นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงประกาศจะชุมนุมขับไล่ในระหว่างลงพื้นที่จังหวัดลพบุรีทั้ง 5 จุด ว่า เป็นสิทธิของแต่ละฝ่าย ซึ่งตนเดินทางไปเพื่อทำงาน มีหน้าที่ทำงานให้กับประชาชน ไม่ได้ไปทะเลาะกับใคร และเจ้าหน้าที่ตำรวจคงดูแลให้เกิดความสงบเรียบร้อย และตนไม่ทราบรายละเอียด กรณีที่มีการสั่งให้เพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพราะเป็นหน้าที่ของทางจังหวัดและตำรวจที่จะดูแลเรื่องนี้
ส่วนจะเป็นอุปสรรคต่อการพบปะประชาชนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คิดว่าทางผู้ชุมนุมคงไม่ไปขัดขวางการทำหน้าที่ และการลงพื้นที่ดังกล่าวไม่คิดว่าจะไปสร้างความขัดแย้งให้กับประชาชนในพื้นที่ เพราะตนไม่เคยขัดแย้งกับใคร
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีไม่ใช่เป็นการวัดใจว่าผู้ว่าราชการจังหวัดจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ หรือไม่ แต่ไปเพื่อดูความคืบหน้าของโครงการตามนโยบายรัฐบาลและรับทราบปัญหาประชาชน
ส่วนที่กลุ่มเสื้อแดงเตรียมมวลชน 1 พันคนต่อต้านนายกรัฐมนตรี ในการลง พื้นที่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ค่อยดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อถามว่าในพื้นที่จ.อุดรธานี และจ.เชียงใหม่ เตรียมวางแผนเพื่อให้รัฐมนตรีลงพื้นที่ได้อย่างสะดวกหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่าเขามีสิทธิ์ชุมนุมได้ แต่ต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย แต่ถ้าทำอะไรผิดกฎหมายก็เป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด หรือตำรวจที่จะดูแล หรือถ้าเขาไม่ดูแลตนจะดูคนเหล่านั้นต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากเกิดเหตุการณ์ที่มีการขว้างปาสิ่งของ จะคาดโทษกับผู้ว่าราชการจังหวัดหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเห็นว่าผู้บังคับการตำรวจบางจังหวัด ที่หย่อนหยานเขาก็ย้ายเข้ามาอยู่ประจำอยู่แล้ว ส่วนผู้ว่าฯก็ต้องดูว่ากระทรวงมหาดไทยจะทำอะไรต่อไป เมื่อถามว่าจะมีการเชือดไก่ให้ลิงดูหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีการเชือดไก่ เชือดลิง แต่คนที่กินเงินเดือนที่เป็นภาษีอากรของประชาชนของประชาชนต้องทำหน้าที่ ถ้าไม่ทำก็ต้องให้คนขยันกว่าตั้งใจกว่า ไปทำหน้าที่แทน
ส่วนการดูแลความปลอดภัย จะเป็นการชี้วัดผลงานของผู้ว่าฯหรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่อย่างนั้น เพราะผลงานของผู้ว่าฯและผู้บังคับการจังหวัด มีหลายเรื่อง แต่การละเลยไม่ทำหน้าที่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง ถ้าเห็นว่าทำให้เสียหาย ก็เป็นหน้าที่ผู้บังคับบัญชาที่จะต้องพิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามว่าการให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม คนใกล้ชิด คมช. ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จะเป็นการยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้าหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ได้คิดอย่างนั้น เราทำตามหน้าที่และจะลงพื้นที่ทุกจังหวัด ตามคำบัญชาของนายกฯ ส่วนที่ มีการตั้งข้อสังเกตว่า ต้องการกล่อมประชาชนให้ลืม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น เป็นการกล่าวหาที่ไร้สาระ ไม่ต้องตอบ
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยกล่าวว่าแม้กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศจะป่วนรัฐมนตรีที่ลงพื้นที่ก็ไม่มีปัญหาอะไร เราจะไม่สะกัดกั้น เบื้องต้นได้ให้ผู้ว่าราชการจังหงัดไปเจรจาก่อนว่าควรชุมนุมในกรอบของกฎหมาย ส่วนหากเกิดความวุ่นวายผู้ว่าฯ จะถูกสั่งย้ายหรือไม่ตนไม่ทราบ
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมจะโฟนอินที่จ.ขอนแก่นในวันที่ 8 มี.ค.นั้น นายชวรัตน์ กล่าวว่า ซึ่งตนกับช่วงที่รัฐมนตรีลงพื้นที่กังวลหรือไม่ที่อาจจะมีผลกระทบทำให้ กลุ่มเสื้อแดงออกมาต่อต้าน นายชวรัตน์ กล่าวว่า ที่ผ่าน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มีการโฟนอิน หลายครั้งไม่มีปัญหาอะไร
พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผบ.ตร.ได้กำชับตำรวจทุกพื้นที่จัดทำแผนเผชิญเหตุรักษาความเรียบร้อยให้แก่นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีที่จะลงพื้นที่ไปพบปะประชาชนทุกจังหวัดตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค.และ ประสานงานกับทหารและฝ่ายปกครอง ขอรับการสนับสนุนเพื่อให้ การเผชิญเหตุทำได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยผู้บังคับบัญชาแต่ละหน่วย ต้องลงไปกำกับดูแลการปฏิบัติอย่างเข้มงวด หากเกิดเหตุวุ่นวายขณะคณะรัฐมนตรี ลงพื้นที่ ผู้บังคับการจังหวัดนั้นๆ ต้องรับผิดชอบ
พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า หากชุดสืบสวนหาข่าวแต่ละพื้นที่สืบทราบว่า มีการเคลื่อนไหวต่อต้านจากกลุ่มบุคคลต่างๆ จะต้องรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และรัฐมนตรีที่จะลงพื้นที่นั้นๆ ทราบทันที
นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนนำกลุ่ม นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่าขณะนี้กลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมการต้อนรับ นายอภิสิทธิ์ ที่จะลงพื้นที่จ.ลพบุรี ในวันที่ 7 มี.ค.นี้อย่างเต็มที่ทั้ง 5 จุดทั่วจังหวัด โดยระดมคนเสื้อแดงจากจังหวัดภาคกลาง เช่น จ.สิงห์บุรี อยุธยา และลพบุรี ไปร่วมต้อนรับ ส่วนข้อกังวลที่ว่าจังหวัดลพบุรีเป็นพื้นที่ของทหารนั้น ยืนยันว่า คนเสื้อแดงไม่มีความกังวล เพราะเสื้อแดงส่วนใหญ่เป็นนายทหารมีตำแหน่งสูง
นายจตุพร กล่าวว่า แม้ รมว.มหาดไทยจะสั่งให้ มีการอารักขานายกรัฐมนตรี อย่างเต็มที่ แต่ยืนยันว่ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่มุ่งร้ายต่อนายกฯ นายชวรัตน์ควรใช้เวลา ไปดูบริษัท ชิโนทัย และ จิ้งหรีด รวมทั้งควรนำคำพูดของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ที่ให้อดทนยิ้มรับทุกที่มาใช้
ส่วนการจัดงานสัญจรของคนเสื้อแดงในวันที่ 8 มี.ค.ที่จ.ขอนแก่น ที่บริเวณศูนย์ราชการ ตั้งแต่เวลา 12.00-19.30น.นั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะโฟนอินในเวลา 18.30น. ซึ่งตอนนี้ทราบว่าผู้ว่าฯขอนแก่นพยายามขัดขวางอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงจะเกิดความวุ่นวายหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า เงื่อนไขเดิม 4 ข้อที่คนเสื้อแดงยื่นให้รัฐบาลนั้นไม่ได้รับการตอบรับ ดังนั้น คนเสื้อแดงต้องยกระดับการชุมนุมเป็นการขับไล่รัฐบาลแทน นายกฯแม้จะบอกว่า การดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กำลังดำเนินการอยู่ พูดแบบนักการเมืองแต่ไม่ทำ ตรงกันข้ามกับคนเสื้อแดงที่ไปทำร้ายร่างกายทหารแต่ สตช.กับออกหมายจับใช้เวลา 7 วัน อยากถามว่า สตช.ใช้ส้นตีนคิดหรือต้องการย่ำยี จิตใจคนเสื้อแดง เพราะคดีของกลุ่มพันธมิตรฯ100กว่าคดีไม่ดำเนินการอะไรเลย
ด้านนายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การขับไล่นายกฯ ของคนเสื้อแดงนั้นไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย แต่เป็นกลุ่มเสื้อแดงที่มีชมรมอยู่แล้วและมีการเรียกคนจากจังหวัดใกล้เคียงมาร่วมขับไล่ อย่างไรก็ตาม ในฐานะส.ส.พื้นที่ ก็ต้องลงพื้นที่ไปดูเหตุการณ์ คาดว่าไม่น่าจะมีอะไรรุนแรง ยืนยันว่าเป็นเรื่องของ ภาคประชาชนมาขับไล่ด้วยตัวของเขาเอง ไม่มีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง
ว่าที่ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทย ได้วางแผนที่จะจัดสัมมนาพรรคขึ้น ซึ่งไม่ใช่เฉพาะที่ภาคอีสาน แต่จะเป็นทุกจังหวัดที่พรรคมีส.ส.อยู่ เพื่อต้องการขยายฐานเสียงของพรรคให้เข้มแข็งขึ้น โดยส.ส.ของพรรค 1 คนจะต้องมีผู้ประสานงานของตนเองจำนวน 3,000 คนเข้ามาอบรมให้เป็นแม่ข่ายในการขยายฐานเสียงของพรรค โดยการลงพื้นที่จะเริ่มในวันที่ 14 มี.ค. ทั้งนี้จะมีการประชุมสรุปตารางวันเวลาอีกครั้งในวันที่ 6 มี.ค. สำหรับคณะที่ร่วมลงพื้นที่นั้นนอกจากส.ส.แล้วจะมีผู้บริหารพรรคด้วย จะได้ชี้แจง ทำความเข้าใจกับประชาชนทั้งเรื่องนโยบาย และแนวทางการทำงานของพรรค ในอนาคต
ด้านนายต่อพงษ์ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่ 6 มี.ค. พรรคจะสรุปตารางเดินสายในพื้นที่ภาคอีสานว่าจะไปจังหวัดใดบ้าง โดยสาเหตุที่ต้องเดินสายในช่วงนี้นั้นเพราะต้องการไปเปิดสาขาพรรครับสมัครสมาชิกพรรคเพิ่มเติม เพื่อชี้แจงเหตุผลที่พรรคต้องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลให้ประชาชนรับทราบ รวมทั้งเป็นการโหมโรงการอภิปรายฯครั้งนี้ด้วย โดยจะเน้นจังหวัดที่มีความพร้อมและเป็นฐานเสียงของพรรค เช่น จ.อุดรธานี ขอนแก่น เลย หนองคาย ซึ่งพรรคจะนำส.ส.ที่เป็นขุนพลฝีปากกล้า รวมทั้งนักวิชาการไปพบ เพื่อชี้แจงกับประชาชนด้วย
ส่วนจะเป็นอุปสรรคต่อการพบปะประชาชนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คิดว่าทางผู้ชุมนุมคงไม่ไปขัดขวางการทำหน้าที่ และการลงพื้นที่ดังกล่าวไม่คิดว่าจะไปสร้างความขัดแย้งให้กับประชาชนในพื้นที่ เพราะตนไม่เคยขัดแย้งกับใคร
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีไม่ใช่เป็นการวัดใจว่าผู้ว่าราชการจังหวัดจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ หรือไม่ แต่ไปเพื่อดูความคืบหน้าของโครงการตามนโยบายรัฐบาลและรับทราบปัญหาประชาชน
ส่วนที่กลุ่มเสื้อแดงเตรียมมวลชน 1 พันคนต่อต้านนายกรัฐมนตรี ในการลง พื้นที่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ค่อยดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อถามว่าในพื้นที่จ.อุดรธานี และจ.เชียงใหม่ เตรียมวางแผนเพื่อให้รัฐมนตรีลงพื้นที่ได้อย่างสะดวกหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่าเขามีสิทธิ์ชุมนุมได้ แต่ต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย แต่ถ้าทำอะไรผิดกฎหมายก็เป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด หรือตำรวจที่จะดูแล หรือถ้าเขาไม่ดูแลตนจะดูคนเหล่านั้นต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากเกิดเหตุการณ์ที่มีการขว้างปาสิ่งของ จะคาดโทษกับผู้ว่าราชการจังหวัดหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเห็นว่าผู้บังคับการตำรวจบางจังหวัด ที่หย่อนหยานเขาก็ย้ายเข้ามาอยู่ประจำอยู่แล้ว ส่วนผู้ว่าฯก็ต้องดูว่ากระทรวงมหาดไทยจะทำอะไรต่อไป เมื่อถามว่าจะมีการเชือดไก่ให้ลิงดูหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีการเชือดไก่ เชือดลิง แต่คนที่กินเงินเดือนที่เป็นภาษีอากรของประชาชนของประชาชนต้องทำหน้าที่ ถ้าไม่ทำก็ต้องให้คนขยันกว่าตั้งใจกว่า ไปทำหน้าที่แทน
ส่วนการดูแลความปลอดภัย จะเป็นการชี้วัดผลงานของผู้ว่าฯหรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่อย่างนั้น เพราะผลงานของผู้ว่าฯและผู้บังคับการจังหวัด มีหลายเรื่อง แต่การละเลยไม่ทำหน้าที่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง ถ้าเห็นว่าทำให้เสียหาย ก็เป็นหน้าที่ผู้บังคับบัญชาที่จะต้องพิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามว่าการให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม คนใกล้ชิด คมช. ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จะเป็นการยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้าหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ได้คิดอย่างนั้น เราทำตามหน้าที่และจะลงพื้นที่ทุกจังหวัด ตามคำบัญชาของนายกฯ ส่วนที่ มีการตั้งข้อสังเกตว่า ต้องการกล่อมประชาชนให้ลืม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น เป็นการกล่าวหาที่ไร้สาระ ไม่ต้องตอบ
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยกล่าวว่าแม้กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศจะป่วนรัฐมนตรีที่ลงพื้นที่ก็ไม่มีปัญหาอะไร เราจะไม่สะกัดกั้น เบื้องต้นได้ให้ผู้ว่าราชการจังหงัดไปเจรจาก่อนว่าควรชุมนุมในกรอบของกฎหมาย ส่วนหากเกิดความวุ่นวายผู้ว่าฯ จะถูกสั่งย้ายหรือไม่ตนไม่ทราบ
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมจะโฟนอินที่จ.ขอนแก่นในวันที่ 8 มี.ค.นั้น นายชวรัตน์ กล่าวว่า ซึ่งตนกับช่วงที่รัฐมนตรีลงพื้นที่กังวลหรือไม่ที่อาจจะมีผลกระทบทำให้ กลุ่มเสื้อแดงออกมาต่อต้าน นายชวรัตน์ กล่าวว่า ที่ผ่าน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มีการโฟนอิน หลายครั้งไม่มีปัญหาอะไร
พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผบ.ตร.ได้กำชับตำรวจทุกพื้นที่จัดทำแผนเผชิญเหตุรักษาความเรียบร้อยให้แก่นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีที่จะลงพื้นที่ไปพบปะประชาชนทุกจังหวัดตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค.และ ประสานงานกับทหารและฝ่ายปกครอง ขอรับการสนับสนุนเพื่อให้ การเผชิญเหตุทำได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยผู้บังคับบัญชาแต่ละหน่วย ต้องลงไปกำกับดูแลการปฏิบัติอย่างเข้มงวด หากเกิดเหตุวุ่นวายขณะคณะรัฐมนตรี ลงพื้นที่ ผู้บังคับการจังหวัดนั้นๆ ต้องรับผิดชอบ
พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า หากชุดสืบสวนหาข่าวแต่ละพื้นที่สืบทราบว่า มีการเคลื่อนไหวต่อต้านจากกลุ่มบุคคลต่างๆ จะต้องรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และรัฐมนตรีที่จะลงพื้นที่นั้นๆ ทราบทันที
นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนนำกลุ่ม นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่าขณะนี้กลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมการต้อนรับ นายอภิสิทธิ์ ที่จะลงพื้นที่จ.ลพบุรี ในวันที่ 7 มี.ค.นี้อย่างเต็มที่ทั้ง 5 จุดทั่วจังหวัด โดยระดมคนเสื้อแดงจากจังหวัดภาคกลาง เช่น จ.สิงห์บุรี อยุธยา และลพบุรี ไปร่วมต้อนรับ ส่วนข้อกังวลที่ว่าจังหวัดลพบุรีเป็นพื้นที่ของทหารนั้น ยืนยันว่า คนเสื้อแดงไม่มีความกังวล เพราะเสื้อแดงส่วนใหญ่เป็นนายทหารมีตำแหน่งสูง
นายจตุพร กล่าวว่า แม้ รมว.มหาดไทยจะสั่งให้ มีการอารักขานายกรัฐมนตรี อย่างเต็มที่ แต่ยืนยันว่ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่มุ่งร้ายต่อนายกฯ นายชวรัตน์ควรใช้เวลา ไปดูบริษัท ชิโนทัย และ จิ้งหรีด รวมทั้งควรนำคำพูดของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ที่ให้อดทนยิ้มรับทุกที่มาใช้
ส่วนการจัดงานสัญจรของคนเสื้อแดงในวันที่ 8 มี.ค.ที่จ.ขอนแก่น ที่บริเวณศูนย์ราชการ ตั้งแต่เวลา 12.00-19.30น.นั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะโฟนอินในเวลา 18.30น. ซึ่งตอนนี้ทราบว่าผู้ว่าฯขอนแก่นพยายามขัดขวางอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงจะเกิดความวุ่นวายหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า เงื่อนไขเดิม 4 ข้อที่คนเสื้อแดงยื่นให้รัฐบาลนั้นไม่ได้รับการตอบรับ ดังนั้น คนเสื้อแดงต้องยกระดับการชุมนุมเป็นการขับไล่รัฐบาลแทน นายกฯแม้จะบอกว่า การดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กำลังดำเนินการอยู่ พูดแบบนักการเมืองแต่ไม่ทำ ตรงกันข้ามกับคนเสื้อแดงที่ไปทำร้ายร่างกายทหารแต่ สตช.กับออกหมายจับใช้เวลา 7 วัน อยากถามว่า สตช.ใช้ส้นตีนคิดหรือต้องการย่ำยี จิตใจคนเสื้อแดง เพราะคดีของกลุ่มพันธมิตรฯ100กว่าคดีไม่ดำเนินการอะไรเลย
ด้านนายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การขับไล่นายกฯ ของคนเสื้อแดงนั้นไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย แต่เป็นกลุ่มเสื้อแดงที่มีชมรมอยู่แล้วและมีการเรียกคนจากจังหวัดใกล้เคียงมาร่วมขับไล่ อย่างไรก็ตาม ในฐานะส.ส.พื้นที่ ก็ต้องลงพื้นที่ไปดูเหตุการณ์ คาดว่าไม่น่าจะมีอะไรรุนแรง ยืนยันว่าเป็นเรื่องของ ภาคประชาชนมาขับไล่ด้วยตัวของเขาเอง ไม่มีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง
ว่าที่ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทย ได้วางแผนที่จะจัดสัมมนาพรรคขึ้น ซึ่งไม่ใช่เฉพาะที่ภาคอีสาน แต่จะเป็นทุกจังหวัดที่พรรคมีส.ส.อยู่ เพื่อต้องการขยายฐานเสียงของพรรคให้เข้มแข็งขึ้น โดยส.ส.ของพรรค 1 คนจะต้องมีผู้ประสานงานของตนเองจำนวน 3,000 คนเข้ามาอบรมให้เป็นแม่ข่ายในการขยายฐานเสียงของพรรค โดยการลงพื้นที่จะเริ่มในวันที่ 14 มี.ค. ทั้งนี้จะมีการประชุมสรุปตารางวันเวลาอีกครั้งในวันที่ 6 มี.ค. สำหรับคณะที่ร่วมลงพื้นที่นั้นนอกจากส.ส.แล้วจะมีผู้บริหารพรรคด้วย จะได้ชี้แจง ทำความเข้าใจกับประชาชนทั้งเรื่องนโยบาย และแนวทางการทำงานของพรรค ในอนาคต
ด้านนายต่อพงษ์ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่ 6 มี.ค. พรรคจะสรุปตารางเดินสายในพื้นที่ภาคอีสานว่าจะไปจังหวัดใดบ้าง โดยสาเหตุที่ต้องเดินสายในช่วงนี้นั้นเพราะต้องการไปเปิดสาขาพรรครับสมัครสมาชิกพรรคเพิ่มเติม เพื่อชี้แจงเหตุผลที่พรรคต้องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลให้ประชาชนรับทราบ รวมทั้งเป็นการโหมโรงการอภิปรายฯครั้งนี้ด้วย โดยจะเน้นจังหวัดที่มีความพร้อมและเป็นฐานเสียงของพรรค เช่น จ.อุดรธานี ขอนแก่น เลย หนองคาย ซึ่งพรรคจะนำส.ส.ที่เป็นขุนพลฝีปากกล้า รวมทั้งนักวิชาการไปพบ เพื่อชี้แจงกับประชาชนด้วย
