อสส.เตรียมอนุมัติส่งอดีตเคจีบีให้สหรัฐฯ เชือด

อัยการสูงสุดเตรียมขออนุมัติหมายจับ “วิกเตอร์” ฐานเป็นผู้ร้ายข้ามแดนตามคำร้องขอจากสหรัฐฯ แล้ว ด้านทนายผู้ต้องหาค้าอาวุธสงคราม ยัน ลูกความไม่ใช่เจ้าพ่อค้าอาวุธสงครามระดับโลก ถูกผิดว่าตามหลักฐานในชั้นศาล

วันนี้ (10 มี.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.อ.เพชรัตน์ แสงไชย รอง ผบก.ป. ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนได้เรียกประชุมพนักงานสืบสวนสอบสวนคดี นายวิกเตอร์ อนาโตลเจวิช บูท (Viktor Anataljevich Bout) สัญชาติรัสเซีย อดีตเคจีบี ผู้ต้องหาค้าอาวุธสงครามระดับโลก ที่ สหประชาชาติ และทางการสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศต้องการ เพื่อสรุปความคืบหน้าการรวบรวมหลักฐาน และเตรียมเอกสารหลักฐานทั้งหมดเพื่อโอนสำนวนการสอบสวนให้อัยการสูงสุดรับผิดชอบและพิจารณาสั่งการต่อไป ตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20 ที่ระบุว่า ถ้าความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายไทยได้กระทำนอกราชอาณาจักรไทยให้อัยการสูงสุดหรือผู้รักษาการแทนเป็นพนักงานสอบสวนเป็นผู้รับผิดชอบ

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะรวบรวมหลักฐานในคดีของนายวิกเตอร์ทั้งหมดส่งให้อัยการสูงสุดเป็นผู้รับผิดชอบ นอกจากนี้ทางพนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุดก็ได้ขออนุมัติหมายจับนายวิกเตอร์ฐานเป็นผู้ร้ายข้ามแดนตามคำร้องขอของทางการสหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับตามคดีดำที่ จ.5/2551 ที่ 160/2551 ลงวันที่ 7 มี.ค.2551 ถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น.วันเดียวกัน นายลักษณ์ นิติวัฒนวิจารณ์ ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจากนายเยฟกินี อะฟานาเซียฟ ทูตสหพันธรัฐรัสเซีย ให้ดำเนินการว่าความคดีนายวิกเตอร์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เพชรัตน์ แสงไชย รอง ผบก.ป.และ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล ผกก.ฝป.10 บก.ป.เพื่อขอสารทางคดีของนายวิกเตอร์ ทั้งหมด

โดยนายลักษณ์ กล่าวว่า หลังได้รับมอบหมายตนได้ตั้งคณะทำงานมา 1 ชุด จำนวน 7 คน แบ่งหน้าที่กันทำงาน โดยขณะนี้มีหลักฐานสำคัญที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าลูกความของตนไม่ผิดและไม่ส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าอาวุธตามที่ถูกตั้งข้อกล่าวหา

“เขาเข้ามาเมืองไทยในฐานะนักท่องเที่ยว ไม่ได้เป็นเจ้าพ่อค้าอาวุธสงครามระดับโลกตามที่ถูกกล่าวหา ทั้งนี้ ใครผิดใครถูกให้ว่าไปตามพยานหลักฐาน ให้กระบวนการยุติธรรมตัดสินดีกว่า อย่างไรก็ตามจากการพูดคุยกับนายวิกเตอร์พบว่าลูกความไม่ได้มีความวิตกกังวลหรือเคร่งเครียดแต่อย่างใด เพราะมั่นใจว่าเขาไม่ได้ทำความผิด” นายลักษณ์ กล่าว

นายลักษณ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษสำนักงานปราบปรามยาเสพติด สหรัฐอเมริกา (DEA.) เปิดเผยกับสำนักข่าวต่างประเทศว่าได้บันทึกการสนทนาซื้อขายอาวุธทางโทรศัพท์ระหว่างนายวิกเตอร์ กับกลุ่มกบฏในโคลัมเบียว่ายังไม่ทราบข่าว ก็ว่ากันไปใครจะพูดอะไรก็ได้ แต่ขอให้สู้กันในศาล เพราะต่างฝ่ายต่างมีหลักฐานหักล้างกันอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าศาลท่านจะเชื่อใคร