xs
xsm
sm
md
lg

มาร์คจี้ผู้ว่าฯร่วมแก้ขัดแย้งปลุกกระแสเทิดทูลสถาบันž

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในการเป็นประธาน เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง เชื่อมั่นประเทศไทยกับการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ พร้อมมอบนโยบายแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหารส่วนราชการ ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนภาคธุรกิจเอกชน และผู้แทนภาคประชาสังคม เพื่อเพิ่มขีดสมรรถนะการบริหารจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการปัญหาที่พี่น้องคนไทยทุกข์ใจมา 2-3 ปี ก็คือปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง เพราะที่ไหนมีความขัดแย้งที่นั้นก็มีความสุขได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นในบ้านเมืองในสังคม ในชุมนุม แม้แต่ว่าภายในครอบครัว แต่ว่าปัญหานี้ยังส่งผลกระทบอีกหลายๆ ด้าน เพราะว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง ความขัดแย้งที่ปรากฎเป็นข่าวสารก็ยิ่งซ้ำเติมความเชื่อมั่น และในเรื่องที่เกี่ยวข้องโอกาสกับประเทศของเรา ทั้งเศรษฐกิจและสังคม การเมือง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าเราคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาใหญ่เกินกว่าที่เรา จะช่วยแก้ไขได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วประเทศของเราประกอบด้วยหน่วยที่ย่อยลงไป ตั้งแต่ภาค กลุ่มจังหวัด จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ชุมชน หรือครอบครัว ดังนั้น ถ้าทุกคนเห็นว่าสามารถเข้าร่วมแก้ปัญหาได้ เราก็จะเห็นทางออกมากมาย ถ้าทุกคนเข้าร่วมกันแก้ไขได้ ทั้งปัญหาความขัดแย้ง ปัญหาเศรษฐกิจ
การเมืองที่เราวิตกกังวลเรื่องความขัดแย้ง เราก็สามารถใช้โครงการ มาตรการ หรือการรณรงค์เฉพาะพื้นที่เพื่อสร้างความสามัคคีได้ โดยเฉพาะถ้าเรากำลังพูดถึงคนที่ร่วมใช้ชีวิตกันมาช้านานอยู่ในพื้นที่เดียวกัน โอกาสที่จะนำเอาความคุ้นเคย เอาไมตรีต่อกัน ซึ่งเป็นธรรมชาติของคนไทยอยู่แล้ว สร้างความปรองดองในพื้นที่ตัวเอง ก็ย่อมง่ายกว่าการปรองดองในระดับชาติ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้การบริหารราชการต้องดำเนินการหลายระดับ บางคนเปรียบการบริหารราชการเป็นสามเหลี่ยมปีรามิต และมองว่า ส่วนยอด คือส่วนกลาง ถัดมาเป็นส่วนภูมิภาค และถัดมาเป็นส่วนท้องถิ่น แต่ในขณะที่พูดส่วนกลางที่เป็นส่วนเหล็กที่สุด การบริหารประเทศที่ผ่านมา ตรงนี้กลับมีงบประมาณที่มากที่สุด ซึ่งเป็นปัญหาหนึ่งที่เราพยายามแก้ไขโดยตลอด และเป็นส่วนหนึ่ง ในการผลักดันการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น แต่ต้องยอมรับว่ามาถึงวันนี้ การให้ท้องถิ่นเขามารับภาระมีอำนาจในการกำหนดทิศทางก็ยังมีขีดจำกัดอยู่
ผมเคยรบผิดชอบงานส่วนท้องถิ่นเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว เคยตั้งเป้าว่าก่อนปี 2549 จะให้ท้องถิ่นมีงบฯท้องถิ่น ร้อยละ 35 ของงบฯรัฐบาลทั้งหมด แต่สุดท้าย10 กว่า ยังทำไม่ได้ อาจจะด้วยเหตุผลนโยบาย ปัจจัยก่อนหน้านี้ แต่เวลานี้มีงบฯให้ร้อยละ 25 เท่านั้น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งที่ยากมากก็ขึ้น แล้วส่วนภูมิภาค ที่เชื่อมส่วนกลางกับท้องถิ่นจะอยู่ที่ไหน ก็มีความพยายามวิธี เรียกชื่อต่างๆ นานา จะซีอีโอหรืออะไรต่างๆ เพื่อที่จะหาบทบาทส่วนภูมิภาคตรงนี้ แต่ที่ผ่านมายังไม่ชัดเจน มีการแก้ไขกรอบ การบริหารราชการแผ่นดิน และมีพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานจังหวัด และกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ เมื่อปี 2551 จึงเป็นความพยายามที่จะหาคำตอบตรงนี้ จัดระบบความสัมพันธ์ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น และระบบความสัมพันธ์ในแนวราบ เชื่อมโยงภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม ภาคประชาชนโดยรวม และเป็นที่มาที่ กพร.นำเสนอเรื่องการบริหารงานในลักษณะที่เป็นกลุ่มจังหวัด จังหวัดขึ้นมา
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า รัฐธรรมนูญและกฎหมายก็มาเขียนรองรับเพื่อให้กลุ่มจังหวัด และจังหวัด สามารถมารับงบประมาณ นอกเหนือจากการจัดสรรงบประมาณจากส่วนกลางไปยังกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ และงบประมาณที่เราถ่ายโอน หรือส่งต่อไปให้ท้องถิ่น ดังนั้นขณะนี้ก็จะมี 75 จังหวัด และ 18 กลุ่มจังหวัดที่มีโอกาสจัดทำโครงการได้รับการสนับสนุนงบประมาณ แต่ปัญหาก็คือ การขาดภาพรวมว่างบประมาณตรงนี้แตกต่างจากงบประมาณตามปกติหรืองบประมาณท้องถิ่นอย่างไร ึงต้องมาทบทวนกันใหม่ และเชื่อว่าในการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้น่าจะได้คำตอบ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ หวังว่าจะทำให้เรา ได้คำตอบ และให้เราสามารถปรับแนวทางการพัฒนาให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ ได้ภายใน 2 ปี ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่ดีในการเสริมสร้างและความเติบโตของ การบริหารงานที่อิงกับพื้นที่ต่อไป
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายเรื่อง การเสริมสร้างความเชื่อมั่นในความมั่นคงของประเทศไทย ตอนหนึ่งว่า คนจำนวนมาก มีความกังวลในเรื่องความมั่นคง ดังนั้น หากจะพึ่งรัฐบาล และโยนภาระนายกฯ อย่างเดียวคงไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ แต่หากคนไทยทุกระดับช่วยกันปัญหานี้ก็จะไม่เป็นปัญหาที่ยากเกินจะแก้ไขได้ และจะสามารถแก้ไขได้ในเวลาอันสั้นนี้ ส่วนที่มีกลุ่มองค์กรที่แสดงออกเรื่องหยุดทำร้ายประเทศไทยนั้น ฝากให้ผู้ว่าฯ นำแนวคิดนี้ไปรณรงค์กับประชาชนเพื่อให้เกิดความสันติสุขในสังคมขึ้นมาได้
ส่วนแผนงานที่ตนอยากเห็นในแต่ละกลุ่มจังหวัดคือ การรณรงค์ปลูกฝังเรื่องของระบอบประชาธิปไตย เพราะขณะนี้คนมีความสับสน โดยเฉพาะเมื่อมีคนแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมกับแปลงสาร บิดเบือนทฤษฎีประชาธิปไตย ให้ออกไปเป็นความเชื่อในแบบของกลุ่มตนเองเพื่อให้เป็นประโยชน์กับกลุ่มของตัวเองมากที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชนมีความคิดที่แตกต่างในระบอบประชาธิปไตยมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ผู้ว่าฯ รู้ดีแต่ไม่ยอมทำ เพราะอาจจะเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของนักการเมือง ดังนั้น จึงอยากฝากให้ผู้ว่าฯ จัดทำโครงการเช่นการจัดการฝึกอบรม เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ มีความคิดที่ถูกต้องเกี่ยวกับหลักประชาธิปไตย กับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยหาทางรณรงค์ให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธาในทางนี้
ส่วนการใช้สิทธิประท้วงชุมนุมนั้น จะต้องไม่ล้ำเส้นเกินกว่าที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ หากเกินจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดต้องไม่ยอม หากเรื่องใดจัดการไม่ได้ก็สามารถติดต่อกับตนได้ทันที
หากในหมู่บ้านไหนยังแบ่งฝักแบ่งฝ่ายก็ถือว่ายังไม่มีความคิดพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตย วันนี้ผมคิดว่าเป็นหน้าที่ของผู้ว่าฯ ช่วยรณรงค์ให้เกิดกระแสรักและหวงแหนในระบอบประชาธิปไตย ไม่ยอมให้ใครมาโกงการเลือกตั้ง ไม่ยอมให้มีการ ซื้อสิทธิ์ ขายเสียง เพราะนี่คือที่มาของอำนาจประชาธิปไตย
รองนายกฯ กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้ในแผนงานของผู้ว่าฯ จะต้องมีโครงการ เปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงออกถึงความจงรักภักดีสถาบันพระมหากษัตริย์ เหมือนเช่นกิจกรรมวันฉัตรมงคลที่ผ่านมา เพื่อทำให้ชาวต่างประเทศที่รับรู้ข่าวสาร ก่อนหน้านี้ได้รับทราบข้อเท็จจริงว่า สิ่งที่ได้รับข่าวสารจากอีกฝ่ายก่อนหน้านี้นั้นไม่เป็นความจริง
กำลังโหลดความคิดเห็น