xs
xsm
sm
md
lg

วอนคนไทยสมานฉันฑ์ถวายในวันฉัตรมงคล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการเตรียมการจัดงานฉัตรมงคลของรัฐบาล เพื่อถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัติรย์ว่า ในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ถือว่าสัปดาห์ที่มีความสำคัญต่อคนไทยทุกหมู่เหล่าดังนั้นตนในนามของรัฐบาลขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนคนไทย ในการหลอมรวมจิตใจในการสมานสามัคคีในการร่วมกันแสดงออกต่อสถาบันหลักของชาติ โดยเฉพาะวันฉัตรมงคลในวันที่ 5 พ.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งรัฐบาลได้จัดกิจกรรม ในการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เข้าสู่ปีที่ 60 ของการพระบรมราชาภิเษก ครบปีที่ 60 โดยบริเวณที่จัดงานในครั้งนี้ รัฐบาลกำหนดพื้นที่ ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า และตลอดแนวถนนราชดำเนิน ถึงบริเวณสนามหลวง รวมทั้งจะมีการจัดงานสโมสรสันติบาต ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งจะมีการจัดกันเป็นประจำทุกปี
ผมอยากจะเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนเข้าร่วมงานตั้งแต่เวลา 17.00 - 24.00 น. เป็นต้นไป เพื่อที่เราจะร่วมกันแสดงออกถึงสถาบันพระมหากษัติรย์ที่คนไทยเราทุกคนเคารพรัก
นอกจากนี้ในช่วงภายสัปดาห์หน้าก็จัดงาน ส่งเสริมพระพุทธศาสนาในวันวิสาขบูชา ซึ่งการจัดวิชาสขบูชาครั้งนี้จะเป็นการจัดงานที่เป็นจัดงานที่เป็นงานระดับโลก ดังนั้นจึงขอให้พี่น้องคนไทยซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ จะได้ใช้โอกาสในการขัดเกลาชำระจิตใจ แล้วใช้ความเชื่อทางศาสนา และการปฎิบัติตามคำสอนของ ศาสนาในการความสงบสุข และความสันติสุข เพื่อนำมาสู่สังคมของเรา ดังนั้นในสัปดาห์หน้าที่จะถึงนี้ ตนคิดว่าน่าจะเป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่ง ที่คนไทยทั้งประเทศในการยืนยันในสถาบันที่เรายึดเหนี่ยว เพื่อไปสู่ความปรองดอง และสนามฉันท์ต่อไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าตนทราบมาว่าจะมีการจัดงานของ องค์กรเอกชนหลายเอกชน ที่ได้ร่วมกันจัดงานในโครงการ หยุดทำร้ายประเทศไทย และหยุดความรุนแรง ดังนั้นตนขอยืนยันว่าประชาชนคนไทยจะมีเพียงสีเดียว คือ สีธงชาติ ดังนั้นเมื่อโครงการที่ดีๆ หลายโครงการที่พี่น้องคนไทยร่วมช่วนกันคนละไม้ละมือในการร่วมคิดร่วมทำในการร่วมส่งเสริมค่านิยมในการสร้างสันติคนไม้คนละมือ ตนเชื่อว่าจะสามารถที่จะทำให้ประเทศชาติของเราเดินต่อไปข้างได้
หนุนโครงการหยุดทำร้ายประเทศไทย เตรียมเปิดเว็บแจงสงกรานต์เลือด-งานด้านเศรษฐกิจ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่าว่า ได้ทราบว่าในวันนี้ (4 พ.ค.) มีหน่วยงานเอกชน หลายแห่ง เตรียมจัดงาน หยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ความรุนแรง ซึ่งถือว่า เป็นเรื่องที่ดี และประเทศไทยมีเพียงสีเดียว คือ สีธงชาติ ทั้งนี้ สิ่งหนึ่งที่จะสามารถ ทำให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ คือ การแก้ไขปัญหาทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องรัฐบาลต้องดำเนินการต่อไป
โดยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด ประกอบด้วย คณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมือง และศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่ดูเรื่องการแก้ปัญหาทางการเมือง ซึ่งเป็นการหาทางออก และอาจคาบเกี่ยวกับการแก้รัฐธรรมนูญ ส่วนคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง ทำหน้าที่ประมวลเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ในช่วงการแก้ไขปัญหาการชุมนุม ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการทั้งสองชุด จะเริ่มทำงาน โดยเร็ว และคณะกรรมการทั้งสองชุด จะเปิดโอกาสให้ประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด อีกทั้งรัฐบาลจะทำงานผ่านคณะกรรมการชุดดังกล่าว เนื่องจากถือว่ามี ส.ส.เป็นตัวแทนรัฐบาล ร่วมทำงานด้วย
อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของการประมวลเหตุการณ์ต่างๆ นั้น รัฐบาลจะตั้งคณะกรรมการขึ้นอีกหนึ่งชุด เพื่อประมวล เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ผ่านเว็บไซต์ www.factreport.go.th? ซึ่งจะเปิดตัวภายในช่วงเที่ยงวันนี้ รวมทั้งจะมีการชี้แจงเกี่ยวกับข้อสงสัยในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถนำเสนอข้อมูลข่าวสารต่างๆ ผ่านเว็บไซต์นี้ได้ เนื่องจากรัฐบาลต้องการให้เกิดความโปร่งใสในทุกๆ เรื่อง และทุกกรณี ที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ของรัฐบาล จากการแก้ไขปัญหาการชุมนุม ในช่วงสงกรานต์
สำหรับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้เดินหน้า อย่างเต็มที่ และได้เปิดเว็บไซต์ www.chuaichart.com แล้ว เพื่อรายงานเกี่ยวกับความคืบหน้า ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในด้านต่างๆ และสามารถตรวจสอบ การทำงานของรัฐบาลได้
โดยขณะนี้ มีหลายโครงการ ที่มีความคืบหน้าอย่างมาก เช่น โครงการชุมชนพอเพียง ที่มีการนำเงินลงสู่หมู่บ้านทั่วประเทศ เพื่อดำเนินโครงการ ต่างๆ ที่สอดคล้องกับแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั้น ขณะนี้ มีความคืบหน้าเกินเป้าหมายแล้ว โดยได้อนุมัติเงิน และส่งเงินลงไปแล้วถึง 6,000 ล้านบาท หรือ 1 ใน 4 ของโครงการทั้งหมด ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ อีกทั้งจากการติดตามตัวเลขการกระจายของเม็ดเงิน พบว่า ได้กระจายทั่วทุกภาคแล้ว โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือเร็วที่สุด ตามมาด้วยภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ตามลำดับ
กำลังโหลดความคิดเห็น