ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย แนะรัฐบาล ‘หมัก’ อย่าประกาศสงครามกับสื่อ ระบุทีวีสาธารณะคือสิ่งที่ประชาชนคาดหวังอยากให้เกิด เชื่อหากรัฐยังดึงดันก็จะก่อให้เกิดการต่อต้านอย่างแน่นอน
นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย กล่าวถึงจุดยืนของรัฐบาลต่อสื่อภายหลังจากที่นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลเรื่องสื่อออกมาระบุว่า จะมีการจัดระเบียบสื่อของรัฐและสื่อบางสาขาที่มองว่าเป็นการทำลายความมั่นคงของรัฐบาล
โดยระบุว่า จริงๆ แล้วการเข้ามาจัดระเบียบสื่อของรัฐ รัฐบาลทุกๆ รัฐบาลก็เข้ามาจัดระเบียบสื่อของรัฐอยู่แล้ว โดยเฉพาะรัฐบาลที่เพิ่งหมดวาระไป ก็ไม่ได้ให้เสรีในสื่อของรัฐบาลแต่อย่างใด ยกตัวอย่างที่ชัดเจน สื่อของรัฐในยุคปัจจุบัน ทุกช่องที่เป็นสื่อของรัฐไม่ว่าจะโทรทัศน์หรือวิทยุ ส่วนใหญ่เหมือนกับการเป็นกระบอกเสียงในการทำประชาสัมพันธ์ โฆษณาผลงานของรัฐบาลเกือบจะฝ่ายเดียว
“ยกตัวอย่างเช่นในกรณีความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในอดีตสื่อโทรทัศน์และวิทยุมีการนำเสนอข่าวอย่างเสรีพอสมควร แต่ระยะหลังจะสังเกตุเห็นว่าสื่อของรัฐถูกครอบงำไม่ให้นำเสนอในเรื่องของสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน โดยสื่อของรัฐเองสังเกตให้ดีจะพบว่าทีวีแทบทุกช่อง เปลี่ยนจากการนำเสนอภาพข่าว เป็นตัววิ่งแทน ตรงนี้ทำให้ประชาชนไม่ได้รับทราบข่าวสารที่แท้จริง นี่คือประเด็นที่เห็นกันชัดเจน”
เพราะฉะนั้นถ้านายจักรภพ จะมาจัดระเบียบสื่อของรัฐให้เข้มข้นมากกว่านี้ ตนมองไม่ออกว่าต่อไป สื่อของรัฐจะไม่นำเสนอข่าวที่เป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับรัฐบาลเลยหรืออย่างไร ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้เท่ากับว่าสื่อของรัฐไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้กับประชาชนเลย เป็นกระบอกเสียงให้กับรัฐบาลเพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และไม่ควรเกิดขึ้นหรือไม่ควรกระทำในยุคที่เราบอกว่าประเทศเรากำลังก้าวไปสู่ระบอบประชาธิปไตยอีกครั้งหนึ่ง
นายไชยยงค์ กล่าวว่า ในส่วนของสื่อเสรีหรือสื่อของภาคประชาชน เช่น หนังสือพิมพ์ เวปไซด์ หรือวิทยุชุมชน ตรงนี้เป็นทางออกอีกทางหนึ่งของประชาชน ที่จะได้รับรู้ข่าวสาร ที่รัฐบาลไม่อยากให้รับรู้ ซึ่งตรงนี้ตนคิดว่ารัฐบาลไม่ควรที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยว ในการที่จะมาควบคุมสื่อที่เป็นสื่อของเอกชน หากรัฐบาลเข้ามาควบคุมสื่อที่เป็นสื่อของเอกชนเมื่อไหร่ ตนเชื่อเหลือเกินว่า จะทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างตัว รมต.กับคนทำสื่อและเจ้าของสื่อ ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นในรัฐบาลที่เราเรียกร้องความสมานฉันท์
“เรามีข้อสังเกตตั้งแต่เริ่มต้นและมีการหวั่นวิตกกันพอสมควรในบรรดาผู้ทำสื่อก็คือลักษณะและภาพลักษ์ของผู้ที่มาเป็นนายกฯคือ คุณสมัคร สุนทรเวช เพราะที่ผ่านมาค่อนข้างเป็นปรปักษ์กับสื่อ แต่หลังจากที่ได้เข้ามาเป็นนายกฯ และมีการแถลงข่าวค่อนข้างสร้างความสบายใจให้กับบรรดาผู้ทำสื่อ เนื่องจากท่านบอกว่าจะปรับปรุงท่าทีใหม่ ให้สอดคล้องกับตำแหน่งนายกฯ
ดังนั้น จุดยืนของรัฐบาลชุดนี้ที่มีต่อสื่อ ควรชัดเจนกับสื่อไม่ว่าจะเป็นสื่อรัฐหรือสื่อเอกชน จุดยืนที่ชัดเจนคือการให้อิสรเสรีในการแสดงความคิดเห็น และวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของคณะรัฐบาล ได้อย่างเต็มที่ เพราะอย่าลืมว่าสื่อทุกสื่อคือกระจกที่สะท้อนความคิดของประชาชนและสะท้อนสังคม ซึ่งตรงนี้ตนคิดว่ารัฐบาลน่าจะทบทวนและมีจุดยืนที่ชัดเจน”
นายไชยยงค์ ยังได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสื่อช่องใหม่ที่นายกฯ คิดจะทำว่า ตอนนี้เรามีทีวีสาธารณะ ซึ่งเกิดขึ้นแล้ว ทีวีสาธารณะเองรัฐบาลจะต้องมีความชัดเจน เพราะล่าสุด การให้สัมภาษณ์ของนายกฯ ต่อทีวีสาธารณะ กำลังจะเกิดเงื่อนไขขึ้น กำลังสร้างความไม่มั่นใจให้กับประชาชน ว่าทีวีสาธารณะภายใต้การดูแลของรัฐบาลชุดนี้ จะเป็นไปตามวิธีการที่มีการนำเสนอจากรัฐบาลชุดก่อนหรือไม่ เพราะฟังน้ำเสียงของนายกฯ แล้ว รู้สึกว่าจะไม่เห็นด้วยกับการมีทีวีสาธารณะ
"จริงๆ แล้วทีวีสาธารณะควรมีเพราะหลายประเทศที่เจริญแล้วด้วยอารยะนั้น เขามีสื่อสาธารณะเป็นทางออกให้กับประชาชนและนี่คือทางเลือกอีกทางหนึ่งของสังคมไทย ตนต้องการเห็นความชัดเจนของคณะผู้บริการรัฐบาลชุดนี้ด้วยการเกิดขึ้นและดำรงอยู่ของทีวีสาธารณะ" นายไชยยงค์ กล่าว และว่า
ส่วนลักษณะของทีวีเสรี ที่ใครต่อใครอยากให้เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งแบบไอทีวี หากมีความจำเป็นหรือมีความเห็นสอดคล้องกัน ก็สามารถจะทำทีวีเสรีให้เกิดขึ้นมาอีกช่องหนึ่งได้เหมือนกับไอทีวีที่เกิดขึ้นในอดีต แต่สิ่งที่ต้องการความชัดเจนในวันนี้คือ ทิศทางของที่วีสาธารณะ รัฐบาลจะต้องดูให้ชัดว่าจะส่งเสริมตามที่รัฐบาลชุดเก่าทำหรือไม่ หรือจะยุบทิ้งในอนาคต เพราะตรงนี้มันเกี่ยวพันกับความรู้สึก ความต้องการของประชาชนอีกส่วนหนึ่ง
