ทูตสหรัฐฯ พบ"อภิสิทธิ์- ชวน" ชี้ ปชป.ตั้ง ครม.เงา เป็นการยกระดับงานรัฐสภาไทย"องอาจ" ยันไม่ได้ตั้ง ครม.เงา เพื่อเสียดสีใคร แนะรัฐบาลต้องเปิดใจกว้างยอมรับระบบตรวจสอบ ติง"สมัคร"เลิกกระแนะกระแหน เพราะจะทำให้ภาพลักษณ์นายกฯเสื่อมเสีย
เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ (4 ก.พ.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอีริค จี จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย พร้อมคณะได้เดินทางเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค เพื่อแนะนำตัวภายหลังเข้ารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยคนใหม่อย่างเป็นทางการ โดยใช้เวลานาน 2 ชั่วโมงครึ่ง
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการพบปะพูดคุยครั้งนี้ นายจอห์น ได้แจ้งถึงภารกิจที่ให้ความสำคัญ เช่น การส่งเสริมธรรมาภิบาล ความสำคัญของการรักษาระบอบประชาธิปไตย เรื่องการดูแลและสิทธิของผู้ลี้ภัยที่อยู่ในประเทศไทย การส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ที่มียาวนานถึง 175 ปี ซึ่งน่าจะมีการพบปะเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันระหว่างนักการเมืองของทั้ง 2 ประเทศ
นอกจากนี้ได้พูดคุยถึงปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยฝ่ายสหรัฐฯ ยังคงมีความเป็นห่วงต่อปัญหาดังกล่าว และหวังที่จะมีส่วนช่วยหาหนทางแก้ปัญหานี้ให้คลี่คลายลงได้ ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯได้สอบถามถึงแนวคิดการตั้งคณะรัฐมนตรีเงา ของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งฝ่ายสหรัฐฯเห็นว่า การตั้ง ครม.เงา เป็นภาพที่ดีในการยกระดับการทำงานของรัฐสภาไทย ให้มีได้ผลชัดเจน และน่าจะเป็นทางเลือกต่อประชาชนได้
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะใช้เวลาเพียง 3 เดือน แก้ไขรัฐธรรมนูญ และจะให้มีการเลือกตั้งใหม่ และระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ อยากแก้รัฐธรรมนูญจนตัวสั่น เพราะอยากมีการเลือกตั้งใหม่ว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยมีวาระประชาชนในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในช่วงของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง แต่พรรคเห็นว่ารัฐธรรมนูญมีทั้งส่วนที่เป็นข้อดี และข้อด้อย แต่เราเห็นว่าไม่ควรจะแก้ไขทันทีที่มีการใช้รัฐธรรมนูญ แต่ควรใช้รัฐธรรมนูญไปสักระยะหนึ่ง แล้วค่อยดูว่าควรจะแก้ไขตรงไหนอย่างไร
"การให้ความเห็นของนายสมัคร ในฐานะนายกฯ ที่กล่าวพาดพิงในเรื่องนี้ ผมอยากจะบอกว่า นายสมัคร เป็นนายกฯแล้ว การจะพูดให้ความเห็นในเรื่องอะไร ควรพูดถึงเนื้อหาสาระมากกว่าที่จะใช้วิธีการกระแนะกระแหน หรือการเยาะเย้ยถากถาง"นายองอาจ กล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง ครม.เงาของพรรคว่า ไม่ได้ตั้งเพื่อเสียดสี ครม. หรือรัฐบาล แต่มีจุดมุ่งหมายว่า ครม.เงา มีภาระหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ซึ่งถือเป็นภาระหน้าที่สำคัญ และเราคิดว่า ครม.เงา จะเป็นประโยชน์ให้ประชาชนมากกว่าเป็นโทษ โดยในการปกครองระบอบประชาธิปไตยถ้า พรรคพลังประชาชนจะใจกว้าง ศึกษาเรื่องนี้อย่างถ่องแท้ จะเห็นชัดเจนว่า เป็นเรื่องปกติของการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ที่พรรคฝ่ายค้านจะมีรูปแบบการติดตามเช่นนี้ ดังนั้นการตั้ง ครม.เงาจึงไม่ได้ทำเพื่อเสียดสี ครม.รัฐบาล หรือทำในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ยืนยันทำงานอย่างสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ประชาชนอย่างแท้จริง
นายองอาจ ยังแนะนำให้นายสมัคร ปรับปรุงบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีใหม่ ให้มีความเหมาะสม หากเห็นว่าหน้าตาขี้เหร่ เหมือนที่ออกมาวิจารณ์ก่อนหน้านี้ โดยควรใช้ภาวะความเป็นผู้นำเพราะตัวเองก็เป็นหัวหน้าของ ครม. ที่ต้องเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสมมาเป็น เพราะเชื่อว่าในพรรคพลังประชาชนเองก็ยังมีคนที่มีความเหมาะสมอีกมาก ถ้าไม่อยากให้ ครม.ขี้เหร่ ดีกว่าบ่นเฉย ๆ เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไร
เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ (4 ก.พ.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอีริค จี จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย พร้อมคณะได้เดินทางเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค เพื่อแนะนำตัวภายหลังเข้ารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยคนใหม่อย่างเป็นทางการ โดยใช้เวลานาน 2 ชั่วโมงครึ่ง
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการพบปะพูดคุยครั้งนี้ นายจอห์น ได้แจ้งถึงภารกิจที่ให้ความสำคัญ เช่น การส่งเสริมธรรมาภิบาล ความสำคัญของการรักษาระบอบประชาธิปไตย เรื่องการดูแลและสิทธิของผู้ลี้ภัยที่อยู่ในประเทศไทย การส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ที่มียาวนานถึง 175 ปี ซึ่งน่าจะมีการพบปะเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันระหว่างนักการเมืองของทั้ง 2 ประเทศ
นอกจากนี้ได้พูดคุยถึงปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยฝ่ายสหรัฐฯ ยังคงมีความเป็นห่วงต่อปัญหาดังกล่าว และหวังที่จะมีส่วนช่วยหาหนทางแก้ปัญหานี้ให้คลี่คลายลงได้ ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯได้สอบถามถึงแนวคิดการตั้งคณะรัฐมนตรีเงา ของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งฝ่ายสหรัฐฯเห็นว่า การตั้ง ครม.เงา เป็นภาพที่ดีในการยกระดับการทำงานของรัฐสภาไทย ให้มีได้ผลชัดเจน และน่าจะเป็นทางเลือกต่อประชาชนได้
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะใช้เวลาเพียง 3 เดือน แก้ไขรัฐธรรมนูญ และจะให้มีการเลือกตั้งใหม่ และระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ อยากแก้รัฐธรรมนูญจนตัวสั่น เพราะอยากมีการเลือกตั้งใหม่ว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยมีวาระประชาชนในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในช่วงของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง แต่พรรคเห็นว่ารัฐธรรมนูญมีทั้งส่วนที่เป็นข้อดี และข้อด้อย แต่เราเห็นว่าไม่ควรจะแก้ไขทันทีที่มีการใช้รัฐธรรมนูญ แต่ควรใช้รัฐธรรมนูญไปสักระยะหนึ่ง แล้วค่อยดูว่าควรจะแก้ไขตรงไหนอย่างไร
"การให้ความเห็นของนายสมัคร ในฐานะนายกฯ ที่กล่าวพาดพิงในเรื่องนี้ ผมอยากจะบอกว่า นายสมัคร เป็นนายกฯแล้ว การจะพูดให้ความเห็นในเรื่องอะไร ควรพูดถึงเนื้อหาสาระมากกว่าที่จะใช้วิธีการกระแนะกระแหน หรือการเยาะเย้ยถากถาง"นายองอาจ กล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง ครม.เงาของพรรคว่า ไม่ได้ตั้งเพื่อเสียดสี ครม. หรือรัฐบาล แต่มีจุดมุ่งหมายว่า ครม.เงา มีภาระหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ซึ่งถือเป็นภาระหน้าที่สำคัญ และเราคิดว่า ครม.เงา จะเป็นประโยชน์ให้ประชาชนมากกว่าเป็นโทษ โดยในการปกครองระบอบประชาธิปไตยถ้า พรรคพลังประชาชนจะใจกว้าง ศึกษาเรื่องนี้อย่างถ่องแท้ จะเห็นชัดเจนว่า เป็นเรื่องปกติของการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ที่พรรคฝ่ายค้านจะมีรูปแบบการติดตามเช่นนี้ ดังนั้นการตั้ง ครม.เงาจึงไม่ได้ทำเพื่อเสียดสี ครม.รัฐบาล หรือทำในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ยืนยันทำงานอย่างสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ประชาชนอย่างแท้จริง
นายองอาจ ยังแนะนำให้นายสมัคร ปรับปรุงบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีใหม่ ให้มีความเหมาะสม หากเห็นว่าหน้าตาขี้เหร่ เหมือนที่ออกมาวิจารณ์ก่อนหน้านี้ โดยควรใช้ภาวะความเป็นผู้นำเพราะตัวเองก็เป็นหัวหน้าของ ครม. ที่ต้องเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสมมาเป็น เพราะเชื่อว่าในพรรคพลังประชาชนเองก็ยังมีคนที่มีความเหมาะสมอีกมาก ถ้าไม่อยากให้ ครม.ขี้เหร่ ดีกว่าบ่นเฉย ๆ เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไร