เพื่อความสด เสาร์นี้ผมขอตั้งคำถาม ไปอังกฤษคราวนี้ อภิสิทธิ์มีอะไรกลับมาฝาก?
จำได้ว่าผมเคยเขียน ทักษิณไปอังกฤษ มีอะไรกลับมาฝาก? เหลือบดูวันที่เขียนครั้งแรก 15 พฤษภาคม 2545 อนิจจาเอ๋ย! เกือบ 7 ปีแล้ว การเมืองไทยยังน้ำเน่าอยู่อย่างเดิม
นี่ดีแต่มี 6 ปีเผด็จการของทักษิณและบริวารมาคั่น มิฉะนั้นหลายคนจะชี้นิ้วไปที่ประชาธิปัตย์นั่นล่ะ น้ำเน่าตัวจริง ชอบซูเอี๋ยกับทหาร และผลิตเลขาธิการพรรค และนักการเมืองน้ำเน่า เอาไว้เที่ยวแจก เต็มไปหมดทุกพรรค
เรื่องนี้รับรองได้ว่าประชาธิปัตย์จะเป็นผู้ครองสถิติโลกไปชั่วกัลปาวสาน ซ้ำคราวที่แล้ว ผมยังตกชื่อ ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ไปซะอีก
ขอภาวนาว่า ขอให้สุเทพ เทือกสุบรรณ จงเกิดและตายกับประชาธิปัตย์เถิด อย่าสัมภวเวสีไปเหมือนกับเฉลิมและคนอื่นๆ ที่กำลังจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจประชาธิปัตย์อยู่ขณะนี้เลย
มีใครจำได้บ้างว่า เฉลิมอยู่มาแล้วกี่พรรค มีมาแล้วกี่นาย ย้ายมาแล้วกี่หน เล่นกลในสภามาแล้วกี่รอบ คณะรัฐศาสตร์ทั้งประ เทศและสื่อทุกฉบับหายไปไหน ใครตอบได้บ้าง ถ้าเรารักและเป็นห่วงชาติ เรามีสิทธิรู้นะ เพราะ เฉลิม อยู่บำรุง ผู้นำนอกทะเบียนของพรรคเพื่อไทยอาจจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปตามบทบัญญัติอัจฉริยะของรัฐธรรมนูญของไทย
เมื่อรัฐธรรมนูญไม่เปลี่ยน การเมืองก็เลยไม่เปลี่ยน ยังงั้นหรือ ดูๆ ก็เป็นเหตุผลที่สอดคล้องกับตรรกวิทยาดี ความจริงไม่ใช่ ถึงรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไร นักการเมืองก็สามารถเลือกประพฤติที่จะเป็นน้ำเน่าหรือไม่เป็นน้ำเน่าก็
เศร้ามั้ยครับที่ 7 ปีผ่านไป ผมต้องเอาเรื่องที่ขอทักษิณกลับมาขออภิสิทธิ์อีก
ก็มันยังไม่มีการเมืองใหม่นี่ครับ จนกว่าอภิสิทธิ์จะเปลี่ยนพฤติกรรมจากการเมืองเก่า
ทั้งๆ ที่อภิสิทธิ์เป็นนักการเมืองน้ำดี เป็นผู้นำที่มีลักษณะชูใจ อีกหน่อยก็จะมีบารมี เป็นหน้าเป็นตาของประเทศ แต่ผู้คนจำนวนมหาศาล พวกหนึ่งก็ไม่เชื่อว่าอภิสิทธิ์จะอยู่ได้ อีกพวกหนึ่งก็เชื่อว่า ถึงจะอยู่ได้ก็ไม่มีทางจะเปลี่ยนอะไรได้
ผมเองอยากเห็นอภิสิทธิ์อยู่นานๆ ทั้งนี้ขึ้นกับปัจจัยสำคัญ 2 อย่าง คือ ความเต็มใจ และความสามารถของอภิสิทธิ์เอง แต่ถ้าเต็มใจซะอย่าง ถึงจะสามารถไม่พอ ก็อาจจะเรียกขานวานใช้คนอื่นได้ แผ่นดินใช่จะไร้เท่าใบพุทราเมื่อไร
ผมทวงของฝากอะไรจากทักษิณ ท่านผู้อ่านลองกดอ่านที่ออนไลน์ดู แล้วจะเข้าใจทันทีว่าทำไมผมจึงต้องทวงอภิสิทธิ์อีก
(1) ของเก่าเอามาเล่าใหม่
“ต่อไปนี้คือของฝากที่ผมอยากให้หรืออยากได้จากนายกฯ ในวาระที่ไปเยือนอังกฤษ
1. สิ่งแรกที่สุด ผมอยากเห็นนายกฯ แอบมองคติธรรมและจริยธรรมทางการเมืองของอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่เกี่ยวกับผู้นำระดับนายกรัฐมนตรี หัวหน้าฝ่ายค้าน หรือนักการเมืองชั้นนำ ทั้งในเรื่องความรับผิดชอบต่อครอบครัว สังคม และในการบริหารราชการแผ่นดิน
ไทยเราอ้างหนักหนาว่าเอาแบบอย่างการเมืองมาจากระบบอังกฤษ ความจริงเป็นการอ้างอย่างขี้ตู่หน้าไม่อาย เราเอามาแต่กระพี้ ไม่มีแก่น เขามีอะไรดีๆ ง่ายๆ ที่เราควรจะเอาอย่างได้เยอะ เรารู้แต่ไม่รับ เพราะมันขัดผลประโยชน์ส่วนตัวของเราต่างหาก”
อันนี้ โดยเฉพาะวรรคแรกคงจะไม่ต้องถามอภิสิทธิ์ เพราะอภิสิทธิ์ไม่น่าจะมีปัญหาเหล่านี้เลย แต่ในวรรคสอง ทั้งๆ ที่รู้ว่าอภิสิทธิ์จบเกียรตินิยมอันดับหนึ่งวิชาการเมืองมาจากออกซฟอร์ด St. John College ที่เดียวกับอดีตนายกฯ โทนี่ แบลร์ นายกเทศมนตรีมหานครลอนดอน และผู้นำฝ่ายค้านอังกฤษปัจจุบัน อภิสิทธิ์จะต้องรู้ดีกว่าทักษิณหลายเท่าว่ามีอะไรดีๆ ง่ายๆ ที่จะนำมาใช้ให้เป็นคุณกับการเมืองไทยได้ตลอดไป ตัวอย่างเช่น โครงสร้างและบรรทัดฐานทางการเมืองคณะรัฐมนตรีอังกฤษ เช่น รัฐมนตรีหรือครม.ของเขาขนาดเล็กกว่าของเรามากมาย รัฐมนตรีว่าการเท่านั้นที่นั่งในครม.รองนายกรัฐมนตรีจะมีหรือไม่มีก็ได้ ถ้ามีก็ไม่เกิน 1 คน ตั้งแต่ตั้งประเทศมารวมแล้วยังไม่ถึง10 คน / เรื่องความเป็นจริงในภาคปฏิบัติของความรับผิดชอบร่วมของครม. (Collective Responsibility) เรื่องความเป็นเต้ย (หนึ่ง) ในบรรดาคนที่เท่ากัน (ครม.) ของนายกรัฐมนตรี เรื่องที่นายกฯ สามารถเตะรัฐมนตรีแตกแถวหรืออื้อฉาวออกได้ทุกเมื่อทันท่วงที
อภิสิทธิ์ตั้งใจหรือกล้านำอะไรมาใช้บ้าง
2. ขอทักษิณอย่างไรก็ขออภิสิทธิ์อย่างนั้น
“ (4) การปราบคอร์รัปชันและความประพฤติเสื่อมเสียของนักการเมือง และรัฐมนตรี นายกฯ ทักษิณประกาศหนักแน่นว่า การปราบปรามคอร์รัปชันเป็นภารกิจศักดิ์สิทธิ์ของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ผมอยากให้นายกฯ ทักษิณ เก็บสถิติและดูตัวอย่างจากอังกฤษ ไม่ต้องไปไกลถึงยุคโบราณ เอาแค่รัฐบาลที่ผ่านมา คือของนายจอน เมเจอร์ 2 สมัย และของนายแบลร์ ซึ่งขณะนี้อยู่ในสมัยที่ 2 จะเห็นว่ามีรัฐมนตรีที่ต้องถูกออก เพราะแอบไปเป็นนายหน้าค้าขายอาวุธบ้าง ขออภิสิทธิ์ให้พ่อค้า รวมทั้งเพื่อนของนายกฯ ทักษิณ คือเศรษฐีกุ๊ย เจ้าของห้างสรรพสินค้าแฮร์รอดเลื่องชื่อของโลกบ้าง แอบไปเที่ยวกะเทยตอนกลางคืนบ้าง หรือโกหกหนังสือพิมพ์บ้าง นอกจากจะถูกออกไปบางคนต้องติดคุก ทั้งนี้เป็นเพราะความโลภหรือความลืมตัว ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีประวัติเสีย เป็นนักเลงบ่อนเบี้ย หรือนายหน้าค้าสัมปทานรับเหมาโครงการ รับฮั้ว เป็นยี่ปั๊วหรือเถ้าแก่การพนันฟุตบอล หรือหวยเถื่อน เป็นยี้ ฯลฯ ดังที่เล่าลือกันลั่นว่ามีอยู่มากมายในพรรคทุกพรรค รัฐบาลทุกรัฐบาลของประเทศไทย ถ้ามีโอกาสลองกระซิบถามดูบ้างว่าอังกฤษเขาปราบกันอย่างไร”
ทักษิณได้ชื่อว่า ปากอย่างหนึ่ง ใจอย่างหนึ่ง ซ้ำทำก็อีกอย่างหนึ่ง เป็นรัฐบาลโคตรโกงในประวัติศาสตร์ไทย อภิสิทธิ์เป็นคนซื่อสัตย์ แต่เกรงว่าพรรคและรัฐบาลจะไม่ ทำอย่างไรจึงจะหลีกเลี่ยงมิให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เพราะภายในแวดวงอำนาจปัจจุบัน มีทั้งองค์ประกอบบุคคลเก่าๆ และระบบพฤติกรรมเก่าๆ (ที่โคตรโกง) อภิสิทธิ์ลองคิดและทำแบบอังกฤษบ้าง
3. ก็มันคนพวกเดียวกันย้ายพรรคไปย้ายพรรคมา หรือไม่ก็ ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง ทีเองกูไม่ว่า-ทีข้ามึงอย่าโวย ของอังกฤษเป็นยังไงครับ ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์
“6. การยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ และการขอถอดถอนรัฐมนตรีครั้งนี้ หลายคนโมทนาว่า เป็นความก้าวหน้าทางการเมืองอย่างยิ่งยวดของประเทศไทย แต่ผมกลับเห็นว่าเป็นการขาดวุฒิภาวะและด้อยพัฒนาอย่างถึงขนาดของผู้นำการเมืองไทย ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ข้างรัฐบาลจะต่างกันกี่มากน้อย น่าจะครือๆ กัน เสียละมากกว่า
ผมอยากให้ท่านนายกฯ และคณะลองเปรียบเทียบศึกษาของอังกฤษดูบ้าง ”
คราวที่แล้ว ปชป.ยื่น คราวนี้พรรคทาส ขอโทษ พรรคเพื่อไทย ยื่น มันก็เหมือนกันอีกใช่มั้ยครับ ท่านนายกฯ
4. สิ่งที่ทักษิณไม่มีทางให้ ลองขออภิสิทธิดูบ้าง
“ 7. ฯลฯ ขอฝากเรื่องที่สำคัญที่สุด (ที่จะเป็นเครื่องมือ) ป้องกันมิให้พรรคฝ่ายค้านหรือรัฐบาลมาเล่นปาหี่ในสภาตามข้อ 6
ขอให้นายกฯ ทักษิณเรียนรู้และจำเริญรอยตามโทนี่ แบลร์ ซึ่งเขารักษาจารีตประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา ซึ่งส่งกันต่อๆ มา เพื่อป้องกันความประมาทและความชุ่ยในการบริหารราชการแผ่นดิน ตัดปัญหาค่าโง่ ค่าเสียเวลาออกทีวี ค่าไฟฟ้า ฯลฯ นั่นก็คือ
นายกรัฐมนตรีมาตอบกระทู้สดของหัวหน้าฝ่ายค้านสัปดาห์ละหนึ่งครั้งตลอดสมัยประชุม ที่เรียกว่า prime minister questions อย่างนี้ประชาชนจะได้รับรู้ตลอด และทั้งนายกฯ และหัวหน้าฝ่ายค้านจะได้ทำการบ้านเตรียมตัว มิใช่จะพลิกพลิ้วชิวหาต่อสู้กันอย่างที่ทำๆ กันมา และจะทำกันต่อๆ ไป”
กลับมาคราวนี้ ทำเสียทีดีมั้ยครับ นายกฯ อภิสิทธิ์ อย่ามัวไปคอยการกลับมาใหม่ของทักษิณเลย
5. ลืมบอกอภิสิทธิ์ ให้ไปถามนายกฯ อังกฤษ
พอนายกฯ บราวน์นั่งเก้าอี้ปุ๊บ เขาก็ออกหนังสือปกแดงหนาเตอะออกมาปั๊บ มีแต่เนื้อๆทั้งนั้น ว่าจะปฏิรูปการเมืองอย่างไร ลืมฝากอภิสิทธิ์ไปถามบราวน์ว่า เขามีแผนจะปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้เหมาะสมกับยุคสมัยอย่างไร และข้อสำคัญอังกฤษจะเลิกกฎหมายหมิ่นกษัตริย์เมื่อไร ถ้าเขายังไม่เลิก ไทยอย่าดันทุรังไปคิดนอกครู ปล่อยให้ Mr.Giles กับพรรคไปวิ่งอังกฤษกับเนเธอร์แลนด์ให้สำเร็จเสียก่อน
6. ทักษิณไม่ได้ขอ แต่จะรออภิสิทธิ์ให้
คือการที่นายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าถวายฯ ข้อราชการสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ตามจารีตและพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยของอังกฤษ
“นี่คือของฝากยอดปรารถนาจากแดนแม่แบบประชาธิปไตย”
จำได้ว่าผมเคยเขียน ทักษิณไปอังกฤษ มีอะไรกลับมาฝาก? เหลือบดูวันที่เขียนครั้งแรก 15 พฤษภาคม 2545 อนิจจาเอ๋ย! เกือบ 7 ปีแล้ว การเมืองไทยยังน้ำเน่าอยู่อย่างเดิม
นี่ดีแต่มี 6 ปีเผด็จการของทักษิณและบริวารมาคั่น มิฉะนั้นหลายคนจะชี้นิ้วไปที่ประชาธิปัตย์นั่นล่ะ น้ำเน่าตัวจริง ชอบซูเอี๋ยกับทหาร และผลิตเลขาธิการพรรค และนักการเมืองน้ำเน่า เอาไว้เที่ยวแจก เต็มไปหมดทุกพรรค
เรื่องนี้รับรองได้ว่าประชาธิปัตย์จะเป็นผู้ครองสถิติโลกไปชั่วกัลปาวสาน ซ้ำคราวที่แล้ว ผมยังตกชื่อ ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ไปซะอีก
ขอภาวนาว่า ขอให้สุเทพ เทือกสุบรรณ จงเกิดและตายกับประชาธิปัตย์เถิด อย่าสัมภวเวสีไปเหมือนกับเฉลิมและคนอื่นๆ ที่กำลังจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจประชาธิปัตย์อยู่ขณะนี้เลย
มีใครจำได้บ้างว่า เฉลิมอยู่มาแล้วกี่พรรค มีมาแล้วกี่นาย ย้ายมาแล้วกี่หน เล่นกลในสภามาแล้วกี่รอบ คณะรัฐศาสตร์ทั้งประ เทศและสื่อทุกฉบับหายไปไหน ใครตอบได้บ้าง ถ้าเรารักและเป็นห่วงชาติ เรามีสิทธิรู้นะ เพราะ เฉลิม อยู่บำรุง ผู้นำนอกทะเบียนของพรรคเพื่อไทยอาจจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปตามบทบัญญัติอัจฉริยะของรัฐธรรมนูญของไทย
เมื่อรัฐธรรมนูญไม่เปลี่ยน การเมืองก็เลยไม่เปลี่ยน ยังงั้นหรือ ดูๆ ก็เป็นเหตุผลที่สอดคล้องกับตรรกวิทยาดี ความจริงไม่ใช่ ถึงรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไร นักการเมืองก็สามารถเลือกประพฤติที่จะเป็นน้ำเน่าหรือไม่เป็นน้ำเน่าก็
เศร้ามั้ยครับที่ 7 ปีผ่านไป ผมต้องเอาเรื่องที่ขอทักษิณกลับมาขออภิสิทธิ์อีก
ก็มันยังไม่มีการเมืองใหม่นี่ครับ จนกว่าอภิสิทธิ์จะเปลี่ยนพฤติกรรมจากการเมืองเก่า
ทั้งๆ ที่อภิสิทธิ์เป็นนักการเมืองน้ำดี เป็นผู้นำที่มีลักษณะชูใจ อีกหน่อยก็จะมีบารมี เป็นหน้าเป็นตาของประเทศ แต่ผู้คนจำนวนมหาศาล พวกหนึ่งก็ไม่เชื่อว่าอภิสิทธิ์จะอยู่ได้ อีกพวกหนึ่งก็เชื่อว่า ถึงจะอยู่ได้ก็ไม่มีทางจะเปลี่ยนอะไรได้
ผมเองอยากเห็นอภิสิทธิ์อยู่นานๆ ทั้งนี้ขึ้นกับปัจจัยสำคัญ 2 อย่าง คือ ความเต็มใจ และความสามารถของอภิสิทธิ์เอง แต่ถ้าเต็มใจซะอย่าง ถึงจะสามารถไม่พอ ก็อาจจะเรียกขานวานใช้คนอื่นได้ แผ่นดินใช่จะไร้เท่าใบพุทราเมื่อไร
ผมทวงของฝากอะไรจากทักษิณ ท่านผู้อ่านลองกดอ่านที่ออนไลน์ดู แล้วจะเข้าใจทันทีว่าทำไมผมจึงต้องทวงอภิสิทธิ์อีก
(1) ของเก่าเอามาเล่าใหม่
“ต่อไปนี้คือของฝากที่ผมอยากให้หรืออยากได้จากนายกฯ ในวาระที่ไปเยือนอังกฤษ
1. สิ่งแรกที่สุด ผมอยากเห็นนายกฯ แอบมองคติธรรมและจริยธรรมทางการเมืองของอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่เกี่ยวกับผู้นำระดับนายกรัฐมนตรี หัวหน้าฝ่ายค้าน หรือนักการเมืองชั้นนำ ทั้งในเรื่องความรับผิดชอบต่อครอบครัว สังคม และในการบริหารราชการแผ่นดิน
ไทยเราอ้างหนักหนาว่าเอาแบบอย่างการเมืองมาจากระบบอังกฤษ ความจริงเป็นการอ้างอย่างขี้ตู่หน้าไม่อาย เราเอามาแต่กระพี้ ไม่มีแก่น เขามีอะไรดีๆ ง่ายๆ ที่เราควรจะเอาอย่างได้เยอะ เรารู้แต่ไม่รับ เพราะมันขัดผลประโยชน์ส่วนตัวของเราต่างหาก”
อันนี้ โดยเฉพาะวรรคแรกคงจะไม่ต้องถามอภิสิทธิ์ เพราะอภิสิทธิ์ไม่น่าจะมีปัญหาเหล่านี้เลย แต่ในวรรคสอง ทั้งๆ ที่รู้ว่าอภิสิทธิ์จบเกียรตินิยมอันดับหนึ่งวิชาการเมืองมาจากออกซฟอร์ด St. John College ที่เดียวกับอดีตนายกฯ โทนี่ แบลร์ นายกเทศมนตรีมหานครลอนดอน และผู้นำฝ่ายค้านอังกฤษปัจจุบัน อภิสิทธิ์จะต้องรู้ดีกว่าทักษิณหลายเท่าว่ามีอะไรดีๆ ง่ายๆ ที่จะนำมาใช้ให้เป็นคุณกับการเมืองไทยได้ตลอดไป ตัวอย่างเช่น โครงสร้างและบรรทัดฐานทางการเมืองคณะรัฐมนตรีอังกฤษ เช่น รัฐมนตรีหรือครม.ของเขาขนาดเล็กกว่าของเรามากมาย รัฐมนตรีว่าการเท่านั้นที่นั่งในครม.รองนายกรัฐมนตรีจะมีหรือไม่มีก็ได้ ถ้ามีก็ไม่เกิน 1 คน ตั้งแต่ตั้งประเทศมารวมแล้วยังไม่ถึง10 คน / เรื่องความเป็นจริงในภาคปฏิบัติของความรับผิดชอบร่วมของครม. (Collective Responsibility) เรื่องความเป็นเต้ย (หนึ่ง) ในบรรดาคนที่เท่ากัน (ครม.) ของนายกรัฐมนตรี เรื่องที่นายกฯ สามารถเตะรัฐมนตรีแตกแถวหรืออื้อฉาวออกได้ทุกเมื่อทันท่วงที
อภิสิทธิ์ตั้งใจหรือกล้านำอะไรมาใช้บ้าง
2. ขอทักษิณอย่างไรก็ขออภิสิทธิ์อย่างนั้น
“ (4) การปราบคอร์รัปชันและความประพฤติเสื่อมเสียของนักการเมือง และรัฐมนตรี นายกฯ ทักษิณประกาศหนักแน่นว่า การปราบปรามคอร์รัปชันเป็นภารกิจศักดิ์สิทธิ์ของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ผมอยากให้นายกฯ ทักษิณ เก็บสถิติและดูตัวอย่างจากอังกฤษ ไม่ต้องไปไกลถึงยุคโบราณ เอาแค่รัฐบาลที่ผ่านมา คือของนายจอน เมเจอร์ 2 สมัย และของนายแบลร์ ซึ่งขณะนี้อยู่ในสมัยที่ 2 จะเห็นว่ามีรัฐมนตรีที่ต้องถูกออก เพราะแอบไปเป็นนายหน้าค้าขายอาวุธบ้าง ขออภิสิทธิ์ให้พ่อค้า รวมทั้งเพื่อนของนายกฯ ทักษิณ คือเศรษฐีกุ๊ย เจ้าของห้างสรรพสินค้าแฮร์รอดเลื่องชื่อของโลกบ้าง แอบไปเที่ยวกะเทยตอนกลางคืนบ้าง หรือโกหกหนังสือพิมพ์บ้าง นอกจากจะถูกออกไปบางคนต้องติดคุก ทั้งนี้เป็นเพราะความโลภหรือความลืมตัว ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีประวัติเสีย เป็นนักเลงบ่อนเบี้ย หรือนายหน้าค้าสัมปทานรับเหมาโครงการ รับฮั้ว เป็นยี่ปั๊วหรือเถ้าแก่การพนันฟุตบอล หรือหวยเถื่อน เป็นยี้ ฯลฯ ดังที่เล่าลือกันลั่นว่ามีอยู่มากมายในพรรคทุกพรรค รัฐบาลทุกรัฐบาลของประเทศไทย ถ้ามีโอกาสลองกระซิบถามดูบ้างว่าอังกฤษเขาปราบกันอย่างไร”
ทักษิณได้ชื่อว่า ปากอย่างหนึ่ง ใจอย่างหนึ่ง ซ้ำทำก็อีกอย่างหนึ่ง เป็นรัฐบาลโคตรโกงในประวัติศาสตร์ไทย อภิสิทธิ์เป็นคนซื่อสัตย์ แต่เกรงว่าพรรคและรัฐบาลจะไม่ ทำอย่างไรจึงจะหลีกเลี่ยงมิให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เพราะภายในแวดวงอำนาจปัจจุบัน มีทั้งองค์ประกอบบุคคลเก่าๆ และระบบพฤติกรรมเก่าๆ (ที่โคตรโกง) อภิสิทธิ์ลองคิดและทำแบบอังกฤษบ้าง
3. ก็มันคนพวกเดียวกันย้ายพรรคไปย้ายพรรคมา หรือไม่ก็ ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง ทีเองกูไม่ว่า-ทีข้ามึงอย่าโวย ของอังกฤษเป็นยังไงครับ ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์
“6. การยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ และการขอถอดถอนรัฐมนตรีครั้งนี้ หลายคนโมทนาว่า เป็นความก้าวหน้าทางการเมืองอย่างยิ่งยวดของประเทศไทย แต่ผมกลับเห็นว่าเป็นการขาดวุฒิภาวะและด้อยพัฒนาอย่างถึงขนาดของผู้นำการเมืองไทย ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ข้างรัฐบาลจะต่างกันกี่มากน้อย น่าจะครือๆ กัน เสียละมากกว่า
ผมอยากให้ท่านนายกฯ และคณะลองเปรียบเทียบศึกษาของอังกฤษดูบ้าง ”
คราวที่แล้ว ปชป.ยื่น คราวนี้พรรคทาส ขอโทษ พรรคเพื่อไทย ยื่น มันก็เหมือนกันอีกใช่มั้ยครับ ท่านนายกฯ
4. สิ่งที่ทักษิณไม่มีทางให้ ลองขออภิสิทธิดูบ้าง
“ 7. ฯลฯ ขอฝากเรื่องที่สำคัญที่สุด (ที่จะเป็นเครื่องมือ) ป้องกันมิให้พรรคฝ่ายค้านหรือรัฐบาลมาเล่นปาหี่ในสภาตามข้อ 6
ขอให้นายกฯ ทักษิณเรียนรู้และจำเริญรอยตามโทนี่ แบลร์ ซึ่งเขารักษาจารีตประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา ซึ่งส่งกันต่อๆ มา เพื่อป้องกันความประมาทและความชุ่ยในการบริหารราชการแผ่นดิน ตัดปัญหาค่าโง่ ค่าเสียเวลาออกทีวี ค่าไฟฟ้า ฯลฯ นั่นก็คือ
นายกรัฐมนตรีมาตอบกระทู้สดของหัวหน้าฝ่ายค้านสัปดาห์ละหนึ่งครั้งตลอดสมัยประชุม ที่เรียกว่า prime minister questions อย่างนี้ประชาชนจะได้รับรู้ตลอด และทั้งนายกฯ และหัวหน้าฝ่ายค้านจะได้ทำการบ้านเตรียมตัว มิใช่จะพลิกพลิ้วชิวหาต่อสู้กันอย่างที่ทำๆ กันมา และจะทำกันต่อๆ ไป”
กลับมาคราวนี้ ทำเสียทีดีมั้ยครับ นายกฯ อภิสิทธิ์ อย่ามัวไปคอยการกลับมาใหม่ของทักษิณเลย
5. ลืมบอกอภิสิทธิ์ ให้ไปถามนายกฯ อังกฤษ
พอนายกฯ บราวน์นั่งเก้าอี้ปุ๊บ เขาก็ออกหนังสือปกแดงหนาเตอะออกมาปั๊บ มีแต่เนื้อๆทั้งนั้น ว่าจะปฏิรูปการเมืองอย่างไร ลืมฝากอภิสิทธิ์ไปถามบราวน์ว่า เขามีแผนจะปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้เหมาะสมกับยุคสมัยอย่างไร และข้อสำคัญอังกฤษจะเลิกกฎหมายหมิ่นกษัตริย์เมื่อไร ถ้าเขายังไม่เลิก ไทยอย่าดันทุรังไปคิดนอกครู ปล่อยให้ Mr.Giles กับพรรคไปวิ่งอังกฤษกับเนเธอร์แลนด์ให้สำเร็จเสียก่อน
6. ทักษิณไม่ได้ขอ แต่จะรออภิสิทธิ์ให้
คือการที่นายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าถวายฯ ข้อราชการสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ตามจารีตและพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยของอังกฤษ
“นี่คือของฝากยอดปรารถนาจากแดนแม่แบบประชาธิปไตย”
