ประชาธิปัตย์ ยันตั้ง ครม.เงาเพื่อสร้างสรรค์การเมืองไม่ได้เสียดสีใคร โต้ “หมัก” เป็นนายกฯแล้วใช้ปากให้ถูก ยุถ้าบอกว่า ครม.“ขี้เหร่” ก็ควรใช้ความกล้าหาญแก้ไขเปลี่ยนแปลงใหม่ ไม่ใช่แค่บ่นอย่างเดียว
คลิกที่นี่ เพื่อฟังเสียง นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (4 ก.พ.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะใช้เวลาเพียงสามเดือนแก้ไขรัฐธรรมนูญ และจะให้มีการเลือกตั้งใหม่ และระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ อยากแก้รัฐธรรมนูญ เพราะอยากมีการเลือกตั้งใหม่ ว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยมีวาระประชาชนในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในช่วงของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง แต่พรรคเห็นว่ารัฐธรรมนูญมีทั้งส่วนที่เป็นข้อดี และข้อด้อย แต่เราเห็นควรว่าไม่ควรจะแก้ไขทันทีที่มีการใช้รัฐธรรมนูญ แต่ควรใช้รัฐธรรมนูญไปสักระยะหนึ่ง แล้วค่อยดูว่าควรจะแก้ไขตรงไหนอย่างไร
“พรรคไม่ได้อยากแก้ไขรัฐธรรมนูญจนตัวสั่น เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพราะต้องใช้ไปก่อนสักระยะหนึ่งแล้วดูว่าควรจะต้องแก้ไขหรือไม่อย่างไร ส่วนการให้ความเห็นของ นายสมัคร ในฐานะนายกฯที่กล่าวพาดพิงในเรื่องนี้ ผมอยากจะบอกว่า นายสมัคร เป็นนายกฯแล้วการจะพูดให้ความเห็นในเรื่องอะไร ควรพูดถึงเนื้อหาสาระมากกว่าที่จะใช้วิธีการกระแนะกระแหน หรือการเยาะเย้ยถากถาง” นายองอาจ กล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง ครม.เงาของพรรค ว่า พรรคพลังประชาชนอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจในเรื่องนี้ดีพอ มีการออกมาระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ ตั้ง ครม.เงาเพื่อต้องการเสียดสี กับ ครม.ที่จะบริหารประเทศ ตนอยากจะเรียนว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ตั้ง ครม.เงาเพื่อเสียดสี ครม.หรือรัฐบาลแต่อย่างใด แต่มีจุดมุ่งหมายว่า ครม.เงา มีภาระหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ซึ่งถือเป็นภาระหน้าที่สำคัญ และเราคิดว่า ครม.เงาจะเป็นประโยชน์ให้ประชาชนมากกว่าเป็นโทษ โดยในการปกครองระบอบประชาธิปไตย ถ้า พรรคพลังประชาชนจะใจกว้าง ศึกษาเรื่องนี้อย่างถ่องแท้ จะเห็นชัดเจนว่าเป็นเรื่องปกติของการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาที่พรรคฝ่ายค้านจะมีรูปแบบการติดตามเช่นนี้ ดังนั้น การตั้ง ครม.เงาจึงไม่ได้ทำเพื่อเสียดสี ครม.รัฐบาลหรือทำในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ยืนยันทำงานอย่างสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ประชาชนอย่างแท้จริง
สำหรับการตั้งคณะกรรมาธิการในสภาที่มีกระแสข่าวว่าจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นจาก 31 คณะ เป็น 36 คณะนั้น นายองอาจ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับคณะกรรมาธิการที่กำลังร่างข้อบังคับการประชุมสภา ซึ่งคงดูตามความเหมาะสมให้เป็นไปตามเนื้อหาสาระของงาน ไม่ใช่ไปตั้งกรรมาธิการเพื่อปูนบำเหน็จรางวัลให้กับ ส.ส.ในพรรคเพียงอย่างเดียว แต่ต้องดูตามความจำเป็น ซึ่งหากจำเป็นและมีเหตุผลบอกกับสภา ว่า ต้องเพิ่มจำนวน คิดว่า สภาคงไม่ว่าอะไร อย่างไรก็ตาม ต้องดูด้วยว่า คณะกรรมาธิการที่ตั้งขึ้นใหม่จะทำประโยชน์ให้กับส่วนรวมมากน้อยแค่ไหน ไม่ใช่ตั้งเพิ่มขึ้น เพราะมีคนในพรรคไม่ได้รับตำแหน่ง หากเป็นเช่นนั้นก็ไม่ถูกต้อง
นายองอาจ ยังแนะนำให้ นายสมัคร ปรับปรุงบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีใหม่ให้มีความเหมาะสม หากเห็นว่าหน้าตาขี้เหร่ เหมือนที่ออกมาวิจารณ์ก่อนหน้านี้ โดยควรใช้ภาวะความเป็นผู้นำเพราะตัวเองก็เป็นหัวหน้าของ ครม.ที่มีเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสมมาเป็น เพราะเชื่อว่าในพรรคพลังประชาชนเองก็ยังมีคนที่มีความเหมาะสมอีกมาก ถ้าไม่อยากให้ ครม.ขี้เหร่ ดีกว่าบ่นเฉยๆ เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไร
/0110