xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.เปิดประชุมครม.เงาวันนี้ ไม่สนกระบอกเสียง"หมักทีวี"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปชป.เดินเครื่องถก ครม.เงา กำหนดทิศทาง-ชำแหละแถลงนโยบาย ยันไม่เล่นเกมการเมืองเสียดสี ครม."หมัก" ระบุเป็นมิติใหม่ทางการเมือง พร้อมบี้รัฐบาลแจงนโยบายหลังรมต.ประกาศนโยบายพร่ำเพรื่อ เตือน"จักรภพ" อย่าคิดแทรกแซง TPBS เข้าข่ายผิดกฏหมาย ไม่สนรัฐบาลจะเปิดทีวีช่อใหม่เพื่อเป็นกระบอกเสียง แต่ต้องไม่ขัดกฎหมาย

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรประชาธิปัตย์ แถลงว่า ในวันนี้(11ก.พ.) เวลา 14.00 น. จะมีการประชุม ครม.เงานัดแรก ของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อกำหนดกรอบ ทิศทางการทำงานเพื่อให้การทำงานการเมืองเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ โดยจะมีการหารือว่า ครม.เงา แต่ละคนจะมีขอบเขตการรับผิดชอบงานอย่างไรบ้าง มีทิศทางและแนวทางอย่างไร เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและสังคม

นอกจากนี้ จะมีการพูดถึงแนวนโยบายของรัฐที่จะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยหารือในภาพรวม เพื่อเตรียมการแถลงผลงานของรัฐบาล หลังจากที่รัฐบาลแถลงเสร็จ จะมีกาประชุมอีกครั้ง เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามทิศทางการแถลงนโยบายของรัฐ เพื่อจะได้มอบหมายงานในการติดตามตรวจสอบการทำห น้าที่ของรัฐบาล

"ขอยืนยันว่า การตั้งครม.เงาของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่แพ้แล้วไม่ได้เป็นรัฐมนตรี จึงตั้งครม.เงาเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง และไม่ได้มีเจตนาเป็นเกมการเมืองเสียดสี กระทบกระเทียบเปรียบเปรย แต่เราคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อหน้าที่และติดตามการตรวจสอบของรัฐบาลตามครรลองของระบบประชาธิปไตย ไม่ได้มีเจตนาที่จะทะเลาะเบาแว้ง" นายองอาจ กล่าว

นายองอาจ กล่าวว่า ขณะนี้มีนักการเมืองยังไม่เข้าใจแนวคิดการตั้งครม. เงา ของพรรคประชาธิปัตย์ จึงทำให้เกิดความสับสนในหมู่ประชาชน จึงอยากให้นักการเมืองเข้าใจด้วยว่า ครม.เงา เป็นการทำหน้าที่ตรวจสอบของพรรคฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์ขอขอบ คุณนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชาชน ที่ออกมาระบุว่า ครม.เงา เป็นเรื่องที่ดีที่เคยเป็นครม.เงา เมื่อปี 43 ของพรรคไทยนรักไทย ในการติดตามตรวจสอบงานด้านสาธารณสุข ดังนั้นจึงอยากฝาก นพ.สุรพงษ์ ได้ไปทำความเข้าใจกับสมาชิกมในพรรคว่า ครม.เงา เป็นมิติใหม่ทางการเมืองเพื่อประโยชน์ใหม่ของประชาชน และนำไปบรรทัดฐานทางการเมืองในอนาคต ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล ก็ต้องยอมรับการตรวจสอบของครม.เงา

นายองอาจ กล่าวว่า หลังจาก ครม.ชุดนี้ได้รับการโปรดเกล้าฯ พรรคประชาธิปัตย์ หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค หรือแม้แต่ทีมโฆษกของพรรค ก็ไม่เคยออกมาตั้งฉายาหรือวิพากษ์วิจารณ์ ครม.ชุดนี้มีเพียง นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เองว่า ครม.ขี้เหร่ ยืนยันว่า พรรคไม่เคยซ้ำเติมเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองใดๆ พรรคให้โอกาส ครม.ได้บริหารประเทศ แต่ไม่ได้ให้โอกาสในการเอื้อประโยชน์พรรคพวก พี่น้อง และทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องไม่ชอบธรรม หากรัฐบาลทำในสิ่งไม่ชอบ พรรคฝ่ายค้านก็จะทำหน้าที่ตรวจสอบต่อไป

นายองอาจ ยังกล่าวถึงกรณีที่ ครม.หลายคนในรัฐบาลชุดนี้ออกมาพูดถึงนโยบายว่า อยากให้รัฐบาลได้ชี้แจง แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า นโยบายต่างๆ ที่ออกมาพูดตอนนี้เป็นนโยบายส่วนตัวของ รมต.แต่ละคน หรือเป็นนโยบายรัฐบาลกันแน่ และอาจเป็นนโยบายของรัฐบาล จะมีแนวทางปฏิบัติอย่างไรเพื่อให้เกิดประโยนชน์ต่อสาธาณะ และสังคมที่สำคัญพรรคประชาธิปัตย์จะได้ติดตามตรวจสอบต่อไป

นายองอาจ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นาย จักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลเรื่องสื่อ ระบุว่าจะมีการจัดระเบียบสื่อของรัฐ ว่านายจักรภพ ควรที่จะทำความเข้าใจเสียก่อนว่า สื่อของรัฐ โดยเฉพาะไทยพีบีเอส นั้นมีกฎหมายรองรับที่ชัดเจน และไม่ว่ารัฐบาลหรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวหรือไม่เกี่ยวข้องกับการดูแลเรื่องสื่อนั้น ไม่สามารถที่จะเข้าไปแทรกแซง หรือก้าวก่ายใดๆได้ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย และเจตนารมณ์ของการก่อตั้งทีวีสาธารณะ

ส่วนที่รัฐบาลจะมีสถานีโทรทัศน์ เพิ่มเติมอย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่ดุลยพินิจของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ก็ต้องไม่ขัดต่อกฎหมายที่มีอยู่แล้ว

"การเข้ามาจัดระเบียบสื่อนั้นควรที่จะระวังไม่ให้การจัดระเบียบดังกล่าวนั้นเป็นการเข้าไปแทรกแซง หรือควบคุมสื่อ ทั้งนี้ สื่อเองก็มีจรรยาบรรณ มีประสบการณ์ และสามัญสำนึกที่จะกำหนดการทำหน้าที่ของตนเองอยู่แล้ว ทั้งนี้แล้วผมก็มองว่าคนที่อยู่ในคณะรัฐบาลเองก็ไม่ควรที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น" นายองอาจ กล่าว

เมื่อถามถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับ มาตรา 269 ในรัฐธรรมนูญ 50 ที่ระบุว่า ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ต้องไม่ดำเนินการทางธุรกิจ หรือถือหุ้นในบริษัท ซึ่งเหมารวมคู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วย นายองอาจ กล่าวว่า ถือว่ารัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวมีข้อจำกัดมากกว่าเดิม ดังนั้น นักการเมืองก็ต้องยอมรับเพราะเป็นเรื่องที่รู้ก่อนการเลือกตั้งไม่ใช่การเขียนรัฐธรรมนูญย้อนหลัง ซึ่งตนก็เห็นว่าไม่มีผลต่อการทำงาน และมีคนจำนวนมากที่ยอมรับมาตราดังกล่าวได้ และพร้อมที่จะเข้ามาทำงานให้บ้านเมือง
กำลังโหลดความคิดเห็น