ASTVผู้จัดการรายวัน-กูรูทองคำชี้ราคาทองคำโลกยังผันผวน หลังเฮดจ์ฟันด์เข้าออกไม่เป็นจังหวะ พร้อมแนะนักลงทุนขายทำกำไรหากราคาปรับขึ้นในระดับ 10% แต่ยังมั่นใจการลงทุนทองคำระยะยาวยังดี แม้เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น เพราะดีมานการบริโภคของเครื่องประดับจะปรับขึ้นตามด้วยเช่นกัน
นายไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยถึงสถานการณ์ของราคาทองคำในขณะนี้ว่า ราคาทองคำที่ปรับตัวลดลงมาในขณะนี้ เป็นไปตามภาวะที่หลายฝ่ายมองว่าราคาทองคำนั้นได้ปรับตัวลดลงเนื่องมากจากแรงเทขายทำกำไรในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งสถานการณ์ของทองคำในขณะนี้เป็นการปรับฐานของราคาก่อนที่จะปรับตัวสูงขึ้นจากการเข้าไปลงทุนเพื่อเก็งกำไรอีกครั้ง
ทั้งนี้สถานการณ์ของทองคำในขณะนี้จะเห็นได้ว่าทองคำที่ถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องประดับนั้น ปรับตัวลดลงมาจากการที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น แต่ความต้องการทองคำดังกล่าวนั้นกลับถูกชดเชยด้วยความต้องการทองคำเพื่อเก็งกำไร ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา
"ทิศทางของราคาทองคำในปีนี้จะปรับตัวขึ้นสูงและปรับลดลงจากการเทขายเพื่อทำกำไร ซึ่งจะเป็นเช่นนี้ตลอดทั้งปี โดยนักวิเคราะห์ต่างประเทศคาดกันว่าราคาทองคำในปีนี้ไม่น่าจะปรับตัวสูงขึ้นเกิน 1,000 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์" นายไพศาล กล่าว
นายไพศาล กล่าวต่อว่า เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนพากันมองว่าการลงทุนในตลาดหุ้นมีความผันผวนมาก ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการที่จะถือเงินสดไว้มากนัก ดังนั้นจึงเลือกที่จะลงทุนในทองคำซึ่งสามารถให้ผลตอบแทนที่ดี และถือว่ามีความน่าลงทุนมากในภาวะเช่นนี้ นอกจากนี้ยังแนะนำนักลงทุนในการจัดพอร์ตเพื่อลงทุนในทองคำด้วยว่า หากราคาทองคำปรับตัวลดลงมา นักลงทุนควรจัดเงินลงทุนซื้อทองคำประมาณ 10-20% จากเงินทั้งหมดที่ต้องการลงทุน ซึ่งหากราคาปรับตัวลงอีก จึงสามารถนำเงินส่วนที่เหลือเข้าซื้อได้อีก แต่หากราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นไปนักลงทุนอาจตัดสินใจขายออกเพื่อเก็งกำไรได้
"อย่างไรก็ตามการลงทุนในทองคำนั้นมีความเสี่ยงค่อนข้างสูงหากนักลงทุนที่เก็งกำไรอยู่ในทองคำแล้วเห็นว่าราคาทองปรับขึ้นจนตนเองได้กำไรประมาณ 10% ก็ควรที่จะขายออก" รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน กล่าวแนะนำ
ด้าน นักวิเคราะห์ราคาทองคำ เปิดเผยว่า ราคาทองคำให้ปัจจุบันยังค่อนข้างผันผวน โดยนักลงทุนจะต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังมีโอกาสเปลี่ยนได้ตลอดเวลา และหากราคาปรับขึ้นมาในจุดที่พอสมควรแล้วก็ควรขายออกมาบ้าง
ทั้งนี้ เชื่อว่าลงทุนในทองคำยังคงเป็นช่องทางการลงทุนที่น่าสนใจเนื่องจา ในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวทองคำจะเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนให้ควาวมสนใจเพิ่มมากขึ้น โดยในระยะยาวเชื่อว่าการลงทุนในทองคำน่าจะเป็นช่องทางที่ดีอยู่เช่นกัน ซึ่งหากเศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้นดีมานในส่วนของผู้ผลิตเครื่องประดับ และผู้บริโภคเองน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม ทำให้ราคาทองคำไม่ปรับตัวลดลงมากนัก
สำหรับการลงทุนในทองคำปัจจุบันนับว่าเป็นช่องทางการลงทุนที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังชะลอตัวอยุ่ในขณะนี้จะทำให้ทองคำได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น โดยในระยะยาวยังมีปัจจัยสนับสนุนให้ราคาทองคำยังสูงต่อไปอีก โดยเฉพาะจากความพยายามในการอัดฉีดเงินเข้าระบบของธนาคารกลางสหรัฐอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความพยายามดังกล่าว ทำให้หลายฝ่ายเป็นห่วงว่า เมื่อเศรษฐกิจนิ่งแล้ว อาจจะมีปัญหาเงินเฟ้อตามมาได้ ซึ่งจะเป็นแรงกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงไปอีก และเมื่อถึงเวลานั้น ทองคำก็จะเป็นการลงทุนที่น่าสนใจที่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้
อย่างไรก็ตามการรลงทุนในทองคำในปัจจุบันเชื่อว่า อาจจะยังไม่เยอะเท่ากับอดีตที่ผ่านมา เพราะกองทุนเก็งกำไรที่มีอยู่ทั่วโลกปิดตัวไปหลายกองทุนพอสมควร ในขณะที่การลงทุนในน้ำมันเอง ขณะนี้ยังเห็นสัญญาณไม่เยอะมากนัก
บาทแข็งดันราคาทองลด
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ราคาทองคำล่วงหน้าว่าสัญญาทองคำล่วงหน้าสิ้นสุดเดือนเม.ย.ที่ ตลาด COMEX ปิดที่ 940.00 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 4/20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามทิศทางของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามในช่วงหลังปิดตลาดทิศทางราคาทองคำโลกเริ่มอ่อนตัวลงซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่อราคาทองบ้านเราในเช้าวันนี้
ทั้งนี้ จากการที่อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้น 0.422% เมื่อเปรียบเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐจะส่งผลให้ทองคำในรูปเงินบาทปรับตัวลดลง
โดยมูลค่าทองสุทธิในกองทุน SPDR Gold Trust ยังทรงตัวต่อจากวันก่อนอยู่ที่ 1,124.29 ตันต่อหน่วยลงทุน ความเห็นเทคนิคแนวโน้มราคาทองคำโลก ทิศทางทองคำโลกยังเป็นลักษณะของการแกว่งตัวออกด้านข้างแต่หากไม่อ่อนตัวลงต่ำกว่าบริเวณ 910 จุด คาดว่าทิศทางการแกว่งตัวขึ้นยังสามารถคาดหวังได้
ส่วนราคาทองคำในประเทศต่างประเทศ ประจำวันที่ 30 มี.ค. 52 จากรายงานของสมาคมค้าทองคำ พบว่า ราคาทองคำแท่งในประเทศ ซื้อที่ 15,550.00 บาท ขาย15,650.00 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณซื้อ 15,326.76 บาท ขาย 16,050.00
นายไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยถึงสถานการณ์ของราคาทองคำในขณะนี้ว่า ราคาทองคำที่ปรับตัวลดลงมาในขณะนี้ เป็นไปตามภาวะที่หลายฝ่ายมองว่าราคาทองคำนั้นได้ปรับตัวลดลงเนื่องมากจากแรงเทขายทำกำไรในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งสถานการณ์ของทองคำในขณะนี้เป็นการปรับฐานของราคาก่อนที่จะปรับตัวสูงขึ้นจากการเข้าไปลงทุนเพื่อเก็งกำไรอีกครั้ง
ทั้งนี้สถานการณ์ของทองคำในขณะนี้จะเห็นได้ว่าทองคำที่ถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องประดับนั้น ปรับตัวลดลงมาจากการที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น แต่ความต้องการทองคำดังกล่าวนั้นกลับถูกชดเชยด้วยความต้องการทองคำเพื่อเก็งกำไร ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา
"ทิศทางของราคาทองคำในปีนี้จะปรับตัวขึ้นสูงและปรับลดลงจากการเทขายเพื่อทำกำไร ซึ่งจะเป็นเช่นนี้ตลอดทั้งปี โดยนักวิเคราะห์ต่างประเทศคาดกันว่าราคาทองคำในปีนี้ไม่น่าจะปรับตัวสูงขึ้นเกิน 1,000 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์" นายไพศาล กล่าว
นายไพศาล กล่าวต่อว่า เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนพากันมองว่าการลงทุนในตลาดหุ้นมีความผันผวนมาก ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการที่จะถือเงินสดไว้มากนัก ดังนั้นจึงเลือกที่จะลงทุนในทองคำซึ่งสามารถให้ผลตอบแทนที่ดี และถือว่ามีความน่าลงทุนมากในภาวะเช่นนี้ นอกจากนี้ยังแนะนำนักลงทุนในการจัดพอร์ตเพื่อลงทุนในทองคำด้วยว่า หากราคาทองคำปรับตัวลดลงมา นักลงทุนควรจัดเงินลงทุนซื้อทองคำประมาณ 10-20% จากเงินทั้งหมดที่ต้องการลงทุน ซึ่งหากราคาปรับตัวลงอีก จึงสามารถนำเงินส่วนที่เหลือเข้าซื้อได้อีก แต่หากราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นไปนักลงทุนอาจตัดสินใจขายออกเพื่อเก็งกำไรได้
"อย่างไรก็ตามการลงทุนในทองคำนั้นมีความเสี่ยงค่อนข้างสูงหากนักลงทุนที่เก็งกำไรอยู่ในทองคำแล้วเห็นว่าราคาทองปรับขึ้นจนตนเองได้กำไรประมาณ 10% ก็ควรที่จะขายออก" รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน กล่าวแนะนำ
ด้าน นักวิเคราะห์ราคาทองคำ เปิดเผยว่า ราคาทองคำให้ปัจจุบันยังค่อนข้างผันผวน โดยนักลงทุนจะต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังมีโอกาสเปลี่ยนได้ตลอดเวลา และหากราคาปรับขึ้นมาในจุดที่พอสมควรแล้วก็ควรขายออกมาบ้าง
ทั้งนี้ เชื่อว่าลงทุนในทองคำยังคงเป็นช่องทางการลงทุนที่น่าสนใจเนื่องจา ในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวทองคำจะเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนให้ควาวมสนใจเพิ่มมากขึ้น โดยในระยะยาวเชื่อว่าการลงทุนในทองคำน่าจะเป็นช่องทางที่ดีอยู่เช่นกัน ซึ่งหากเศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้นดีมานในส่วนของผู้ผลิตเครื่องประดับ และผู้บริโภคเองน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม ทำให้ราคาทองคำไม่ปรับตัวลดลงมากนัก
สำหรับการลงทุนในทองคำปัจจุบันนับว่าเป็นช่องทางการลงทุนที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังชะลอตัวอยุ่ในขณะนี้จะทำให้ทองคำได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น โดยในระยะยาวยังมีปัจจัยสนับสนุนให้ราคาทองคำยังสูงต่อไปอีก โดยเฉพาะจากความพยายามในการอัดฉีดเงินเข้าระบบของธนาคารกลางสหรัฐอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความพยายามดังกล่าว ทำให้หลายฝ่ายเป็นห่วงว่า เมื่อเศรษฐกิจนิ่งแล้ว อาจจะมีปัญหาเงินเฟ้อตามมาได้ ซึ่งจะเป็นแรงกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงไปอีก และเมื่อถึงเวลานั้น ทองคำก็จะเป็นการลงทุนที่น่าสนใจที่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้
อย่างไรก็ตามการรลงทุนในทองคำในปัจจุบันเชื่อว่า อาจจะยังไม่เยอะเท่ากับอดีตที่ผ่านมา เพราะกองทุนเก็งกำไรที่มีอยู่ทั่วโลกปิดตัวไปหลายกองทุนพอสมควร ในขณะที่การลงทุนในน้ำมันเอง ขณะนี้ยังเห็นสัญญาณไม่เยอะมากนัก
บาทแข็งดันราคาทองลด
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ราคาทองคำล่วงหน้าว่าสัญญาทองคำล่วงหน้าสิ้นสุดเดือนเม.ย.ที่ ตลาด COMEX ปิดที่ 940.00 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 4/20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามทิศทางของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามในช่วงหลังปิดตลาดทิศทางราคาทองคำโลกเริ่มอ่อนตัวลงซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่อราคาทองบ้านเราในเช้าวันนี้
ทั้งนี้ จากการที่อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้น 0.422% เมื่อเปรียบเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐจะส่งผลให้ทองคำในรูปเงินบาทปรับตัวลดลง
โดยมูลค่าทองสุทธิในกองทุน SPDR Gold Trust ยังทรงตัวต่อจากวันก่อนอยู่ที่ 1,124.29 ตันต่อหน่วยลงทุน ความเห็นเทคนิคแนวโน้มราคาทองคำโลก ทิศทางทองคำโลกยังเป็นลักษณะของการแกว่งตัวออกด้านข้างแต่หากไม่อ่อนตัวลงต่ำกว่าบริเวณ 910 จุด คาดว่าทิศทางการแกว่งตัวขึ้นยังสามารถคาดหวังได้
ส่วนราคาทองคำในประเทศต่างประเทศ ประจำวันที่ 30 มี.ค. 52 จากรายงานของสมาคมค้าทองคำ พบว่า ราคาทองคำแท่งในประเทศ ซื้อที่ 15,550.00 บาท ขาย15,650.00 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณซื้อ 15,326.76 บาท ขาย 16,050.00