อวัน รวมทั้งโครงการ 19,841 ล้านบาท ค่าระบบอิเลคทรอนิกส์ 170 บาทต่อคันต่อวัน รวม 2,482 ล้านบาท ค่าประกันภัย 31 บาทต่อคันต่อวัน รวม 453 ล้านบาท ค่าภาษี 8 บาทต่อคันต่อวัน รวม 117 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายบริหารจัดการ 417 บาทต่อคันต่อวัน รวม 6,088 ล้านบาท
“มาร์ค” ลั่นครม.มีอำนาจตีกลับ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการเช่ารถเมล์ 4 พันคันที่เสนอเข้าสู่ที่ประชุมครม. ครั้งนี้ ได้ให้ทาง 3 หน่วยงานกลับไปดูเรื่องตัวเลข ซึ่งกระทรวงคมนาคมยังมีประเด็นยังเห็นไม่ตรงกับคณะทำงานของพล.ต.สนั่น ในตัวเลขบางส่วน ครม.จึงให้กลับไปดูให้เรียบร้อย ทั้งนี้ตัวเลขที่ว่า เช่น การคำนวณหลักเกณฑ์เกี่ยวกับเรื่องค่าซ่อมรถ ส่วนราคาค่าเช่ารถได้มีการปรับลงมาขณะนี้ทุกอย่างปรับลงมาหมด มีเพียง 2 รายการ คือ ค่าซ่อมรถ กับดอกเบี้ย จึงได้ให้นำกลับไปทบทวน
"เป็นหน้าที่ของครม.ที่จะพิจารณาทุกเรื่องที่เข้ามาเพื่อให้เกิดความรอบคอบ รัดกุม เป็นธรรมดา ไม่งั้นไม่ต้องมีครม. ”นายอภิสิทธิ์ กล่าว ตอบคำถามที่ว่า เป็นเพราะมีการนำเสนอเรื่องเข้ามาจำนวนมาก จึงต้องมีการเบรกกันใช่หรือไม่
“เสธ.หนั่น”เคืองคมนาคมวางยา
พล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ กล่าวว่า นายกฯ ได้สั่งในที่ประชุมครม.ว่าให้นำกลับไปดูข้อมูลของตนเป็นหลัก โดยเฉพาะเรื่องจำนวนเงิน เช่น เรื่องค่าซ่อม ดอกเบี้ย ซึ่งที่ตนเสนอ ไม่มีค่าซ่อมแซม แต่จำรายละเอียดได้ไม่ทั้งหมด คงต้องกลับไปดูอีกครั้ง ส่วนเรื่องหลักการต่างๆได้มีการแก้ไขเกือบทุกอย่างตามที่ตนได้กำหนดไว้ เรื่องนี้นายกฯ เป็นผู้ซักถามเองหมดโดยถามที่ตนเป็นหลัก
แหล่งข่าวที่ประชุมครม.เปิดเผยว่า ระหว่างที่ ครม.พิจารณาโครงการรถเมล์ 4 พันคัน หลังที่ตัวแทนอธิบดีกรมขนส่งทางบกรักษาการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ .รายงานแล้วเสร็จ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง กล่าวว่า ถ้าผอ.ขสมก.ไม่มีอะไรชี้แจงแล้วก็ออกไปได้ จากนั้นพล.ต.สนั่น ได้กล่าวเชิงตำหนิว่า "ทำไมกระทรวงคมนาคม นำข้อมูลจากสถาบันพระปกเกล้าฯ มาอ้างอิงน่าจะบอกกันก่อน”
เป็นที่น่าสังเกตุว่าก่อนหน้านี้นายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ยื่นใบลาป่วยเป็นเวลา 1 เดือนโดยอ้างว่ามีปัญหาสุขภาพ ซึ่งในวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการ ขสมก.ได้แต่ตั้งนายชัยรัตน์ สงวนซื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก รักษาการผอ.ขสมก.แทน
คมนาคมแจงตีกลับรถเมล์เอ็นจีวี
นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช.คมนาคม กล่าวว่า ครม.ยังไม่ได้เห็นชอบใดๆ ทั้ง โครงการเช่ารถเอ็นจีวี 4,000 คัน และแผนฟื้นฟูฯ ขสมก. โดยให้คณะกรรมการพิเศษที่ตั้งขึ้นพิจารณารายละเอียดที่ ครม.มีการตั้งข้อสังเกตุก่อน และให้เสนอครม.อีกครั้ง เพื่ออนุมัติโครงการภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งโครงการเช่ารถเอ็นจีวี 4,000 คันนั้น ครม.เห็นว่า อัตราค่าซ่อมรถแพงเกินไป โดยเฉพาะการเปรียบเทียบวิธีการเช่ารถกับการซื้อรถเข้ามาทั้งหมด เพราะการที่ขสมก. ทำการเช่ารถมาแล้วนั้น ค่าซ่อมน่าจะถูกกว่าที่ประเมินเอาไว้” นายประจักษ์ กล่าว
ส่วนของแผนการชดเชยการให้บริการต่อสาธารณะ (PSO) แก่ ขสมก. ในการดำเนินโครงการรถเมล์ฟรีวงเงิน 1,289 ล้านบาท นั้น ที่ครม.ได้อนุมัติให้ขสมก. กู้เงินจำนวน 639 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2552 เป็นวงเงินงวดแรกก่อนโดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน เนื่องจากไม่ได้มีการจัดสรรงบประมาณไว้ ส่วนที่เหลืออีก 650 ล้านบาทจะใช้งบประมาณปี 2553 มาดำเนินการ
ด้านนายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) รักษาการ ผู้อำนวยการขสมก. และในฐานะประธานคณะกรรมการจัดทำร่างเงื่อนไขการประมูล (ทีโออาร์) โครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน กล่าวว่า เรื่องอัตราค่าซ่อมบำรุงนั้น กระทรวงคมนาคมเสนอ ราคา 7.50 บาทต่อวันต่อคัน แต่ที่ประชุมครม.เห็นว่า เป็นราคาที่สูงไป จึงได้สั่งให้กลับไปทบทวนอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า รถเมล์เอ็นจีวีชุดใหม่ที่จะนำมาให้บริการเพิ่ม ไม่กระทบต่อรถร่วมบริการเอกชน เพราะเส้นทางให้บริการที่ปรับปรุงใหม่ของ ขสมก. 145 เส้นทาง ขณะที่รถร่วมเอกชน 80-90 เส้นทาง ขสมก.ยังเปิดทางให้รถร่วมเอกชนที่ได้ปรับปรุงให้บริการรถเมล์ให้มีคุณภาพและมีมาตรฐานสามารถวิ่งให้บริการในเส้นทางดังกล่าวถึง 2,000 คัน เพื่อประโยชน์และคุณภาพในการให้บริการต่อประชาชน
ด้านนายยรรยง อัมพรตระกูล ประธานชมรมรถร่วมบริการ ขสมก.ได้นำสมาชิกรถร่วมฯ เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านโครงการดังกล่าว เพราะเห็นว่าไม่สุจริต และค่าเช่าแพงเกินควร อีกทั้งการกำหนดเส้นทางใหม่เป็นการทับซ้อนเส้นทางรถเอกชน เพื่อทำลายผู้ประกอบการเดิม และเห็นว่าค่าเช่าและค่าซ่อมรถใหม่แพงเกินจริงคันละกว่า 2 ล้านบาท มีสัญญาผูกมัดถึง 10 ปี หากขสมก. เช่าซื้อรถ 5 ปี จะได้เป็นเจ้าของโดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่า
รวมทั้งปัจจุบันปริมาณรถให้บริการในระบบมากเกินไปทั้งไมโครบัสและมินิบัส โดยมีรายได้ 4,000-5,000บาท ขณะที่รายจ่ายอยู่ที่ 6,500 บาทต่อวัน ทำให้ต้องขาดทุนวันละ 1,500 บาท ขณะที่บัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ ( E-Ticket) ที่เสนอราคาบริการวันละ 468 บาท ค่าใช้จ่ายเช่ารถหรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แพงเกินไป และยังมีการกำหนดเงื่อนไขแบบล็อคสเปคให้กับภาคเอกชนบางราย เพราะขสมก.ควรเช่ารถถูกกว่าบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ที่วิ่งให้บริการผู้โดยสารต่างจังหวัด เพราะ บขส.เช่าพร้อมค่าซ่อมวันละ 3,000 บาทเท่านั้น จึงขอให้ทบทวนโครงการดังกล่าว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า กระทรวงคมนาคม ได้มีการเสนอโครงการเช่ารถเมล์ เอ็นจีวี 4,000 คัน เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ครม. ซึ่งหลักที่รัฐบาลบอกว่าสามารถดำเนินการได้คือ 1. ต้องเป็นการประกอบรถขึ้นในประเทศไม่น้อยกว่า 70% 2. ให้มีการดูเรื่องของการปรับลดตัวเลขต่างๆ ตามที่คณะทำงานของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้เคยดำเนินการไว้ ซึ่งถ้าเห็นว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นปัญหาในเรื่องใดก็ตาม ก็ให้ทางกระทรวงคมนาคมไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ ก่อนที่จะเสนอกลับเข้าให้ ครม.พิจารณาอีกครั้งในอีก 2 สัปดาห์
"กระทรวงคมนาคม ยังมีประเด็นที่เห็นไม่ตรงกันกับคณะทำงานของพล.ต.สนั่น ในตัวเลขบางส่วน เช่น การคำนวณหลักเกณฑ์เกี่ยวกับค่าซ่อมรถ และดอกเบี้ย ซึ่งได้ขอให้กลับไปทบทวน ซึ่งรมว.คมนาคม ไม่ว่าอะไร เพราะเข้าใจดี อีกทั้งยังบอกว่าเรื่องนี้มีเรื่องที่ส่งไปยัง พล.ต.สนั่น และมีการปรับลดตัวเลข ซึ่งทาง ขสมก. ก็ติดใจมาตั้งแต่ต้นว่าปรับได้ตามนั้นจริงหรือไม่ แต่เมื่อเสนอมา ครม.ก็มีความเห็นว่า เมื่อยังไม่สามารถทำได้ และยังไม่มีความชัดเจน ก็ต้องกลับไปดูร่วมกัน ซึ่งกระทรวงคมนาคมไม่ได้ติดใจอะไร" นายอภิสิทธิ์กล่าว
ด้านพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ที่เคยตั้งคณะทำงานตรวจสอบเรื่องนี้ ในสมัยรัฐบาลที่ผ่านมา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้ไปดูเรื่องวงเงินเป็นหลัก หลักการก็ให้แก้ไขทุกอย่างตามที่คณะทำงานที่ตนเป็นประธานได้กำหนดไป ส่วนวงเงินที่แตกต่างกัน ขอกลับไปดูตัวเลขให้ชัดเจนอีกครั้ง
นายศุภชัย ใจสุมทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่านายกฯ แสดงความสนใจในส่วนของค่าซ่อม และอัตราดอกเบี้ยโดยสอบถามถึงค่าซ่อมรถที่มีความแตกต่าง ตามที่ ขสมก.เสนอปรับ เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 52 (ตามที่คณะกรรมการฯที่มี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสตร์ สมัยเป็นรองนายกฯช่วงรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เสนอ) และค่าเช่าตามที่คณะกรรมการ TOR ของ ขสมก.กำหนด (นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เสนอ) มีการเปรียบเทียบตารางทั้ง 2 ส่วน พบว่า ค่าซ่อมรถตามที่ ขสมก.เสนออยู่ที่ 1,359 บาทต่อคันต่อวัน รวมทั้งโครงการ 19,841 ล้านบาท ขณะที่ค่าซ่อมรถตามที่คณะกรรมการฯ TOR เสนออยู่ที่ 2,250 บาทต่อคัน ต่อวัน รวมทั้งโครงการ 32,850 ล้านบาท สามารถที่จะปรับลดได้หรือไม่
"ขณะที่อัตราดอกเบี้ย ซึ่งมีความแตกต่าง ขอให้กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม และสำงบประมาณไปดูว่า ควรจะนับดอกเบี้ยของคณะกรรมการชุดใด เพราะตามที่ ขสมก.เสนอ อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 9.875% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยของบอร์ด ขสมก. เสนอที่ 10.25% ตรงนี้ตัวเลขอาจจะแตกต่างกัน โดยให้พิจารณากรอบวงเงินที่เกี่ยวข้องกับ ค่าซ่อมบำรุงรักษา และดอกเบี้ย ซึ่งยังมีความเห็นแตกต่างกันอยู่"
ระบุ“ดอกเบี้ย-ค่าซ่อม”สูง
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สอบถาม นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ว่า จะพิจารณาในเรื่องของการปรับลดอัตรากำลังของพนักงาน ขสมก.หรือไม่ ซึ่งก็ไมได้ติดใจเรื่องออะไร เห็นเพียงว่า เรื่องอัตราดอกเบี้ยกับค่าซ่อมสูงไปหรือไม่ จะต้องหาจุดตัวเลขค่าซ่อมที่แย้งกัน ระหว่าง กม.ละ 4.50 บาท (ขสมก.) และค่าซ่อม กม.ละ 7.50 บาท (บอร์ด ขสมก.) ว่าอยู่ตรงไหน เนื่องจากมีการรายงานว่า มีการเสนอให้สถาบันพระปกเกล้า ไปสำรวจอัตราค่าซ่อม เพราะ รักษาการ ผอ.ขสมก.ได้ชี้แจงครม.ว่า ขสมก.ไม่ยอมรับข้อเสนอดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าไม่ใช่ตัวเลขตามข้อเท็จจริง ซึ่ง ขสมก.เคยเสนอค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะอยู่ที่ 8-9 บาท/กม./คัน/วัน ส่วนค่าดอกเบี้ย ที่ขสมก.มีภาระต้องใช้เงินลงทุน ก็ยังมีความเห็นที่ต่างกันกัน โดยขสมก.เคยเสนอคณะกรรมการ เกี่ยวกับ ดอกเบี้ยจ่ายที่ยังต่างกัน อยู่ที่ 0.50%
"มีการคิดดอกเบี้ยที่ต่างกัน ข้อมูลการคำนวณมีหลายส่วน เป็นการเปรียบเทียบสองรายการ ซึ่งมีค่าต่างกันประมาณ 0.50% ตรงนี้สถาบันพระปกเกล้า คงไปสำรวจมาแล้ว แต่ผมก็แปลกใจว่า ทำไมต้องเป็นสถาบันพระปกเกล้า เพราะเห็นแต่ทำเรื่องสมานฉันท์ หรือเรื่องการเมือง ไม่รู้ว่าใครมอบหมาย แต่ในวันนี้ ไม่มีมติเรื่องของค่าซ่อมและดอกเบี้ย" นายศุภชัยกล่าว
นายศุภชัย กล่าวว่า สถาบันพระปกเกล้า ได้คิดคำนวณกรอบวงเงินค่าเช่า 4,000 คัน (ไม่รวมค่าอู่) ในกรอบวงเงิน 66,788 ล้านบาท ขณะที่อ้างว่า บอร์ด ขสมก.เสนอนายโสภณ ในกรอบ TOR ซึ่งมีการประชุมกว่า 10 ครั้ง ในกรอบวงเงิน 69,788 ล้านบาท
งงตัวเลขส.พระปกเกล้ามาจากไหน
นายอรรคพล สรสุชาติ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์) กล่าวเพิ่มเติมว่า จะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อชี้แจงตัวเลขที่แตกต่างกัน เพื่อให้นายกฯเก็บไว้ใช้เป็นดุลพินิจ และเปรียบเทียบกับผลการพิจารณาของคณะกรรมการที่ ครม.ตั้งขึ้นในครั้งนี้ โดยตัวเลขที่แตกต่างกันยังรวมไปถึงการหักค่าระบบอิเลกทรอนิกส์เฉพาะของรถร่วม 11,684 คัน ซึ่งคณะทำงานของ พล.ต.สนั่น เคยท้วงติงไม่ให้นำวงเงินมาร่วมกับโครงการนี้จำนวน 5,941.67 ล้านบาท แต่ ขสมก.ได้ยอมหักวงเงินนี้ลง แต่กลับปรับลดลงเพียง 4,277.80 ล้านบาท รวมทั้งการปรับลดค่าจัดหาอู่ 5,920 ล้านบาท แต่ ขสมก. เสนอปรับลดลงเพียง 4,161 ล้านบาท
ส่วนกรณีค่าซ่อมรถที่คิด กม.ละ 4.50 บาท รวมเป็นเงิน 19,841 ล้านบาทนั้น แต่เดิมตนไม่เคยไปแตะ และก็ค่อนข้างสับสนที่การเสนอของ ขสมก.ในครั้งนี้เพิ่มเป็น กม.ละ 7.50 บาท รวมเป็นเงินถึง 32,850 ล้านบาท ส่วนอัตราดอกเบี้ยก็น่าสงสัยเพราะการพิจารณาครั้งก่อนช่วงเดือนก.ย.51 เมื่อเทียบกับภาวะปัจจุบันเป็นสถานการณ์ดอกเบี้ยขาลง ข้อเสนอเพิ่มดอกเบี้ยไม่น่าเป็นไปได้ ทำให้มูลค่าโครงการร่วมเพิ่มขึ้นจาก 66,021 ล้านบาท เป็น 69,788 ล้านบาท
"เรื่องที่ ขสมก.ใส่ตัวเลขค่าระบบอิเลกทรอนิกส์เฉพาะของรถร่วม 11,684 คัน วงเงิน 5,941.67 ล้านบาทนั้น ผมก็ไม่เข้าใจว่าเอามาใส่ร่วมกับโครงการนี้ได้อย่างไร และเป็นเอกสารที่ผมไปค้นหามาได้ด้วยตัวเอง ขณะที่ผมก็แปลกใจว่า ตัวเลขที่อ้างว่า สถาบันพระปกเกล้า ไปคำนวณมามาได้อย่างไร เพราะตัวเลขที่เห็นชอบเมื่อวันที่ 2 ก.ย.52 เป็นตัวเลขที่คณะทำงานพิเศษของพล.ต.สนั่น ไปคำนวณมา"
รายงานข่าวแจ้งว่า ทั้งนี้นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา จากพรรคภูมิใจไทย มีอีกตำแหน่ง โดยเป็น ประธานสภาสถาบันพระปกเกล้าด้วย
ค่าเช่า ฉบับ“ซาเล้ง” แพงบรรลัย
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมได้พิจารณา กรอบค่าเช่า 2 กรอบ เป็น ค่าเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ที่ ขสมก. เสนอเข้าครม.ครั้งนี้ เป็นค่าเช่าคันละ 4,780 บาทต่อคันต่อวัน วงเงินรวมทั้งโครงการ 69,788 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าตัวรถ 2,195 บาทต่อคันต่อวัน หรือทั้งโครงการ 32,047 ล้านบาท ค่าซ่อมรถ 2,250 บาทต่อคันต่อวัน รวมทั้งโครงการ 32,850 ล้านบาท ค่าระบบอิเลกทรอนิกส์ 157 บาทต่อคันต่อวัน รวม 2,292 ล้านบาท ค่าประกันภัย 31 บาทต่อคันต่อวัน รวม 453 ล้านบาท ค่าภาษี 8 บาทต่อคันต่อวัน รวม 117 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายบริหารจัดการ 139 บาทต่อคันต่อวัน รวม 2,029 ล้านบาท
ส่วนที่คณะทำงานที่พล.ต.สนั่น ซึ่งอ้างว่า ขสมก.เสนอนั้น เสนอรวมค่าเช่าวันละ 4,522 บาทต่อคันต่อวัน วงเงินรวมทั้งโครงการ 66,021 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าค่าตัวรถ 2,537 บาทต่อคันต่อวัน หรือทั้งโครงการ 37,040 ล้านบาท ค่าซ่อมรถ 1,359 บาทต่อคันต่อวัน รวมทั้งโครงการ 19,841 ล้านบาท ค่าระบบอิเลคทรอนิกส์ 170 บาทต่อคันต่อวัน รวม 2,482 ล้านบาท ค่าประกันภัย 31 บาทต่อคันต่อวัน รวม 453 ล้านบาท ค่าภาษี 8 บาทต่อคันต่อวัน รวม 117 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายบริหารจัดการ 417 บาทต่อคันต่อวัน รวม 6,088 ล้านบาท
“มาร์ค” ลั่นครม.มีอำนาจตีกลับ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการเช่ารถเมล์ 4 พันคันที่เสนอเข้าสู่ที่ประชุมครม. ครั้งนี้ ได้ให้ทาง 3 หน่วยงานกลับไปดูเรื่องตัวเลข ซึ่งกระทรวงคมนาคมยังมีประเด็นยังเห็นไม่ตรงกับคณะทำงานของพล.ต.สนั่น ในตัวเลขบางส่วน ครม.จึงให้กลับไปดูให้เรียบร้อย ทั้งนี้ตัวเลขที่ว่า เช่น การคำนวณหลักเกณฑ์เกี่ยวกับเรื่องค่าซ่อมรถ ส่วนราคาค่าเช่ารถได้มีการปรับลงมาขณะนี้ทุกอย่างปรับลงมาหมด มีเพียง 2 รายการ คือ ค่าซ่อมรถ กับดอกเบี้ย จึงได้ให้นำกลับไปทบทวน
"เป็นหน้าที่ของครม.ที่จะพิจารณาทุกเรื่องที่เข้ามาเพื่อให้เกิดความรอบคอบ รัดกุม เป็นธรรมดา ไม่งั้นไม่ต้องมีครม. ”นายอภิสิทธิ์ กล่าว ตอบคำถามที่ว่า เป็นเพราะมีการนำเสนอเรื่องเข้ามาจำนวนมาก จึงต้องมีการเบรกกันใช่หรือไม่
“เสธ.หนั่น”เคืองคมนาคมวางยา
พล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ กล่าวว่า นายกฯ ได้สั่งในที่ประชุมครม.ว่าให้นำกลับไปดูข้อมูลของตนเป็นหลัก โดยเฉพาะเรื่องจำนวนเงิน เช่น เรื่องค่าซ่อม ดอกเบี้ย ซึ่งที่ตนเสนอ ไม่มีค่าซ่อมแซม แต่จำรายละเอียดได้ไม่ทั้งหมด คงต้องกลับไปดูอีกครั้ง ส่วนเรื่องหลักการต่างๆได้มีการแก้ไขเกือบทุกอย่างตามที่ตนได้กำหนดไว้ เรื่องนี้นายกฯ เป็นผู้ซักถามเองหมดโดยถามที่ตนเป็นหลัก
แหล่งข่าวที่ประชุมครม.เปิดเผยว่า ระหว่างที่ ครม.พิจารณาโครงการรถเมล์ 4 พันคัน หลังที่ตัวแทนอธิบดีกรมขนส่งทางบกรักษาการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ .รายงานแล้วเสร็จ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง กล่าวว่า ถ้าผอ.ขสมก.ไม่มีอะไรชี้แจงแล้วก็ออกไปได้ จากนั้นพล.ต.สนั่น ได้กล่าวเชิงตำหนิว่า "ทำไมกระทรวงคมนาคม นำข้อมูลจากสถาบันพระปกเกล้าฯ มาอ้างอิงน่าจะบอกกันก่อน”
เป็นที่น่าสังเกตุว่าก่อนหน้านี้นายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ยื่นใบลาป่วยเป็นเวลา 1 เดือนโดยอ้างว่ามีปัญหาสุขภาพ ซึ่งในวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการ ขสมก.ได้แต่ตั้งนายชัยรัตน์ สงวนซื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก รักษาการผอ.ขสมก.แทน
คมนาคมแจงตีกลับรถเมล์เอ็นจีวี
นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช.คมนาคม กล่าวว่า ครม.ยังไม่ได้เห็นชอบใดๆ ทั้ง โครงการเช่ารถเอ็นจีวี 4,000 คัน และแผนฟื้นฟูฯ ขสมก. โดยให้คณะกรรมการพิเศษที่ตั้งขึ้นพิจารณารายละเอียดที่ ครม.มีการตั้งข้อสังเกตุก่อน และให้เสนอครม.อีกครั้ง เพื่ออนุมัติโครงการภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งโครงการเช่ารถเอ็นจีวี 4,000 คันนั้น ครม.เห็นว่า อัตราค่าซ่อมรถแพงเกินไป โดยเฉพาะการเปรียบเทียบวิธีการเช่ารถกับการซื้อรถเข้ามาทั้งหมด เพราะการที่ขสมก. ทำการเช่ารถมาแล้วนั้น ค่าซ่อมน่าจะถูกกว่าที่ประเมินเอาไว้” นายประจักษ์ กล่าว
ส่วนของแผนการชดเชยการให้บริการต่อสาธารณะ (PSO) แก่ ขสมก. ในการดำเนินโครงการรถเมล์ฟรีวงเงิน 1,289 ล้านบาท นั้น ที่ครม.ได้อนุมัติให้ขสมก. กู้เงินจำนวน 639 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2552 เป็นวงเงินงวดแรกก่อนโดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน เนื่องจากไม่ได้มีการจัดสรรงบประมาณไว้ ส่วนที่เหลืออีก 650 ล้านบาทจะใช้งบประมาณปี 2553 มาดำเนินการ
ด้านนายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) รักษาการ ผู้อำนวยการขสมก. และในฐานะประธานคณะกรรมการจัดทำร่างเงื่อนไขการประมูล (ทีโออาร์) โครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน กล่าวว่า เรื่องอัตราค่าซ่อมบำรุงนั้น กระทรวงคมนาคมเสนอ ราคา 7.50 บาทต่อวันต่อคัน แต่ที่ประชุมครม.เห็นว่า เป็นราคาที่สูงไป จึงได้สั่งให้กลับไปทบทวนอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า รถเมล์เอ็นจีวีชุดใหม่ที่จะนำมาให้บริการเพิ่ม ไม่กระทบต่อรถร่วมบริการเอกชน เพราะเส้นทางให้บริการที่ปรับปรุงใหม่ของ ขสมก. 145 เส้นทาง ขณะที่รถร่วมเอกชน 80-90 เส้นทาง ขสมก.ยังเปิดทางให้รถร่วมเอกชนที่ได้ปรับปรุงให้บริการรถเมล์ให้มีคุณภาพและมีมาตรฐานสามารถวิ่งให้บริการในเส้นทางดังกล่าวถึง 2,000 คัน เพื่อประโยชน์และคุณภาพในการให้บริการต่อประชาชน
ด้านนายยรรยง อัมพรตระกูล ประธานชมรมรถร่วมบริการ ขสมก.ได้นำสมาชิกรถร่วมฯ เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านโครงการดังกล่าว เพราะเห็นว่าไม่สุจริต และค่าเช่าแพงเกินควร อีกทั้งการกำหนดเส้นทางใหม่เป็นการทับซ้อนเส้นทางรถเอกชน เพื่อทำลายผู้ประกอบการเดิม และเห็นว่าค่าเช่าและค่าซ่อมรถใหม่แพงเกินจริงคันละกว่า 2 ล้านบาท มีสัญญาผูกมัดถึง 10 ปี หากขสมก. เช่าซื้อรถ 5 ปี จะได้เป็นเจ้าของโดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่า
รวมทั้งปัจจุบันปริมาณรถให้บริการในระบบมากเกินไปทั้งไมโครบัสและมินิบัส โดยมีรายได้ 4,000-5,000บาท ขณะที่รายจ่ายอยู่ที่ 6,500 บาทต่อวัน ทำให้ต้องขาดทุนวันละ 1,500 บาท ขณะที่บัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ ( E-Ticket) ที่เสนอราคาบริการวันละ 468 บาท ค่าใช้จ่ายเช่ารถหรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แพงเกินไป และยังมีการกำหนดเงื่อนไขแบบล็อคสเปคให้กับภาคเอกชนบางราย เพราะขสมก.ควรเช่ารถถูกกว่าบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ที่วิ่งให้บริการผู้โดยสารต่างจังหวัด เพราะ บขส.เช่าพร้อมค่าซ่อมวันละ 3,000 บาทเท่านั้น จึงขอให้ทบทวนโครงการดังกล่าว
