วานนี้(5 มี.ค.)ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ได้ยื่น คำร้องขออนุมัติออกหมายจับกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ แห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ผู้ต้องหาในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกาย เจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368, 310 ที่ก่อเหตุรุมทำร้าย ส.อ.อำนวย ทองรินทร์ สังกัด มทบ.11 เจ้าหน้าที่ทหารที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ดูแลการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาที่พนักงานสอบสวนขออนุมัติหมายจับมีทั้งหมด 7 คน ทราบชื่อ-นามสกุลจริง จำนวน 2 คน อีก 2 คนทราบเพียงชื่อเล่น ส่วนอีก 3 คนที่เหลือยังไม่ทราบชื่อและนามสกุล
ทั้งนี้ ศาลได้เปิดห้องพิจารณาคดี 807 ทำการไต่สวนพยานของพนักงานสอบสวน จำนวน 1 ปาก รวมทั้งพิจารณาหลักฐานที่นำส่งประกอบเป็นภาพถ่าย ผู้ต้องสงสัยขณะก่อเหตุ ภาพถ่ายบาดแผลของผู้บาดเจ็บ ใบรับรองแพทย์ และเอกสารคำให้การของผู้บาดเจ็บ
ภายหลังการพิจารณาพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนแล้ว ศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาตามที่พนักงานสอบสวนเสนอมารวม 6 คน ส่วนอีกคนที่ไม่อนุมัติหมายจับนั้น เนื่องจากในภาพถ่ายที่พนักงานสอบสวนนำมาเสนอไม่ชัดเจน
สำหรับหมายจับดังกล่าว เป็นหมายจับศาลอาญาเลขที่ 583-588 /2552 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2552 ประกอบด้วย 1.นายยักษ์ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ,2.ชายไทยไม่ทราบชื่อและนามสกุล อายุประมาณ 30 ปี ,3.นางนฤมล หรือจ๋า วรุณรุ่งโรจน์ ,4.ชายไทย ไม่ทราบชื่อและนามสกุล อายุประมาณ 37 ปี ,5.นายกิตติศักดิ์ จีนขจร และ6.ชายไทยไม่ทราบชื่อและนามสกุล อายุประมาณ 20 ปี
ทั้งนี้ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น.กล่าวว่า บุคคลที่ทราบว่า ถูกออกหมายจับ ให้รีบเข้ามอบตัวต่อ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 โดยทันที ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า ตำรวจดำเนินการออกหมายจับดังกล่าวโดยเท่าเทียมกัน ไม่มีการเลือกปฏิบัติ
นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าการดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กำลังดำเนินการอยู่ เป็นเพียงการพูดแบบนักการเมืองแต่ไม่ทำ ตรงกันข้ามกับคนเสื้อแดงที่ไปทำร้ายร่ายกายทหาร สตช.กลับออกหมายจับโดยใช้เวลาเพียง 7 วัน อยากถามว่า สตช.ใช้ส้นตีนคิดหรือต้องการย่ำยีจิตใจคนเสื้อแดง เพราะคดีของกลุ่มพันธมิตรฯ100กว่าคดีไม่ดำเนินการอะไรเลย
ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ อาจจะตั้งพรรคการเมืองนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ขอแสดงความยินดี แทนที่จะเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แบบแอบๆซ่อนๆ ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯลำเลิกว่านายสุเทพขึ้นวอได้เพราะกลุ่มพันธมิตรฯ แต่นายสุเทพก็ไม่ตอบโต้อะไร ต่อจากนี้ตนจะขอเป็นผู้ชมที่ดี ยืนยันว่า คนเสื้อแดงจะไม่ตั้งพรรคการเมืองแต่เราจะปูระดับประชาธิปไตยไปเรื่อยๆ
วันเดียวกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เดินทางไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในความผิดฐานซ่อนเร้นหรือโดยช่วยเหลือจำเลย ด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ว่า เรื่องนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับเรื่องไว้แล้ว และได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายดูแลว่า เข้าข่ายผิดกฎหมายตามที่มีการร้องมาหรือไม่ เพราะเมื่อมีผู้ร้องมาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน
เรื่องการดำเนินการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณมาดำเนินคดีนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เรียนหลายครั้งแล้วว่า กระบวนการตรงนี้เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับคำสั่งจากศาลก็ดำเนินการประสานหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องซึ่งข้อเท็จจริง พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้อยู่ในประเทศ ตำรวจไม่มีอำนาจในการเข้าไปสืบสวนจับกุม และ พ.ต.ท.ทักษิณก็เดินทางไปหลายประเทศไม่มีที่อยู่ที่แน่นอน ตำรวจเมื่อได้ข้อมูลอะไรมาก็ประสานข้อมูลกับสำนักงานอัยการสูงสุดและกระทรวง ต่างประเทศ ใช้ พ.ร.บ.ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาดำเนินคดี” โฆษก ตร. กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อ ส.ส.เพื่อไทย ที่นายสาธิต ปิตุเตชะ ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เพื่อให้ดำเนินคดีต่อกลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ จำนวน 4 คน ประกอบด้วย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายประชา ประสพดี นายสุชาติ ลายน้ำเงิน และนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล โดยนายสาธิต ให้เวลา 2 สัปดาห์ ในการดำเนินการ หากไม่มีความคืบหน้าก็จะมาแจ้งความด้วยตัวเองอีกครั้ง
ทั้งนี้ ศาลได้เปิดห้องพิจารณาคดี 807 ทำการไต่สวนพยานของพนักงานสอบสวน จำนวน 1 ปาก รวมทั้งพิจารณาหลักฐานที่นำส่งประกอบเป็นภาพถ่าย ผู้ต้องสงสัยขณะก่อเหตุ ภาพถ่ายบาดแผลของผู้บาดเจ็บ ใบรับรองแพทย์ และเอกสารคำให้การของผู้บาดเจ็บ
ภายหลังการพิจารณาพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนแล้ว ศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาตามที่พนักงานสอบสวนเสนอมารวม 6 คน ส่วนอีกคนที่ไม่อนุมัติหมายจับนั้น เนื่องจากในภาพถ่ายที่พนักงานสอบสวนนำมาเสนอไม่ชัดเจน
สำหรับหมายจับดังกล่าว เป็นหมายจับศาลอาญาเลขที่ 583-588 /2552 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2552 ประกอบด้วย 1.นายยักษ์ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ,2.ชายไทยไม่ทราบชื่อและนามสกุล อายุประมาณ 30 ปี ,3.นางนฤมล หรือจ๋า วรุณรุ่งโรจน์ ,4.ชายไทย ไม่ทราบชื่อและนามสกุล อายุประมาณ 37 ปี ,5.นายกิตติศักดิ์ จีนขจร และ6.ชายไทยไม่ทราบชื่อและนามสกุล อายุประมาณ 20 ปี
ทั้งนี้ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น.กล่าวว่า บุคคลที่ทราบว่า ถูกออกหมายจับ ให้รีบเข้ามอบตัวต่อ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 โดยทันที ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า ตำรวจดำเนินการออกหมายจับดังกล่าวโดยเท่าเทียมกัน ไม่มีการเลือกปฏิบัติ
นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าการดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กำลังดำเนินการอยู่ เป็นเพียงการพูดแบบนักการเมืองแต่ไม่ทำ ตรงกันข้ามกับคนเสื้อแดงที่ไปทำร้ายร่ายกายทหาร สตช.กลับออกหมายจับโดยใช้เวลาเพียง 7 วัน อยากถามว่า สตช.ใช้ส้นตีนคิดหรือต้องการย่ำยีจิตใจคนเสื้อแดง เพราะคดีของกลุ่มพันธมิตรฯ100กว่าคดีไม่ดำเนินการอะไรเลย
ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ อาจจะตั้งพรรคการเมืองนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ขอแสดงความยินดี แทนที่จะเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แบบแอบๆซ่อนๆ ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯลำเลิกว่านายสุเทพขึ้นวอได้เพราะกลุ่มพันธมิตรฯ แต่นายสุเทพก็ไม่ตอบโต้อะไร ต่อจากนี้ตนจะขอเป็นผู้ชมที่ดี ยืนยันว่า คนเสื้อแดงจะไม่ตั้งพรรคการเมืองแต่เราจะปูระดับประชาธิปไตยไปเรื่อยๆ
วันเดียวกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เดินทางไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในความผิดฐานซ่อนเร้นหรือโดยช่วยเหลือจำเลย ด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ว่า เรื่องนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับเรื่องไว้แล้ว และได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายดูแลว่า เข้าข่ายผิดกฎหมายตามที่มีการร้องมาหรือไม่ เพราะเมื่อมีผู้ร้องมาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน
เรื่องการดำเนินการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณมาดำเนินคดีนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เรียนหลายครั้งแล้วว่า กระบวนการตรงนี้เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับคำสั่งจากศาลก็ดำเนินการประสานหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องซึ่งข้อเท็จจริง พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้อยู่ในประเทศ ตำรวจไม่มีอำนาจในการเข้าไปสืบสวนจับกุม และ พ.ต.ท.ทักษิณก็เดินทางไปหลายประเทศไม่มีที่อยู่ที่แน่นอน ตำรวจเมื่อได้ข้อมูลอะไรมาก็ประสานข้อมูลกับสำนักงานอัยการสูงสุดและกระทรวง ต่างประเทศ ใช้ พ.ร.บ.ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาดำเนินคดี” โฆษก ตร. กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อ ส.ส.เพื่อไทย ที่นายสาธิต ปิตุเตชะ ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เพื่อให้ดำเนินคดีต่อกลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ จำนวน 4 คน ประกอบด้วย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายประชา ประสพดี นายสุชาติ ลายน้ำเงิน และนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล โดยนายสาธิต ให้เวลา 2 สัปดาห์ ในการดำเนินการ หากไม่มีความคืบหน้าก็จะมาแจ้งความด้วยตัวเองอีกครั้ง