นาย สุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงการจัดตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรฯว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะมีการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาเพื่อขับเคลื่อนอุดมการณ์การเมืองใหม่ เพราะหากพิจารณาจากพรรคการเมืองในปัจจุบันไม่มีศักยภาพพอที่จะเปลี่ยนแปลง หรือปฎิรูปการเมืองได้ แม้แต่พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังมีข้อจำกัดมากมาย ทำให้ติดอยู่ในวงจรเดิม ขณะที่การชุมนุมของพันธมิตรฯกว่า 190 วันได้สร้างคุณูปการมากกว่าพรรคการเมืองหลายพรรคเสียอีก บวกกับเสียงเรียกร้องจากมวลชนทำให้แกนนำหลายคนเห็นว่าถึงเวลาที่ควรจะตั้งพรรคการเมืองขึ้นมารองรับการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ
อย่างไรก็ตาม การตั้งพรรคของพันธมิตรฯนั้นทำไม่ง่าย ไม่ใช่ว่าแค่หัวหน้าพรรค กรรมการ แล้วหาสมาชิก เหมือนพรรคทั่วไปแต่ต้องมีกระบวนการจัดทำนโยบายแบบมีส่วนร่วมซึ่งต้องใช้เวลาไม่น้อย
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการระบุหรือยังว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรครวมทั้งตำแหน่งอื่นๆ ภายในพรรค นายสุริยะใส กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นกำหนดเป็นเรื่องเป็นราวว่าใครจะอยู่ตำแหน่งใด ซึ่งสูตรการตั้งมีหลายแบบ อาจะเป็น 5 แกนนำ หรืออาจจะมีคนนอกมาร่วมด้วยก็ได้ ซึ่งก็ต้องดูเสียงจากมวลชนด้วยว่าจะยอมรับหรือไม่
นายสมบูรณ์ อุทัยเวียงกุล ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าพันธมิตรฯ อยากเห็นภาพของพรรคการเมืองที่เป็นของประชาชนจริงๆ ถ้าพันธมิตรฯตั้งพรรคการเมืองขึ้นจริงก็ยินดี เพราะคงเห็นอดีตที่ผ่านมาแล้วว่ามีกลุ่มทุน ที่ต่างก็เข้ามาแล้วกอบโกยหรือเอื้อประโยชน์ให้เฉพาะกลุ่ม บางพรรคการเมืองก็ล่มสลายไป
ส่วนที่พันธมิตรฯมีเงื่อนไขว่าห้าม ส.ส.ของพรรคแย่งตำแหน่งรัฐมนตี และให้รัฐมนตรีทุกคนบริจาคเงินเดือนให้กับองค์กรสาธารณกุศลนั้น นายสมบูรณ์ กล่าวว่า คงเปก้นเรื่องยากในทางปฏิบัติ เพราะการทำงานนอกจากได้คนที่มีความรู้ ความสามารถ มีความทุ่มเททำงานทั้งสติปัญญาและแรงกายแล้ว กำลังทรัพย์ก็มีความสำคัญ และคนที่มีความสามารถทุกคนได้ใช่ว่าจะมีกำลังทรัพย์ที่พร้อม การตั้งกฏเกณฑ์เช่นนี้คิดว่าคงเป็นการสร้างภาพลักษณ์เพื่อปลุกขวัญกำลังใจในการริเริ่มตั้งพรรคมากกว่า
ส่วนที่พันธมิตรฯประกาศจะส่งผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศยกเว้นจ.ตรังและพื้นที่ กทม.เพื่อเว้นให้นายชวน หลีกภัยและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั้น นายสมบูรณ์กล่าวว่า คงเพราะเห็นว่านายชวน และนายอภิสิทธิ์เป็นต้นแบบของนักการเมืองที่ได้รับการยอมรับในผลงานและความดีที่ทำมา ที่ควรได้รับการยกย่องและเห็นเป็นแบบอย่างของส.ส.ที่ดี ซึ่งต้องขอขอบคุณโดยเฉพาะที่จะไม่ส่งคนลงสมัครที่จ.ตรัง
หากพรรคพันธมิตรฯตั้งขึ้นมายอมรับว่ากระทบพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน เพราะฐานสนับสนุนส่วนใหญ่อยู่ในภาคใต้ แต่ถ้ามองในแง่ดีคือผลประโยชน์จะตกอยู่กับประชาชน ที่ ส.ส.ของพรรคต้องขยันทำงานเพื่อชาวบ้านให้ยอมรับในผลงาน ถือเป็นมวยถูกคู่
ด้านนาย ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แนวร่วมพันธมิตรฯ กล่าวว่า ภารกิจของพันธมิตรฯ เป็นภารกิจเฉพาะกิจที่จะทำเมื่อประเทศชาติบ้านเมืองเมื่อเกิดเรื่องใหญ่ โดยจะระดมกำลังทุกส่วนเพื่อปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เอาไว้ ส่วนภาระกิจการตั้งพรรคการเมืองไม่น่าจะใช่ ภารกิจของแกนนำพันธมิตรฯ ที่จะสามารถตั้งพรรคการเมืองเสียเอง
ภารกิจหลักของพันธมิตรฯทำเพื่อส่งเสริมการปกครองแบบประชาธิปไตย ที่ให้อำนาจแก่ประชาชน ในการปกครองประเทศ ดังนั้นการออกมาตั้งพรรคการเมือง เสียเองของ 5 แกนนำ ไม่ได้มีผลดีเลย มีแต่ผลเสีย เพราะจากการปราศรัยบนเวทีของพันธมิตรฯทุกครั้งได้ประกาศชัดเจนว่าจะไม่ตั้งพรรคการเมือง แต่มาวันนี้ กลับเสียสัตย์วาจา ที่เคยสัญญากับประชาคม กับประเทศชาติบ้านเมือง
นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า การออกมาตั้งพรรคการเมืองจะทำให้ภาคประชาชนที่ระดมคนได้เรือนหมื่นเรือนแสน และคุณูปการต่างๆที่พันธมิตรฯเคยทำไว้หายไป ถ้าหากพันธมิตรฯตั้งเป็นพรรคการเมือง แล้วสัญลักษณ์ของการต่อสู้ เพื่อประเทศชาติบ้านเมืองก็จะหายไป แล้วจะมีองค์กรใดออกมาขับเคลื่อนต่อสู้ กับระบบทุจริตในบ้านเมือง ความจริงมีพรรคการเมืองที่รองรับความแนวคิดของพันธมิตรฯอยู่แล้ว พันธมิตรฯเองไม่จำเป็นที่จะต้องออกมาตั้งพรรคการเมืองเองก็ได้
นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีถ้าพันธมิตรฯจะตั้งพรรคการเมือง แทนที่จะเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แบบแอบๆ ซ่อนๆ ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ลำเลิกว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ขึ้นวอได้เพราะกลุ่มพันธมิตรฯ แต่นายสุเทพก็ไม่ตอบโต้อะไร ต่อจากนี้ตนจะขอเป็นผู้ชมที่ดี ยืนยันว่า คนเสื้อแดงจะไม่ตั้งพรรคการเมืองแต่เราจะปูระดับประชาธิปไตยไปเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม การตั้งพรรคของพันธมิตรฯนั้นทำไม่ง่าย ไม่ใช่ว่าแค่หัวหน้าพรรค กรรมการ แล้วหาสมาชิก เหมือนพรรคทั่วไปแต่ต้องมีกระบวนการจัดทำนโยบายแบบมีส่วนร่วมซึ่งต้องใช้เวลาไม่น้อย
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการระบุหรือยังว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรครวมทั้งตำแหน่งอื่นๆ ภายในพรรค นายสุริยะใส กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นกำหนดเป็นเรื่องเป็นราวว่าใครจะอยู่ตำแหน่งใด ซึ่งสูตรการตั้งมีหลายแบบ อาจะเป็น 5 แกนนำ หรืออาจจะมีคนนอกมาร่วมด้วยก็ได้ ซึ่งก็ต้องดูเสียงจากมวลชนด้วยว่าจะยอมรับหรือไม่
นายสมบูรณ์ อุทัยเวียงกุล ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าพันธมิตรฯ อยากเห็นภาพของพรรคการเมืองที่เป็นของประชาชนจริงๆ ถ้าพันธมิตรฯตั้งพรรคการเมืองขึ้นจริงก็ยินดี เพราะคงเห็นอดีตที่ผ่านมาแล้วว่ามีกลุ่มทุน ที่ต่างก็เข้ามาแล้วกอบโกยหรือเอื้อประโยชน์ให้เฉพาะกลุ่ม บางพรรคการเมืองก็ล่มสลายไป
ส่วนที่พันธมิตรฯมีเงื่อนไขว่าห้าม ส.ส.ของพรรคแย่งตำแหน่งรัฐมนตี และให้รัฐมนตรีทุกคนบริจาคเงินเดือนให้กับองค์กรสาธารณกุศลนั้น นายสมบูรณ์ กล่าวว่า คงเปก้นเรื่องยากในทางปฏิบัติ เพราะการทำงานนอกจากได้คนที่มีความรู้ ความสามารถ มีความทุ่มเททำงานทั้งสติปัญญาและแรงกายแล้ว กำลังทรัพย์ก็มีความสำคัญ และคนที่มีความสามารถทุกคนได้ใช่ว่าจะมีกำลังทรัพย์ที่พร้อม การตั้งกฏเกณฑ์เช่นนี้คิดว่าคงเป็นการสร้างภาพลักษณ์เพื่อปลุกขวัญกำลังใจในการริเริ่มตั้งพรรคมากกว่า
ส่วนที่พันธมิตรฯประกาศจะส่งผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศยกเว้นจ.ตรังและพื้นที่ กทม.เพื่อเว้นให้นายชวน หลีกภัยและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั้น นายสมบูรณ์กล่าวว่า คงเพราะเห็นว่านายชวน และนายอภิสิทธิ์เป็นต้นแบบของนักการเมืองที่ได้รับการยอมรับในผลงานและความดีที่ทำมา ที่ควรได้รับการยกย่องและเห็นเป็นแบบอย่างของส.ส.ที่ดี ซึ่งต้องขอขอบคุณโดยเฉพาะที่จะไม่ส่งคนลงสมัครที่จ.ตรัง
หากพรรคพันธมิตรฯตั้งขึ้นมายอมรับว่ากระทบพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน เพราะฐานสนับสนุนส่วนใหญ่อยู่ในภาคใต้ แต่ถ้ามองในแง่ดีคือผลประโยชน์จะตกอยู่กับประชาชน ที่ ส.ส.ของพรรคต้องขยันทำงานเพื่อชาวบ้านให้ยอมรับในผลงาน ถือเป็นมวยถูกคู่
ด้านนาย ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แนวร่วมพันธมิตรฯ กล่าวว่า ภารกิจของพันธมิตรฯ เป็นภารกิจเฉพาะกิจที่จะทำเมื่อประเทศชาติบ้านเมืองเมื่อเกิดเรื่องใหญ่ โดยจะระดมกำลังทุกส่วนเพื่อปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เอาไว้ ส่วนภาระกิจการตั้งพรรคการเมืองไม่น่าจะใช่ ภารกิจของแกนนำพันธมิตรฯ ที่จะสามารถตั้งพรรคการเมืองเสียเอง
ภารกิจหลักของพันธมิตรฯทำเพื่อส่งเสริมการปกครองแบบประชาธิปไตย ที่ให้อำนาจแก่ประชาชน ในการปกครองประเทศ ดังนั้นการออกมาตั้งพรรคการเมือง เสียเองของ 5 แกนนำ ไม่ได้มีผลดีเลย มีแต่ผลเสีย เพราะจากการปราศรัยบนเวทีของพันธมิตรฯทุกครั้งได้ประกาศชัดเจนว่าจะไม่ตั้งพรรคการเมือง แต่มาวันนี้ กลับเสียสัตย์วาจา ที่เคยสัญญากับประชาคม กับประเทศชาติบ้านเมือง
นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า การออกมาตั้งพรรคการเมืองจะทำให้ภาคประชาชนที่ระดมคนได้เรือนหมื่นเรือนแสน และคุณูปการต่างๆที่พันธมิตรฯเคยทำไว้หายไป ถ้าหากพันธมิตรฯตั้งเป็นพรรคการเมือง แล้วสัญลักษณ์ของการต่อสู้ เพื่อประเทศชาติบ้านเมืองก็จะหายไป แล้วจะมีองค์กรใดออกมาขับเคลื่อนต่อสู้ กับระบบทุจริตในบ้านเมือง ความจริงมีพรรคการเมืองที่รองรับความแนวคิดของพันธมิตรฯอยู่แล้ว พันธมิตรฯเองไม่จำเป็นที่จะต้องออกมาตั้งพรรคการเมืองเองก็ได้
นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีถ้าพันธมิตรฯจะตั้งพรรคการเมือง แทนที่จะเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แบบแอบๆ ซ่อนๆ ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ลำเลิกว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ขึ้นวอได้เพราะกลุ่มพันธมิตรฯ แต่นายสุเทพก็ไม่ตอบโต้อะไร ต่อจากนี้ตนจะขอเป็นผู้ชมที่ดี ยืนยันว่า คนเสื้อแดงจะไม่ตั้งพรรคการเมืองแต่เราจะปูระดับประชาธิปไตยไปเรื่อยๆ