รองนายกฯสุเทพ ตรวจพื้นที่จัดงานวันฉัตรมงคล เชื่อ ทหาร-ตำรวจ ดูแลเรียบร้อยได้ไม่มีเหตุรุนแรง เพราะเป็นวันที่ดี ปัดนายกฯ ร่วมงานสโมสรสันนิบาตในทำเนียบไม่เกี่ยวข่าวลอบสังหารผู้นำ วอนคนไทยปรองดอง ยึด “ในหลวง” เป็นศูนย์กลาง พร้อมหนุนโครงการหยุดทำร้ายประเทศไทยเต็มที่ เห็นดีแก้รัฐธรรมนูญ ชี้ อาจต้องทำประชาพิจารณ์ ระดมสมอง ลั่นพร้อมรับฟังความคิดเห็นทุกฝ่าย ปฏิเสธไม่ใช่เหตุทำสัมพันธ์พรรคร่วมแตก ส่วนคดีลอบยิง “สนธิ” บอกยังไม่ทราบรายละเอียด ปล่อยเจ้าหน้าที่ทำงานเต็มที่ ยันไม่กดดัน
วันนี้ (5 พ.ค.) ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการตรวจความเรียบร้อยของการจัดงานวันฉัตรมงคล และเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเข้าสู่ปีที่ 60 แห่งการบรมราชาภิเษกที่ถนนราชดำเนิน ว่า ทุกอย่างน่าจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะประชาชนมาร่วมแสดงความสามัคคีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ ในส่วนของการรักษาความปลอดภัย มีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารดูแลความปลอดภัยอยู่ และตนคิดว่า ในวันที่เป็นมงคลคงไม่มีใครคิดทำอะไรไม่ดีไม่งาม ส่วนที่มีข่าวว่ากระทรวงมหาดไทยใช้เงินจ้างประชาชนมาร่วมงานนั้น ตนขอให้คิดอะไรในเรื่องดีๆ ที่เป็นมงคลบ้าง เพราะเขาชักชวนกันมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมาแฝงตัว เพื่อปักหลักชุมนุมหลังจากนี้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าอย่างนั้น ตนดูจากการที่ประชาชนมาจากหลายจังหวัดคิดว่าไม่มีแน่นอน ต่อข้อถามว่า ทำไม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถึงเปลี่ยนกำหนดการจากเดิมจะต้องไปเปิดงานที่ลานพระบรมรูปทรงม้า แต่กลับมางานสโมสรสันนิบาตที่ทำเนียบรัฐบาลแทน นายสุเทพ กล่าวว่า งานนี้เป็นการจัดงานเดียวกัน คือ งานสโมสรสันนิบาตและเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเข้าสู่ปีที่ 60 แห่งพระบรมราชาภิเษก
“ตอนแรกฝ่ายจัดงานคิดว่าจะทำงานสองครั้ง ตามที่เราปฏิบัติมาทุกปี นายกฯจะต้องเป็นเจ้าภาพที่นี่ก่อน มีทูตานุทูตและใครต่อใครมา จากนั้นจะออกไปที่เวทีใหญ่ แต่พอมาดูสถานการณ์จริงอย่างที่เห็นคือออกไปไม่ได้และไปไม่ทัน เพราะจะลำบากในการเดินทาง เพราะผมออกไปเมื่อกี๊ยังติดอุตลุดเลย” นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการข่าวของฝ่ายความมั่นคงเรื่องข่าวการลอบทำร้ายผู้นำประเทศ นายสุเทพ กล่าวยืนยันว่า ไม่มี อย่างไรก็ตาม ตนก็ยังสงสัยว่าตนต้องเดินออกไปร่วมงานหรือไม่ เพราะรถเยอะคนเยอะ ดังนั้น ถ้าเยอะอย่างนี้ตนต้องเดินไปร่วมงาน
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะขยายผลเรื่องความปรองดองจากการจัดงานนี้อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า เราทุกคนคนไทยถือองค์พระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมของจิตใจอยู่แล้ว ปีนี้เราคงมีกิจกรรมหลายอย่างที่จะทำถวายพระองค์ท่าน และเป็นความดีงามที่ควรเกิดขึ้นในบ้านเมือง
เมื่อถามถึงกิจกรรมรณรงค์หยุดทำร้ายประเทศไทยจะสนับสนุนอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่าดี เมื่อวานตนเห็นกิจกรรมเรียบง่ายไม่ทำให้เกิดความยุ่งยาก และคนก็ตื่นตัว บ้านช่องก็ติดธงชาติ ตนก็อยากให้เครือข่ายนี้เผยแพร่ความคิดนี้ต่อไป เพราะบ้านเมืองเรามีความเห็นที่หลากหลายได้แตกต่างกันได้ แต่น่าจะมีวิธีการที่เคยปฏิบัติมาเป็นประเพณีให้อยู่ในกรอบกฎเกณฑ์กติกา ไม่ทำให้บ้านเมืองและภาพพจน์ประเทศเสียหาย อย่างไรก็ตาม การลดความขัดแย้งจะเกิดขึ้นได้ถ้าประชาชนส่วนใหญ่ตื่นตัวและมีความรู้สึกอย่างนี้ เขาก็จะได้พูดจากันและได้ขอร้องกันว่าให้ใช้แนวทางที่ไม่ทำร้ายบ้านเมืองดีกว่า
เมื่อถามถึงการชุมนุมของกลุ่มการเมืองที่ยังชุมนุมอย่างต่อเนื่องรัฐบาลต้องเข้าไปทำความเข้าใจมากน้อยแค่ไหน นายสุเทพ กล่าวว่า ก็คงต้องพยายามกันต่อไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีส่งสัญญาณชัดเจนว่า อะไรที่รัฐบาลสามารถร่วมมือได้ เพื่อที่จะแก้ปัญหารัฐบาลยินดีทุกอย่าง เพราะฉะนั้นกลุ่มประชาชนกลุ่มอื่นควรจะคิดไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ประเมินสถานการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดงแต่อย่างใด
นอกจากนี้ นายสุเทพ ยังกล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ดูเหมือนพรรคประชาธิปัตย์กำลังถูกกดดันจากพรรคร่วมรัฐบาล ว่า นายอภิสิทธิ์ เสนอว่า ถ้าที่พี่น้องประชาชน หรือกลุ่มและพรรคการเมืองต่างๆเห็นว่ารัฐธรรมนูญเป็นปัญหาก็มาช่วยกันพิจารณาดูว่าตรงไหนที่มีปัญหา มาตราไหนอย่างไร แล้วก็มาช่วยกันระดมสมองดูว่าถ้าเราจะแก้ไข โดยให้พี่น้องทั้งประเทศเห็นด้วยและมีส่วนร่วมด้วยจะทำอย่างไร
“บางคนเสนอการทำประชาพิจารณ์ ประชามติ ซึ่งเป็นวิธีที่ปฏิบัติกันในที่ต่างๆ เราอาจจะเลือกวิธีอย่างนั้นก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น รัฐบาลก็เปิดกว้างให้กลุ่มต่างๆ เสนอความคิดความเห็นอย่างเต็มที่” นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์อยู่ตรงกลางระหว่างข้อเรียกร้องที่สุดขั้วทั้งเรื่องยุบพรรคและนิรโทษกรรม นายสุเทพ กล่าวย้ำว่า เราต้องฟังทุกฝ่าย เราฟังและมาใคร่ดู มาตัดสินใจดู เพราะทั้งหมดเป็นเรื่องของกระบวนการรัฐสภา
เมื่อถามว่า เมื่อวานมีความเห็นที่แตกต่างมี ส.ส.อ้างว่า เป็น ส.ส.ของท่านสุเทพมาบอกว่าพรรคร่วมมากดดันอย่างนี้ให้ยุบสภาดีกว่าอันนี้เป็นความแตกต่างทางความคิดหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ใช่ อาจจะบางคนเขาคิดไป
“ผมไม่มีกลุ่มของผมในพรรค ผมเป็นเลขาธิการพรรค กลุ่มของผมก็คือ ทั้งพรรคอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นคนที่คิดแบบนั้นคงไม่ใช่ อย่าไปคิดว่าเป็นการกดดันของพรรคร่วมเลยครับ คิดว่าเขาก็แสดงความคิดแสดงจุดยืนเขาทุกคนเขาต้องมีเสรีในการที่จะคิดได้ อย่าไปปิดกั้นใคร” นายสุเทพ กล่าวว่า
เมื่อถามว่าจะเกิดความขัดแย้งในพรรคร่วมหรือเกิดความแตกร้าวหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นว่าเป็นความขัดแย้งตรงไหน เพียงแต่ความเห็นไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง ซึ่งต้องมีอีกหลายขั้นตอนที่เอาความเห็นที่แตกต่างนั้นมาเปรียบเทียบมาชั่งน้ำหนักกันดูทุกคน เมื่อถามว่าเพื่อประโยชน์ส่วนรวมกับประโยชน์ให้นักการเมืองเราจะพิจารณาอันไหนมากกว่ากัน นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่าทุกคนถ้าจะฟังจากกลุ่มไหน พรรคไหนจะพูดว่าจะยึดประโยชน์ของชาติเป็นหลัก
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงคดีลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ว่า พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีลอบยิงนายสนธิ ยังไม่ได้รายงานความคืบหน้าของคดีให้รับทราบ ทั้งนี้ ตนไม่ต้องการกดดัน หรือคาดคั้นเวลา เพราะว่าต้องการให้เขาทำงานได้เต็มที่ และสุดท้ายตนเชื่อว่าตำรวจจะคลี่คลายคดีได้
เมื่อถามว่า นายสนธิ บอกว่า สองสัปดาห์ตำรวจจะมีการแถลงความคืบหน้าของคดี นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ทราบสิ่งที่นายสนธิได้พูด ต้องไปถามเจ้าตัว