xs
xsm
sm
md
lg

อนุพงษ์ขู่ซ้ำฟ้องคนโยงลอบยิงสนธิ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ผบ.ทบ.ก้นร้อน ชี้แจงสื่อรายวัน ลั่นสัปดาห์หน้ารู้ผลฟ้องคนปูดอยู่เบื้องหลังคนร้ายถล่มยิง ”สนธิ ลิ้มทองกุล” พร้อมอ้างเป็นเรื่องยากตรวจสอบกระสุนเล็ดลอด

เลขาศาล รธน.พบ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ หารือคดียิงเอ็ม 79 ถล่มศาลและยิงสนธิ ด้าน "พัชรวาท" รับปากจะปิดคดียิงสนธิให้เร็วที่สุด

วานนี้ (7 พ.ค.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการฟ้องร้อง ดำเนินคดีกับผู้ที่นำชื่อไปเชื่อมโยงกับการลอบสังหาร นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า ให้เจ้าหน้าที่ด้านกฎหมายดูแลว่าจะทำอะไรได้บ้าง ตนไม่ค่อยมีความรู้เรื่องกฎหมายว่า การพูดเช่นใดจะสามารถฟ้องร้องได้ อย่างไรก็ตามจะพิจารณาโดยใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย คิดว่าสัปดาห์หน้าคงจะทราบว่า จะทำอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่าตำรวจประสานขอข้อมูลเกี่ยวกับที่มาของกระสุนหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนได้รับรายงานจากเจ้ากรมสรรพาวุธทหารบกว่า มีหนังสือฉบับหนึ่งของผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐาน ขอรายละเอียดเกี่ยวกับเลขงานกระสุน 06 กับ 07 ของกระสุน 5.56 มม.ซึ่งเป็นกระสุนของปืนเอ็ม 16 มา 1 ฉบับเพื่อขอรายละเอียดว่า กระสุนล็อตนี้มีเลขงานอะไรบ้าง ซึ่งขณะนี้ทางกรมสรรพาวุธกำลังเตรียมหลักฐานข้อมูลว่ากระสุนเลขงาน 06 กับ 07 มีเลขงานย่อยทั้ง 2 ล็อตนี้อะไรบ้าง ทั้งนี้กองพิสูจน์หลักฐานของตำรวจได้มีการร้องขอตรงไปยังกรมสรรพาวุธทหารบก ซึ่งกรมสรรพาวุธทหารบกได้นำหนังสือดังกล่าวให้ดู ซึ่งตนได้ให้ทาง กรมสรรพาวุธทหารบกตอบให้ความร่วมมือไป

ส่วนกรณีที่คนร้ายก่อเหตุปล้นร้านทองที่ จ.ชลบุรี โดยคนร้ายอ้างว่า กระสุนที่ใช้ซื้อมาจากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร. 21 รอ.) พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เรื่องแบบนี้คิดว่า ไม่ใช่เรื่องดี แต่ถ้ามีตัวอย่างนี้จะง่าย เพราะถ้าเอามาจากหน่วย ความยากคือ กระสุนที่จ่ายออกไปแต่ละล็อตผลิตเป็นหมื่นนัด บางทีจ่ายไปในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 หรือกองพลทหารราบที่ 9 จ.กาญจนบุรี ซึ่งถือว่า เป็นหน่วยกว้าง แต่ยินดีที่จะให้ตำรวจไปสอบสวนว่า จ่ายไปที่ใครบ้าง แต่ถือว่า เป็นเรื่องยากที่จะไปว่า รั่วมาจากจุดใด ทั้งนี้หากมีการกล่าวอ้างว่า ซื้อมาจากใครเราจะดำเนินการได้ ดังนั้นต้องถามคนร้ายว่าซื้อจากใคร ซึ่งคนพวกนี้จะมีความผิดทางด้านกฎหมายและอาญา คนพวกนี้จะได้หมดไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า การซื้อขายอาวุธของกองทัพให้คนร้ายง่ายเกินไปหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า กระสุนที่สามารถรั่วไหลได้ ตามแนวชายแดน ซึ่งทั้งสองส่วน มีจุดที่จะรั่วไหลได้คือ เมื่อฝึกแล้วในการฝึกบางครั้งอาจมีการสอบสวน เรื่องไม่สามารถ ส่งคืนปลอกกระสุนได้ เช่นการฝึกยิงช่วงกลางคืน และประกอบการเคลื่อนที่ซึ่งจะต้องมีการสอบสวน หากผลการสอบสวนออกมาว่า ขอจำหน่ายกระสุน 100 นัดและไม่สามารถส่งคืนปลอกได้ ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่ทำให้กระสุนรั่วไหลได้ ซึ่งตนได้เรียก เจ้ากรมสรรพาวุธ และเจ้ากรมยุทธการ คือ ถ้าเราเด็ดขาดไม่มีการจำหน่ายกระสุนใดเลย

ถ้าสมมุติว่า เอากระสุนไปฝึกยิง 100 นัด ก็ต้องส่งปลอกคืน 100 นัด ขาดไม่ได้เลยแม้แต่นัดเดียว หน่วยก็ไม่น่าจะทำได้เลยในส่วนนี้จุดรั่วอยู่ตรงนี้เท่านั้น ส่วนการนำกระสุนไปปฏิบัติตามแนวชายแดน เช่น จังหวัดชายแดนภาคใต้ หากเราบอกว่า ยิงกระสุนทุกนัดต้องคืนปลอก นัดเดียวก็ขาดไม่ได้ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการได้หรือไม่ตนก็ไม่แน่ใจ ไม่ใช่ว่า สักแต่จะสั่งเพราะเขาอาจจะทำไม่ได้ ถึงหากทำได้ อาจจะมีจุดรั่วได้ แม้ว่า กระสุนที่เล็ดรอดไปจะทำให้หน่วยงานนั้น ๆ เสียหายก็ไม่เป็นไร เพราะไม่มีทางเลี่ยงอย่างอื่น หากเกิดขึ้นแล้วรู้ที่มาจะยิ่งง่าย ซื้อจากใครต้องรู้ และตำรวจต้องสืบและสอบสวนไป หากบอกว่า ซื้อจากข้าราชการ ก. ข. ค. ง.ก็ดำเนินคดี คนพวกนี้ก็จะหมดไป ซึ่งคนทำเช่นนี้ไม่มีมาก และเรื่องกระสุนเล็ดรอด ไม่ได้เพิ่งเกิด แต่เกิดมานานแล้ว บางครั้ง 5 นัด 10 นัด เขาไม่ได้ขนไปเป็นขบวนการ

**จี้" พัชรวาท "เร่งรัดคดี**

วันเดียวกันเวลา 10.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ เลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เพื่อหารือคดีคนร้ายลอบยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่ศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาในการพูดคุยเกี่ยวกับคดีประมาณ 1 ชั่วโมง

ภายหลังการหารือ นายพสิษฐ์ กล่าวว่า การเข้าพบ พล.ต.อ.พัชรวาท เพื่อหารือความคืบหน้าคดีคนร้ายลอบยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่ศาลรัฐธรรมนูญ และประเด็นอื่น 6-7 เรื่อง รวมทั้งกรณียิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งรายละเอียดค่อนข้างมาก เบื้องต้นความคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจ โดยขณะนี้เห็นแนวโน้มชัดเจนแล้วว่ากลุ่มใดเป็นผู้ลงมือ

ผู้สื่อข่าวถามว่า คนร้ายเป็นกลุ่มเดียวกับที่ยิงนายสนธิ และกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ชุมนุมที่ดอนเมืองหรือไม่ นายพสิษฐ์กล่าวว่า ดูได้ 2 ทาง อาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวแล้วแต่การสรุปผลของตำรวจ แต่สิ่ง พล.ต.อ.พัชรวาท ได้อธิบายให้ฟังคิดว่าอยู่ในจุดที่รับได้เชื่อว่าท่านจะสามารถดำเนินการได้เร็วที่สุดบนพื้นฐานของความถูกต้อง

**เหตุคำวินิจปมยิงศาล รธน.**

นายพสิษฐ์ ยังกล่าวถึงประเด็นที่คนร้ายยิงศาลรัฐธรรมนูญว่า น่าจะมาจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกไปน่าจะเป็นประเด็นสำคัญที่สุด ซึ่งมีหลายคดีเพราะแต่ละคดีมีทั้งผู้ที่พอใจและไม่พอใจซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องนำไปขยายผลต่อไป ส่วนกรอบเวลาการทำงานนั้นไม่ได้เร่งรัดให้จับกุม เพราะอาจจะได้อย่างไม่ถูกต้อง และเป็นอำนาจหน้าที่ของ ผบ.ตร.ไม่อยากก้าวล่วงแต่ก็จะติดตามความคืบหน้าจนถึงที่สุดเพราะสถาบันศาล เป็นสถาบันที่สำคัญมาก และศาลรัฐธรรมนูญเป็นหน่วยงานราชการเดียวที่ถูกยิง ประทุษร้ายหน่วยงานอื่นยังไม่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้เลย

“ทั้งที่เราได้รับข่าวก่อนว่าเป็นเป้าอย่างชัดเจน แต่เหตุก็ยังเกิดขึ้นแม้จะมีการป้องปรามป้องกันเหตุก็ยังเกิด พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. และพล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น.และโฆษก บช.น.ก็ออกมาขอโทษแล้ว แต่เราก็ต้องดูมาตรการป้องกันเพราะอาจมีคดีอื่นมาที่ศาลรัฐธรรมนูญต่อไป หรือไม่ก็อาจเกิดการทำลายภาพลักษณ์องค์กรศาลไม่ว่าศาลใดก็แล้วแต่ ศาลรัฐธรรมนูญได้ทำการวินิจฉัยคดีที่สำคัญๆ ของประเทศออกไปแล้วก็เป็นผลทำให้มีผู้เสียใจน้อยใจ และแสดงความคิดออกมาหลายมุมออกมาอย่างนี้ได้” นายพสิษฐ์ กล่าว

**เชื่อ ผบ.ตร.คลี่คลายคดี**

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มที่ลงมือมีการโฟกัสแล้วใช่หรือไม่ว่าเป็นกลุ่มใด นายพสิษฐ์กล่าวว่า มีการกำหนดขอบเขตแล้วพอสมควร แต่อย่าเร่งรัดเลยให้เวลาตำรวจทำงาน ขอให้วางใจใน ตร.มั่นใจว่าจะสามารถคลี่คลายคดีได้ เชื่อมั่นว่า ผบ.ตร.จะดูแลทุกประเด็นได้ดีที่สุด

ส่วนกรณีที่นายสนธิ ออกมาพูดว่าทหารยศ จ.ส.อ.เป็นผู้ยิงระเบิดเอ็ม 79 นั้น นายพสิษฐ์กล่าวว่า ไม่ขอก้าวล่วงในส่วนของนายสนธิ เพราะนายสนธิคงมีข้อมูลของตนเอง แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องรับฟัง ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้พูดคุยกับ ผบ.ตร.ไปด้วย และทาง ผบ.ตร.ก็มีการดูแลเรื่องนี้แล้ว ในส่วนประเด็นที่นายสนธิ ออกมาพูดว่าคนร้ายเป็นกลุ่มเดียวกันก็คงมีการขยายผลต่อไป คำตอบของตำรวจก็ถือว่าทราบในระดับหนึ่งแล้ว เพียงแต่ยังไม่สามารถสรุปจนถึงที่สุดได้ แต่เชื่อว่าตำรวจจะทำได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อมูลของการสืบสวนสอบสวนทางตำรวจบอกหรือไม่ว่าเป็นไปในแนวทางเดียวกับการออกมาพูดของนายสนธิหรือไม่ นายพสิษฐ์กล่าวว่า เป็นบางประเด็น เรื่องกลุ่มคนที่ก่อเหตุ

**รับปากปิดคดียิงสนธิให้เร็วที่สุด**

ด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.กล่าวว่า เลขานุการศาลรัฐธรรมนูญได้เดินทางมาหารือเรื่องคดีที่มีคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าใส่ที่ทำการศาล ซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน แต่จะเกี่ยวข้องกับคนร้ายที่ยิงคุณสนธิหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะประเด็นสาเหตุเป็นคนละประเด็นกัน โดยเฉพาะเหตุที่เกิดขึ้นกับศาลรัฐธรรมนูญ เลขานุการศาลเชื่อว่าน่าจะเป็นเพราะการตัดสินคดีหลายคดีที่ผ่านมารวมทั้งคดียุบพรรคการเมืองด้วย ส่วนกรณีที่คุณสนธิ ให้สัมภาษณ์ว่าคนร้ายที่ก่อเหตุยิงตนเอง ยิงที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญและยิงม็อบเสื้อเหลืองเป็นฝีมือของจ่าสิบเอกคนหนึ่ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องรับฟังเป็นข้อมูลประกอบการสืบสวนด้วย

พล.ต.อ.พัชรวาท ยังกล่าวถึงคดีคนร้ายยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามปิดคดีให้ได้โดยเร็ว ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ระดมกำลังทั้งฝ่ายสืบสวนและสอบสวนเข้าคลี่คลายคดีอย่างเต็มที่ในทุกประเด็น แต่จะมีข่าวดีในเร็วๆนี้หรือไม่ต้องไปสอบถาม พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ที่ตนเองมอบหมายให้เข้าไปควบคุมการสืบสวนสอบสวน

**ดำเนินคดีคนหมิ่นศาล รธน.ถึงที่สุด**

ต่อมาช่วงบ่ายที่ศาลรัฐธรรมนูญ นายเชาวนะ ไตรมาศ รองเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แถลงข่าว ภายหลังการเข้าพบ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ว่าตามที่เหตุการณ์ด้านต่างๆ เกิดขึ้นในห้วงเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อศาลรัฐธรรมนูญ ได้แก่การปาระเบิดบ้านพักตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ การยิงระเบิดใส่ที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงการดูหมิ่นศาลและการข่มขู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นต้น ท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว ยังได้สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสาร ที่อาจก่อให้เกิดการความสับสนเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าวด้วย ซึ่งอาจเป็นเหตุต่อเนื่องที่ทำให้สังคมเกิดความหวั่นไหวและไม่มั่นใจว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะกระทบต่อการทำหน้าที่ในการดำรงความยุติธรรมของศาลรัฐธรรมนูญต่อไปในอนาคต หรือไม่ และจะกระทบต่อการทำหน้าที่รักษาหลักนิติธรรมของสังคมในการพิจารณาคดีความตามกรอบของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ

ดังนั้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและขวัญกำลังใจที่ดีแก่สังคมและประชาชนทั่วไป และเพื่อเป็นการคลี่คลายปัญหาความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากข้อมูลข่าวศาลที่อาจทำให้เกิดความสับสน ทางสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้มอบหมายให้ตนได้เข้าพบและปรึกษาหารือกับพล.ต.อ.พัชรวาท เพื่อประมวลข้อเท็จจริง และแนวทางในการดำเนินการในเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะศาลรัฐธรรมนูญมีความมุ่งมั่นที่จะนำพาประเทศไปสู่ความสันติสุข ความดีงามตามกรอบของหลักนิติธรรม และสร้างความเจริญก้าวหน้าและเกียรติภูมิให้เกิดแก่ประเทศตามแนวทางของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขสืบไป

นายเชาวนะ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับ น.ส. วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้ฟ้องร้องดำเนินคดีกรณีการอภิปรายพลาดพิงถึงผลการพิจารณาของ คณะตุลาการและสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้เกิดความเสียหายว่า ระหว่างนี้อยู่ในสมัยประชุมสภาทำให้ น.ส.วิสาระดี ได้รับการคุ้มครองอยู่ แต่หากหมดสมัยประชุมสภาก็จะมีการดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมา น.ส.วิสารดี ไม่เคยติดต่อหรือประสานขอไกล่เกลี่ยยอมความแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามคดีดังกล่าวเป็นคดีอาญาและ เนื่องจากคดีนี้ทางสำนักงานเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษจึงไม่สามารถที่จะไกล่เกลี่ยขอยอมความได้

ด้านนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ เลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ทางสำนักงานฯจะต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด และเพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไปว่า การที่จะกล่าวพาดพิงถึงสถาบันศาลฯก็ต้องมีความระมัดระวัง หรือแม้กระทั่ง ในเว็ปไซด์เสธแดง ก็ได้มีการใช้คำพูดที่ไม่ดี ต่อศาลรัฐธรรมนูญถึงขนาดใช้คำว่า “ศาลส้นตีน”

“ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ควรที่จะแก้ไข โดยเขาก็ได้โทรศัพท์มาผมบอกว่าจะแก้ไข และอาจจะมีพวกมือดีเข้ามาแฮ๊ก โพสต์ใส่ลงไป ผู้ที่ดูแลเว็ปไซด์นั้นๆจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งเราก็ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีแล้ว ก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ ส่วนจะมากน้อยเพียงใดก็ต้องแล้วแต่ แต่สิ่งที่ปรากฏข้อความในเว็ปไซด์เสธแดง เป็นสิ่งที่น่าคิด เช่น ที่ล่าสุดมีคำพูดหลายประโยคที่ไม่น่าเกิดขึ้น “วันนี้ยิงศาล” “พรุ่งนี้ยิงตุลาการ” ซึ่งศาลก็ถูกยิงตามที่โพสต์ลงในว็ปไซด์ ก็ไม่รู้ทำไมมันแม่นยำเหลือเกิน ” นายพสิษฐ์ กล่าวและว่า สำนักงานฯได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับเว็บไซด์เสธแดง ในข้อหาความผิดหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และดูหมิ่นศาล ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 236,238และ198.
กำลังโหลดความคิดเห็น