11 กุมภาพันธ์ 2551
คุณสมัคร ที่รัก
ก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วย ที่คุณจับพลัดจับผลูขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ของประเทศไทย พร้อมๆ กับทำความเข้าใจกันว่า ต่อไปนี้คุณได้เป็นหัวหน้าคนใช้คนใหม่ของผมแล้ว
ผมไม่ได้ดูถูกนะครับที่ใช้คำว่าจับพลัดจับผลู ถ้าฟลุกละก้อไปอย่าง ที่ผมว่าจับพลัดจับผลูก็เพราะมันเป็นเรื่องของสถานการณ์ผิดปกติ ไม่เป็นไปตามครรลองธรรมดา
1. คุณมิได้เป็นหัวหน้าพรรคประชากรไทยที่คุณตั้งขึ้นมา พร้อมทั้งนโยบายและอุดมการณ์ของพรรคที่คุณได้ต่อสู้เผยแพร่จนประชาชนไม่น้อยพากันเลื่อมใส หากคุณต่อสู้ในนามประชากรไทย คงยากที่จะฟันฝ่ามาได้สัก 18 ที่นั่ง เท่ากับพรรคกิจสังคมตอนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ก็คงยากที่คุณจะวัดรอยเท้าอาจารย์คึกฤทธิ์ได้ ทั้งๆ ที่ประกบตัวดูแล้ว ในบรรดาผู้นำพรรคการเมืองต่างๆ ที่จะเป็นนักการเมืองอาชีพ ฝีมือจัดจ้านและชั่วโมงบินสูงเท่ากับคุณก็แทบจะไม่มีเลย
2. คุณพูดถูก หากไม่เกิดรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 คุณก็คงเป็นวุฒิสมาชิกแก่ๆ ไปจนครบเทอมเหลาเหย่ คุณได้มานั่งอยู่ตรงนี้ ก็เพราะเกิดการปฏิวัติขับไล่รัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมออกไป แล้วเกิดการมาบรรจบกันของ ง. ทั้งสาม
สาม ง. นั้นก็คือ (1) ง. โง่ ยกให้ทหาร (2) ง.หงอ ยกให้รัฐบาล และ (3) ง. งั่ง ยกให้รัฐธรรมนูญ
คุณอาจจะไม่เห็นด้วย ง.ที่สามเพราะมันเบาไป ก็คุณเองมิใช่หรือที่แจกหนังสือ “ลัดถะทำมะนวย หัวคูญ” ในวันสัมมนาพรรค
3. หากมิใช่เพราะ “ลัดถะทำมะนวย หัวคูญ” อันเป็นผลผลิตทางตรงและทางอ้อมของหัวหน้าคนใช้ก่อนคุณทั้ง 2 คนแล้ว คุณก็คงจะไม่มีทางมานั่งอยู่ตรงนี้ได้หรอก
พ.ต.ท.ทักษิณถูกกล่าวหาว่าฉ้อราษฎร์บังหลวงหลายโครงการ ฆ่าตัดตอนชาวบ้านโดยไม่ผ่านขบวนการยุติธรรมหลายพันคน ทำลายสถาบันนิติบัญญัติและองค์กรตรวจสอบและรัฐธรรมนูญ โดยไม่นำเรื่องผ่านตามกฎหมายและก้าวล่วงพระบรมนามาภิไธย และมีการกระทำอันจ้วงจาบหยาบช้าต่อพระมหากษัตริย์ ทั้งหมดนี้หากตอบคำถามต่อสาธารณชนหรือสภาผู้แทนราษฎร หรือลาออกจากตำแหน่งเสียเพื่อตั้งคนที่ตนไว้ใจที่สุดหรือเพื่อกลับเข้ามาใหม่ บ้านเมืองก็คงจะไม่เสียเงินทองและเสียเวลาอย่างน่าเสียดายเหมือนทุกวันนี้
แต่นี่ก็เป็นเพราะแกเลือกเอาการยุบสภา ทั้งๆ ที่ไม่มีสาเหตุตามรัฐธรรมนูญเลย เลือกเอาการเลือกตั้งที่ศาลสั่งว่าโมฆะ และกระทำผิดจนกระทั่งถูกยุบพรรค แล้วแกก็ยังมิเข็ดหลาบกลับรวบรวมพรรค ซื้อผู้สมัคร ซื้อการเลือกตั้ง เป็นผู้บงการชักไยทุกอย่างแม้แต่การตั้งแบ่งสรรเก้าอี้ในรัฐบาลใหม่ ที่คุณสมัครประกาศอย่างชื่นตาว่าคุณเป็นนอมินี อยู่ ณ วันนี้
สำหรับพลเอกสุรยุทธ์นั้น ไม่เป็นไรลืมเสียเถิด นึกเสียว่าไม่เคยมีรัฐบาลแกเสียเลยก็แล้วกัน เพราะถ้าหากรัฐบาลสุรยุทธ์เป็นรัฐบาลจริงๆ แล้ว เมืองไทยก็คงมิต้องเป็นอย่างทุกวันนี้หรอก
เอาเถอะครับ คุณสมัคร ไหนๆ ก็ไหนๆ ผมก็ต้องยอมรับคุณสมัครเป็นหัวหน้าคนใช้คนใหม่ไม่มีทางหลีกเลี่ยง คุณสมัครก็ควรทำใจให้ได้ยอมเป็นคนใช้ของผม และคนไทยทุกคนโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชังก็แล้วกัน
คุณสมัครจะทำประโยชน์ให้กับประชาธิปไตยและประเทศชาติอย่างมหาศาล หากคุณสมัครปฏิบัติตนเป็นผู้รับใช้ของราษฎรอย่างแท้จริง และช่วยประกาศโฆษณาให้การศึกษาให้ราษฎรเลิกเข้าใจผิดๆ เสียทีว่า รัฐบาลหรือราชการคือเจ้านายของราษฎร ช่วยทำให้คนทั้งประเทศเข้าใจด้วยเถิดครับว่า ส.ส.และรัฐมนตรีรวมทั้งนายกรัฐมนตรีคือคนใช้ของราษฎร
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผมไปร่วมอภิปรายที่มหาวิทยาลัยหอการค้า คุณณรงค์ โชควัฒนา ได้เสนอบทความชื่อว่า “75 ปี หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง การเมืองไทยยังเป็นแค่ เผด็จการจากการเลือกตั้ง” คุณสมัคร ช่วยให้คุณจักรภพนำไปพิมพ์แจกจ่ายและอ่านซ้ำๆ ในสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลด้วยเถิด ในตอนหนึ่ง คุณณรงค์กล่าวว่า “ประชาชนเป็นนายจ้าง รัฐบาลเป็นลูกจ้าง การเมืองการปกครองแบบประชาธิปไตยนั้น ฐานะของรัฐบาลก็ดี รัฐมนตรีก็ดี เป็นแค่คนรับใช้และลูกจ้างชั่วคราวของประชาชน นายกรัฐมนตรีก็เป็นแค่หัวหน้าคนรับใช้ของประชาชนเท่านั้น นักการเมืองมีและสามารถใช้อำนาจได้จำกัด แค่พอเพียงกับหน้าที่และความรับผิดชอบของตนเท่านั้น ไม่ใช่มีอำนาจทำอะไรได้ตามใจชอบ เพราะอำนาจรัฐ อำนาจอธิปไตย อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง”
ผมเชื่อว่าคุณสมัครคุ้นเคยกับระบบรัฐสภาแองโกลแซกซอน ไม่ว่าอังกฤษ แคนาดา นิวซีแลนด์ หรือออสเตรเลีย ในสปีชหรือการอภิปรายของนายกรัฐมนตรีจะมีคำว่า I am your humble servant เสมอ คำว่า humble น่าจะแปลว่า เจียมตัว ไม่หยิ่งผยอง ก้าวร้าว หรือเบ่งทั้งโดยวาจาและการปฏิบัติหน้าที่ ผมอยากให้คุณสมัครพิจารณาในข้อนี้เพื่อนำมาปรับปรุงตนเองและวัฒนธรรมประชาธิปไตยของไทยต่อไป อย่าคิดเป็นอันขาดว่าคุณเป็นนาย
อดีตนายกฯ อานันท์ ปันยารชุน กล่าวในปาฐกถานำในงานเดียวกันว่า แม้แต่ค่ายเผด็จการก็ยังเรียกชื่อประเทศของตนว่า “ประชาธิปไตย” เผด็จการก็มีการเลือกตั้งเป็นประจำเหมือนกัน หรือการเลือกตั้งในโลกประชาธิปไตยก็กลับกลายเป็นเผด็จการไปก็มาก ตัวอย่างเช่น เยอรมนีสมัยฮิตเลอร์ มูกาเบของซิมบับเว หรือฟิลิปปินส์ของมาร์กอส เป็นต้น เพราะฉะนั้นสักแต่ว่ามีเลือกตั้งมิได้หมายความว่าจะเป็นประชาธิปไตย จะต้องดูว่าการเลือกตั้งนั้นเสรี และยุติธรรมแท้จริงหรือไม่ และมีเนื้อหาเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ อนึ่งความเป็นประชาธิปไตยนั้นขึ้นอยู่กับความชอบธรรมเริ่มตั้งแต่การเข้ามาสู่อำนาจและการใช้อำนาจด้วย รัฐบาลจะต้องรับใช้คนทั้งประเทศมิใช่เฉพาะผู้ที่ลงคะแนนเลือกตน คนที่ไม่ลงไม่เกี่ยว ประชาชนต้องมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงทั้งในการเลือกตั้งและหลังการเลือกตั้ง นั่นก็คือ การเมืองภาคประชาชนจะต้องเข้มแข็งอยู่ตลอดเวลา
คุณสมัครที่รัก เรารู้จักกันอย่างห่างๆ มาหลายสิบปี ในฐานะนักเรียนการเมืองไทยผมอาจจะรู้จักคุณดีกว่าคุณรู้จักผม คุณอาจจะไม่ชอบหน้าผม แต่ผมแผ่เมตตาให้สัตว์ร่วมโลกทุกคนทุกวัน คุณเป็นนักการเมืองเพียงหนึ่งในสองของประเทศไทยที่คนรักก็เรียก “ไอ้หมัก” คนชังก็เรียก “ไอ้หมัก” ผมว่ามันเข้าท่าดี เพราะมันแสดงว่าคุณเป็นนักการเมืองของประชาชน
ผมไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งครั้งนี้ และผลพวงที่มาจากการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย เพราะผมเห็นว่าตั้งแต่ต้นจนจบ พวกเราไม่เคยนับถือว่ากฎหมายเป็นใหญ่ พากันทำลายกฎหมายอย่างบ้าระห่ำ ผมแน่ใจว่าถึงแม้จะตั้งรัฐบาลเรียบร้อย แต่การต่อสู้แปลกแยกจะไม่มีที่สิ้นสุด หากเราเอาแต่ผลประโยชน์ของคนและหมู่คณะเป็นใหญ่ บ้านเมืองก็ยิ่งจะทรุดหนัก
ผมอยากจะวานให้คุณสมัครดูแลด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นคุณทักษิณหรือใครๆ ที่กระทำผิดกฎหมาย จะต้องให้กระบวนการที่โปร่งใส ถูกต้องและยุติธรรมเป็นเครื่องตัดสิน โดยไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น
ผมเห็นใจที่คุณสมัครเองก็มีชนักคาหลัง คือคำพิพากษาจำคุก 2 ปี และคดีกล่าวหาเรื่องรถดับเพลิงของ กทม. ความจริงเรื่องนี้แก้ได้ด้วยจรรยาบรรณ จริยธรรม และการยกเอาประโยชน์และชื่อเสียงของชาติไว้เหนือผลประโยชน์ของตน น่าเสียดายที่คุณสมัครมองไม่เห็นตัวอย่างและมาตรฐานเรื่องนี้ซึ่งมีอยู่มากมายทั้งในอเมริกา ยุโรป และเอเชีย
ด้วยจดหมายนี้ ผมมีคำถามที่เป็นทั้งคำขอร้อง และคำแนะนำให้กับคุณสมัครสัก 3-4 ข้อก่อน
1. คำถามที่หนึ่งมาจากนายทหารผู้ใหญ่ระดับเสนาธิการเหล่าทัพ และรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ท่านขอให้ผมถามว่า ก็คุณสมัครรู้อยู่แล้วว่ามีรัฐมนตรีขี้เหร่ ในเมื่อคุณสมัครมีอำนาจเป็นนายกรัฐมนตรี ทำไมไม่จัดการเปลี่ยนออก หรือว่าคุณสมัครเป็นนายกฯ หัวตอตัดสินด้วยตนเองไม่ได้ คุณสมัครไม่เกรงพระทัยในหลวงบ้างหรือที่นำรัฐมนตรีขี้เหร่ขึ้นทูลเกล้าฯ คุณสมัครอวดอ้างว่าตนมิได้ด้อยกว่า ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช หรือนายชวน หลีกภัย ที่ควบ รมว.กลาโหมแต่อย่างใด แต่ทั้งสองท่านนั้นก็ล้มเหลว คุณสมัครจะมีอะไรดีกว่ายังงั้นหรือ เรื่องนี้ผมไม่ขอออกความเห็น แต่ที่มีข่าวลือว่าคุณสมัครส่งชื่อ 9 นายพลเอกขึ้นไปเบื้องสูงแล้วไม่มีกลับลงมาจึงจำเป็นต้องเป็นเอง อย่างนี้ถ้าจริงต้องถือว่าอันตรายและไม่สมควรที่คุณสมัครจะประพฤติอย่างยิ่ง
2. คุณสมัครคงคุ้นกับระบบของอังกฤษดี คุณสมัครเคยคิดหรือเคยเชื่อบ้างไหมว่า เขาสำคัญออกยังงั้น แต่มี cabinet หรือ ครม.ประมาณ 20 คนเอง นอกจากนั้นเป็นรัฐมนตรีนอก ครม. ซึ่งก็น้อยกว่าของเรา สมัยนี้ดูเหมือนนายกฯ บราวน์จะยังไม่ได้ตั้งรองนายกรัฐมนตรีเลย ประเทศประชาธิปไตยก้าวหน้าไม่มีใครตั้งรองเกิน 1 คน ไม่ว่าจะเป็นรองประธานาธิบดีหรือรองนายกฯ อังกฤษ เยอรมนี อเมริกัน ญี่ปุ่น 1 คนทั้งนั้น (ถ้ามี) คุณสมัครไม่อายหรือที่เรามีรองนายกฯ 6 คนเหมือนลาว เขมร เวียดนาม และจีน (สมัยก่อน) การควบ 2 ตำแหน่งส่อเหตุผลว่าตำแหน่งหนึ่งตำแหน่งใดไม่สำคัญ หรือหาคนมีฝีมือที่แท้จริงไม่ได้ จึงต้องควบ ก็มีคนสงสัยว่าควบตำแหน่งแล้วควบเงินเดือนด้วยหรือไม่
3. พอแน่ว่าคุณสมัครจะเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่มีฐานะและการศึกษาพากันท้อแท้หมดหวัง ถึงขนาดจะหนีไปอยู่เกาะหรือต่างประเทศก็มี ถึงผมจะไม่เห็นด้วยที่มาที่ไปของรัฐบาลนี้ เพราะผมรู้ดีว่าพรรคจอมปลอมและการเลือกตั้งจอมปลอมจะอ้างความเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ก็เหมือนกับที่คุณอานันท์ว่า ใครจะไปล้มล้างการรัฐประหารได้ แต่ผมก็ยังรู้สึกว่า ดีนะที่ยังเป็นคุณสมัคร เพราะอย่างน้อยคุณก็เป็นนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ถึงแม้จะมีรอยด่างเผด็จการรัฐบาลหอย กรณี 6 ตุลาคม 2519
แต่คุณก็มิใช่ส่วนควบหรือมีส่วนที่แท้จริงในระบอบทักษิณหรือขบวนการฟื้นอำนาจทักษิณ นักการเมืองที่มีชั่วโมงบินอย่างคุณ หัวหงอกถึงขนาดนี้แล้ว คงมีจิตสำนึกที่จะเป็นตัวของตัวเองได้ดีกว่าสมุนและบริวารแท้ๆ ของทักษิณแน่ๆ พอได้ยินคุณประกาศเช่นนั้น ผมก็นึกชมอยู่ในใจ เรื่องหนึ่งที่ผมขอชมและเห็นด้วยกับคุณสมัครร้อยเปอร์เซ็นต์ก็คือ การที่นายกรัฐมนตรีสั่งให้ รมต.ทุกคนไปร่วมการประชุมสภาและฟังเสียงผู้แทนราษฎร ผมอยากจะขอมากกว่านั้นด้วยซ้ำ ผมขอนายกฯ คนไหนๆ ก็ไม่สำเร็จ นั่นก็คือผมอยากเห็นนายกรัฐมนตรีไปประชุมสภาอย่างน้อย 1 วันทุกสัปดาห์ในสมัยประชุม และถ้าหากจะสร้างจารีตนายกฯ ตอบสภา (ไม่เหมือนกระทู้ธรรมดา) แบบ prime minister’s questions ของอังกฤษด้วย ก็จะเป็นคุณูปการต่ออนาคตประชาธิปไตยไทยยิ่ง
4. ผมเลิกหวังแล้วว่าราชประชาสมาสัยหรือการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขจะเกิดขึ้นได้ในประเทศไทย ทั้งนี้เพราะการผูกขาดอำนาจทางการเมืองโดยกำลังก็ดี โดยอำนาจเงินก็ดี ไม่เปิดโอกาสให้พระมหากษัตริย์ใช้พระราชอำนาจตามหลักรัฐธรรมนูญ และจารีตประชาธิปไตยที่แท้จริงได้ ผมเห็นแสงริบหรี่ และหวังลมๆ แล้งๆ ว่า คุณมีวิสัยทัศน์ มีความสามารถ และมีความเต็มใจ ที่จะทำเรื่องดังกล่าวได้ โดยไม่ต้องไปแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือออกกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น นั่นก็คือ การสร้างประเพณีที่นายกรัฐมนตรีจะต้องเข้าเฝ้าฯ ถวายรายงานและขอพระราชทานคำแนะนำปรึกษาจากพระมหากษัตริย์สัปดาห์ละหนึ่งครั้งโดยมีกำหนดที่แน่นอนเป็นประจำ รายละเอียดกว่านี้คุณสมัครจะศึกษาได้จากพระราชกระแสของในหลวงองค์ปัจจุบัน
ถ้าคุณสมัครทำข้อ 3 และ 4 นี้ให้สำเร็จ ประชาชนอาจสร้างอนุสาวรีย์ให้คุณก็ได้
ด้วยความปรารถนาดี
ปราโมทย์ นาครทรรพ
คุณสมัคร ที่รัก
ก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วย ที่คุณจับพลัดจับผลูขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ของประเทศไทย พร้อมๆ กับทำความเข้าใจกันว่า ต่อไปนี้คุณได้เป็นหัวหน้าคนใช้คนใหม่ของผมแล้ว
ผมไม่ได้ดูถูกนะครับที่ใช้คำว่าจับพลัดจับผลู ถ้าฟลุกละก้อไปอย่าง ที่ผมว่าจับพลัดจับผลูก็เพราะมันเป็นเรื่องของสถานการณ์ผิดปกติ ไม่เป็นไปตามครรลองธรรมดา
1. คุณมิได้เป็นหัวหน้าพรรคประชากรไทยที่คุณตั้งขึ้นมา พร้อมทั้งนโยบายและอุดมการณ์ของพรรคที่คุณได้ต่อสู้เผยแพร่จนประชาชนไม่น้อยพากันเลื่อมใส หากคุณต่อสู้ในนามประชากรไทย คงยากที่จะฟันฝ่ามาได้สัก 18 ที่นั่ง เท่ากับพรรคกิจสังคมตอนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ก็คงยากที่คุณจะวัดรอยเท้าอาจารย์คึกฤทธิ์ได้ ทั้งๆ ที่ประกบตัวดูแล้ว ในบรรดาผู้นำพรรคการเมืองต่างๆ ที่จะเป็นนักการเมืองอาชีพ ฝีมือจัดจ้านและชั่วโมงบินสูงเท่ากับคุณก็แทบจะไม่มีเลย
2. คุณพูดถูก หากไม่เกิดรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 คุณก็คงเป็นวุฒิสมาชิกแก่ๆ ไปจนครบเทอมเหลาเหย่ คุณได้มานั่งอยู่ตรงนี้ ก็เพราะเกิดการปฏิวัติขับไล่รัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมออกไป แล้วเกิดการมาบรรจบกันของ ง. ทั้งสาม
สาม ง. นั้นก็คือ (1) ง. โง่ ยกให้ทหาร (2) ง.หงอ ยกให้รัฐบาล และ (3) ง. งั่ง ยกให้รัฐธรรมนูญ
คุณอาจจะไม่เห็นด้วย ง.ที่สามเพราะมันเบาไป ก็คุณเองมิใช่หรือที่แจกหนังสือ “ลัดถะทำมะนวย หัวคูญ” ในวันสัมมนาพรรค
3. หากมิใช่เพราะ “ลัดถะทำมะนวย หัวคูญ” อันเป็นผลผลิตทางตรงและทางอ้อมของหัวหน้าคนใช้ก่อนคุณทั้ง 2 คนแล้ว คุณก็คงจะไม่มีทางมานั่งอยู่ตรงนี้ได้หรอก
พ.ต.ท.ทักษิณถูกกล่าวหาว่าฉ้อราษฎร์บังหลวงหลายโครงการ ฆ่าตัดตอนชาวบ้านโดยไม่ผ่านขบวนการยุติธรรมหลายพันคน ทำลายสถาบันนิติบัญญัติและองค์กรตรวจสอบและรัฐธรรมนูญ โดยไม่นำเรื่องผ่านตามกฎหมายและก้าวล่วงพระบรมนามาภิไธย และมีการกระทำอันจ้วงจาบหยาบช้าต่อพระมหากษัตริย์ ทั้งหมดนี้หากตอบคำถามต่อสาธารณชนหรือสภาผู้แทนราษฎร หรือลาออกจากตำแหน่งเสียเพื่อตั้งคนที่ตนไว้ใจที่สุดหรือเพื่อกลับเข้ามาใหม่ บ้านเมืองก็คงจะไม่เสียเงินทองและเสียเวลาอย่างน่าเสียดายเหมือนทุกวันนี้
แต่นี่ก็เป็นเพราะแกเลือกเอาการยุบสภา ทั้งๆ ที่ไม่มีสาเหตุตามรัฐธรรมนูญเลย เลือกเอาการเลือกตั้งที่ศาลสั่งว่าโมฆะ และกระทำผิดจนกระทั่งถูกยุบพรรค แล้วแกก็ยังมิเข็ดหลาบกลับรวบรวมพรรค ซื้อผู้สมัคร ซื้อการเลือกตั้ง เป็นผู้บงการชักไยทุกอย่างแม้แต่การตั้งแบ่งสรรเก้าอี้ในรัฐบาลใหม่ ที่คุณสมัครประกาศอย่างชื่นตาว่าคุณเป็นนอมินี อยู่ ณ วันนี้
สำหรับพลเอกสุรยุทธ์นั้น ไม่เป็นไรลืมเสียเถิด นึกเสียว่าไม่เคยมีรัฐบาลแกเสียเลยก็แล้วกัน เพราะถ้าหากรัฐบาลสุรยุทธ์เป็นรัฐบาลจริงๆ แล้ว เมืองไทยก็คงมิต้องเป็นอย่างทุกวันนี้หรอก
เอาเถอะครับ คุณสมัคร ไหนๆ ก็ไหนๆ ผมก็ต้องยอมรับคุณสมัครเป็นหัวหน้าคนใช้คนใหม่ไม่มีทางหลีกเลี่ยง คุณสมัครก็ควรทำใจให้ได้ยอมเป็นคนใช้ของผม และคนไทยทุกคนโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชังก็แล้วกัน
คุณสมัครจะทำประโยชน์ให้กับประชาธิปไตยและประเทศชาติอย่างมหาศาล หากคุณสมัครปฏิบัติตนเป็นผู้รับใช้ของราษฎรอย่างแท้จริง และช่วยประกาศโฆษณาให้การศึกษาให้ราษฎรเลิกเข้าใจผิดๆ เสียทีว่า รัฐบาลหรือราชการคือเจ้านายของราษฎร ช่วยทำให้คนทั้งประเทศเข้าใจด้วยเถิดครับว่า ส.ส.และรัฐมนตรีรวมทั้งนายกรัฐมนตรีคือคนใช้ของราษฎร
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผมไปร่วมอภิปรายที่มหาวิทยาลัยหอการค้า คุณณรงค์ โชควัฒนา ได้เสนอบทความชื่อว่า “75 ปี หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง การเมืองไทยยังเป็นแค่ เผด็จการจากการเลือกตั้ง” คุณสมัคร ช่วยให้คุณจักรภพนำไปพิมพ์แจกจ่ายและอ่านซ้ำๆ ในสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลด้วยเถิด ในตอนหนึ่ง คุณณรงค์กล่าวว่า “ประชาชนเป็นนายจ้าง รัฐบาลเป็นลูกจ้าง การเมืองการปกครองแบบประชาธิปไตยนั้น ฐานะของรัฐบาลก็ดี รัฐมนตรีก็ดี เป็นแค่คนรับใช้และลูกจ้างชั่วคราวของประชาชน นายกรัฐมนตรีก็เป็นแค่หัวหน้าคนรับใช้ของประชาชนเท่านั้น นักการเมืองมีและสามารถใช้อำนาจได้จำกัด แค่พอเพียงกับหน้าที่และความรับผิดชอบของตนเท่านั้น ไม่ใช่มีอำนาจทำอะไรได้ตามใจชอบ เพราะอำนาจรัฐ อำนาจอธิปไตย อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง”
ผมเชื่อว่าคุณสมัครคุ้นเคยกับระบบรัฐสภาแองโกลแซกซอน ไม่ว่าอังกฤษ แคนาดา นิวซีแลนด์ หรือออสเตรเลีย ในสปีชหรือการอภิปรายของนายกรัฐมนตรีจะมีคำว่า I am your humble servant เสมอ คำว่า humble น่าจะแปลว่า เจียมตัว ไม่หยิ่งผยอง ก้าวร้าว หรือเบ่งทั้งโดยวาจาและการปฏิบัติหน้าที่ ผมอยากให้คุณสมัครพิจารณาในข้อนี้เพื่อนำมาปรับปรุงตนเองและวัฒนธรรมประชาธิปไตยของไทยต่อไป อย่าคิดเป็นอันขาดว่าคุณเป็นนาย
อดีตนายกฯ อานันท์ ปันยารชุน กล่าวในปาฐกถานำในงานเดียวกันว่า แม้แต่ค่ายเผด็จการก็ยังเรียกชื่อประเทศของตนว่า “ประชาธิปไตย” เผด็จการก็มีการเลือกตั้งเป็นประจำเหมือนกัน หรือการเลือกตั้งในโลกประชาธิปไตยก็กลับกลายเป็นเผด็จการไปก็มาก ตัวอย่างเช่น เยอรมนีสมัยฮิตเลอร์ มูกาเบของซิมบับเว หรือฟิลิปปินส์ของมาร์กอส เป็นต้น เพราะฉะนั้นสักแต่ว่ามีเลือกตั้งมิได้หมายความว่าจะเป็นประชาธิปไตย จะต้องดูว่าการเลือกตั้งนั้นเสรี และยุติธรรมแท้จริงหรือไม่ และมีเนื้อหาเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ อนึ่งความเป็นประชาธิปไตยนั้นขึ้นอยู่กับความชอบธรรมเริ่มตั้งแต่การเข้ามาสู่อำนาจและการใช้อำนาจด้วย รัฐบาลจะต้องรับใช้คนทั้งประเทศมิใช่เฉพาะผู้ที่ลงคะแนนเลือกตน คนที่ไม่ลงไม่เกี่ยว ประชาชนต้องมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงทั้งในการเลือกตั้งและหลังการเลือกตั้ง นั่นก็คือ การเมืองภาคประชาชนจะต้องเข้มแข็งอยู่ตลอดเวลา
คุณสมัครที่รัก เรารู้จักกันอย่างห่างๆ มาหลายสิบปี ในฐานะนักเรียนการเมืองไทยผมอาจจะรู้จักคุณดีกว่าคุณรู้จักผม คุณอาจจะไม่ชอบหน้าผม แต่ผมแผ่เมตตาให้สัตว์ร่วมโลกทุกคนทุกวัน คุณเป็นนักการเมืองเพียงหนึ่งในสองของประเทศไทยที่คนรักก็เรียก “ไอ้หมัก” คนชังก็เรียก “ไอ้หมัก” ผมว่ามันเข้าท่าดี เพราะมันแสดงว่าคุณเป็นนักการเมืองของประชาชน
ผมไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งครั้งนี้ และผลพวงที่มาจากการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย เพราะผมเห็นว่าตั้งแต่ต้นจนจบ พวกเราไม่เคยนับถือว่ากฎหมายเป็นใหญ่ พากันทำลายกฎหมายอย่างบ้าระห่ำ ผมแน่ใจว่าถึงแม้จะตั้งรัฐบาลเรียบร้อย แต่การต่อสู้แปลกแยกจะไม่มีที่สิ้นสุด หากเราเอาแต่ผลประโยชน์ของคนและหมู่คณะเป็นใหญ่ บ้านเมืองก็ยิ่งจะทรุดหนัก
ผมอยากจะวานให้คุณสมัครดูแลด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นคุณทักษิณหรือใครๆ ที่กระทำผิดกฎหมาย จะต้องให้กระบวนการที่โปร่งใส ถูกต้องและยุติธรรมเป็นเครื่องตัดสิน โดยไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น
ผมเห็นใจที่คุณสมัครเองก็มีชนักคาหลัง คือคำพิพากษาจำคุก 2 ปี และคดีกล่าวหาเรื่องรถดับเพลิงของ กทม. ความจริงเรื่องนี้แก้ได้ด้วยจรรยาบรรณ จริยธรรม และการยกเอาประโยชน์และชื่อเสียงของชาติไว้เหนือผลประโยชน์ของตน น่าเสียดายที่คุณสมัครมองไม่เห็นตัวอย่างและมาตรฐานเรื่องนี้ซึ่งมีอยู่มากมายทั้งในอเมริกา ยุโรป และเอเชีย
ด้วยจดหมายนี้ ผมมีคำถามที่เป็นทั้งคำขอร้อง และคำแนะนำให้กับคุณสมัครสัก 3-4 ข้อก่อน
1. คำถามที่หนึ่งมาจากนายทหารผู้ใหญ่ระดับเสนาธิการเหล่าทัพ และรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ท่านขอให้ผมถามว่า ก็คุณสมัครรู้อยู่แล้วว่ามีรัฐมนตรีขี้เหร่ ในเมื่อคุณสมัครมีอำนาจเป็นนายกรัฐมนตรี ทำไมไม่จัดการเปลี่ยนออก หรือว่าคุณสมัครเป็นนายกฯ หัวตอตัดสินด้วยตนเองไม่ได้ คุณสมัครไม่เกรงพระทัยในหลวงบ้างหรือที่นำรัฐมนตรีขี้เหร่ขึ้นทูลเกล้าฯ คุณสมัครอวดอ้างว่าตนมิได้ด้อยกว่า ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช หรือนายชวน หลีกภัย ที่ควบ รมว.กลาโหมแต่อย่างใด แต่ทั้งสองท่านนั้นก็ล้มเหลว คุณสมัครจะมีอะไรดีกว่ายังงั้นหรือ เรื่องนี้ผมไม่ขอออกความเห็น แต่ที่มีข่าวลือว่าคุณสมัครส่งชื่อ 9 นายพลเอกขึ้นไปเบื้องสูงแล้วไม่มีกลับลงมาจึงจำเป็นต้องเป็นเอง อย่างนี้ถ้าจริงต้องถือว่าอันตรายและไม่สมควรที่คุณสมัครจะประพฤติอย่างยิ่ง
2. คุณสมัครคงคุ้นกับระบบของอังกฤษดี คุณสมัครเคยคิดหรือเคยเชื่อบ้างไหมว่า เขาสำคัญออกยังงั้น แต่มี cabinet หรือ ครม.ประมาณ 20 คนเอง นอกจากนั้นเป็นรัฐมนตรีนอก ครม. ซึ่งก็น้อยกว่าของเรา สมัยนี้ดูเหมือนนายกฯ บราวน์จะยังไม่ได้ตั้งรองนายกรัฐมนตรีเลย ประเทศประชาธิปไตยก้าวหน้าไม่มีใครตั้งรองเกิน 1 คน ไม่ว่าจะเป็นรองประธานาธิบดีหรือรองนายกฯ อังกฤษ เยอรมนี อเมริกัน ญี่ปุ่น 1 คนทั้งนั้น (ถ้ามี) คุณสมัครไม่อายหรือที่เรามีรองนายกฯ 6 คนเหมือนลาว เขมร เวียดนาม และจีน (สมัยก่อน) การควบ 2 ตำแหน่งส่อเหตุผลว่าตำแหน่งหนึ่งตำแหน่งใดไม่สำคัญ หรือหาคนมีฝีมือที่แท้จริงไม่ได้ จึงต้องควบ ก็มีคนสงสัยว่าควบตำแหน่งแล้วควบเงินเดือนด้วยหรือไม่
3. พอแน่ว่าคุณสมัครจะเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่มีฐานะและการศึกษาพากันท้อแท้หมดหวัง ถึงขนาดจะหนีไปอยู่เกาะหรือต่างประเทศก็มี ถึงผมจะไม่เห็นด้วยที่มาที่ไปของรัฐบาลนี้ เพราะผมรู้ดีว่าพรรคจอมปลอมและการเลือกตั้งจอมปลอมจะอ้างความเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ก็เหมือนกับที่คุณอานันท์ว่า ใครจะไปล้มล้างการรัฐประหารได้ แต่ผมก็ยังรู้สึกว่า ดีนะที่ยังเป็นคุณสมัคร เพราะอย่างน้อยคุณก็เป็นนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ถึงแม้จะมีรอยด่างเผด็จการรัฐบาลหอย กรณี 6 ตุลาคม 2519
แต่คุณก็มิใช่ส่วนควบหรือมีส่วนที่แท้จริงในระบอบทักษิณหรือขบวนการฟื้นอำนาจทักษิณ นักการเมืองที่มีชั่วโมงบินอย่างคุณ หัวหงอกถึงขนาดนี้แล้ว คงมีจิตสำนึกที่จะเป็นตัวของตัวเองได้ดีกว่าสมุนและบริวารแท้ๆ ของทักษิณแน่ๆ พอได้ยินคุณประกาศเช่นนั้น ผมก็นึกชมอยู่ในใจ เรื่องหนึ่งที่ผมขอชมและเห็นด้วยกับคุณสมัครร้อยเปอร์เซ็นต์ก็คือ การที่นายกรัฐมนตรีสั่งให้ รมต.ทุกคนไปร่วมการประชุมสภาและฟังเสียงผู้แทนราษฎร ผมอยากจะขอมากกว่านั้นด้วยซ้ำ ผมขอนายกฯ คนไหนๆ ก็ไม่สำเร็จ นั่นก็คือผมอยากเห็นนายกรัฐมนตรีไปประชุมสภาอย่างน้อย 1 วันทุกสัปดาห์ในสมัยประชุม และถ้าหากจะสร้างจารีตนายกฯ ตอบสภา (ไม่เหมือนกระทู้ธรรมดา) แบบ prime minister’s questions ของอังกฤษด้วย ก็จะเป็นคุณูปการต่ออนาคตประชาธิปไตยไทยยิ่ง
4. ผมเลิกหวังแล้วว่าราชประชาสมาสัยหรือการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขจะเกิดขึ้นได้ในประเทศไทย ทั้งนี้เพราะการผูกขาดอำนาจทางการเมืองโดยกำลังก็ดี โดยอำนาจเงินก็ดี ไม่เปิดโอกาสให้พระมหากษัตริย์ใช้พระราชอำนาจตามหลักรัฐธรรมนูญ และจารีตประชาธิปไตยที่แท้จริงได้ ผมเห็นแสงริบหรี่ และหวังลมๆ แล้งๆ ว่า คุณมีวิสัยทัศน์ มีความสามารถ และมีความเต็มใจ ที่จะทำเรื่องดังกล่าวได้ โดยไม่ต้องไปแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือออกกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น นั่นก็คือ การสร้างประเพณีที่นายกรัฐมนตรีจะต้องเข้าเฝ้าฯ ถวายรายงานและขอพระราชทานคำแนะนำปรึกษาจากพระมหากษัตริย์สัปดาห์ละหนึ่งครั้งโดยมีกำหนดที่แน่นอนเป็นประจำ รายละเอียดกว่านี้คุณสมัครจะศึกษาได้จากพระราชกระแสของในหลวงองค์ปัจจุบัน
ถ้าคุณสมัครทำข้อ 3 และ 4 นี้ให้สำเร็จ ประชาชนอาจสร้างอนุสาวรีย์ให้คุณก็ได้
ด้วยความปรารถนาดี
ปราโมทย์ นาครทรรพ